น.ส. เปี่ยมสุข บุญมี

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัยสุราษฎร์ธานี อ. ไชยา จ. สุราษฎร์ธานี

เรื่อง อ่านด้วยรักเขียนด้วยใจ

     แมลงเอ๋ยแมลงผึ้งเที่ยวเคล้าคลึงดอกไม้ไซ้เกสร
ได้น้ำหวานเก็บไว้ในรังรอนไม่เดือดร้อนเพราะขยันหมั่นทำงาน
เปรียบบัณฑิตรักการอ่านหนังสือปัญญาคือน้ำผึ้งซึ่งหอมหวาน
ยิ่งอ่านมากยิ่งมีปรีชาชาญความคิดอ่านฟูเฟื่องเปรื่องปราชญ์เอย

คุณพ่อมักสอนข้าพเจ้าเสมอว่า คนที่อ่านหนังสือ คือคนที่มีความคิด เพราะหนังสือสอนให้คนคิดเป็น และคนที่รู้จักคิดก็มักจะก้าวไปได้ไกลกว่าคนอื่นเสมอ จึงไม่แปลกที่ข้าพเจ้าจะรักการอ่านหนังสือมาตั้งแต่ยังเล็กตามแนวทางที่คุณพ่อได้แผ้วถางเอาไว้ให้ และเส้นทางนี้ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ว่า คนที่จะอ่านหนังสือจะต้องมีความรักให้กับหนังสือที่เราอ่าน เมื่อเรามอบรักให้หนังสือ หนังสือก็จะมอบสิ่งที่เราให้ไปกลับคืนมา ยิ่งเรารักหนังสือมากเท่าไหร่ เราก็จะรู้สึกดีและมีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่านหนังสือ จนทำให้เรารู้สึกได้ว่า หนังสือคือเพื่อนที่จริงใจต่อเราเสมอ หนังสือไม่เคยตักตวงหรือหวังอะไรจากคนอ่านมากไปกว่าจะอยากเห็นคนอ่านมีความสุข และยิ้มได้ทุกครั้งที่สิ้นสุดบรรทัดสุดท้ายของหน้าหนังสือ

คนที่รักการอ่านหนังสือ มักจะมีโลกอีกโลกหนึ่งเสมอ เป็นโลกส่วนตัวที่เราสามารถปลดปล่อยอารมณ์ ความรู้สึกของเราได้ดีที่สุด โลกใบเล็กๆ ที่อาจไม่มีค่าสำหรับใครแต่งดงามสำหรับความรู้สึกของผู้ที่เคยคุ้น เพราะโลกแห่งการอ่านคือโลกที่สร้างสรรค์อย่างแท้จริง โลกที่สร้างคนให้เต็มคน โลกที่ใครก็ตามหากได้สัมผัสย่อมจะรู้สึกเหมือนกันว่า เมื่อใดก็ตามที่เราได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลกใบนี้ เราจะได้พบกับความสุขความสมหวังในแบบที่เราใฝ่ฝันหา ไม่ต้องคิดคำนึงถึงสิ่งอื่นใดที่จะบั่นทอนความรู้สึกของเราให้เศร้าหมองลงได้

โลกแห่งการอ่านของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้พบกับความวิจิตรตระการตาของผืนป่าอักษรที่โลดแล่นมีชีวิตชีวาโดดเด่นอยู่บนหน้ากระดาษ สะกดทุกอารมณ์ความรู้สึกของผู้ที่ได้สัมผัส ล่องลอยไปกับความฝันอันเพริศแพร้วพิสดารในพระอภัยมณี สุนทรภู่ กวีเอกสี่แผ่นดิน ผู้ที่ทำให้ความหวังความฝันของวงการวรรณศิลป์ไทยได้รับการยอมรับ และกล่าวขานเป็นตำนานอันเกริกไกร หากมิใช่เพียงเท่านี้ พระอภัยมณีสอนให้ข้าพเจ้าได้รู้จักโลกแห่งการอ่าน ตั้งแต่จำความได้ เสียงทุ้มต่ำของกลอนบทหนึ่งในเรื่องพระอภัยมณี ที่ข้าพเจ้าจำได้ขึ้นใจมาจนเดี๋ยวนี้ จะแว่วมาให้ได้ยินทุกครั้งก่อนนอน หรือเมื่อใดก็ตามที่มีเวลาว่าง ไม่ใช่เสียงใครที่ไหน แต่เป็นเสียงของคุณพ่อ ผู้เป็นที่รักเคารพของข้าพเจ้า และเพราะเสียงนี่เองกระมังที่เป็นจุดเริ่มต้นของการปลูกฝังให้ลูกของพ่อรักการอ่านหนังสือขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว อาจจะจงใจหรือไม่ แต่พ่อได้ปลูกฝังสิ่งดีงามนี้ให้ลูกได้สั่งสมบ่มเพาะขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งข้าพเจ้าได้มีโอกาสอ่านพระอภัยมณีฉบับคำกลอนในหนังสือแบบเรียนของพี่ ขณะที่กำลังศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ความรู้สึกตอนนั้นดีใจ สนุกสนาน และตื่นเต้นที่สามารถอ่านหนังสือได้ขนาดนั้น โดยมีคุณพ่อแปลความหมายให้ฟังบ้างเป็นบางตอน ช่วงเวลาดีๆ เหล่านี้ได้ก่อเกิดความอบอุ่น ความผูกพันระหว่างพ่อกับลูก กลายเป็นสายใยที่แน่นแฟ้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว รับรู้แต่ว่านั่นคือความสุขที่สุด

ในที่สุดข้าพเจ้าก็ได้มีโอกาสอ่าน พระอภัยมณี ทั้งฉบับที่ถอดความแล้ว และฉบับคำกลอนตั้งแต่ต้นจนจบ ความรู้สึกสนุกสนาน เพลิดเพลิน ยังคงอยู่ สุนทรภู่ได้สร้างจินตนาการอันกว้างไกลให้บังเกิดกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ตระหนักได้แล้วว่า ความไพเราะของคำกลอนที่ได้ยินเมื่อครั้งยังเยาว์ หรือความสนุกสนานจากนิทานเรื่องพระอภัยมณี ที่คุณพ่อเคยเล่าให้ฟังจนได้มาอ่านเอง กี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ยังเหมือนเดิม ความสนุกสนานยังมีอยู่และเพิ่มพูนมากขึ้น เมื่อเด็กผู้หญิงคนนั้นสามารถเข้าใจในทุกบทกลอน ทุกตัวอักษรที่ท่านสุนทรภู่ได้เสกสรรปั้นแต่งขึ้น ในนิทานคำกลอนอันลือชื่อนี้ สุนทรภู่เข้าถึงอารมณ์ ความรู้สึกของคนทุกชนชั้น ความโศกเศร้าจากการพลัดพรากจากบิดามารดา และถิ่นฐานอันเป็นที่รัก ความรัก ความซาบซึ้งของตัวละครเอกในเรื่อง แม้แต่นางผีเสื้อสมุทรผู้โหดร้ายก็ยังมีความรักมั่นต่อพระอภัยมณีอย่างแท้จริง สุนทรภู่สอนให้รู้ว่าในความชั่วมีความรัก และความรักสามารถขจัดปัดเป่าความชั่วออกจากจิตใจได้ ความรักช่วยเหลือกันของสองพี่น้องพระอภัยมณีและศรีสุวรรณที่ไม่ทอดทิ้งกัน สุนทรภู่สอนวิถีแห่งการใช้ชีวิตของคนเราผ่านพระฤๅษีแห่งเกาะแก้วพิสดาร ที่แม้กาลเวลาจะผ่านพ้นมา ทว่าคำสอนของท่านเป็นอมตะเสมอ ยังคงความสัตย์จริงและเชื่อถือได้ ความคิดของสุนทรภู่เป็นวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้ เพราะสิ่งที่ท่านคิดและผูกขึ้นเป็นบทกลอน หลายๆ สิ่งหลายๆ เหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นและไม่อาจเป็นได้ในสมัยนั้น สามารถเกิดขึ้นและมีอยู่จริงในสมัยนี้ สุนทรภู่ได้แสดงความเป็นอัจฉริยบุคคลของท่าน ที่สามารถผูกเรื่องความสนุกสนาน ความโศกเศร้า ซาบซึ้ง และแสนหวาน พร้อมข้อคิดและคติดีๆ ที่จะช่วยกล่อมเกลาจิตใจของผู้อ่านให้อ่อนไหวและอ่อนโยนขึ้นในรูปแบบของบทกลอนที่แสนไพเราะงดงาม และเหนือสิ่งอื่นใดพระอภัยมณีของสุนทรภู่คือสื่อกลางให้ข้าพเจ้าเข้าใจและซาบซึ้งดื่มด่ำกับความรัก ความผูกพันระหว่างพ่อลูก ที่งดงามในความรู้สึก ทุกคราที่ระลึกถึง พระอภัยมณีจึงเป็นหนังสือเล่มแรกที่เปิดโลกการอ่านแก่ข้าพเจ้า และเฝ้ารอคอยที่จะเปิดโลกการอ่านแก่ใครอีกหลายคน

นั่นคือความทรงจำอันงดงามกับหนังสือเล่มแรกที่ข้าพเจ้ารักและครูกวีที่ข้าพเจ้าเทิดทูน มันเป็นก้าวแรกที่งดงาม เป็นก้าวแรกของสิ่งดี ที่คุณพ่อถ่ายทอดให้ลูกสาวคนนี้ จึงไม่แปลกอะไร ถ้าหนังสือเล่มต่อไปนี้ของคุณพ่อจะกลายเป็นหนังสือที่ข้าพเจ้ารักและชื่นชอบที่สุด เพราะลูกจะรับรู้เสมอว่าพ่อมักมีสิ่งดีงามให้แก่ลูก ในที่สุดข้าพเจ้าก็ได้รู้จัก ได้รัก เพชรพระอุมา นวนิยายในดงป่าลึก ของนักเขียนผู้ยิ่งยงแห่งบรรณพิภพ พนมเทียนบรมครูแห่งการเขียน ผู้ที่อยู่ในหัวใจของข้าพเจ้าเสมอ ข้าพเจ้ารู้จักเพชรพระอุมาเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว จากกองหนังสือของคุณพ่อ เพียงได้เปิดอ่าน มนตร์เสน่ห์ของเพชรพระอุมา ก็ทำให้ข้าพเจ้าหลงรัก ทั้งที่เริ่มจากภาคที่ 2 น่าเสียดายที่มีเพียงหกเล่มเท่านั้น เพชรพระอุมาจึงสะดุดอยู่แค่นั้น จนข้าพเจ้าได้พบเพชรพระอุมา อีกครั้งในห้องสมุดประชาชน ข้าพเจ้าเริ่มต้นอ่านใหม่ จากเล่มแรกถึงเล่มสุดท้ายไม่ต่ำกว่าสามเที่ยว ความสนุกสนาน ตื่นเต้น ที่รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองได้ร่วมทางและดื่มด่ำไปกับการผจญภัยไปกับตัวละครในเรื่องนี้ด้วย และทุกครั้งที่อ่านก็ยังให้ความรู้สึกไม่มีที่ติเหมือนได้เจอเพื่อนเก่า

พนมเทียน เก็บป่ามาให้คนรักเพชรพระอุมา ทุกคนร่วมกันเปิดป่าอีกครั้ง ความรู้สึกทุกซอกทุกมุมเหมือนเดินทางอยู่ในป่าจริง ความยิ่งใหญ่ของเพชรพระอุมา ไม่ได้อยู่ที่ขุมทรัพย์เพชรพระอุมาอันมีค่ามหาศาล แต่อยู่ที่ความยิ่งใหญ่ของผืนป่า ทุกๆ รายละเอียดของผืนป่าพนมเทียนเก็บมาได้อย่างหมดจด แทบไม่หลงเหลือให้สะดุดล้มในอารมณ์ ความงามของผืนป่า ความอุดมของผืนน้ำ ความตื่นเต้นตื่นตากับบรรดาสัตว์ป่าทั้งที่ยังหลงเหลือหรือสูญพันธุ์ไปแล้ว พนมเทียนได้สอนวิถีแห่งป่าให้เรา สอนให้รู้จักปืนล่าสัตว์แทบทุกชนิด และที่สำคัญ ป่าของพนมเทียนได้สอนให้รู้จักน้ำใจและมิตรภาพของผู้ร่วมเดินทาง เพราะหากปราศจากสิ่งเหล่านี้แล้วความหายนะก็จะมาเยือนทันที และด้วยลีลาการเขียนที่ตื่นเต้นระทึกใจไปกับเหตุการณ์อันน่าหวาดเสียว พนมเทียนกระชากความรู้สึกของผู้อ่านให้จมดิ่งไปกับพายุอารมณ์ที่กำลังบ้าระห่ำไปกับการผจญภัยของรพินทร์ หรือแงซาย แล้วเล้าโลมอารมณ์ให้ผ่อนคลายด้วยบทรักอันแสนหวานของนายพรานใจฉกาจกับมงกุฎไพรของเขา ดาริน วราฤทธิ์ ที่ต้องตามลุ้นว่าเมื่อไหร่จะรักและลงเอยกันเสียที

พนมเทียนสามารถกำหนดทุกอารมณ์ความรู้สึกผู้อ่านให้โลดแล่นไปกับตัวละครได้อย่างลงตัว ถึงยามโศกเศร้าพลัดพราก พนมเทียนก็ทำได้อย่างซาบซึ้งกินใจ ไม่ว่าจะอ่านกี่ครั้งก็ยังเสียน้ำตาที่บรรทัดเดิม เหตุการณ์เดิมทุกคราไป พนมเทียนเขียนนวนิยายเรื่องนี้เกือบทั้งชีวิตเพื่อให้เราได้รู้จักพนมเทียนอย่างแท้จริง สรรพวิชาความรู้ ทุกศาสตร์ทุกสาขา ทุกอารมณ์ความรู้สึกของพนมเทียนที่ถ่ายทอดให้เพชรพระอุมา พนมเทียนให้ความสำคัญระหว่างบ่าวและนาย ความเป็นพี่น้องของเชษฐาและอนุชา ที่ไม่ว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงแค่ไหน แต่ในที่สุด พี่น้องยังไงก็ตัดกันไม่ขาด เมื่อความโกรธเคืองหมดไป ความห่วงหาอาทรก็กลับมาปลุกจิตสำนึกที่ดีงามคืนมา ความรักความยิ่งใหญ่ของมิตรภาพกับคำว่าเพื่อนตายที่คณะเดินทางชุดนี้มีให้แก่กันอย่างแน่นแฟ้น ประหนึ่งจะหลอมรวมทุกชีวิตให้เป็นชีวิตหนึ่งชีวิตเดียว ภายใต้การนำของจอมพรานผู้ยิ่งใหญ่ รพินทร์ ไพรวัลย์ และคู่คิดคนสำคัญอย่าง แงซาย จอมพเนจร ผู้ชิงไหวชิงพริบกันเสมอ ท่ามกลางภยันตรายจากมหันตภัยแห่งป่า ที่ไม่รู้ว่าจะเข้ามาสู่ทุกคนในรูปแบบใด บางครั้งก็จู่โจมแบบหนักหน่วงเฉียบพลันจนอกสั่นขวัญหาย หลายครั้งก็ย่องเบาเงียบกริบคอยล้างผลาญชีวิตของทุกคนอย่างเลือดเย็นและโหดเหี้ยมเจียนตาย และทุกคราที่ต้องคอยระแวดระวังภัยจากสิ่งเร้นลับอันน่าสยดสยองที่กระชากอารมณ์ของทุกคนให้กระเจิดกระเจิง แต่ทุกครั้งก็ผ่านพ้นไปได้ เพราะนี่คือคณะเดินทางของจอมพรานผู้ยิ่งใหญ่ รพินทร์ ไพรวัลย์ ผู้ที่แม้แต่พญามัจจุราชก็ยังให้ความเมตตา เพราะนี่คือคณะเดินทางที่มีคนใช้พิเศษที่ร้ายกาจที่สุด แต่จริงใจและเทิดทูนพรานใหญ่ประหนึ่งพี่น้องร่วมอุทร ประหนึ่งน้ำมิตรร่วมสาบาน พร้อมกันก็เป็นคู่ปรับตัวฉกาจที่คอยกวนตีน กวนอารมณ์ ของพรานใหญ่ให้ขุ่นมัว จนต้องให้นายหญิงมาคอยห้ามทัพอยู่เสมอ สำคัญนักละเจ้าคนใช้พิเศษของนายหญิงคนนี้ และนี่คือคณะเดินทางที่เต็มไปด้วยคนจริง ที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หนึ่งคนในคณะก็จะต้องช่วยแก้ไขสถานการณ์อันเลวร้ายนั้นให้บรรเทาเบาบางลงได้ เพราะความยึดมั่นในสัจจะและคุณความดี เคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และครูอาจารย์ผู้ประสิทธิประสาทวิชาความรู้ พร้อมด้วยน้ำใจที่ไม่ลบหลู่อาถรรพ์แห่งป่า น้ำใจที่มีให้ทุกชีวิตเสมอ ไม่ว่าจะเป็นยอดปิยมิตรหรือมหาศัตรูผู้ยิ่งใหญ่

และในที่สุดแห่งการติดตามคือภาพการลาจากของสองบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าแห่งป่าทั้งสองที่ชิงไหวชิงพริบกันตลอดเวลา ชนิดที่ไม่ยอมลงให้ใคร เสมือนว่าทั้งคู่เกิดมาเพื่อจะแย่งชิงความเป็นเจ้าแห่งป่าที่ต้องเป็นปรปักษ์ต่อกันตลอดเวลา แต่แท้ที่จริงหัวใจของคนทั้งคู่หยั่งถึงกันอยู่เสมอ และรักกันมากที่สุดเกินกว่าที่ใครจะคิดไปถึง เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ขณะที่เขาทั้งคู่กำลังจะลาจากกันครั้งสุดท้าย ส่วนลึกแห่งหัวใจของคนทั้งคู่ยิ่งใหญ่ทัดเทียมกันจริงๆ เมื่อมีรพินทร์ก็ต้องมีแงซาย เมื่อมีแงซายก็ขาดรพินทร์ไม่ได้ เมื่อคนหนึ่งล้มอีกคนจะหาทางออกได้เสมอ แต่จะทำฉันใด เมื่อถึงเวลาที่จะไม่มีคนทั้งคู่ร่วมเดินในเส้นทางมหาวิบากนี้อีกตลอดกาล คนหนึ่งอดีตนายร้อยตำรวจเอกตระเวนชายแดนไทย อีกคนหนึ่งร้อยโทกองโจรกะเหรี่ยง ภาพการลาจากของคนทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นภาคแรกหรือภาคจบ พนมเทียนก็ทำให้ผู้อ่านรู้สึกเหมือนกับว่าอยากจะหยุดเวลาเอาไว้แค่นั้น กับภาพความประทับใจของคู่มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเส้นทางมหาวิบาก สู่ดินแดนแห่งยอดปรารถนาของทุกคนที่รวมกันอยู่ที่นั่น ดินแดงแห่งขุนเขาจรดขอบฟ้า ทิวาจรดราตรี ดินแดนแห่งเพชรพระอุมา

เพชรพระอุมา ทำให้เราทุกคนรับรู้และเข้าใจได้ว่า ไม่มีความยิ่งใหญ่ใดๆ จะอยู่เหนือสัจจะและน้ำใจของมหามิตรที่ประเสริฐ และเพชรพระอุมาก็เป็นมหามิตรสำหรับผู้อ่านเสมอมา และจะเป็นตลอดไป เพชรพระอุมาทำให้คนรักหนังสือ รู้สึกรักและหวงแหนหนังสือยิ่งขึ้นไปอีก เพชรพระอุมาคือห้องสมุดแห่งความอุดมของผืนป่า คือสุดยอดของตำนานแห่งนิทานรอบกองไฟที่สนุกสนาน ตื่นเต้น คือบันทึกเล่มโตที่รวบรวมเรื่องราวจากวิถีชีวิตบนแผ่นดินไทย ในแต่ละช่วงกาลเวลาที่กลายมาเป็นผืนป่าอันงดงามและทรงคุณค่าแห่งวงการวรรณกรรมไทย ที่คนไทยทุกคนจะภาคภูมิใจได้อย่างเต็มเปี่ยม และข้าพเจ้าก็อยากให้ทุกคนรู้สึกรักและร่วมดื่มด่ำไปกับความยิ่งใหญ่ของเพชรพระอุมา หนังสือที่ข้าพเจ้ารักที่สุด หนังสือที่รอคอยความรู้สึกรักและหวงแหนจากทุกคนที่ได้เปิดอ่าน

พระอภัยมณี และเพชรพระอุมา จึงมิใช่เพียงแต่หนังสือเล่มหนึ่งเท่านั้น แต่จะเป็นมรดกทางความคิดอันงดงาม ที่รอคอยจะจุดประกายความฝันให้อีกหลายๆ คน อยากให้คนไทยทุกคนรักหนังสือทั้งสองเล่มนี้เหมือนที่ข้าพเจ้ารัก อยากให้หนังสือทั้งสองเล่มนี้เป็นบันไดไปสู่การเปิดหนังสือเล่มอื่นอีกมากมาย เพราะไม่ว่าจะเป็นหนังสือเล่มไหน ก็มีคุณค่าด้วยกันทั้งนั้น ขอเพียงเราทุกคนรักที่จะอ่าน แล้วเราจะเป็นคนหนึ่งที่ก้าวไปข้างหน้า ก้าวไปสู่โลกใบใหม่ของเราเอง โลกส่วนตัวที่มีความใฝ่ฝันอันงดงามรอเราอยู่ แม้ในบางครั้งความฝันจะเดินสวนทางกับความเป็นจริง แต่อย่างน้อยเราก็อิ่มใจได้ว่า ครั้งหนึ่งเราเคยฝัน และกล้าที่จะบันทึกความฝันนั้นไว้เป็นความทรงจำอันงดงาม และเต็มใจที่จะเก็บไว้เป็นเศษเสี้ยวส่วนหนึ่งของชีวิต เพื่อคอยหล่อเลี้ยงและสร้างพลังจากโลกที่เขียนด้วยเมล็ดพืชทางตัวอักษร ด้วยกระดาษแห่งแผ่นดิน เพื่อจะส่งให้รากไม้แห่งปัญญาเป็นรากฐานให้กับยอดไม้แห่งชีวิตที่สูงส่งและงดงาม ท่ามกลางโลกแห่งความจริงได้อย่างกล้าแกร่งและมั่นคง ดุจดั่งภูผาที่ตั้งตระหง่านอยู่สูงเสียดฟ้า แม้จะต้องแดด ลม ฝน สักปานใด

เปี่ยมสุข บุญมี
โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัยสุราษฎร์ธานี
อายุ 17 ปี ม. 5
รร. กาญจนาภิเษกวิทยาลัย สุราษฎร์ธานี ต. ละเม็ด อ. ไชยยา จ .สุราษฎร์ธานี