|
|
เจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่กวนอิมที่ชาวจีนเคารพกันนั้น อยู่ในสถานะใดครับ...เป็นเทพี นักบวช เจ้าแม่ หรือเป็นพระพุทธรูปปางหนึ่ง (ตี๋ใหญ่ / กรุงเทพฯ) |
| คติพุทธศาสนานิกายมหายานนั้นนับถือพระพุทธเจ้าหลายพระองค์ และนอกเหนือไปจากพระพุทธเจ้าแล้ว
ยังนับถือพระโพธิ์สัตว์
ซึ่งเป็นผู้จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในเบื้องหน้าอีกเป็นจำนวนมาก
พระโพธิสัตว์นี้แม้ตรัสรู้แล้ว จะยังไม่ยอมเข้าสู่พุทธภูมิ
จนกว่าจะช่วยเหลือบรรดาสรรพสัตว์ผู้ตกทุกข์ได้ยากเสียก่อน
ด้วยเหตุนี้พุทธศาสนิกชนมหายาน
จึงบูชาพระโพธิสัตว์ด้วยความเคารพเลื่อมใสศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยม เพราะสามารถช่วยให้พ้นจากทุกข์ได้โดยตรง ในบรรดาพระโพธิสัตว์ที่ปรากฏพระนาม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธามากพระองค์หนึ่ง คือพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือที่ชาวจีนเรียกกันว่า กวนซีอิม หรือ กวนอิม ซึ่งแปลว่า พระผู้ได้ยินเสียงร้องทุกข์ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร จะตรัสรู้สัมโพธิญาณภายหลังปรินิพพานของพระอมิตาภพุทธเจ้า และรับช่วงเป็นพระพุทธเจ้าต่อจากพระอมิตาภะ ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ในบรรดาพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ของมหายาน คัมภีร์สัทธรรมปุณฑริกสูตรของมหายานกล่าวว่า การที่พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ได้ชื่อว่ากวนอิมนั้น เพราะทรงช่วยเหลือบรรดาสรรพสัตว์ทั้งปวง โดยมิได้เลือกชนชั้นวรรณะ เพศ วัย และสถานภาพ เพียงสรรพสัตว์ซึ่งตกอยู่ในห้วงทุกข์ ได้สวดพระนามของพระองค์ก็หลุดพ้นจากห้วงทุกข์ เท่ากับทรงช่วยเหลือตามกระแสเสียงที่ได้ยินนั่นเอง ทรงโปรดเวไนยสัตว์ในพระรูปกายต่าง ๆ ถึง ๓๓ กาย ตามโอกาสอันควรและเหมาะสมแก่ฐานานุรูป ผู้ใดควรได้รับการโปรดด้วยปางใดก็ปรากฏพระกายปางนั้น ๆ อาทิ ปางพุทธกาย ปางเทพราช ปางขุนศึก ปางพระราชา ปางนาค ยักษ์ เป็นต้น พระโพธิสัตว์กวนอิมจึงปรากฏพระกายทั้งในเพศบุรุษ และสตรี หรือรูปลักษณ์อื่น ๆ ในระยะแรก ๆ ของการเผยแผ่พุทธศาสนามหายาน จะเห็นได้ว่าพระโพธิสัตว์กวนอิมมักเป็นบุรุษเพศ ดังจะเห็นได้จากภาพจิตรกรรม ประติมากรรม และเอกสารต่าง ๆ ต่อมาจึงนิยมสร้างเป็นสตรีเพศ โดยมีข้อสนับสนุนว่า สตรีเพศย่อมแสดงถึงความอ่อนโยน ความมีเมตตากว่าบุรุษเพศ ซึ่งเหมาะสมและสอดคล้องกับคุณลักษณะ ของพระโพธิสัตว์กวนอิม ที่ได้ชื่อว่า เมตตามหาการุณย์ ดังนั้นปางสตรีเพศจึงได้รับความนิยมและแพร่หลายมากกว่าปางอื่น ๆ ท่านที่ต้องการอ่านประวัติพระโพธิสัตว์กวนอิมอย่างละเอียด ขอให้ดูเรื่อง "พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร (พระโพธิสัตวืกวนอิม) โดย เบญจมาส แพทอง ใน นานาสาระวัฒนธรรมไทย เล่ม ๒ กองวรรณกรรมและประว้ติศาสตร์ กรมศิลปากร |
|
|
ต้นไม้แก่ตาย ? ต้นไม้มีอายุยืนสักเท่าไรครับ และเวลามันตาย หมายถึงว่ามันหมดอายุขัย คือแก่ตายใช่หรือไม่ (สถาปา บุญญานนท์ / กรุงเทพฯ) |
| ไม่ ในความหมายเดียวกับคน คนเรามีช่วงชีวิตที่แน่นอน เราสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงอายุหนึ่ง ไม่นานไปกว่านั้น
ทุกวันนี้คนโดยเฉลี่ย จะมีช่วงชีวิตประมาณ ๗๔ ปี มีคนจำนวนน้อยที่จะอยู่จนถึงอายุ ๙๐ ปีหรือมากกว่านั้น อย่างไรก็ตาม
นักวิทยาศาสคร์เชื่อว่า เป็นไปไม่ได้เลยทางกายภาพ
ที่คนเราจะมีชีวิตยืนยาวเกิน ๑๒๐ ปี [เรื่องราวในพระคัมภีร์ไบเบิลของเมทูเซลาห์ (Methuselah) ผู้มีอายุ ๙๖๙ ปี จึงเป็นเรื่องเล่าเกินจริงแน่นอน] ต้นไม้ทุกต้นต้องตายในที่สุด แต่ต้นไม้ไม่มีช่วงชีวิต ที่กำหนดตายตัวเหมือนอย่างคนเรา ต้นไม้โดยเฉลี่ยอาจยืนต้นอยู่เป็นจำนวนปีที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าต้นไม้นั้นเป็นต้นไม้ชนิดใด ต้นไม้ส่วนมากถูก "ฆ่า" ตั้งแต่ในช่วงต้นของชีวิต โดยอุบัติเหตุ โรคพืช แมลง และสาเหตุอื่น ๆ แต่ต้นไม้อีกหลายชนิดมีอายุยืนยาวกว่ามาก ตัวอย่างที่ดีที่สุด คือต้นสนบริสเซิลโคนซึ่งมีอายุยืน ๒๐๐-๓๗๕ ปี นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า ต้นสนบริสเซิลโคนในรัฐแคลิฟอร์เนียมีอายุเกินกว่า ๔,๐๐๐ ปีด้วยซ้ำ ทำไมต้นไม้มีชีวิตยืนยาว เหตุผลหลักก็คือ ต้นไม้มีโครงสร้างที่สลับซับซ้อนน้อยกว่าคนมาก คนและสัตว์มีสมองสั่งการ และควบคุมการทำกิจกรรมต่าง ๆ เมื่อสมองตายเราก็ตาย แต่สำหรับต้นไม้แล้ว เช่นเดียวกับพืชทุกชนิด โครงสร้างของมันเรียบง่ายกว่ามาก ต้นไม้ไม่มีสมอง หลายส่วนของมันอาจตายไป โดยไม่ทำให้ต้นไม้ทั้งต้นตายไปด้วย อันที่จริงส่วนใหญ่ของต้นไม้ที่ปรกติสมบูรณ์ดี กลับเป็นส่วนที่ตายแล้ว ตัวอย่างเช่นเนื้อไม้ใจกลางลำต้น ส่วนของต้นไม้ที่มีชีวิตอยู่ คือชั้นเนื้อเยื่อบาง ๆ ใต้เปลือกไม้ เรียกว่า แคมเบียม (cambium) กับใบไม้ ปลาย ราก และกิ่งก้านเท่านั้น ทั้งหมดที่เหลือรอดมีชีวิตอยู่ของต้นสนบริสเซิลโคนโบราณ ในรัฐแคลิฟอร์เนียก็คือ เนื้อเยื่อแคมเบียมและใบไม้ แต่ปีแล้วปีเล่าต้นสนยังคงยืนหยัดต่อไป อาจเป็นไปได้ว่า มันจะมีชีวิตยืนยาวต่อไปอีกนาน หลังจากที่พวกเราลาจากโลกนี้ไปแล้ว |