เด็กพันธุ์ใหม่ ...วัย X
โดย อรสม สุทธิสาคร

Click ชีวิตวัยรุ่นไทยยุคปี ๒๐๐๐ ในความเห็นของคุณClick ชีวิตวัยรุ่นไทยยุคปี ๒๐๐๐ ในความเห็นของคุณ

ปกหนังสือ เด็กพันธุ์ใหม่...วัย X (คลิกดูหน้าหลัก)
แง้มชีวิตคุณหนูไฮโซ เต็มหรือพร่องคุณภาพ  
เรื่องของแนน  
      ปัจจุบัน ภาพของนักเรียนนักศึกษาที่ใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟู่ฟ่ายังคงมีให้เห็นกันดาษดื่น ในทุกสถาบันการศึกษา เด็กๆ ขับรถเก๋งยี่ห้อหรูมาเรียนหนังสือ ใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นของแบรนด์เนมราคาแพงระยับ ประดับเรือนกาย ราคารวมกันหัวจรดเท้าเป็นเลขหกหลักขึ้นไป ทุกคนมีมือถือติดตัว เด็กเหล่านี้ได้รับสมญาว่า "คุณหนู" ผู้ได้รับการทะนุถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูมาราวไข่ในหิน ไม่เคยรู้จักความผิดหวัง ความยากลำบาก ชีวิตไม่ติดดิน ขาดจิตสำนึกทางสังคม ฯลฯ
      นั่นคือภาพที่สังคมมอง...
      เด็กกลุ่มนี้มาจากครอบครัวที่มีฐานะ บ้างมาจากตระกูลเก่าแก่สืบสายสกุลจากชนชั้นสูง ขุนน้ำขุนนาง บ้างมาจากตระกูลนักธุรกิจ นักการเมือง ชีวิตของคุณหนูทั้งหลายราวปูลาดด้วยกลีบกุหลาบ หอมกรุ่น เพียบพร้อมครบสูตร ทั้งสวย รวย เก่ง หลายคนได้ชื่อว่าเป็นดาวเด่นของสังคมกรุงเทพฯ เป็นนางแบบกิตติมศักดิ์บนปกหนังสือ มีชื่อลงในข่าวสังคมซุบซิบสม่ำเสมอ
      ในขณะที่สังคมส่วนหนึ่งเฝ้ามองพวกเธอด้วยความชื่นชม ว่ามีชีวิตน่าอิจฉา แต่สังคมอีกด้านหนึ่งกลับมองว่าคุณหนูเหล่านี้คืออาชญากรน้อยๆ ทางเศรษฐกิจ ผู้สร้างค่านิยมผิดๆ ทำให้เมืองไทยต้องเสียดุลการค้าต่างประเทศปีละหลายเงิน ทั้งที่พวกเธอยังไม่มีรายได้เป็นของตนเอง
      ลองมาแง้มหัวใจของคุณหนูดู...

 
      แนนเป็นนักศึกษาปีที่ ๓ ของมหาวิทยาลัยเก่าแก่มีชื่อของรัฐ ชีวิตของเธอดูจะเพียบพร้อมไปทุกสิ่งอย่าง ทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะ พ่อเป็นนักธุรกิจ แม่เป็นแม่บ้าน เธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว มีน้องชายอีกคนหนึ่ง ชีวิตของแนนดูจะเข้าสูตร "คุณหนูไฮโซ" ครบครัน เธอใช้ของหรูเลิศรสนิยม นับแต่กระเป๋าถือ นาฬิกา รองเท้า ฯลฯ แนนจบมัธยมมาจากโรงเรียนฝรั่ง เช้าเย็น คุณแม่ขับรถเบนซ์ รุ่น E ๒๓๐ ตากลมมารับมาส่ง หน้าที่คือการเรียน ไม่ต้องอนาทรร้อนใจกับสิ่งใด ครอบครัวรักใคร่ปรองดอง เข้าอกเข้าใจกัน ชีวิตแนนมีความสุขสบาย ความอบอุ่นพร้อมพรั่ง เธอมีคุณภาพชีวิตที่ดี และผลการเรียนดีระดับ ๓.๕๘
      แนนบอกว่าการที่ใช้ของหรู ราคาแพง เป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากแม่
      "แม่เป็นคนชอบแต่งตัว เลยจับแนนแต่งตัวตั้งแต่เล็ก เราก็ชินมาเรื่อยๆ ประกอบกับอยู่ในสังคมโรงเรียนฝรั่ง เพื่อนฝูงเขาใช้ของยี่ห้อกันทั้งนั้น พอเราเห็นมันก็เหมือนกับตามๆ กันไป เป็นแฟชั่นอย่างหนึ่ง แต่ทุกครั้งที่แนนอยากได้อะไรก็จะดูด้วยว่าเป็นไปได้ไหม คือไม่ตื๊อคน จะพูดคำเดียวว่าชอบอันนี้ อยากได้ ถ้าพ่อแม่เขาอยากให้ เขาก็จะหาให้เอง ถ้าเขาไม่ให้ เขาคงคิดว่ามันไม่เหมาะ
      กระเป๋าแพงๆ ของแนน เช่น ชาแนล แนนบอกว่าแล้วแต่รุ่น และแหล่งซื้อด้วย ในเมืองไทยของพวกนี้ราคาแพงมาก เธอมักจะซื้อตอนไปเรียนซัมเมอร์ที่ต่างประเทศ ราคาเมืองนอก ๓-๔ หมื่นบาท รองเท้าสำหรับเธอไม่เน้นยี่ห้อเสมอไป เน้นที่ความสบาย ใส่แล้วเข้าแฟชั่น และสวยถูกใจ เสื้อตัวละร้อยก็ใส่ ทั้งนี้แล้วแต่งานที่จะไป หากไปงานหรู ก็จะตัดชุดที่ร้านประจำของแม่ แถวสุขุมวิทและสยามสแควร์ น้ำหอมส่วนมากได้จากพ่อซึ่งเป็นคนชอบน้ำหอม กลิ่นที่ชอบคือซาร่าของสเปน บานาน่ารีพับลิกของซานฟราน ดีเคเอ็นวาย เป็นต้น
      นาฬิกาเป็นของโปรดที่แนนให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ทั้งพ่อและแม่ชอบนาฬิกา ด้วยมีเหตุผลว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ประโยชน์ได้ยืนยงคงทนที่สุด ผิดกับกระเป๋าหรือรองเท้าที่พอหมดยุคก็ตกรุ่น พ่อแม่มักซื้อนาฬิกาให้เธอในโอกาสพิเศษ มีทั้งกุชชี่ ชาแนล คาเทียร์ บางเรือนราคาถึงเลขหกหลักก็มี
      แนนบอกว่าการใช้จ่ายเงินทองของเธอไม่อาจระบบตายตัว
      ได้ว่าตกเดือนละเท่าไร
      "เป็นลักษณะค่อยๆ ขอมากกว่า แต่ละเดือนอาจใช้ไม่เท่ากัน ถ้าเงินไม่หมดก็ไม่ขอ ถ้าหมดถึงจะบอกพ่อว่าตอนนี้ไม่มีตังค์แล้วนะ บางเดือนที่ไม่ค่อยได้ใช้จริงๆ ก็ไม่ถึงหมื่นบาท ส่วนใหญ่หมดไปกับ
      การกิน ไม่ค่อยได้ใช้อย่างอื่น เพราะไปไหนกับแม่ตลอด บางเดือนอาจทำรายงาน ใช้สื่อที่ค่อนข้างแพง ก็มีบัตรเครดิตเผื่อไว
      แนนเป็นคนติดบ้าน ไม่ชอบเที่ยว หากจะไปไหนก็ไปกับเพื่อนในกลุ่มมากกว่า อาจเป็นเพราะพ่อแม่เลี้ยงดูเธอมาอย่างอบอุ่น และมีแม่เป็นเงาตามตัวตลอด เธอจึงยังไม่มีคู่รัก แม้จะมีคนมาให้ความสนอกสนใจ
      นักวิชาการชื่อดังคนหนึ่ง เคยบอกเล่าให้ได้รับรู้ว่า มีลูกของนักการเมืองชื่อดังบางราย ชอบไปซัมเมอร์ต่างประเทศ แต่ไม่เคยเข้าห้องเรียน วันทั้งวันใช้เวลาหมดไป กับการช็อปปิ้งเช้าจรดเย็น "ฝรั่งเขาว่าพวกนักการเมือง กับผู้มีอำนาจในประเทศด้อยพัฒนา ชอบคอร์รัปชั่น แล้วให้ลูกหลานวงศ์วานผลาญกันแบบไม่รู้ค่าของเงิน เขามองว่าเป็นเรื่องน่าขบขัน ไร้สาระ"
 
      สังคมไทยเองก็ดูจะรับรู้ถึงความหรูหราฟุ้งเฟ้อนี้ ไม่ว่าจะเป็นข่าวสังคมซุบซิบตามหน้าหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสาร สูตรของนักเรียนนักศึกษาลูกหลานไฮโซ  คือการไปเรียนหรือเที่ยวต่างประเทศช่วงซัมเมอร์ สำหรับแนน เธอบอกว่าไม่ได้ไปซัมเมอร์ต่างประเทศบ่อยนัก และไม่ใช่ไปเที่ยวประการเดียว แต่ไปหาความรู้ด้วย
      หากผู้คนในสังคมมองว่าเธอใช้ของแพง หรูหราฟุ้งเฟ้อ ทั้งที่ยังไม่มีรายได้เป็นของตนเอง ก็ไม่รู้สึกอะไรในข้อนี้ เพราะถือว่าความชอบของคนเราต่างกัน แต่ต้องดูด้วยว่าการใช้ของราคาแพงแล้วเดือดร้อนหรือไม่ หากสิ่งของที่ได้มา ต้องแลกกับการที่พ่อแม่ลำบาก ดิ้นรนขวนขวายหามา ย่อมไม่สมควรทำ แต่หากพ่อแม่หาให้ลูกได้สบายๆ ก็ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ผิด เพราะพ่อแม่ทุกคนย่อมรักลูก และอยากให้สิ่งดีๆ กับลูกอยู่แล้ว
      "ถ้าเราไปเรียนซัมเมอร์ มันก็ไม่แปลก  ถ้าเราจะซื้ออะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง บางคนอาจจะบอกว่าเสียดุลการค้าต่างประเทศ แต่เราก็เถียงไม่ได้เรื่องคุณภาพ หรือการดีไซน์ความคิด เราซื้อความคิดเขาก็ไม่แปลกนี่คะ อย่างกระเป๋าถือ คนไทยเราออกแบบอย่างนี้ ใช้วัสดุมีคุณภาพอย่างนี้ได้ไหม ถ้าเกิดเมื่อไรที่ทำได้ แล้ววางขายทั่วโลก เราก็ยอมรับได้"
      ใช่ว่า "คุณหนู" อย่างแนนจะใช้ชีวิตหรูเฟ่ ไร้สาระ ไร้จิตสำนึก แนนไม่ชอบเที่ยวกลางคืน ทุกวันนี้เธอบอกว่าไม่ค่อยมีเวลาช็อปปิ้สักเท่าไร เนื่องจากรับสอนพิเศษ เด็กมัธยมหลายคน หลังกลับจากซัมเมอร์หนนี้ เธอไม่อยากรบกวนพ่อแม่มากนัก ประกอบกับใกล้ช่วงฝึกสอนด้วย แนนมีรายได้จากการสอนพิเศษเดือนละประมาณหมื่นบาท

 
 

contact@sarakadee.com
สำนักพิมพ์ สารคดี | สำนักพิมพ์ เมืองโบราณ | วารสาร เมืองโบราณ | นิตยสาร สารคดี
[ วิริยะบุคส์ | มีอะไรใหม่ | เช่าสไลด์ | ๑๐๘ ซองคำถาม | สั่งซื้อหนังสือ ]
สำนักพิมพ์ สารคดี