เรื่องและภาพ : เพชรรัตน์ ทรัพย์ทวีบูรณ์
“ความสุขคืออะไร” คำถามนี้ยากมากที่จะตอบออกมาแบบตรงๆ เพราะความสุขของคนเราไม่เหมือนกัน มันเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ทุกสถานการณ์ และบางครั้งมันก็เกิดขึ้นโดยเราไม่รู้ตัว
บางคนมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ อย่างการได้กินอาหารอร่อย ได้ออกไปเที่ยว ได้พบปะเพื่อนฝูง หรือบางคนก็มีความสุขกับสิ่งใหญ่ๆ อย่างการประสบความสำเร็จในชีวิต แต่สำหรับฉัน…ความสุขคือการได้อยู่กับตัวเอง รักตัวเอง อยู่กับสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ทำด้วยความรักและทุ่มเทมุ่งมั่นอย่างเต็มที่เพื่อสิ่งที่ต้องการ แม้จะต้องพบกับความยากลำบากก็ตาม
“ฉันชอบวาดรูป” มันอาจเป็นความสุขที่เบสิกมากๆ และหลายคนก็คงชื่นชอบสิ่งนี้เหมือนกัน
สำหรับฉัน การวาดรูปเป็นมากกว่าความสุข เพราะมันคือชีวิต มันสวยงามและเป็นยิ่งกว่าศิลปะ มันคือสิ่งที่ฉันทำมาตลอด เป็นแรงบันดาลใจ เป็นเหมือนส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในตัวฉัน เวลาว่างฉันจึงหยิบอุปกรณ์ต่างๆ มาวาดรูปอยู่เสมอจนติดเป็นนิสัย
ฉันชอบสร้างสรรค์และจินตนาการภาพต่างๆ ในหัวมาตั้งแต่เด็ก วาดทุกอย่างที่คิดได้ลงในสมุดเล่มบางๆ ฝึกฝนและพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ฉันชอบเข้าร่วมกิจกรรมประกวดหรือแข่งขันวาดภาพ และยินดีรับคำติชมจากผู้อื่นรวมถึงคณะกรรมการ เพื่อนำมาแก้ไขในจุดที่บกพร่อง
ฉันชอบเวลาได้จับดินสอหรืออุปกรณ์วาดรูปต่างๆ มันให้ความรู้สึกที่ดีอย่างบอกไม่ถูก ราวกับตกอยู่ในโลกแห่งความฝัน โลกแห่งจินตนาการไม่มีวันสิ้นสุด ทุกครั้งที่ปลายดินสอจดลงบนกระดาษ เสียงไส้ดินสอขูดขีดบนพื้นผิวหยาบนั้นราวกับเสียงเพลงจากธรรมชาติ ทำให้ฉันสงบ มีสมาธิจดจ่ออยู่กับลายเส้นสีอ่อนในตอนร่างภาพ และค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเข้มและเฉียบคมยามตัดเส้น??ในภาพ ไม่ได้ใช้กระดาษและดินสอ??
ทุกขั้นตอนตั้งแต่ร่างภาพจนเสร็จงานเหมือนการได้มองการเติบโตของโลกทั้งใบ การร่างภาพเป็นเหมือนการรวมอนุภาคที่กระจัดกระจายให้มารวมกลุ่มกัน การตัดเส้นเหมือนวิวัฒนาการและการสร้างการเติบโต จากนั้นก็แต่งแต้มสีสันด้วยแสงและเงา สีฟ้าจากท้องทะเล สีเขียวจากผืนป่า สีน้ำตาลจากผืนปฐพี
ฉันดื่มด่ำไปกับจิตวิญญาณทั้งมวลที่ถูกถ่ายทอดลงบนภาพวาดเหล่านั้น ภาพภาพหนึ่งมีความหมายหลากหลายแตกต่างไปตามมุมมองของแต่ละคน งานศิลปะจึงมีความสนุก เพราะมันมีชีวิตชีวาและให้อิสระกับความคิดความรู้สึกของคนดู
แม้ฉันจะยังด้อยฝีมือในการวาดภาพ แต่ฉันก็ไม่เคยหยุดสรรหาวิธีใหม่ๆ มาเสริมสร้างทักษะของตัวเอง ฉันได้รับแรงบันดาลใจมากมายจากศิลปินที่ฉันชื่นชอบ การได้เสพงานของบุคคลเหล่านั้นทำให้ฉันมีไฟ กระตือรือร้น เต็มไปด้วยพลัง
บางครั้งฉันเพลิดเพลินชื่นชมผลงานของเหล่าศิลปินจนเหมือนถูกดึงเข้าไปอยู่ในโลกคู่ขนาน โลกที่มีแต่ภาพวาดสวยๆ โลกในจินตนาการที่อยู่เหนือทุกสิ่ง กระทั่งไม่อยากดึงตัวเองกลับมาเจอโลกในความเป็นจริง ฉันรวบรวมแรงบันดาลใจทั้งหมดไว้ในรูปแบบของเมมโมรีความทรงจำซึ่งจะอยู่กับฉันตลอดไป
นอกจากศิลปินแล้ว ฉันยังได้รับแรงบันดาลใจจากครอบครัวที่สนับสนุนให้ฉันพัฒนาตัวเอง ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญอันดับ 1 ไม่ว่าจะทำอะไรฉันยึดครอบครัวเป็นที่ตั้ง ยามใดที่ท้อหรือไขว้เขว ฉันจะมีครอบครัวคอยอยู่เคียงข้าง เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
ฉันเป็นคนค่อนข้างโลกส่วนตัวสูง แต่ก็คิดว่ามันเป็นข้อดี เพราะทำให้ฉันได้อยู่กับตัวเอง ได้รู้จักตัวเอง สร้างความมั่นใจให้ตนเอง และมีแรงบันดาลใจที่จะวาดรูปหรือสร้างสรรค์งานอยู่เสมอ สิ่งนี้ส่งผลให้ฉันเป็นคนอารมณ์ดี สุขภาพจิตดี ร่าเริง และสนุกสนานกับทุกเรื่อง
การวาดรูปยังเป็นอาชีพ สร้างรายได้ให้ฉันระหว่างเรียน ช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว ฉันรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองมาก
ความจริงในตอนแรกฉันไม่กล้าโชว์ผลงานเลย เพราะคิดว่ามันไม่ดีพอที่จะเผยแพร่ให้ใครดู จนกระทั่งได้เจอพี่คนหนึ่งซึ่งเข้ามามีบทบาทในเส้นทางการวาดรูปของฉัน
พี่ชายที่แสนดีคนนี้ทำให้ฉันมีความกล้าและมั่นใจในตนเอง ทั้งยังช่วยสอนสิ่งต่างๆ สอนให้แก้ไขจุดที่ผิดพลาด ตลอดจนช่วยสร้างอาชีพให้ฉัน และอีกคนที่สำคัญ คือน้องสาวผู้น่ารักของฉัน ซึ่งคอยให้คำแนะนำ คอยให้กำลังใจ ช่วยฮีลเวลาที่ฉันเศร้าหรือผิดหวัง
ทั้งสองคนนี้ช่วยผลักดันให้ฉันกล้าที่จะก้าวออกมาเปิดเผยตัวเอง ก้าวออกมาเป็นอีกหนึ่งศิลปินน้อยๆ ที่โลดแล่นในวงการ
ถ้ามีใครถามว่าทำไมถึงรักการวาดรูปมากจนเหมือนคลั่งไคล้ขนาดนั้น ฉันก็คงต้องตอบว่า “เพราะมันคือความสุข” ความสุขที่ฉันสร้างขึ้นด้วยตัวเอง ความสุขที่หล่อเลี้ยงด้วยความรักความชอบจนเติบโตเป็นต้นอ่อนที่ได้รับความใส่ใจจากคนรอบข้าง แล้วจะเติบโตต่อไปอีกในวันข้างหน้า เพื่อจะได้ไปยืนอยู่ ณ จุดเดียวกันกับเหล่าศิลปินที่ฉันชื่นชอบ
ถ้าฉันไปถึงจุดนั้นก็เท่ากับได้ทำความฝันที่ยิ่งใหญ่เป็นผลสำเร็จ เพราะฉะนั้นฉันจะไม่มีวันล้มเลิกการวาดรูป ไม่มีวันทอดทิ้งความฝัน และจะพยายามให้ถึงที่สุด จะทำไปให้สุดทางจนกว่าจะได้ในสิ่งที่ฝัน เพราะสิ่งนั้นคือความสุขของฉัน
