น.ส. สมถวิล สุขเลี้ยง

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนนราธิวาส จ. นราธิวาส

เรื่อง คนกล้าที่หมู่บ้านอาบจันทร์

คุณเคยคิดไหมว่าจะมีหนังสือที่อ่านแล้วทำให้ผู้อ่านตระหนักถึงพลังที่มีอยู่ในตนเอง หรือบันดาลให้เกิดความรู้สึกบางสิ่งบางอย่าง เมื่ออ่านต่อไปคุณก็จะพบว่าชีวิตเล็กๆ ของเราหนึ่งชีวิต ชีวิตที่บางคนถามตัวเองเสมอว่า เราเกิดมาทำไม ถ้าหากคุณได้รับรู้เรื่องราวของพวกเขาเหล่านี้แล้ว คุณจะรู้ว่าเราก็สามารถทำประโยชน์ให้สังคมได้มากมาย ทำสิ่งดีๆ เพื่อผู้อื่นและเพื่อความสุขใจตามวีถีของตนเอง คนกล้า หนังสือสารคดีเล่มนี้ทำให้ฉันรู้สึกเช่นนั้น งานเขียนเชิงสารคดีอย่างคนกล้า หลายๆ คนอาจมองว่าเป็นหนังสือที่นำเสนอเรื่องราวความเป็นจริง เฉกเช่นหนังสือสารคดีทั่วๆ ไป แต่ด้วยลีลาการเขียนของผู้แต่ง คุณวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ ที่สร้างสรรค์ข้อเท็จจริงเหล่านี้ให้มีชีวิตชีวา กลายเป็นนิยายชีวิตที่น่าติดตามเล่มหนึ่ง แม้อ่านตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่รู้สึกเลยว่านี่ฉันกำลังอ่านหนังสือสารคดีอยู่หรือ คนกล้า บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของบุคคลห้าคน ทั้งที่มีชื่อเสียงโด่งดัง หลายๆ คนอาจเคยได้ยินชื่อ แต่ก็ไม่เคยรู้ว่าชีวิตจริงของพวกเขาเป็นอย่างไร ถ้าหากคุณมีโอกาสได้อ่านคนกล้า เหมือนที่ฉันได้อ่านครั้งแรกด้วยความบังเอิญหนังสือเล่มนี้ซ่อนตัวอยู่ในชั้นไม้เก่าๆ ของห้องสมุดประชาชน ฉันรู้เลยว่าไม่มีเหตุผลใดๆ ที่ฉันจะต้องพลาดหนังสือเล่มนี้ หน้าปกหนังสืออันโดดเด่นสะดุดตาด้วยรูปบุคคลทั้งห้า คือ พระเจ้าตากสินมหาราช ม.จ. สิทธิพร กฤดากร พ. พีระ เฟื้อ หริพิทักษ์ และ สืบ นาคะเสถียร คนทั้งห้าล้วนแตกต่างกันด้วยวิถีชีวิตและการทำงาน แต่ทุกคนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือความเป็นคนที่ไม่ได้มีความหมายแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง คนกล้าที่มีจิตวิญญาณของนักสู้ผู้ยืนหยัดในคุณธรรม และยึดมั่นในอุดมการณ์ของตนเอง เกิดมาเพื่อทำประโยชน์ให้ผู้อื่นมากกว่าเพื่อตนเอง คนกล้า บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของพวกเขา โดยมีผู้แต่งเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดข้อเท็จจริงด้วยภาษาที่เรียบง่าย แต่ไม่ได้ทำให้ความเข้มข้นของเรื่องจริงลดลงเลย ชีวิตการต่อสู้ของพระเจ้าตากสิน ที่ท่านทรงมุ่งมั่นในการกู้เอกราชให้ชาติไทยกลับคืนมา หรือชีวิตและความตายของ สืบ นาคะเสถียร ที่ฉันอ่านเรื่องราวของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่รู้จักเบื่อ อ่านทุกครั้งลำคอก็ตีบตันทุกที ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าบนโลกใบนี้คนที่ยอมเสียละชีวิตอันมีค่าของตนเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม สืบทุ่มเทความพยายามทุกวิถีทางเพื่อรักษาป่าห้วยขาแข้ง จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก ฉันเกือบห้ามน้ำตาตนเองไม่อยู่เมื่ออ่านถึงข้อความที่ว่า “สืบ นาคะเสถียร รอวันนี้มานาน นาน พอจะรู้ว่า มีเพียงเสียงปืนนัดเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ความฝันของเขาเป็นจริงได้” ต้องยอมรับว่าผู้แต่งสามารถใช้สำนวนภาษาในการเขียนสารคดีที่เข้าถึงอารมณ์และความรู้สึกของผู้อ่านอย่างจริง ฉันอยากให้เพื่อนหรือนักอ่านท่านอื่นๆ ที่ชื่นชอบอ่านงานเขียนเชิงสารคดีหรือได้ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ เมื่ออ่านคนกล้า จบแล้วลองถามตัวเองดูบ้างว่าชีวิตนี้เคยคิดที่จะทำอะไรเพื่อผู้อื่นบ้างหรือไม่ คุณจะเกิดมาท่ามกลางชาติตระกูลอันสูงส่งหรือมีชีวิตที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนอย่างชนชั้นธรรมดา ขอเพียงมีความตั้งใจจริงเท่านั้น ม.จ. สิทธิพรพิสูจน์ให้เห็นว่าความเป็นเจ้าไม่ส่งผลใดๆ ต่อความแน่วแน่ในอุดมการณ์ที่จะเสียสละชีวิตนี้เพื่อชาวไร่ชาวนา มุ่งมันพัฒนาการเกษตรของไทยตามแนวทางของท่าน พ. พีระ หรือพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีระพงศ์ภานุเดช เจ้าดาราทอง ราชานักแข่งรถแห่งสยาม ที่แม้จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต ท่านก็ยังยืนหยัดในเจตนารมย์ที่จะช่วยเหลือผู้อื่นขณะเดียวกันที่วิญญาณขบถของชายชื่อเฟื้อ หริพิทักษ์ บั้นปลายของชีวิตทั้งในฐานะครูผู้ยิ่งใหญ่กับบทบาทนักอนุรักษ์ที่อุทิศตัวเพื่อการบูรณะสมบัติของชาติ เรื่องราวของพวกเขาทุกคนในหนังสือเล่มนี้อาจจะกระตุ้นพลังแห่งความดี ความศรัทธา ความกล้า และมุ่งมั่น ที่มีอยู่ในตัวคุณออกมา หากฉันจะเปรียบ คนกล้า เป็นดั่งเพชรก็คงเป็นเพชรที่เจียระไนด้วยความคิดการเรียบเรียงด้วยถ้อยภาษาการเขียนอันเฉียบคม แล้วคุณล่ะจะยอมพลาดการอ่านหนังสือดีๆ ที่มีคุณค่าเล่มนี้ได้อย่างไร

ฉากและบรรยากาศ ฉันคิดว่าเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เรื่องน่าติดตาม กระตุ้นให้ผู้อ่านเกิดจินตนาการ และความประทับใจ จะดีไปกว่านั้น หากผู้เขียนสามารถนำบรรยากาศของเรื่องมาตีความให้เห็นภาพในแง่มุมที่แปลกออกไปจากเดิม ยิ่งทำให้เรื่องที่อ่านมีความน่าสนใจมากขึ้น ดังเช่น หมู่บ้านอาบจันทร์ วรรณกรรมเยาวชนที่เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับเด็กๆ และครอบครัวที่อาศัยอยู่บนดอยสูง วิถีชีวิตชาวเขาที่คนพื้นราบมักจะเรียกพวกเขาว่า “กะเหรี่ยง ยางกะเลอ” แต่ที่พวกเขาเรียกตนว่า “ปาเกอะยอ” หมู่บ้านอาบจันทร์ เป็นหนังสือที่นักเขียนรางวัลซีไรต์ มาลา คำจันทร์ แต่งขึ้นจากชีวิตช่วงหนึ่งที่ได้เคยไปใช้ชีวิตเป็นครูสอนเด็กๆ บนดอย วรรณกรรมเรื่องนี้ทำให้เราได้สัมผัสชีวิตที่สงบ ไร้แสงสี ดิ้นรนอยู่ท่ามกลางความโดดเดี่ยว กันดาร ความรักระหว่างเพื่อน ความผูกพันระหว่างเด็กๆ กับครอบครัวและความหวงแหนของชุมชนกับป่า แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ ไม่มีหมอ ไม่มีโรงเรียน แต่ปาเกอะยอก็มีวัฒนธรรม ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ที่สามารถถ่ายทอดกันมาลูกชั่วหลาน ผู้เขียนได้ให้ความรู้เกี่ยวกับวิถีการดำรงชีวิตของชาวปาเกอะยอ เป็นความรู้ที่หาไม่ได้ในโรงเรียนทั่วไป แต่ได้จากโรงเรียนแห่งชีวิต เช่น การใช้ยาสมุนไพรรักษาโรคแบบดั้งเดิม กฎเกณฑ์ที่เคร่งครัด เช่น เรื่องจารีตประเพณี ชายหญิงจะสมสู่นอกคู่ครองไม่ได้เด็ดขาด หรือประเพณีการนับถือผีหลวง บูชาเซ่นไหว้ผีบรรพบุรุษ ฉันว่าคนเมืองอย่างพวกเราที่เรียกตนเองว่า “ผู้เจริญ” บางทีชาวปาเกอะยอน่าจะเป็นผู้ที่เจริญกว่าเสียอีก ความเจริญไม่ได้วัดที่ความก้าวล้ำนำสมัยเสมอไป แต่วัดกันที่จิตใจมากกว่า สังคมที่คนมีจิตใจดีงาม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ สมควรเรียกตนเองว่า “ผู้ที่เจริญแล้ว” จุดเด่นและความน่าสนใจในกลวิธีการแต่งเรื่องนี้ ประเมินจากความรู้สึกของฉันอยู่ที่ผู้เขียนสามารถบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยภาษาที่สวยงาม อย่างเช่น บทที่ 2 ลมหนาวได้พัดพาความหนาวเย็นมาเยือนหมู่บ้านหล่าเกวคี (ชื่อหมู่บ้านตามท้องเรื่อง) ผู้เขียนได้บรรยายว่า “ลมหนาวพัดรุนแรง เวลามันผ่านช่องแคบของหุบเขาจะดังเหมือนเสียงร่ำไห้ของคนที่อยู่ในโลกมืด” หรือประโยคที่ว่า “หมู่บ้านก็จะหลับใต้ความอ่อนโยนของเดือนบนฟ้า เหมือนเดือนจะปลอบโยน เหมือนมันจะชดเชยให้กับการโบยตีอันโหดร้ายของลมหนาว” มันมีเสน่ห์ตรงการสร้างสรรค์เปรียบเทียบที่ละมุมละไม แต่ให้ภาพชัดเจน บางบทผู้เขียนจบตอนด้วยประโยคที่ให้ผู้อ่านไปตีความคิดต่อเอาเอง จินตนาการเป็นเรื่องที่จำกัดความคิดใครไม่ได้ หรืออย่างความน่าสนใจของตัวละครและบทสนทนาที่มีความเป็นธรรมชาติ ให้รสชาติของการอ่านเหมือนกับเรากำลังอ่านหนังสือนวนิยาย รับรู้ถึงความร่าเริงของเด็กๆ ความสะเทือนใจ การพลัดพรากและลาจาก ผู้เขียน มาลา คำจันทร์ ได้กล่าวไว้ในคำนำว่า ใช้เวลาถึงปีเศษในการแต่งวรรณกรรมเยาวชนเรื่องนี้ ฉันว่ามันเป็นเวลาปีเศษที่คุ้มค่ากับการเสียไปจริงๆ ฉันโชคดีมากที่มีโอกาสได้อ่านวรรณกรรมเยาวชนเรื่องนี้ และฉันก็อยากให้เยาวชนคนอื่นๆ โชคดีเหมือนฉันเช่นกัน หมู่บ้านอาบจันทร์ จะทำให้รู้ว่าในเวลาเดียวกันที่การดำเนินชีวิตของเรารายรอบไปด้วยเทคโนโลยีที่ขาดไม่ได้ ในทางตรงกันข้าม ยังมีผู้คนส่วนหนึ่งดำรงชีวิตอยู่ได้ท่ามกลางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยมีความดี ธรรมะ และประเพณีที่ทุกคนยึดมั่นเป็นเครื่องหล่อหลอมจิตใจ ฉันเห็นด้วยกับผู้เขียนที่ว่า คนคนเดียวไม่อาจตัดสินใจ อยากเชิญให้ไปสัมผัสเยี่ยมเยียนหมู่บ้านอาบจันทร์ นอกจากนี้ยังมีหนังสืออีกมากมายหลายหลายเล่มรอให้อ่านอยู่ หนังสือก็เหมือนคนที่ต่างก็มีคุณค่าในตัวเอง อยู่ที่ว่าใครจะตีราคาคุณค่าของตนเองมากน้อยเพียงใด

สมถวิล สุขเลี้ยง
โรงเรียนนราธิวาส เกิด 26 มิถุนายน 2530 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ที่อยู่ 121/9 ถนนระแงะมรรคา ต.บางนาค อ. เมือง จ. นราธิวาส 96000
โทรศัพท์ 0-7351-1930
โรงเรียนนราธิวาส ถนนโคกเคียน ต. โคกเคียน อ. เมือง จ. นราธิวาส
อาจารย์ที่รับทราบการส่งงานเขียนเข้าประกวด
อาจารย์ประจวบ เฉิดฉิ้ม หมวดภาษาไทย