![]() |
น.ส. พรรณพิดา วิริยะสุนทรชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช จ. อุบลราชธานี |
เรื่อง หนังสือ...ให้อะไรมากว่าที่คิดปัจจุบัน การศึกษาหาความรู้นั้นสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การศึกษาจากหนังสือ จากการทดลองด้วยตนเอง หรือจากอินเทอร์เน็ต หนังสือเป็นสิ่งที่มนุษย์ศึกษาหาความรู้มายาวนาน หนังสือมีหลายประเภท ย่อมแล้วแต่แความชอบของแต่ละบุคคลว่าชอบหนังสือประเภทใด ข้าพเจ้าเป็นอีกคนหนึ่งที่มักใช้เวลาว่างไปกับการอ่านหนังสือ ข้าพเจ้าไม่จำเพาะเจาะจงประเภทหนังสือ หนังสือที่ข้าพเจ้ามาเสนอแนะให้เพื่อนนักเรียนอ่านนั้นชื่อว่า แวววัน ซึ่งหลายๆ โรงเรียนคงจะจัดให้ แวววัน นี้เป็นหนังสือนอกเวลา สำหรับหนังสือแวววัน นี้เป็นหนังสือเล่มเดียวจบ มีประมาณ 452 หน้า อาจจะดูหนาแต่หากได้อ่านแล้วคงจะรู้สึกว่ามีมากกว่านี้ก็คงดี เพราะทางผู้ประพันธ์ โบตั๋น ได้จำลองถึงสภาพของ แวววัน เด็กสาวชาวสวนฝั่งธนบุรี ซึ่งเป็นเด็กสาวที่มีความทะเยอทะยานสูง จนสามารถสอบเข้าโรงเรียนที่ได้ชื่อว่า เป็นโรงเรียนอันดับหนึ่งของประเทศไทย จนทำให้แวววันได้พบกับเพื่อนที่มีลักษณะนิสัยแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น ระวิวรรณ เด็กสาวลูกนายพลที่ไม่ถือตัว พรสวรรค์ ลูกพ่อค้าที่มีฐานะร่ำรวย หรือแม้กระทั่ง กรองกาญจน์ เด็กสาวผู้มีความลำบาก เป็นเสมือนแรงบันดาลใจให้แวววันได้สู้กับชีวิตต่อไป จนกระทั่งแวววันและเพื่อนๆ ได้เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองไทย แน่นอนว่าชีวิตย่อมจะมีทั้งทุกข์และสุข แวววันต้องเจอกับปัญหาหลายๆ อย่างเหมือนกับวัยรุ่นได้เจอ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชีวิต ปัญหาครอบครัวและสังคม หรือแม้กระทั่งปัญหาหัวใจของแวววัน และเธอก็ได้มีวิธีการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ ถึงแม้ว่าท้ายเรื่อง แวววันอาจจะต้องเสียบุคคลที่ตนรักเคารพและไว้วางใจมากที่สุดในชีวิต แต่เมื่อเกิดปัญหาแวววันก็สามารถแก้ไขอุปสรรคไปได้ การอ่านหนังสือแวววัน นี้ หากเพื่อนๆ ได้ลองอ่านดูแล้ว ย่อมจะได้ซาบซึ้งถึงอรรถรสและบทละครที่ผู้แต่งสามารถจัดไว้ได้อย่างพอดี ตัวละครมีการแสดงคำพูดไม่วกวน อ่านเข้าใจง่าย จึงทำให้ แวววัน เป็นหนังสือที่ไม่น่าเบื่อ สามารถอ่านได้ทุกเพศทุกวัย เมื่ออ่านแล้วจะพบกับข้อคิดและคติเตือนใจมากมาย จึงไม่แปลกเลยที่หลายๆ คนได้อ่านแล้วอ่านอีก หากเพื่อนๆ ได้ลองอ่านแล้วจะพบว่า แวววัน อาจจะเป็นหนังสือในดวงใจแล้วเช่นกัน และหนังสืออีกเล่ม ที่เป็นหนังสือในดวงใจของข้าพเจ้าชื่อลิลลี่สีกุหลาบ เป็นนวนิยายแนวตลกและโรแมนติก คือ ลิลลี่ เป็นสาวสวยชาวฮ่องกง หลบหนีการแต่งงานที่ถูกบังคับจนต้องข้ามขอบฟ้ามาที่เมืองไทยจนได้พบกับ ณพ อดีตนายตำรวจผู้ห้าวหาญ ที่ต้องยอมเป็นบอดี้การ์ดจำเป็นให้กับหญิงสาว เพื่อป้องกันเธอจากคนที่ ปาปา หรือพ่อของลิลลี่ส่งมาเพื่อพาเธอกลับฮ่องกง ทั้งสองเจออุปสรรคมากมายไม่ว่าจะเป็น ปทุมวดี ภรรยาคนใหม่ของ คุณอาคม ซึ่งเป็นพ่อของณพ ปทุมวดีใช้แผนหลอกล่อหวังฮุบสมบัติของคุณอาคมแต่สวรรค์ย่อมไม่เข้าข้างคนชั่ว...คนทำผิดย่อมได้รับผิด นวนิยายเรื่องนี้เหมือนกับนวนิยายอื่นๆ ของไทย แต่มีความแตกต่างตรงบทบาทของตัวละคร เพราะ โสภี พรรณราย ผู้แต่งได้ใช้คำพูดได้เหมาะสม สร้างสถานการณ์ให้กับตัวละครได้สนุก ผู้อ่านเข้าใจง่าย อ่านแล้วรู้สึกว่าผู้เขียนแต่งไว้หลายอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์รัก อารมณ์ตลก อารมณ์เศร้า หรือแม้กระทั่งอารมณ์ตื่นเต้น จนไม่สามารถวางหนังสือเล่มลงนี้ได้เลย แม้จะมีทั้งหมด 483 หน้าก็ตาม ด้วยชื่อหนังสือและคำนำที่ดูน่าอ่าน ประกอบกับภาพวาดที่วาดได้อย่างน่ารัก จึงเหมาะที่จะเป็นหนังสือสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ที่อ่านแล้วไม่รู้สึกเครียด อีกทั้งยังทำให้อารมณ์ดีกับคำพูดและการกระทำที่ดูแปลกๆ ของลิลลี่เสียอีก จึงอาจจะเป็นหนังสือในดวงใจของใครหลายๆ คนที่เคยอ่าน ลิลลี่สีกุหลาบ มาแล้ว อีกทั้งอ่านจนจบแล้วไม่ใช่ว่าจะให้แต่ความสนุกเพลิดเพลินเท่านั้น ยังให้ข้อคิดอีกหลายๆ ข้อ เช่น อย่าเพิ่งท้อแท้ด้วยเหตุผลว่า เป็นไปไม่ได้ ตราบใดที่ยังไม่ได้ต่อสู้ เพื่อนำสิ่งนั้นมาครอบครอง ซึ่งสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ เป็นต้นว่า ในเรื่องการเรียน อย่าคิดว่าเราจะได้ 4.00 นั้นเป็นไปไม่ได้ ทุกสิ่งในโลกนี้นั้นเป็นไปได้ทุกอย่าง เพียงแค่เรามีความมั่นใจไม่ท้อแท้กับสิ่งที่เราต้องการ และพยายามทำให้ได้ จึงจะถือว่าเรามีความพยายามมากที่สุดแล้ว ดั้งนั้นลิลลี่สีกุหลาบ จึงไม่ได้เป็น แค่นวนิยายที่ให้ความเพลิดเพลิน เท่านั้น แต่ยังเป็นหนังสือที่มีสาระที่ทุกคนควรอ่าน จนกลายเป็น หนังสือในดวงใจ เหมือนข้าพเจ้า การอ่านหนังสือนั้นไม่จำเป็นต้องจำกัดประเภทการอ่าน ขอแค่ให้อ่านทุกสิ่งที่ต้องการ เป็นการฝึกนิสัยรักการอ่านให้มากขึ้น แล้วจะรู้สึกว่าการอ่านไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออย่างที่คิด อย่างไรก็ตามข้าพเจ้าขอฝากหนังสือแวววัน และลิลลี่สีกุหลาบ เป็นหนังสือสำหรับเพื่อนนักเรียนที่รักการอ่านและต้องการหนังสือที่มีองค์ประกอบหลายๆ อย่างเช่น สาระความรู้ ข้อคิด ความเพลิดเพลิน เป็นต้น แล้วจะได้พบว่าหนังสือทั้งสองเล่มเป็นหนังสือที่ครบครันด้วยคุณภาพ จนกลายเป็นหนังสือในดวงใจ | |
น.ส. พรรณพิดา วิริยะสุนทร ชั้น ม. 4/2 เกิดวันที่ 18 พฤษภาคม 2531 ที่อยู่ 242 ถ. เกษมสุข อ. วารินชำราบ จ. อุบลราชธานี 34190 โทรศัพท์ 0-4532-1387, 0-6506-0630 e-mail liwe_liwe@hotmail.com อ. ภาวิณี หาญตานันท์ ผู้รับทราบการส่ง โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช ถ. สรรพสิทธิ์ ต. ในเมือง อ. เมือง จ. อุบลราชธานี 34000 |