ภรรยาของเขาตั้งชื่อเด็กคนนั้นว่า “ลูกน้อย”

ภายในแผนกสูตินารี โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ภายหลังจากการทำอุลตร้าซาวด์ คุณหมอบอกกับเขาและภรรยาว่าทั้งคู่กำลังจะเป็นพ่อแม่คนใหม่ ภรรยาของเขาตั้งครรภ์ได้หนึ่งเดือนแล้ว

คำพูดของคุณหมอสร้างความปิติยินดีอย่างยิ่งให้แก่เขาและเธอ ที่เฝ้ารอวันนี้มานาน หลังจากที่ฝ่ายภรรยาเคยแท้งลูกไปเมื่อสามปีก่อน และพยายามที่จะมีลูกมาโดยตลอด แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

เมื่อข่าวการตั้งครรภ์กระจายไปสู่คนใกล้ชิด หลายคนเตือนด้วยความหวังดีว่า ช่วงสามเดือนแรกเป็นช่วงที่เด็กอาจไม่ติด มีโอกาสแท้งได้ง่ายที่สุด

สิ่งที่แม่ของเด็กควรหลีกเลี่ยงเป็นพิเศษก็คือ การยกของหนัก การขึ้นบันไดหลายชั้น การขับรถ การเดินทางไกลด้วยเครื่องบิน และที่สำคัญที่สุดคือ ห้ามเครียด

ช่วงเวลานั้นว่าที่พ่อแม่ทั้งสองต่างเผ้าประคับประหงมลูกน้อยอยู่ตลอดเวลา คุณแม่ลาพักหอบงานมาทำที่บ้าน ไม่ยอมห่างบ้าน จากที่เคยเป็นคนเดินเร็ว ก็พยายามเดินให้ช้าลง

ก่อนนอนและทุกเช้าทั้งเขาและเธอจะเอามือลูบท้องอย่างทนุถนอม พูดคุยกับลูกน้อยตลอดว่า

“แบ่งตัวดี ๆนะลูก เกาะดี ๆเกาะแน่น ๆนะลูก แม่รอลูกนะ”

สิ่งหนึ่งที่คุณแม่ทนได้เพื่อลูกน้อยก็คือ อาการแพ้ท้อง อ้วกแล้วอ้วกอีก โดยเฉพาะช่วงเวลาเย็น ๆไปจนย่ำรุ่งของวันใหม่ ร้อนถึงคุณป้าที่นับถือคนหนึ่ง เมื่อรู้ข่าวจึงจัดแจงสอยลูกมะดันจากต้นใหญ่ในบ้านของตัวเอง นำมาให้คุณแม่คนใหม่จิ้มกินกับกะปิ แก้อาการแพ้ท้องได้ชะงัดดีแท้

เขาและเธอได้เรียนรู้ว่า มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด ที่เฝ้าประคบประหงมระวันรอคืนให้ลูกน้อยออกมาดูโลก

ครบกำหนดสองเดือนที่คุณหมอนัดไปตรวจที่โรงพยาบาล คุณแม่บอกว่าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และแพ้ท้องบ่อย ทำให้รู้สึกเป็นสัญญาณที่ดีกว่าการตั้งท้องหนแรกที่น้ำหนักตัวไม่ได้เพิ่มขึ้น และไม่มีอาการแพ้ท้องเลย

พอคุณหมอพาเธอไปตรวจอุลตร้าซาวด์ตรวจตำแหน่งของมดลูก ปรากฏว่าคุณหมอพบว่ามดลูกแข็งแรงดี แต่เมื่อพยายามสแกนหาเด็กอย่างละเอียด ไม่ปรากฏตัวของเด็กบนจอมอนิเตอร์

เธอพูดเสียงสั่นเครือว่า “ลูกน้อย ๆออกมานะ อย่าไปมุดซ่อนตัวเลย แม่ใจไม่ดีนะ”

คุณหมอบอกว่าโดยปรกติการท้องสองเดือนพอจะเห็นเด็กได้ แต่เด็กอาจจะยังไม่โต และอาการแพ้ท้องของเธอเป็นผลมาจากการที่ร่างกายสร้างมดลูก แต่ไม่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตของเด็ก จึงนัดให้มาตรวจดูใหม่อีกสองอาทิตย์

คำพูดของหมอ ทำเอาน้ำตาของเขาและเธอหลั่งออกมาระหว่างขับรถกลับบ้าน ความหวังที่จะเห็นลูกน้อย ค่อย ๆริบหรี่ลงทันที

แต่คืนนั้นทั้งคู่ไม่ยอมแพ้ ยังมีความหวังว่าฟ้าดินจะเมตตา คุณแม่แทบจะไม่ออกไปไหนเลย หาอาหารและยาบำรุงเพิ่มเติม ดูแลลูกน้อยมากขึ้น พูดคุยกับลูกน้อยบ่อยขึ้น ร้องเพลงกล่อมลูกน้อยทุกคืนก่อนนอน

ยิ่งใกล้วันที่คุณหมอนัด ทั้งคู่ก็ยิ่งกระสับกระส่าย ไม่แน่ใจว่าจะไปหาหมอดีหรือไม่ เพราะยังไม่อาจยอมรับความจริงบางอย่างได้ หากไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

แต่ทั้งคู่ตัดสินใจไปเผชิญหน้าความจริง อะไรจะเกิดก็เกิด วินาทีที่หมอเปิดจอมอนิเตอร์ มดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ไร้ตัวเด็กเหมือนเดิม แม้ว่าจะตรวจอย่างละเอียดเพียงใด ทั้งคู่จับมือกันแน่น พยายามทำใจให้เข้มแข็ง ยอมรับชะตากรรมของฟ้าดิน

“แม่สร้างบ้านใหญ่โตให้ลูกน้อย แต่ทำไมลูกน้อยไม่ยอมมาเกิด” เธอพูดพลางเช็ดน้ำตา

คุณหมออธิบายว่า เซลของเด็กไม่มีการแบ่งตัว หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ตั้งไข่ลม หากปล่อยไว้อีกไม่นาน การแท้งเด็กจะเกิดขึ้นเอง แต่อาจจะเสียเลือดมาก คุณหมอจึงแนะนำให้มาทำแท้งออกก่อน เพื่อความปลอดภัยของเธอ

บ่ายนั้นทั้งคู่เดินออกจากโรงพยาบาลอย่างไร้จุดหมาย น้ำตาคลอเบ้าด้วยความเศร้าโศก ความหวังในชีวิตที่จะโอบอุ้มลูกน้อยของตัวเอง

ความฝันที่จะเลี้ยงลูกน้อยก็พลันหายลับไปอีกครั้งหนึ่ง

ช่วงเวลานั้น คำพูดบทหนึ่งประจักษ์ในมโนภาพของทั้งสองคน

“ความพยายามเป็นของมนุษย์ แต่ความสำเร็จเป็นของฟ้าดิน”

วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์
vanchait@hotmail.com