เด็กพันธุ์ใหม่ ...วัย X โดย อรสม สุทธิสาคร Click ชีวิตวัยรุ่นไทยยุคปี ๒๐๐๐ ในความเห็นของคุณ
บันทึกจากรั้วโรงเรียน
ห้องเรียน-ห้องรักของนักเรียน ?
"โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนชายล้วน เกย์เยอะมาก ผมเรียนศิลป์ฝรั่งเศส ตอนอยู่ ม.๔ ก็มีไม่กี่คน ตอนขึ้น ม.๕ นี่เยอะขึ้น ในห้องมีสี่สิบคน ที่เป็นกะเทยเห็นได้ชัด ประมาณเจ็ดแปดคน เกย์ประมาณสิบกว่าคน เป็นกันมากกว่าห้องที่เรียนสายคำนวณหรือวิทย์ เพื่อนที่ไม่คิดว่าจะเป็นเกย์มาก่อน พอขึ้น ม.๕ ก็แต่งหน้า ทามาสคาร่า ทาปาก บางทีอยู่นอกโรงเรียนมีแฟนเป็นผู้หญิง อยู่ในโรงเรียนมีแฟนเป็นผู้ชาย เป็นไบเซ็กช่วลหรือเปล่าก็ไม่รู้  ผมว่าการเป็นแฟนกัน คงเป็นแฟชั่นมากกว่า บางครั้งนักเรียนนั่งเล่นกัน กอดหอมกัน บางทีก็จับอวัยวะเพศกันในห้อง เขาไม่ค่อยอาย อาจารย์ก็จะหันมาเตือนให้เลิก สักพักเขาก็จะหันมาจับกันต่อ พวกตุ๊ดชอบส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดน่ารำคาญ บางทีก็หมั่นไส้ ตบตีกัน ในโรงเรียนยังมีขายยาบ้า บางคนขายด้วย เสพด้วยในห้องเลย อาจารย์ก็ประสานกับทางผู้ปกครอง พาไปบำบัด เรื่องติดบุหรี่นี่ไม่ต้องพูด ในห้องน้ำนี่พ่นกันควันโขมงเยอะมาก" เป็นข้อสังเกตจากนักเรียนมัธยมปลาย ในโรงเรียนชายเก่าแก่มีเกียรติภูมิ ระดับแถวหน้าของประเทศ       "ห้องผม เพื่อนๆ เคยเห็นนักเรียนที่เป็นเกย์ แอบทำออรัลเซ็กซ์ให้กันหลังห้อง ขณะที่อาจารย์ฝึกสอนกำลังสอน เด็กรู้สึกเป็นเรื่องท้าทาย อาจารย์บางคนเป็นตุ๊ด ยังเคยพูดแหย่ผมทีเล่นทีจริงว่า เธอไม่ต้องช่วยตัวเองบ่อยหรอก เหลือน้ำไว้ให้ครูบ้าง ครูชอบ ผมงี้งงมากเลย" เป็นเสียงจากนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน       ในขณะที่นักเรียนชั้นมัธยมปลายโรงเรียนหญิงล้วน ระดับกลางเก่าแก่แห่งหนึ่ง ของรัฐบอกเล่าว่า ที่นี่มีเด็กเป็นทอม ดี้กันมาก บางห้องมากถึงเกือบครึ่งห้อง บางครั้งล้วงจับกันในห้องเรียน หรือริมสนามกีฬา กฎระเบียบในโรงเรียนย่อหย่อน ปัญหาเนื้อที่โรงเรียนที่ไม่สามารถขยับขยายได้ ในขณะที่จำนวนนักเรียนมากขึ้น ทำให้เกิดความแออัด กระทบกระทั่งกันสูง
"เด็กที่นี่แต่งตัวผิดระเบียบเยอะมาก ทอมบางคนไถผมเปิดหนังหัว ผมตั้งเกรียนๆ ที่ฮิตมากคือเด็กสาวๆ ชอบเอาน้ำยาอุทัยมาทาแก้ม ใช้น้ำยาอุทัย แล้วเอาแป้งโปะอีกชั้นหนึ่ง เขาบอกว่ามันทำให้แดงใสเป็นธรรมชาติเหมือนคนญี่ปุ่น บางทีเด็กตบตี แย่งทอม ดี้กันบ้าง ทะเลาะกันเรื่องอื่นบ้าง ชอบตัดเล็บแหลมๆ เวลาตบกันเลือดออกซิบๆ บางทีอาจารย์สอนอยู่หน้าห้อง ตบกันหลังห้อง อาจารย์ต้องวิ่งมาห้าม เคยเห็นดี้ตบแย่งทอมกันกลางสนาม  มีดาวโรงเรียนที่เป็นทอม เกือบทุกวัน พี่คนนี้จะแบกตุ๊กตาหมีกลับบ้าน รุ่นน้องเอามาให้เยอะมาก ยังคิดว่า เขาน่าจะไปเปิดร้านขายตุ๊กตาได้เลย นักเรียนบางคนตบกัน แย่งอาจารย์ผู้ชาย เด็กที่นี่ค่อนข้างแรง บางทีเดินชนกันในโรงอาหาร เนื่องจากที่แคบมาก ยกชามก๋วยเตี๋ยวราดเลย หรือเอาพริกสาดกันในโรงอาหารก็มี เด็กบางคนก็ก้าวร้าวไม่ฟังครู เพราะถือว่าตัวเองลูกคนรวย พ่อแม่ตามใจ ขึ้นเสียงพูดกูมึงกับครูก็ยังมี แล้วก็ชอบเที่ยวกลางคืนกันเยอะมาก"       "เด็กโรงเรียนฝรั่งที่เป็นหญิงล้วนเป็นทอม ดี้กันเยอะ บางครั้งก็แอบไปมีอะไรกันในห้องน้ำ บางครั้งในห้องล็อกเกอร์ ส่วนใหญ่ทอมที่เนื้อหอมมากๆ มักเป็นนักกีฬา พวกนี้จะมีแฟนเป็นเชียร์ลีดเดอร์ เข้าทำนองทอมหล่อ ดี้สวย ทอมบางคนหน้าตาน่ารัก ตัดผมสั้นที น้องกรี๊ดที ส่วนหนึ่งก็เป็นตามแฟชั่น บางคนจบออกไป เจออีกทีผมยาว แต่งหน้า มีแฟนเป็นผู้ชายไปแล้ว เห็นแล้วตกใจ แต่บางคนเจออีกทียังหล่อถาวรก็มี" เป็นเสียงจากนักเรียนโรงเรียนฝรั่งมีชื่อแห่งหนึ่ง       โรงเรียนเอกชนเก่าแก่ระดับสูงแห่งหนึ่งถึงขนาดต้องติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิด ไว้เพื่อคอยตรวจจับ พฤติกรรมทางเพศของนักเรียน!       พฤติกรรมทางเพศระหว่างทอม ดี้ที่มีการแสดงออกอย่างเปิดเผย ล้ำลึก และขยายวงกว้าง มักเกิดขึ้นในกรณีของนักเรียนหญิงโรงเรียนประจำ มากกว่านักเรียนไปกลับ อาจเป็นด้วยเงื่อนไขของความใกล้ชิด และเด็กกำลังอยู่ในช่วงวัย ที่อยากลองอยากเรียนรู้เรื่องเพศ ทั้งเด็กยังมองว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย เช่นเดียวกับหนุ่มสาว การจีบกันอาจเริ่มต้นอย่างหวานชื่น กระจุ๋มกระจิ๋ม ด้วยการส่งขนม ข้าวของเครื่องใช้ เขียนจดหมายบอกความในใจ และพัฒนาไปจนถึงขั้นสัมพันธ์ล้ำลึก       นี่คือฉากรักระทึกจากการยืนยันของนักเรียนหญิงโรงเรียนเอกชนเก่าแก่ระดับสูง ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำมีชื่อ
"กลางคืนเด็กจะรอเวลา ตอนที่ครูไม่มาตรวจแล้ว ย่องมาหากัน โดยเอาหมอนข้างวางไว้ แล้วเอาผ้าห่มคลุมทับเตียงตัวเอง ให้เหมือนกับยังนอนอยู่ที่เตียง จากนั้นก็ย่องไปนอนกับแฟน เตียงเป็นเตียงเหล็ก เรียงเป็นแถวติดๆ กัน พอมีอะไรกัน ก็จะมีเสียงเตียงสั่นๆ อยู่ในความมืด เรายังงงเลยว่าเขาไปถูกเตียงได้ยังไง แต่ก็มีบางคนขึ้นเตียงผิด กลายเป็นเรื่องตลกขบขันกันไป เพื่อนๆ ก็รู้ แล้วตามกฎ ทางโรงเรียน  ห้ามนักเรียนอาบน้ำห้องเดียวกัน แต่เด็ก ม.ปลาย ที่เป็นแฟนกันจะแอบครู ดักรออาบน้ำพร้อมกัน ในห้องเดียวกัน"       นักเรียนผู้นี้ยังบอกเล่าอีกว่าปกติหลัง ๕ โมงเย็น ประตูห้องเรียนจะปิด โดยมีหัวหน้าห้อง เป็นผู้ดูแลปิดห้องเรียนเป็นคนสุดท้าย หัวหน้าห้องบางคนเป็นใจ ปล่อยให้เพื่อนที่เป็นทอม ดี้ อาศัยซอกมุมของห้องมาเป็นฉากรัก       "พวกหนูนี่ไวมากเรื่องเพศ หนังสือโป๊ก็ระบาด เป็นพวกหนังสือปกเหล็กจากเมืองนอก ต้องรวมเงินกันซื้อ ภาพนี่โอ้โฮ สุดยอด สังเกตพวกทอม ดี้นี่อารมณ์รุนแรง เด็กปกติจะไม่ทะเลาะกันรุนแรง แต่พอมีเรื่องเซ็กซ์เข้ามา กลายเป็นรักแรง เกลียดแรง วิธีการระบายอารมณ์ บางทีใช้คัตเตอร์กรีดแขนตัวเอง หนูเองเป็นทอมอยู่ เคยเจอประสบการณ์ตรง มีดี้กรีดเลือด แล้วใช้เลือดเขียนเป็นจดหมายมาถึงเรา เพื่อสารภาพรัก"       ในขณะที่อาจารย์แนะแนวโรงเรียนสตรีมีชื่อ ระดับแถวหน้าของรัฐให้ความเห็นในเรื่องทอม ดี้ ว่าถือเป็นแฟชั่นของนักเรียนโรงเรียนหญิงล้วน ครูอาจารย์ต้องพยายามทำความเข้าใจเด็ก
"เราถือว่าสิ่งนี้เป็นแฟชั่น เวลาแข่งกีฬาสี พวกนักกีฬาเขาก็แต่งตัวห้าวๆ เชียร์ลีดเดอร์ต้องแต่งตัวสวยๆ หรือเวลาแห่เทียนพรรษา เด็กก็ต้องแต่งตัวเป็นนางฟ้า นางฟ้าก็ต้องคู่กับเทพบุตร แต่ถ้าเราสังเกตดูว่ามันเริ่มจะไม่ธรรมดา หรือประกอบกิจกันแล้ว เราก็ต้องช่วยชี้ให้เขาเห็น เราจะบอกว่าหนูใช้ชีวิตอย่างนี้ต่อไปก็ได้ แต่อนาคตหนูจะต้องไปเจออะไรบ้าง ไปจับแยกไม่ได้นะคะ ถ้าจับแยกเคยมีการกรีดเลือด เคยมีเด็กบางคนกรี๊ดจะโดดตึก เราต้องตะล่อมให้ลงมาคุยกัน เพราะทอมเขาตีตัวออกห่าง ต่อมาทอมไปมีแฟนเป็นผู้ชาย ครูแนะแนวต้องรับฟัง บางคู่มานั่งเล่า แต่เราไม่เออออห่อหมก เราก็สอน เช่น หนูมีความสุขจริงหรือ พอเขามีแฟนคนใหม่ หนูก็หึงหวง วันๆ หนูก็ไม่ทำอะไรเลย คิดแต่เรื่องนี้ หนูต้องเรียนหนังสือนะ"       นักเรียนมัธยมปลายโรงเรียนหญิงเก่าแก่มีชื่อระดับท็อปเทนของรัฐแห่งหนึ่งบอกเล่าว่า ที่นี่มีนักเรียนหญิงกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง ๓-๔ คน พยายามทำตัวเป็นไฮโซ ใช้ข้าวของแพงๆ เป็นที่รู้กันเปิดเผยในกลุ่มเพื่อนว่านักเรียนกลุ่มนี้ขายบริการ แม้เป็นโรงเรียนหญิง แต่ก็มีนักเรียนขายยาบ้า และติดยาบ้า เมื่อครูจับได้ จึงให้ออก       ในขณะที่เด็กนักเรียนชั้นมัธยมปลายโรงเรียนสาธิตแห่งหนึ่งเล่าว่า เด็กนักเรียนหญิงชายที่มีความสัมพันธ์ขั้นลึกซึ้งจะเป็นที่รู้กันในหมู่เพื่อน       "พวกนี้มองดูก็รู้ว่าใกล้ชิดกันมาก ถ้าอยู่ห้องเดียวกันก็นั่งติดกัน แต่ถ้าอยู่คนละห้อง       ตอนพักก็มาหากัน บางคู่ก็จับมือ ควักล้วงกันไปมาไม่ประเจิดประเจ้อนัก แต่บางคู่ก็ทำประเจิดประเจ้อเลย ล้วงควักกันตามมุมห้อง เวลาพัก เพื่อนก็เห็น เพื่อนทำเป็นไม่สนใจ แต่แอบมอง โรงเรียนหนูเด็กเที่ยวก็มี แต่เด็กเรียนเยอะกว่า เด็กผู้ชายจะมั่นใจ แต่ผู้หญิงมั่นกว่า กล้ากว่า"

contact@sarakadee.com
สำนักพิมพ์ สารคดี | สำนักพิมพ์ เมืองโบราณ | วารสาร เมืองโบราณ | นิตยสาร สารคดี
[ วิริยะบุคส์ | มีอะไรใหม่ | เช่าสไลด์ | ๑๐๘ ซองคำถาม | สั่งซื้อหนังสือ ]