เรื่อง : พรเพ็ญ วงศ์ศุภชัยนิมิต
ภาพ : วิจิตต์ แซ่เฮ้ง
“ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่รีสอร์ท แต่เป็นพื้นที่เรียนรู้เรื่องธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพไปด้วย”
นี่คือความตั้งใจของคุณวัลลภ พิชญ์พงศา ทายาทผู้สืบทอดและต่อยอดธุรกิจส่งออกข้าว บริษัทนครหลวงค้าข้าวจำกัด ซึ่งส่งออกข้าวหอมมะลิเกษตรอินทรีย์รายแรกของไทยที่ผ่านมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของยุโรป ผู้ที่เข้ามากู้วิกฤตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวให้กลายเป็นรีสอร์ทสีเขียวที่ชื่อ The Legacy River Kwai Resort
ที่มาของธุรกิจเกษตรอินทรีย์
ผมเป็นคนสนใจเรื่องสังคมและชุมชนตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ สาขาเศรษฐศาสตร์พัฒนาการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมัยเรียนได้ทำกิจกรรมค่ายอาสาต่างๆ มากมาย จนกระทั่งต่อปริญญาโท ก็เรียนต่อสาขาพัฒนาชนบท (MA in Rural Development) ที่ประเทศอังกฤษ พอกลับมาทำงานองค์กรพัฒนาเอกชนอยู่ 3 ปี แล้วค่อยมาทำงานที่บ้าน
ผมเคยไปทำงานที่อีสาน โครงการระบบเงินตราชุมชน เบี้ยกุดชุม ซึ่งทำต่อจากอาสาสมัครชาวฮอลแลนด์และแคนาดาที่เขาเริ่มไว้ พอเริ่มกลับมาทำงานที่บริษัทของครอบครัว งานเรื่องเกษตรอินทรีย์ที่เริ่มทำมาตั้งแต่สมัยรุ่นคุณพ่อบริหาร มีคู่ค้าที่ยุโรปมาชวนทำเรื่องข้าวหอมมะลิอินทรีย์เพื่อการส่งออก ซึ่งในเมืองไทยยังไม่มีใครทำเลยนะ ตอนนั้นสมัยคุณพ่อก็เลยเริ่มทำโครงการเรื่องข้าวอินทรีย์เพื่อการส่งออก และขายในประเทศด้วย และพอดีผมก็เข้ามาทำงานและเห็นโครงการนี้ ซึ่งตรงกับความสนใจของเราส่วนหนึ่ง ที่อยากทำงานกับชุมชนอยู่แล้ว ก็ดีที่เราได้เข้าไปส่งเสริมหรือรับซื้อหรือได้ทำตลาดให้ชุมชน มันก็ตอบโจทย์ความสนใจเรื่องสังคมของผม และเริ่มทำเรื่องเกษตรอินทรีย์มานับแต่นั้น
เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 เราทำอยู่ 2 รูปแบบ คือ ไปส่งเสริมเองเลย ทำที่เชียงราย-พะเยา ลงไปส่งเสริม ให้ความรู้และรับซื้อ แล้วทำตลาดต่อเนื่อง ได้ข้าวเปลือกมา หาโรงสี และแพ็คส่งออก มีระบบมาตรฐานรับรอง และอีกรูปแบบคือ ลงไปคุยกับกลุ่มเกษตรกรทางภาคอีสานที่ผลิตข้าวอินทรีย์อยู่แล้ว โดยมีระบบมาตรฐานรับรองอยู่แล้ว แล้วเราไปช่วยรับซื้อและทำตลาดให้ ถือว่าเราเป็นยุคบุกเบิก เพราะบางกลุ่มทำอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีตลาด เราก็ไปช่วยทำตลาด และรับซื้อ ซึ่งช่วงหลังมีเกษตรกรสนใจทำมากขึ้น
และเมื่อปี พ.ศ. 2545 เราได้จัดตั้ง บริษัท ท็อปออร์กานิกโปรดักส์แอนด์ซัพพลายส์ จำกัด เพื่อต่อยอดขยายสินค้าเกษตรอินทรีย์โดยเฉพาะ อย่างเช่น เส้นก๋วยเตี๋ยวข้าวอินทรีย์ แผ่นแป้งข้าวอินทรีย์ น้ำสลัดอินทรีย์ พริกแกงอินทรีย์ น้ำส้มสายชูหมักจากข้าวหอมมะลิอินทรีย์ และยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ อย่าง กะทิ น้ำมันมะพร้าว น้ำตาลมะพร้าวอินทรีย์ ส่งออกทั้งหมด แล้วเลือกบางตัวที่ส่งออกนำมาทำแบรนด์ Capital Organic (แคปปิตัล ออร์กานิก) ขายออนไลน์และวางขายที่รีสอร์ท มีวางขายที่เลมอนฟาร์มบางส่วน เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยว สำหรับข้าวออร์แกนิก เราขายภายใต้แบรนด์ไทไท เป็นแบรนด์ดั้งเดิมที่ทำมานานแล้ว วางขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป
เริ่มทำธุรกิจรีสอร์ทได้อย่างไร
ช่วงหลังนี้ได้มีโอกาสมาดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว โดยรุ่นคุณพ่อมาซื้อที่ในจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งใจทำเป็นโครงการหมู่บ้านขาย แต่พอเจอวิกฤตเศรษฐกิจ เลยเปลี่ยนคอนเซ็ปต์มาทำรีสอร์ทแทน เป็นรีสอร์ทศูนย์สัมมนา โดยตั้งเป้าว่าจะขายหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ต้องการมาสัมมนา หลังจากนั้นพอเจอวิกฤตช่วงโควิดไม่ถึงปี เป็นช่วงเดียวกับที่มีมูลนิธิช้างเข้ามาใช้พื้นที่รีสอร์ท ทางผู้บริหารอยากให้เป็นการจดทะเบียนร่วมกัน โดยให้ผมมาเป็นกรรมการในมูลนิธิด้วย ผมเลยเริ่มมาเกี่ยวพันมากขึ้น ก็เริ่มเห็นสภาพพื้นที่และศักยภาพรีสอร์ท น่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้ ผมและทีมงานก็มีการคิดจะปรับเปลี่ยนแนวทางเพื่อที่จะหารายได้เพิ่ม ก็เลยคิดแนวคิดขึ้นมา 3 แกนหลักในการทำรีสอร์ท ซึ่งเดิมคอร์สสุขภาพเราก็เด่น มีกิจกรรมโยคะ ชี่กง อบสมุนไพร วารีบำบัด เลยเกิดเป็น 3 แนวคิด คือ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ
ธรรมชาติ คือ เรามีสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างสมบูรณ์ มีต้นไม้ใหญ่เยอะ มีมูลนิธิช้างสมบูรณ์เลกาซี ที่ช่วยอนุรักษ์ช้างในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ในพื้นที่รีสอร์ท สามารถทำกิจกรรมเชิงธรรมชาติได้ เลยจัดกิจกรรมดูนก ชวนเด็กๆ มาเรียนรู้เรื่องการบันทึกธรรมชาติ โดยเชิญครูกุ้งครูปรีชา เพจบันทึกสีไม้byครูกุ้ง มาจัดกิจกรรม
สิ่งแวดล้อม คือ เราเริ่มคิดจะปลูกผักเอง เลยชวนที่ปรึกษาจากโครงการสวนผักคนเมือง มาดูที่รีสอร์ท และช่วยวางแนวคิดการปลูกผัก เริ่มจากดินปลูกเอามาจากไหน ในรีสอร์ทมีต้นไม้เยอะมาก ใบไม้ร่วงทุกวัน เดิมหนึ่งวันกวาดใบไม้ได้ 5 รถกระบะต้องไปหาที่ทิ้ง แต่เราสามารถนำมาหมักผสมขี้วัว ทำดินทำปุ๋ยปลูกต้นไม้ได้ ส่วนที่สอง คืออาหารเหลือจากไลน์บุฟเฟ่ต์ของทางรีสอร์ท เดิมเราก็ทิ้ง แต่ตอนนี้เราก็นำมาหมักทำปุ๋ยได้ ทีนี้ก็เกิดเป็นวงจร เมื่อปลูกผัก ก็นำมาเสิร์ฟในครัว พอกินเหลือก็นำมาทำปุ๋ยได้ เกิดการหมุนเวียนทรัพยากรในรีสอร์ท คอนเซ็ปคือเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ถ้าเกิดปลูกแล้วเหลือเราก็ส่งขายข้างนอกได้อีก แรกๆ เราก็ส่งดินปลูกให้กับโครงการสวนผักคนเมืองด้วย
อันนี้ก็เลยเป็นการเปลี่ยนมุมมองจากเดิมที่มองขยะเป็นภาระ ก็กลายเป็นทรัพยากรที่เรานำมาใช้ได้
ตอนนี้เราก็รณรงค์เรื่องของ ลดการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียว ก็จะเห็นว่าแต่ก่อนเราเสิร์ฟน้ำด้วยขวดพลาสติก เราก็เปลี่ยนเป็นขวดแก้ว หลอดและภาชนะหลายอย่างเราก็เปลี่ยนเป็นแบบย่อยสลายได้ ก็ค่อยๆเริ่ม แต่คีย์ที่สำคัญเลยคือการคุยกับทีมงานให้เข้าใจ เพราะเราเปลี่ยนเขาเยอะพอสมควร ก็ค่อยๆ คุยทำความเข้าใจ เราก็แอบฝันว่าเราอยากเอาแนวคิดนี้ไปทำกับชุมชนข้างๆ ด้วยถ้าเรามีกำลังพอ
และแนวคิดที่ 3 คือเรื่อง สุขภาพเรามีจัดคอร์สสุขภาพอยู่แล้ว เราทำงานร่วมกับอาจารย์ด้านสุขภาพหลายท่าน เคยจัดคอร์สชีวจิตกับอาจารย์สาธิต คอร์สสุขภาพกับคุณหมออารีย์ เราจัดเองจะมีทั้งแพทย์แผนไทย มีวารีบำบัด แอโรบิกในน้ำ นวดประคบอบสมุนไพร โยคะ จัดร่วมกับคุณหมอหลายท่าน
มุมมองต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรื่องสิ่งแวดล้อมผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องช่วยกันทำ ถ้าไม่ช่วยกันมันจะแย่ลงไปเรื่อยๆ สิ่งที่เราทำได้อีกส่วน คือเราจัดกิจกรรมเล็กๆ ที่ให้คนมาเรียนรู้และสามารถนำกลับไปทำได้ คือ เรื่องการทำปุ๋ยจากเศษอาหาร เรื่องการเพาะปลูกผัก เราอยากให้คนที่มารีสอร์ท นอกจากมาพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศดี กินอาหารอร่อย มาขี่จักรยานกับลูกๆ ในพื้นที่กว้างๆ เราอยากให้เขาได้เรียนรู้เรื่องเหล่านี้ และนำติดกลับไปใช้ที่บ้านด้วย อย่างน้อยได้รู้จักการจัดการขยะจากอาหาร การแยกขยะแบบง่ายๆ แล้วนำกลับไปใช้ที่บ้าน แล้วทำได้ทุกวัน ทำเรื่องเล็กๆ แบบนี้ได้ทุกวัน เราอยากให้คนที่มาพักกับเรานำสิ่งเหล่านี้กลับไป อยากให้เรื่องสิ่งแวดล้อมเข้าไปอยู่ในวิถีชีวิต ถ้าเราทำได้ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม สิ่งแวดล้อมก็จะดีขึ้น
หากเปรียบตัวเองเป็นสิ่งหนึ่งในธรรมชาติ คุณอยากเป็นอะไร
แวบแรกอยากจะเป็นต้นไม้ ในชีวิตผมตอนนี้ก็อยากจะให้ร่มเงาได้ เป็นประโยชน์กับคนอื่นได้ ตอนนี้เราก็คิดว่าต้องพยายามสร้างคนใหม่ๆ ให้เขาได้เติบโตต่อไปได้โดยไม่มีเรา
มองอนาคตไว้อย่างไร
อยากให้ The Legacy River Kwai Resort เป็นพื้นที่ที่สามารถจัดกิจกรรมครอบครัวในเชิงธรรมชาติได้ อยากจัดฟาร์มทัวร์ หรือ Circular Economy Tour ให้กับเด็กและคนในเมืองกาญจนบุรี หรือคนที่สนใจ มาพักผ่อนทำกิจกรรมเรียนรู้เรื่องธรรมชาติกัน
**สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าเพจ Sarakadee Magazine**
รับสิทธิพิเศษสุดคุ้มถึง 3 ต่อ ทันที
>> ต่อที่ 1 เข้าพักคืนวันอาทิตย์-พฤหัส แถมฟรีกิจกรรมทัวร์ฟาร์ม 2 ท่าน มูลค่า 200 บาท
>> ต่อที่ 2 เข้าพักคืนวันศุกร์, เสาร์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ลดค่าห้องพัก 20% และแถมฟรีกิจกรรมทัวร์ฟาร์ม 2 ท่าน มูลค่า 200 บาท
>> ต่อที่ 3 ส่วนลดพิเศษ 20% สำหรับกิจกรรมสระสปา / อบสมุนไพร / SUP Board / ล่องแพเปียก
เพื่อจองที่พักThe Legacy River Kwai Resort พร้อมชำระเงินเท่านั้น
**สิทธิพิเศษถึงสิ้นเดือน ก.พ. 2566
สามารถสแกน QR Code จองห้องพักได้เลย พร้อมระบุว่ามาจากเพจ Sarakadee Magazine หรือเพจ Nairobroo
