![]() |
นายกฤติกรณ์ สุขปันชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย อ. เมือง จ. เชียงใหม่ | ||||||||||||||||||||
เรื่อง ใบไม้ในบ้านเก่าหนังสือบางเล่มไม่น่าพลาด แต่หนังสือเล่มนี้พลาดไม่ได้ หลายความรู้สึกจากการอ่านวรรณกรรมทำให้มองเห็นภาพพจน์ของหนังสือเล่มนี้...ใบไม้ที่หายไป ของ จิระนันท์ พิตรปรีชา ผู้รังสรรค์ผลงานการเขียนจนได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการตัดสินวรรณกรรมยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (รางวัลซีไรต์) ประจำปี พ.ศ. 2532 ให้เป็นรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์กวีนิพนธ์แห่งชีวิตยอดเยี่ยม ข้าพเจ้าชอบข้อความอยู่บทหนึ่ง ซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่าผู้ประพันธ์ใช้ภาษา ถ้อยคำ และกลวิธีการเขียนที่มีพลัง รู้จักถ่ายทอดอารมณ์และความคิดของตนเองสู่ผู้อ่าน อีกทั้งผู้ประพันธ์ยังสามารถที่จะนำความคิดมารังสรรค์ผลงานเพื่อที่สามารถผสมผสานจินตนาการให้กลมกลืนได้กับประสบการณ์ในชีวิต มีผู้วิจารณ์บทกวีของจิระนันท์ที่มีชื่อว่า เศษธุลี ว่าเหมือนจะเป็นงานที่เป็นตัวแทนของวรรณกรรมเพื่อชีวิตของไทยในช่วงนั้นทั้งหมดมีเชิงชั้นวรรณศิลป์ยอดเยี่ยม มีคุณค่าด้านแนวความคิดอันมีลักษณะสากล และข้อความบทนี้เองที่ข้าพเจ้าขอนำมาให้เพื่อนๆ ได้คำนึงถึงคุณค่าด้านวรรณศิลป์ เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าผู้ประพันธ์ถ่ายทอดประสบการณ์และจุดมุ่งหมาย ตลอดจนความหวังของผู้ประพันธ์เองที่จะประสบผลสำเร็จ
ผู้ประพันธ์มีความกล้าที่จะเปิดเผยและถ่ายทอดประสบการณ์จากความมุ่งมั่นในอุดมการณ์และความหวังของผู้ประพันธ์ กวีนิพนธ์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเชิงบันทึกของชีวิตช่วงหนึ่งของผู้ประพันธ์ ตั้งแต่ผู้ประพันธ์ยังเป็นนักศึกษา วัยรุ่นกลุ่มก้าวหน้า มีอุดมการณ์สูงส่ง จวบจนกระทั่งได้ตระหนักความจริงของชีวิตที่ถูกธรรมชาติกำหนดและถ่ายทอดมา สาระของหนังสือกวีนิพนธ์เล่มนี้มีทั้งความใฝ่ฝัน ปรัชญาชีวิต และอุดมการณ์ของคนหนุ่มสาวสมัยนั้น อยู่ระหว่าง พ.ศ. 2513-2529 และผู้ประพันธ์ก็ได้ปฏิบัติตามอุดมการณ์นั้นอย่างถึงที่สุด จึงพบได้ว่าทุกชีวิตต้องเป็นไปตามกฎธรรมชาติ ดังเช่น ชีวิตของผู้เป็นแม่นั้น ไม่เพียงแต่ให้กำเนิด กำหนดอนาคตของลูกเท่านั้น หากรวมทั้งชีวิตตนเองและผู้ใกล้ชิด กวีนิพนธ์ของจิระนันท์มีอีกหลายบท และบทที่ข้าพเจ้ารู้สึกเจ็บและอยากจะกอดบุคคลในข้อความนี้มากที่สุด ไม่เพียงแต่บุคคลคนนั้นมีบุญคุณกับเรา แต่ยังเป็นผู้ให้ชีวิต โดยรวมชีวิตตนเองและผู้ใกล้ชิด ดังบทกวีนิพนธ์ต่อไปนี้
แม่นั่นเองคือบุคคลที่ข้าพเจ้าอยากเจ็บแทนและอยากกอดท่านมากที่สุด อยากให้เพื่อนๆ ลองอ่านบทกวีนิพนธ์ของจิระนันท์ที่มีอีกมากมายหลายบทแล้วเพื่อนๆ จะรู้ว่า ไฟกวีของ จิระนันท์ พิตรปรีชา ไม่เคยมอด! เป็นเล่มที่น่าอ่าน เมื่อเพื่อนๆ อ่านแล้วจะได้ข้อคิดมากมายและมีอะไรมากกว่าที่คิด อย่าเชื่อถ้าไม่ได้ลองอ่านด้วยตนเอง พลาดไม่ได้จริงๆ ครับ หนังสืออีกเล่มหนึ่งที่ข้าพเจ้าอยู่ที่ไหนก็มักจะนึกถึงอยู่เสมอ มันทำให้ข้าพเจ้าไม่ลืมตนเองว่ามาจากที่ไหน เป็นอย่างไร บ้านเก่า กวีนิพนธ์รางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (รางวัลซีไรต์) ประจำปี พ.ศ. 2544 ของ โชคชัย บัณฑิต วิทยาจารย์ผู้รังสรรค์ผลงานยอดเยี่ยมแห่งปี ข้าพเจ้าได้มีโอกาสอ่านบทประพันธ์ของ โชคชัย บัณฑิต ผู้ประพันธ์ได้ถ่ายทอดประสบการณ์และสื่อความคิดของกวี โดยเรียงร้อยประสบการณ์และสิ่งธรรมดาสามัญรอบตัวซึ่งคนทั่วไปอาจไม่สนใจหรือมองข้าม ผู้ประพันธ์สังเกตสังคมด้วยสัมผัสอันละเอียดอ่อน จากมุมมองเฉพาะตัวที่โดดเด่น ถึงแม้บทประพันธ์จะไม่สมบูรณ์แบบในลีลาภาษา แต่โดดเด่นในกลวิธีทางวรรณศิลป์ ดังข้อความบทหนึ่งที่ข้าพเจ้าอยากให้เพื่อนๆ ลองนึกตาม
จากมุมมองเฉพาะตัวที่โดดเด่นของผู้ประพันธ์ บ้านเก่า เป็นภาพพื้นฉากซึ่งแสดงวิถีชีวิตดั้งเดิม เขามองเห็นความเป็นไปของสังคม การเปลี่ยนแปลงและมีกระแสนิยม เทคโนโลยีสมัยใหม่ จากข้อความบทกวีนิพนธ์ข้างต้น เพื่อนๆ ลองนึกไปพร้อมๆ ข้าพเจ้า บทกวีได้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงตามกระแสนิยม บ้านเก่ากลางทุ่งนาที่เคยวิ่งเล่น ที่ปู่ย่าตาทวดท่านอยู่มานมนาน วันหนึ่งได้ดีแล้วมีงานทำแล้ว ไม่นึกถึงตนเองสมัยนั้นว่ายากลำบากแค่ไหนกว่าจะมาอยู่จุดนี้ได้ กลับจะขายบ้านที่เคยเป็นที่พักพิง หลับนอนตอนที่ไม่มีอะไร พอร่ำรวยแล้วกลับไม่รู้คุณค่าขายบ้านเก่า ข้าวปลาที่เคยกินกับทุ่งกับควายลืมมันไปหมด แต่แล้วเมื่อชีวิตตกอับอีกครั้งกลับไม่มีอะไรเป็นของตนเองแม้แต่ที่ซุกหัวนอน ข้าพเจ้าคิดว่า มันสมควรแล้ว ตอนมีไม่รู้จักใช้ ตอนใช้ไม่รู้จักคิด ทำให้ชีวิตตนต้องกลับมาในสภาพเดิมๆ อีก เพื่อนๆ เห็นและรู้สึกเหมือนข้าพเจ้าหรือเปล่า ที่ผู้ประพันธ์ได้ใช้ประสบการณ์ที่ท่านพบเจอ มาถ่ายทอดให้พวกเราได้ตระหนักและคิดอยู่เสมอว่า อย่าเป็นคนลืมอดีตของตน จงกลับไปซะ กลับไปแก้ไขอดีต และทำปัจจุบันให้ดีที่สุด การเปลี่ยนแปลงของสังคมโดยเฉพาะกระแสบริโภคนิยมและสื่ออุปกรณ์เทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่รุกเข้ามาลบภาพ บ้านเก่า ไปทีละน้อย ทำให้วิถีชีวิตของคนในสังคมแปรเปลี่ยนด้วย กวีนิพนธ์บ้านเก่า มีความโดดเด่นด้านวรรณศิลป์ โดยเฉพาะการนำสิ่งตรงข้าม หรือคล้ายคลึงมาเชื่อมโยงทาบเทียบกัน และด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนกับท่าทีที่ท้าทายความคิดของผู้อ่านอยู่ในที ทำให้หนังสือกวีนิพนธ์เล่มนี้สามารถที่จะสื่อสารจากการถ่ายทอดของกวีตามต้องการได้อย่างสมบูรณ์ บ้านเก่า ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นสิ่งดีๆ ที่พวกเราควรจะช่วยกันรักษาและหวงแหนเอาไว้ให้คงอยู่สืบไป และที่สำคัญเพื่อนๆ ลองหยิบขึ้นมาอ่านดู แล้วเพื่อนๆ จะพบกับข้อคิดและอะไรต่างๆ มากมาย ข้าพเจ้าขอบอกว่าหลังจากที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว ทำให้ข้าพเจ้ามีอรรถรสและสุนทรียภาพเพิ่มขึ้น มันเป็นเล่มที่ไม่น่าพลาด เพราะไฟกวีของ โชคชัย บัณฑิต ยังคุกรุ่นอยู่ไม่แพ้กวีนิพนธ์อื่นๆ เลยแม้แต่นิดเดียว เป็นอย่างไรบ้างครับกับกวีนิพนธ์ทั้งสองเรื่อง ที่ข้าพเจ้านำมาให้เพื่อนๆ ได้เรียกน้ำย่อยกันทั้ง ใบไม้ที่หายไป ของ จิระนันท์ พิตรปรีชา และกวีนิพนธ์เล่มสอง บ้านเก่า ของ โชคชัย บัณฑิต หวังว่าเพื่อนๆ คงจะชอบหนังสือที่ข้าพเจ้าแนะนำนะครับ รีบๆ หน่อยแล้วกันครับ เดินไปห้องสมุด หรือร้านหนังสือ หยิบขึ้นมาอ่านดูว่าผู้ที่เป็นกวีเขารังสรรค์ผลงานกันอย่างไร จากที่หลายๆ คนอ่านแล้วบอกว่า หนังสือบางเล่มไม่น่าพลาด แต่หนังสือเล่มนี้พลาดไม่ได้ เพื่อนๆ จะรู้ว่าพลาดไม่ได้จริงๆ รีบๆ หาอ่านกันนะครับ แล้วจะรู้ว่า ใบไม้อยู่ในบ้านเก่าได้อย่างไร? | |||||||||||||||||||||
นายกฤติกรณ์ สุขปัน โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 วันเดือนปีเกิด 15 มกราคม 2530 ที่อยู่ บ้านลดารัตน์ เลขที่ 2 ถนนจ่าบ้าน ต. พระสิงห์ อ. เมือง จ. เชียงใหม่ 50200 โทรศัพท์ 0-3527-8052 ห้องหมายเลข 6 ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย 238 ถนนพระปกเกล้า ต. ศรีภูมิ อ. เมือง จ. เชียงใหม่ 50200 โทรศัพท์ 0-5341-9037-9 |