กลับไปหน้า สารบัญ พ.ร.บ. ชื่อบุคคล กับนามสกุล หลังแต่งงาน

คั ด ค้ า น พ. ร. บ. ชื่ อ บุ ค ค ล

คั ด ค้ า น
สรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์
สมัคร สุนทรเวช
หัวหน้าพรรคประชากรไทย
  • กฎหมายเดิม ดีอยู่แล้ว ถ้าผู้หญิง อยากใช้นามสกุลเดิม ก็ควรวงเล็บเอาไว้

  • ถ้าเลือกใช้ นามสกุลตนเองได้ จะเกิดความสับสน ในครอบครัว ไม่รู้ว่า เป็นเมียใคร เป็นลูกใคร

  • เรื่องกดขี่ทางเพศ ไม่เกี่ยวกับเรื่อง นามสกุล ต่อให้แก้กฏหมายนี้ ก็ไม่ได้ทำให้ ผู้หญิง กับผู้ชาย เท่าเทียมกัน

....."หลักการ เรื่องการใช้นามสกุลที่ดำเนินมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๖ สืบทอดกันมา เป็นเวลา ๘๖ ปีแล้วนั้น ไม่มีอะไรบกพร่องเสียหายเลย ข้อความในกฎหมายดังกล่าว ที่บอกว่า หญิงที่สมรส มีสามีแล้ว ให้ใช้ ชื่อสกุล ของสามี แต่ยังคงใช้ชื่อตัว และชื่อสกุลเดิมของตน ไว้ได้ พวกผู้หญิงบางคน ก็พยายามนำมาตีความว่า รัชกาลที่ ๖ ทรงให้ใช้ นามสกุลตัวเอง ซึ่งจริง ๆ ก็คือ ถึงอย่างไร ต้องเปลี่ยนไปใช้ นามสกุลสามี ถ้าอยากคงนามสกุลเดิมไว้ จะต้องใส่ในวงเล็บ ปัจจุบัน ก็มีผู้หญิง ทำกันอยู่ทั่วไป ผมเอง ก็มีลูกสาวสองคน ซึ่งก็จะต้อง แต่งงาน และเปลี่ยนไปใช้ นามสกุลสามี ถ้าเขาเห็นว่า "สุนทรเวช" เป็นนามสกุลดัง ก็สามารถ วงเล็บเอาไว้ได้ ไม่มีใครว่าอะไร
....."ถ้าคุณเปลี่ยน ให้ผู้หญิง เลือกใช้นามสกุล ของตนเองได้ มันจะยุ่งทันที เช่น ไม่รู้ว่า ผู้หญิงคนนี้ แต่งงานหรือยัง ถึงจะมีคำว่า "นาง" นำหน้า แต่ก็ไม่รู้ว่า เป็นสะใภ้บ้านไหน เป็นเมียใครกันแน่ ทำให้ สับสนวุ่นวาย ไม่รู้ว่า ใคร เป็นญาติใคร ดีไม่ดี พี่น้อง มาแต่งงานกันเอง เพราะเวลา คนมันชอบกัน อยากแต่งงานกัน มันไม่สืบสาวกันหรอกว่า ใคร มาจากครอบครัวไหน เหตุผลเท่านี้ ก็พอเพียงแล้ว ที่จะไม่ให้ ผู้หญิง เลือกใช้นามสกุลตัวเอง
....."ผมคิดว่า สิ่งที่ทำมาแล้ว ๘๐ กว่าปี มันไม่ใช่เรื่องเสียหาย ประเทศอื่น ที่มีนามสกุล ก็สืบสกุลมา อย่างนี้ทั้งนั้น ควีนเอลิซาเบท สามารถ สืบสาวนามสกุล กลับไปถึงต้นตระกูล ตั้งแต่เมื่อ ๒,๐๐๐ ปีที่แล้วได้ เพราะยึดหลักการ ใช้นามสกุลของสามี ให้ผู้ชายเป็นตัวนำ ผู้หญิง เป็นตัวเข้ามาผสม หรือคนจีน ใช้แซ่ สืบสกุลมา ๔,๐๐๐ ปี เพื่อป้องกัน ไม่ให้แต่งงานกันเอง เขาใช้กันมาก่อน พ.ร.บ. นามสกุลอีก ผมเอง ก็ยังสามารถ สืบสกุลไปได้ ที่เรียกว่าเป็น "family tree" ก็เพราะ ยึดตามหลักการนี้ ตลอดระยะเวลา ๒๑๘ ปี ของตระกูลผม ผมสามารถ บอกได้เลยว่า ใครเป็นลูกใคร เรื่องวงศ์สกุล เขียนไว้ดีอยู่แล้ว แต่จะมา เปลี่ยนแปลงกัน เพื่ออะไร เพื่อที่จะบอกว่า ฉันต่อสู้ เพื่อความเท่าเทียมกัน หรือเพื่อความมัน ของผู้หญิงบางคนกันแน่
....."เหตุผลที่เรียกร้องกันขึ้นมา ก็เพราะ รัฐธรรมนูญไปเขียนไว้ว่า หญิงกับชาย เท่าเทียมกัน ถ้าอย่างนั้น ต้องไปแก้ กฎหมายแรงงานด้วยว่า ให้ผู้หญิง แบกของหนัก เท่ากับผู้ชาย ออกกฎหมายบังคับ ให้ผู้หญิง ไปเกณฑ์ทหาร เหมือนผู้ชาย จะได้เท่าเทียมกัน สอดคล้องกับ รัฐธรรมนูญ ผมคิดว่า เรื่องกดขี่ทางเพศ ในสังคมไทย ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับ เรื่อง เปลี่ยนนามสกุล ผู้หญิงโง่ ๆ เท่านั้น ที่พูดว่า การใช้นามสกุลสามี จะทำให้รู้สึกว่า ตกเป็นทรัพย์สมบัติ ของสามี เรื่องสามีภรรยา จะทุบตีกันหรือไม่ มันแล้วแต่ พฤติกรรมของคน
....."ผมคิดว่า ต่อให้แก้กฎหมายตัวนี้แล้ว ผู้หญิงกับผู้ชาย ก็ไม่ได้ เท่าเทียมกัน ขึ้นมาหรอก เพราะเรื่องบางอย่าง ในครอบครัว มันเป็นเรื่อง ธรรมชาติ แก้ไขอะไรไม่ได้ แล้วยังจะ ทำให้ยุ่งยากขึ้นไปอีก ไม่เห็นจะ เท่าเทียมกันตรงไหนเลย หมายความว่า ถ้าเกิดความ เท่าเทียมกันแล้ว ผู้หญิง จะไปหลับนอนกับผู้หญิง ใช่ไหม ไม่หลับนอนกับผู้ชาย ต่อไปนี้ ผู้หญิง จะไม่ยุ่งกับผู้ชายใช่ไหม นี่หมายความว่า เท่าเทียมกัน มันไม่มีเหตุผล ไม่เข้าท่า พวกนี้คิดแต่ว่า ผู้หญิง ถูกผู้ชายกดขี่ ทั้ง ๆ ที่ผู้หญิงกดขี่ผู้ชาย ก็มีเหมือนกัน ในกระบวนเรื่อง ที่ไม่มีเหตุผลด้วยกัน ผมว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ ไม่มีเหตุผล มากที่สุด ไม่ควรค่าแก่การ นำมาถกเถียง เสียเวลาเปล่า ๆ
พ.ร.บ. ชื่อบุคคล ....."ถ้าผู้หญิงอยากเป็นช้างเท้าหน้า ก็แก้กฎหมาย ให้ผู้หญิง เป็นฝ่าย หาเลี้ยงครอบครัวสิ อย่างนี้จะเอาหรือไม่ กฎหมายที่เขียนขึ้นนี้ เขียนมาจาก ลักษณะ ความเป็นไป ของครอบครัว ในสังคมไทย เขียนตาม สิ่งที่มันเป็นอยู่ บ้านเมืองเรา ไม่ใช่ผู้ชายเป็นใหญ่อย่างเดียว ผู้หญิง เป็นใหญ่ก็มี อย่างเช่น ผู้หญิง มีสิทธิลงคะแนนเสียง มาตั้งแต่แรก มีสิทธิเท่าเทียมกัน ในการแบ่งมรดก ผู้หญิง แบกของน้ำหนักน้อยกว่า ผู้หญิง ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร อย่างนี้ ยังไม่พอใจอีกหรือ ถ้าต้องการผู้หญิง มีสิทธิเท่าเทียมผู้ชาย ก็ต้องออก พ.ร.บ. ให้ผู้หญิงเกณฑ์ทหาร แล้วต่อไป สังคมผู้หญิง ก็ต้องเดือดร้อน เพราะทำงานอะไรไม่ได้ ต้องมี ใบเกณฑ์ทหารก่อน ผมคิดว่าเรื่องนี้ ทำไปแล้ว มันได้ไม่คุ้มเสีย เรียกร้องไป ก็ไม่ได้อะไร นอกจากความมัน ว่า ฉันรักษา นามสกุลตัวเองไว้ได้ เรื่องนี้ เรียกร้องกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่เหตุผล ก็ยังโง่เหมือนเดิม
....."คนที่เรียกร้องเรื่องนี้ เป็นผู้หญิงพวกหนึ่ง ซึ่งไม่มีอะไรจะทำ ผู้หญิง ที่เขาเห็นว่า การแก้ไขเรื่องนี้ มันไม่เป็นประโยชน์ เป็นเรื่องไร้สาระ ก็มีอีกเยอะ ถามว่า ถ้าไม่มีผู้ชายแล้ว ผู้หญิง จะมีลูกได้หรือเปล่า เมื่อลูก เกิดจากผู้ชาย ก็ต้องใช้ นามสกุลผู้ชาย เมื่อตัวแต่งงานกับ ผู้ชาย แล้ว มีลูกผู้ชาย ก็จะได้สืบสกุลของสามี ผู้หญิง ที่อยู่กับสามี แล้วอวดศักดา จะเท่ากับสามี ไม่รักสามีนั้น ใช้ไม่ได้ ถ้าแก้กฎหมายตัวนี้ ได้จริง ไม่มีใครได้ประโยชน์ นอกจาก ความมัน ของผู้หญิงคนนั้น เท่านั้นเอง ที่ได้ใช้ นามสกุลตัวเอง มีลูก ก็ใช้นามสกุลตัวเอง
....."ถ้าปล่อยให้ ผู้หญิงมีสิทธิ เลือกใช้นามสกุลตัวเอง แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ในครอบครัว ลูก อาจจะ ไม่เคารพพ่อแม่ก็ได้ เรามีชีวิตอยู่ในสังคม ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ต่างคนต่างอยู่ สังคมจะสับสน ไม่รู้ว่า ใคร เป็นลูกใคร กันแน่ เวลาลูกไปโรงเรียน ถ้าใช้คนละนามสกุล จะรู้ได้อย่างไรว่า ใครเป็นพี่น้องกัน ยิ่งถ้าเปิดโอกาส ให้ผู้ชายเลือกใช้ นามสกุลภรรยาได้ ก็ยิ่งเป็นเรื่องบ้า มันก็จะเกิด ความสับสนไปกันหมด ว่า ใคร ใช้นามสกุลภรรยา ใคร ใช้นามสกุลสามี กันบ้าง คนทั่วไปไม่มีใครรู้
....."ถ้าผู้ชายไปใช้นามสกุลภรรยาได้ แล้วการสืบสกุล จะเป็นอย่างไร ผู้หญิงนั่งอยู่เฉย ๆ จะมีลูกได้หรือเปล่า มันมีลูกได้เพราะผู้ชาย ผู้ชายถึงต้องเป็น ผู้สืบสายสกุล มีแต่คนเค้าภาคภูมิใจ ที่ได้เป็น สะใภ้บ้านไหน เขาก็เป็นอย่างนั้นต่อไป สังคมมันเป็นอย่างนี้ แล้วมีคนแปลกปลอม มาใช้นามสกุลคนอื่น ถ้าผู้ชายคนหนึ่ง เป็นคนใช้แซ่ ไปแต่งงานกับ ผู้หญิง ที่มีนามสกุลใหญ่โต เป็นนามสกุลเจ้า พอแต่งแล้วมีลูก ซึ่งเป็นลูกของ คนที่ใช้นามสกุลแซ่มา ไปใช้นามสกุลเจ้า แล้วเจ้าจะรู้สึกอย่างไร
....."ถ้ามีลูกผู้หญิง ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีใครสืบสกุล เพราะผมเอง ก็มีลูกผู้หญิงสองคน ไม่มีคนสืบสกุล ก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไร มันมีความสำคัญยังไง ที่ต้องรักษา นามสกุลเดิมเอาไว้ ถ้าไม่มีจริง ๆ ก็ต้องใช้สายอื่น สกุลบางสกุล ก็ต้องหมดไปตามธรรมชาติ ถ้าอยากให้ นามสกุลยังอยู่ ก็วงเล็บเอาไว้ แต่ถ้าแต่งงานกับผู้ชาย ด้วยความรักจริงๆ ก็ต้องยอมใช้นามสกุลของเขา ถ้าผู้หญิง แสดงความรังเกียจ นามสกุล ของสามีแล้ว ไปแต่งงานกับเขาทำไม หรือว่า อยากได้ผัว แต่ไม่อยากได้ นามสกุล ผู้หญิงอย่างนี้ เรียกว่าหน้าด้าน ไม่อยากได้ นามสกุลของเขา ก็อย่าไปยุ่งกับเขา ถ้าไม่รักไม่ชอบ ก็ไม่ต้อง แต่งงานกัน ผู้หญิงอย่างนี้ เป็นผู้หญิงสิ้นคิด ชอบแต่สนุก ยุ่งกับใครก็ได้ ไม่รู้ว่าใครเป็นสามี มันต้องเป็นไปตาม ขนบธรรมเนียมประเพณี ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ ความรู้สึก มัน ในอารมณ์ ของคนที่จัดการ วิ่งเต้น เรียกร้อง เท่านั้น
....."ผมขอกล่าวหาว่า การเรียกร้องเรื่องนี้ มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง คือ นายกฯ ชวน หลีกภัย ต้องการให้สิ่งที่ตนเองทำ เป็นเรื่องถูกกฎหมาย เพราะเวลานี้ นายกฯ ไม่ยอมให้เมีย ใช้นามสกุลตนเอง เหตุผลทั้งหมด ที่ออกมา เรียกร้อง จึงเป็นแค่ เรื่องบังหน้า และคนที่ออกมา เรียกร้อง ก็ตกเป็น เครื่องมือ ของนายกฯ ชวน เท่านั้นเอง
....."ผมคิดว่า ถ้าให้ลงคะแนนทั่วประเทศ คนส่วนใหญ่ จะต้องคิดเหมือนผม เพราะถ้ากฎหมายตัวนี้แก้ได้ อีกหน่อย คงต้องออกกฎหมาย ให้ผู้หญิง เป็นทหาร ตอนนี้ ประเทศอื่น ก็ยังให้ใช้ นามสกุลสามีอยู่ มีประเทศเรา บ้าอยู่ประเทศเดียว"
ธนวดี ท่าจีน
ธนวดี ท่าจีน
ผู้ประสานงานมูลนิธิเพื่อนหญิง

click hereอ่าน (ฝ่ายสนับสนุน) คลิกที่นี่

แล้วคุณล่ะ สนับสนุน หรือ คัดค้าน !


แ ส ด ง ค ว า ม คิ ด เ ห็ น

ชื่อ-สกุล: *
E-Mail:
สนับสนุน หรือ คัดค้าน: *
*

 

แสดงความคิดเห็น เรื่อง พรบ.มวยอาชีพ คลิกที่นี่
สารบัญ | นักสะสมเปลือกหอย | เชอร์ปา | ภาษาตะโกน | สัตว์ป่าในบอสเนีย
เลือกใช้นามสกุล หลังแต่งงาน | เฮโลสาระพา


Feature@sarakadee.com

สำนักพิมพ์ สารคดี | สำนักพิมพ์ เมืองโบราณ | วารสาร เมืองโบราณ | นิตยสาร สารคดี
[ วิริยะบุคส์ | มีอะไรใหม่ | เช่าสไลด์ | ๑๐๘ ซองคำถาม | สมาชิก/สั่งซื้อหนังสือ |
WallPaper ]

ขึ้นข้างบน (Back to Top) นิตยสาร สารคดี (Latest issue) หน้าที่แล้ว (Previous Page) หน้าถัดไป (Next Page)