ธันธิมา สุวรรณถาวรกุล
ผลงานเขียนจากนักเขียนค่ายสารคดี SCG ครั้งที่ 8

ฉันเคยแวะมาลองชุดไทยเพื่อใช้สำหรับการแสดงขบวนพาเหรดงานลอยกระทงของมหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ หกปีให้หลังฉันมีโอกาสได้กลับมาใหม่ “บ้านครูหน่อย” ร้านเช่าชุดละครเล็ก ๆ ที่มีชื่อเรียกน่ารักคล้ายกับโรงเรียนเตรียมอนุบาล ตั้งอยู่ในย่านชุมชนวัดกัลยาณมิตร

การเดินทางมาบ้านครูหน่อยไม่ใช่เรื่องง่ายนัก หรือแทบเรียกได้ว่าเป็นการยากมากทีเดียวที่คนทั่วไปจะสามารถมาที่ร้านได้หากไม่รู้เส้นทางมาก่อน ตัวร้านเป็นบ้านหลังเล็ก ๆ สองชั้นใต้ถุนเตี้ย ตั้งอยู่ในซอยกัลยาณ์ ๒/๒ ทางเข้าซอยแคบมากเสียจนต้องเบี่ยงตัวหลบเมื่อเดินสวนกัน

น่าแปลกที่มีอะไรดลใจให้ฉันเดินเข้าไปในซอยนั้นอีกครั้ง ภาพที่คุ้นตานำทางให้ฉันมาที่นี่ ที่เดียวกับเมื่อหกปีที่แล้ว บรรยากาศยังคล้ายเดิม ตัวบ้านค่อนข้างมืดและดูคับแคบเนื่องจากชุดละครแต่ละยุคสมัยต่าง ๆ ที่เรียงรายไปทั่วบ้านประกอบกับความต่ำของใต้ถุนบ้านและพื้นกระเบื้องที่เป็นสีเทาดำ

บ้านครูหน่อย เป็นร้านเช่าชุดละครที่เริ่มเปิดร้านขึ้นมาตั้งแต่สมัยคุณแม่ของครูหน่อยผู้เป็นเจ้าของบ้าน แต่เริ่มเดิมทีร้านรับออกแบบและสั่งตัดชุดละครต่าง ๆ ที่มาจากหลากหลายเชื้อชาติ วัฒนธรรม และยุคสมัย ร้านเปิดให้ผู้สนใจเช่าชุดในราคากันเอง โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นเด็กนักเรียนหรือนิสิตนักศึกษาที่นำไปใช้ในการแสดงของโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย

ชุดละครของครูหน่อยล้วนได้รับการการันตีความสวยงามจากรางวัลต่าง ๆ มากมาย เช่น ชุดแสดงกิจกรรมพิธีเปิด – ปิดการแข่งขันกีฬาเฟสปิกเกมส์ ครั้งที่ ๗ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๒ ชุดแสดงประกอบแสงสีเสียงเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่ได้รับรางวัลจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดตากเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖  ชุดละครสังค์ทองที่ได้รับรางวัลจากโรงเรียนชาตศึกษาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๑ ฯลฯ

นอกจากการบริการเช่าชุดแล้ว ครูหน่อยยังเปิดบ้านเป็นโรงเรียนสอนเต้นรำให้กับผู้ที่สนใจ ซึ่งมักเป็นเด็กเล็ก โดยไม่คิดค่าเรียนใด ๆ เนื่องจากสอนที่บ้าน สำหรับผู้ที่ต้องการให้ครูหน่อยออกไปสอนข้างนอก ครูก็คิดเพียงแค่ค่ารถเล็กน้อยเท่านั้น

ครูหน่อย หรือพันโทนิรันดร์ จิตร์อรุณ เติบโตมาในย่านชุมชนวัดกัลยาณมิตร หนึ่งในพื้นที่เก่าแก่ทางด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของฝั่งธนบุรี ชุมชนที่ยังสามารถยึดถือวิถีการดำรงชีวิตแบบเดิมไว้ได้แม้ว่ากาลสมัยจะเปลี่ยนแปลงไป ด้วยเหตุนี้เองกระมังจึงทำให้ครูหน่อยซึมซับวัฒนธรรมหลากเชื้อชาติและสนใจในด้านนี้มาตั้งแต่เด็ก การสืบทอดกิจการต่อจากคุณแม่ของครูหน่อยจึงไม่ใช่เพียงแค่เป็นร้านเช่าชุดละครธรรมดา แต่เป็นร้านเช่าชุดละครที่มีจิตวิญญาณของความตั้งใจจริงของเจ้าของร้านในการถ่ายทอดศิลปะที่ถูกต้องและสร้างสรรค์สิ่งใหม่เพิ่มเติมให้แก่อนุชนคนรุ่นหลัง

ใครก็ตามที่ได้ยินชื่อครูหน่อยครั้งแรก และรับรู้ถึงกิจการของครูหน่อย คงอดคิดไม่ได้ว่า ครูหน่อยน่าจะเป็นผู้หญิงร่างเล็ก ผิวคล้ำตามลักษณะของสาวไทย ท่วงท่าเรียบร้อยอ่อนช้อยเหมือนเช่นครูสอนนาฏศิลป์หรือดนตรีไทยทั่วไป แต่ถ้าลองได้มาพบครูหน่อยจริง ๆ แล้วจะพบว่า ครูหน่อยเป็นชายร่างเล็ก ตาตี่ ผิวขาวเหลืองเนื่องจากได้รับเชื้อสายจีนมาจากบรรพบุรุษที่เข้ามาตั้งรกรากตั้งแต่ที่บริเวณนี้ยังเป็นด่านเก็บภาษีเข้าออกของเรือสินค้าต่าง ๆ ในสมัยที่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ครูหน่อยมีใบหน้าที่แลดูอบอุ่น น่าเข้าใกล้ และมีรอยยิ้มที่ออกมาจากดวงตาของครูเสมอ คงเป็นเพราะว่าครูหน่อยมีความสุขกับงานที่ทำและใช้เวลากับงานนี้ตลอดเวลา ทำให้งานแต่ละชุดออกมาได้ประณีตสวยงามและร่วมสมัย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้คนที่ได้ผ่านแวะมาเยี่ยมชมชุดของครูหน่อยมักอดไม่ได้ที่จะหลงรักชุดของครูหน่อยและบอกต่อให้กับเพื่อนฝูงที่รู้จักต่อไป

วันที่ฉันและเพื่อนอีกหนึ่งคนเดินทางมาที่บ้านครูหน่อย เราไม่พบครูหน่อย แต่ได้พบกับพี่ช้าง หรือคุณศุภกร พลีภุช ผู้ดูแลกิจการในขณะนี้ ทราบความจากพี่ช้างมาว่า ขณะนี้ส่วนของโรงเรียนยกเลิกไปได้ประมาณ ๑ ปีแล้วเนื่องจากสุขภาพที่ไม่เอื้ออำนวยของครูหน่อย แต่ส่วนของบริการเช่าชุดยังคงดำเนินการต่อไป ยังคงมีการออกแบบชุดใหม่อย่างต่อเนื่องโดยทีมงานของครูหน่อยที่ใกล้ชิดและเรียนรู้แนวทางจากครูหน่อยมาตั้งแต่เล็ก

พี่ช้างเล่าให้เราฟังว่า ครูหน่อยมีอาชีพประจำคือ รับราชการทหาร ในช่วงแรกของชีวิตนายทหารของครู ครูได้มีโอกาสติดสอยห้อยตามเจ้านายไปยังหลายประเทศ ทำให้ครูได้เห็นขนบธรรมเนียมการแต่งกายของนานาชาติ จนสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการออกแบบชุดให้เข้ากับสมัยนิยมได้เป็นอย่างดีและถูกต้องตามหลักเกณฑ์พื้นฐาน ยิ่งไปกว่านั้น ครูยังเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศต่างๆพร้อมทั้งจดจำเพื่อนำมาเผยแพร่ต่อในโรงเรียนและนอกโรงเรียนแก่ผู้ที่สนใจอีกด้วย อาทิเช่น การเต้นรำสเปน การเต้นรำฝรั่งเศส เป็นต้น

ครูหน่อยใช้ชีวิตในกองทัพบกจวบจนเกษียณอายุราชการ โดยทำควบคู่ไปกับกิจการของร้านและโรงเรียน ปัจจุบัน ครูหน่อยไม่ได้ดูแลกิจการแล้ว อาศัยเพียงพี่ช้างกับรุ่นพี่ของพี่ช้างอีก ๓-๔ คนที่ครูหน่อยรับอุปการะมาตั้งแต่เล็กดำเนินกิจการต่อแทน ตัวครูหน่อยเองไม่มีลูก แต่ด้วยความที่ครูมีจิตใจเอื้ออารี ยามที่ครูมีงานต้องไปจัดการในต่างจังหวัดแล้วพบเจอเด็กที่ขาดโอกาสศึกษาต่อ ครูก็จะชักชวนเด็กมาอยู่กับครูแล้วส่งเสียให้เรียนจนจบปริญญาตรีหลายต่อหลายรุ่น พี่ช้างเป็นเด็กรุ่นสุดท้ายที่ครูช่วยส่งเสียเนื่องจากในระยะหลังสุขภาพครูไม่ค่อยดีนัก จึงไม่ค่อยได้ออกงานเหมือนแต่ก่อน

เมื่อเราสอบถามพี่ช้างถึงสาเหตุที่พี่ช้างยังคงดำเนินกิจการนี้สืบต่อจากครูหน่อย พี่ช้างบอกว่า พี่ช้างโตมากับงานนี้ ได้ลองทำทุกอย่างตั้งแต่งานเล็กอย่างปะชุนชุดที่ขาด ไปจนถึงงานใหญ่ที่ต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญและละเอียดรอบคอบเป็นอย่างดีอย่างเช่นการออกแบบชุดใหม่โดยต้องมีการเลือกผ้าให้เหมาะสมกับรูปแบบควบคู่กับการคำนึงถึงความร่วมสมัยของชุด พี่ช้างไม่ได้รู้สึกว่างานนี้เป็นเพียงงานหนึ่งที่แค่ดูแลไปวัน ๆ แต่รู้สึกว่าเป็นงานของครอบครัว เป็นงานของครูหน่อยบุคคลที่เขาเคารพนับถือ ส่งเสียเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่ ๘ ขวบ “ผมอยากเรียน ผมจึงตามครูมา ครูก็ให้ผมเรียน ผมทิ้งครูไม่ได้ มันไม่ได้เป็นแค่หน้าที่ แต่มันได้กับตัวเรา มันเป็นบุญ ไม่มีบุญอะไรจะดีไปกว่าการตอบแทนบุญคุณคนที่เลี้ยงเรามา” คำพูดของพี่ช้างที่แสดงให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างครูกับศิษย์คนหนึ่งที่มีต่อกันมายาวนาน

ช่วง ๑ ปีหลังมานี้ ครูหน่อยเริ่มไม่สบายอาการหนัก ครูไม่สามารถลุกขึ้นเดินเองได้ ทำให้การดูแลกิจการต้องตกเป็นของศิษย์ที่ครูอุปการะมาโดยตลอด แต่พวกเขาก็ไม่ทำให้ครูหน่อยผิดหวัง พวกเขายังคงสวมจิตวิญญาณของความเป็นศิลปินที่ตั้งใจจะมุ่งเผยแพร่วัฒนธรรมมากกว่าการเป็นเพียงร้านที่แสวงหากำไร “อย่าเรียกว่าร้านเลยครับ เรียกว่าบ้าน ที่นี่คือบ้าน บ้านครูหน่อย” พี่ช้างทิ้งคำพูดประโยคนี้ไว้กับเราก่อนที่จะไปดูแลลูกค้าต่อไป

พี่หนิง ลูกค้าคนหนึ่งที่เดินทางไกลมาจากจังหวัดนครปฐม พาน้องชายของเธอมาเลือกสรรและจับจองชุดเพื่อนำไปใช้ในการแสดงของมหาวิทยาลัย จากการสอบถามทำให้เรารู้ว่า พี่หนิงรู้จักบ้านครูหน่อยจากการบอกต่อของรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย และสาเหตุที่ทำให้เธอและน้องชายดั้นด้นมาถึงที่นี่ก็เพราะชื่อเสียงทางด้านความสวยงามประณีตของชุด สามารถเลือกได้หลากหลาย ปรับเปลี่ยนแบบเล็กน้อยได้ตามต้องการ ราคาที่ไม่สูงจนเกินไป และบริการที่ยืดหยุ่นสามารถต่อรองได้

ฉันเริ่มเห็นแล้วว่า บ้านเช่าชุดละครหลังนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ชุดที่หลากหลายหรือจำนวนมาก หากแต่เป็นบ้านที่มีเรื่องเล่าถึงที่มาที่ไปของชุดแต่ละชุดอันเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดใจผู้คนจากสารทิศที่เมื่อคิดจะจัดงานหรือการแสดงอะไรสักอย่าง ย่อมต้องมีช่วงหนึ่งที่เคยนึกถึงบ้านครูหน่อยแห่งนี้

หกปีที่แล้วฉันนั่งอยู่ในที่เดียวกันกับที่ลูกค้าคนใดคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ขณะนี้ และวันนี้ฉันก็มาอยู่ที่นี่อีกครั้ง กิจการยังดำเนินต่อไปเพียงแต่เปลี่ยนบุคคลที่มารับช่วงต่อ ฉันเชื่อว่า บ้านครูหน่อยยังคงเป็นสถานที่ที่ให้ความทรงจำที่มีเรื่องเล่าของตัวมันเองอยู่ในใจแก่ผู้ที่เคยมาใช้บริการทุกคน