![]() |
ด.ญ. ปลายฟ้า ธเนศนิตย์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวชิรวิทย์ อ. เมือง จ. เชียงใหม่ |
เรื่อง เล่มนี้สิ...อ่านได้ทุกคนหนังสือถือเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผู้คนทุกยุค ทุกวัย บางเล่มเหมาะสำหรับเด็กเล็กๆ อายุไม่เกิน 7 ปี บางเล่มเหมาะกับเด็กอายุตั้งแต่ 6-12 ปี แต่ก็มีบางเล่มอ่านได้ทุกเพศทุกวัย หนังสือสองเล่มที่ข้าพเจ้าจะนำมากล่าวและชวนให้ทุกๆ ท่านได้อ่านนี้เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กๆ ที่ยังอ่านหนังสือไม่ได้ (ก็อาศัยคนอื่นอ่านให้ฟัง) จนถึงวัยผู้ใหญ่ที่เกษียณอายุแล้วก็ยังอ่านได้อยู่ เพราะเนื้อหาในเรื่องทั้งสองเล่มนี้สนุกและน่าติดตาม อ่านได้ไม่เบื่อ แม้จะอ่านผ่านไปหลายๆ ครั้งก็ตาม ประกอบกับในเล่มมีภาพสวยๆ น่ารักๆ ให้ดูอีกด้วย เล่มแรกคือหนังสือเรื่องทองแดง บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งเป็นหนังสือที่จัดพิมพ์เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ไว้ในเล่มเดียวกัน จัดพิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตมันอย่างดี มีปกแข็ง ซึ่งจัดพิมพ์โดย บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิซชิ่ง จำกัด (มหาชน) นับเป็นโชคดีของพสกนิการชาวไทยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงพระปรีชาสามารถในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการปกครอง การเกษตร การชลประทาน การทูต การศึกษา การกีฬา ด้านดนตรี และอักษรศาสตร์ ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือหลายเล่ม ล้วนแล้วแต่ได้รับความสนใจและมียอดจำหน่ายสูงทั้งสิ้น อาทิ ทองแดง พระมหาชนก ซึ่งได้รับความนิยมจากประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศ มีการจัดทำทั้งในรูปแบบหนังสือและการ์ตูน บทพระราชนิพนธ์เรื่องทองแดง ถือเป็นบทพระราชนิพนธ์เล่มล่าสุด ที่ได้สร้างประวัติการณ์ใหม่ให้แก่วงการหนังสือ โดยมียอดสั่งจองเป็นจำนวนมากก่อนการออกวางจำหน่าย ข้าพเจ้าได้ติดตามข่าวคราว เรื่องของคุณทองแดงจากโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ต่างๆ ที่มีข่าวคราวเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และคุณทองแดง ข้าพเจ้าประทับใจในความน่ารักและความมีเสน่ห์ของคุณทองแดง เมื่อทราบข่าวการออกวางจำหน่ายหนังสือทองแดง ข้าพเจ้าจึงรีบสั่งจองหนังสือก่อนเพื่อน เพราะคิดว่าน่าจะเป็นหนังสือที่มีความสนุก น่าสนใจ ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และคุณทองแดงอย่างแน่นอน เมื่อข้าพเจ้าได้รับหนังสือเรื่องทองแดง หรือ ในชื่อภาษาอังกฤษว่า The story of Tongdaeng ก็ทำให้ข้าพเจ้ายิ้มไม่หุบ เพราะที่หน้าปกของหนังสือ อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ขณะทรงมีพระเมตตาต่อคุณทองแดง ส่วนคุณทองแดงก็มีกิริยาที่เรียบร้อย น่ารัก แฝงไปด้วยความเข้มแข็ง กล้าหาญ และมีแววตาที่สะท้อนให้เห็นถึงความจงรักภักดีที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พอข้าพเจ้าเปิดดูในหนังสือทีละหน้าก็เห็นรูปอิริยาบถต่างๆ ของคุณทองแดง ตั้งแต่เล็กเรื่อยมาจนโต ทำให้ข้าพเจ้ายิ่งรักและประทับใจในคุณทองแดงมาก โดยเฉพาะภาพในตอนที่คุณทองแดงสอนลูกๆ เก็บมะพร้าวนั้น ดูน่ารัก และแสนฉลาดเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อได้อ่านประวัติแรกเกิด ซึ่งแม่ของคุณทองแดงเป็นเพียงสุนัขจรจัดที่มาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านข้างคลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา และคุณทองแดงเป็นเพียงสุนัขพันทางที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ได้ถวายตัวเป็นสุนัขหลวง เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2541 ขณะนั้นอายุได้ 5 อาทิตย์ ก่อนเข้าถวายตัวนั้นคุณทองแดงร้องไห้มาตลอดทาง แต่เมื่อถวายตัวแล้วก็หยุดร้องและเข้ามาซุกที่พระเพลาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เหมือนฝากชีวิตไว้กับพระองค์อย่างนั้น ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกประทับใจในตัวคุณทองแดงมากยิ่งขึ้น สนุกกับการอ่านภาษาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงใช้ในการพระราชนิพนธ์หนังสือเล่มนี้มาก ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่าถ้าใครได้อ่านหนังสือพระราชนิพนธ์เรื่องทองแดง นี้ แล้วคงจะคิดเช่นเดียวกับข้าพเจ้า และมีความรู้สึกที่ดีกับสุนัขจรจัด หรือสุนัขไทยพันทางมากขึ้น จนถึงขั้นรับสุนัขพันทางเข้ามาเป็นสัตว์เลี้ยงภายในบ้านตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ดังที่พระองค์ทรงดำริไว้ในตอนท้ายของบทนำในหนังสือด้วย.... ส่วนอีกเล่มหนึ่งคือหนังสือเรื่องแก้วจอมแก่น พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งใช้พระนามแฝงว่า แว่นแก้ว เป็นหนังสือที่น่าสนใจ และสนุกไม่แพ้เรื่องทองแดง ที่แฝงไว้ด้วยสาระความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต คุณธรรม และจริยธรรม โดยวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนรักการอ่าน รู้จักแสวงหาความรู้จากการอ่าน เสริมสร้างจินตนาการและรู้จักใช้ความคิดพิจารณา ไตร่ตรองเรื่องต่างๆ เมื่อข้าพเจ้าเปิดดูในแต่ละตอนแบบผ่านๆ ครั้งแรก ข้าพเจ้าคิดว่า คงจะน่าเบื่อเพราะมีแต่ตัวหนังสือเต็มไปหมด มีภาพประกอบเพียงเล็กน้อย ไม่เหมือนเรื่องทองแดง ซึ่งมีภาพน่ารักให้ดูมากมาย แต่เมื่อได้อ่านอย่างจริงจัง เพียงสองถึงสามบทแรก ก็พบว่ามีความสนุกและยังสอดแทรกสาระความรู้ต่างๆ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กที่เทคโนโลยีต่างๆ ยังมีไม่มากพอ และทุกคนต้องติดอยู่กับธรรมชาติ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่อย่างเพลิดเพลิน ความสนุกสนานในวัยเด็กที่ผู้ใหญ่บางคนได้อ่านแล้วอาจหวนคิดถึงอดีตในวัยเยาว์ของตน เช่น ตอนล่อกั๊ง ซึ่งต้องใช้เศษเนื้อหรือของคาวๆ ในการล่อมันขึ้นจากรู เมื่อจับได้ก็จะไปใส่กระป๋องเก็บไว้ อันเป็นการละเล่นที่สนุกๆ ของเด็ก ที่มิได้นึกถึงความทุกข์หรือเป็นการเบียดเบียนผู้อื่น ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้อื่นทุกข์แล้ว ตัวเองยังได้รับทุกข์ทางใจด้วยเช่นกัน อย่างตอนจันทรคราสที่แสดงถึงความเชื่อและวิถีชีวิตของคนสมัยก่อนซึ่งต่างจากคนสมัยปัจจุบัน เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มีความน่าตื่นเต้น และน่าสนใจ และมีหลายตอนที่สอดแทรกความคิดแนววิทยาศาสตร์ และการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล เช่น ตอนเลี้ยงปลา สัตว์ประหลาด และนักวิทยาศาสตร์เอก เป็นต้น หรือแม้แต่เรื่องของมิตรภาพระหว่างเพื่อน คนในครอบครัว และสัตว์เลี้ยง หากผู้อ่านได้อ่านแล้วก็จะพบว่ามีความสนุก น่าติดตาม หรืออาจจะอ่านแล้วแอบอมยิ้มไปกับความแก่นแก้ว จอมซน และความฉลาดแบบเด็กของแก้วและพวกพ้องอย่างแน่นอน แก้วจอมแก่นนี้ นอกจากจะจัดพิมพ์เผยแพร่เป็นภาษาไทยแล้วยังมีการแปลพิมพ์เผยแพร่เป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีนอีกด้วย โดยเฉพาะในรูปแบบภาษาจีน จากบทภาคผนวกท้ายเล่มได้กล่าวไว้ว่า เรื่องแก้วจอมแก่น ได้รับความสนใจจากผู้อ่านชาวจีนเป็นอย่างมาก จนสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงต้องนำอาหารไทย และการละเล่นแบบไทยๆ ไปแสดงให้ผู้อ่านชาวจีนได้เห็น...แล้วคนไทยอยู่เมืองไทยแท้ๆ ไม่คิดจะอ่านหนังสือดีๆ มีคุณค่าเล่มนี้บ้างหรือ? | |
วันเดือนปี เกิด 24 พฤษภาคม 2535 อายุ 12 ปี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวชิรวิทย์ 168/1 ถนนช้างคลาน ต. ช้างคลาน อ. เมือง จ. เชียงใหม่ โทรศัพท์ 0-5381-8877-8 ที่อยู่ปัจจุบัน 130/233 หมู่บ้านไทยสมุทร หมู่ 9 ต. แม่เหียะ อ. เมือง จ. เชียงใหม่ |