![]() |
น.ส. สุภา ผิวนวลชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนไพรธรรมคุณวิทยา อ. ขุนหาญ จ. ศรีสะเกษ |
เรื่อง หนังสือคือ อะไรข้าพเจ้าก็เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือ ไม่ระบุ แล้วแต่อารมณ์ว่าตอนไหนชอบอ่านเรื่องแนวใด ข้าพเจ้าอ่านมาแล้วอาจจะเรียกว่าทุกแนวก็ได้ เพราะข้าพเจ้าคิดว่าหนังสือคือแหล่งความรู้ เป็นเหมือนโลกกว้างในมือเรา เป็นครู เป็นทั้งเพื่อนในบางเวลา หนังสือเป็นผู้ตอบคำถามให้เราในสิ่งที่เรายังไม่รู้ หรือรู้แล้วแต่ยังไม่กระจ่าง และหนังสือที่ข้าพเจ้าชอบอ่านมากที่สุดคือ หนังสือนวนิยาย หรือวรรณกรรมที่บรรดานักประพันธ์ได้ถ่ายทอดความรู้ความคิดออกมาเป็นเรื่องราวต่างๆ แล้วแต่ใครจะรู้สึกอย่างไร กำหนดตัวละครขึ้นโลดแล่นเป็นตัวหนังสือหรือบางครั้งเป็นเรื่องราวจากชีวิตจริง ปุลากง เป็นหนังสือนวนิยายเล่มแรกที่ข้าพเจ้าหยิบมาอ่าน และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ข้าพเจ้าชอบงานเขียนประเภทที่มีแต่ตัวหนังสือโดยไม่มีรูปภาพใดๆ ประกอบเรื่องเลย ในเรื่องนี้เมื่อข้าพเจ้าอ่านรู้สึกว่า บางครั้งบางตอนมันซาบซึ้งเกินคำบรรยายถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว และข้องใจว่าในความเป็นจริงนั้นเรื่องราวแบบนี้มีจริงหรือ ตัวเอกชื่อ เข้ม หรือ ศกร ไม่มีเงินต้องห่อข้าวไปกินโรงเรียนจนถูกเพื่อนๆ ล้อว่าเด็กวัด วันหลังต้องหลบมากินข้าวที่ห้องน้ำคนเดียว บางครั้งก็น้อยเนื้อต่ำใจตนเองว่าไม่ควรเกิดมาในโลกใบนี้เลย เพราะคิดว่าตนเป็นลูกที่เขาไม่ต้องการให้เกิด ต้องอยู่กับแม่มีชีวิตแบบปากกัดตีนถีบ ทั้งที่พ่อเป็นคนที่มีชาติตระกูล ฐานะดี เป็นลูกเมียน้อย พักอยู่ในเรือนเล็ก เมื่อไปเรือนใหญ่ก็ถูกคนใช้หมิ่นศักดิ์ศรีเอาบ่อยๆ แต่ในขณะที่ลูกคนอื่นๆ ของพ่อกับเมียหลวงนั้นกลับล้มเหลวในการดำเนินชีวิต นี่ก็เป็นอีกชีวิตหนึ่งที่ข้าพเจ้าคิดว่า ในบางครั้งเราอย่าเพิ่งชะล่าใจกับสิ่งที่เราเห็นสิ่งที่เราเป็น อย่ายิ้มเยาะกับคนที่เราคิดว่าต่ำต้อย เพราะวันข้างหน้าเขาอาจเป็นอะไรก็ได้ที่เราอาจคิดหรือคาดเดาไม่ได้ บางครั้งก็ทำให้ข้าพเจ้าคิดว่าอย่าดูถูกชะตาชีวิตของเราในตอนนี้ ถ้าเรามีความพยายามและมีความอดทนแล้ววันข้างหน้าคงเป็นวันของเราบ้าง อีกตอนหนึ่งที่ข้าพเจ้าชอบมากก็คือ ช่วงวัยหนุ่มสาวเป็นช่วงที่เข้มพบกับหนูตุ่นที่อำเภอปุลากงในภาคใต้ พร้อมกับพบปัญหาการก่อการร้ายหรือการก่อความไม่สงบ ก็เหมือนกับสี่จังหวัดภาคใต้ของเราในตอนนี้ เมื่อข้าพเจ้าฟังข่าวทำให้ข้าพเจ้านึกถึงเรื่องปุลากง ขึ้นมาทันที ทั้งที่ข้าพเจ้าอ่านเรื่องนี้เมื่อหลายปีมาแล้ว และเรื่องนี้ก็เป็นความรักที่ก่อตัวให้สถานการณ์ไม่สงบ เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นภาพชัดเจนถึงสภาพความเป็นอยู่ของสังคมในภาคใต้ ชีวิตที่มีความสนุกสนานเฮฮากับการประกอบอาชีพและประเพณีต่างๆ ที่น่าสนใจแต่ก็ต้องหวาดระแวงกับเสียงปืน ข้าพเจ้านึกสงสารเด็กๆ ที่เรียนหนังสือ ขาดแคลนแม้กระทั่งครูสอนหนังสือ ต้องเอาวิทยากรที่มาพัฒนาชุมชนของตนช่วยสอนหนังสือบ้าง บางครั้งไปโรงเรียนพร้อมความหวาดกลัว จนทางการต้องส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลอย่างใกล้ชิด และนั้นก็คือที่มาของความรักของเข้ม นายตำรวจหนุ่มกับหนูตุ่นวิทยากรสาว แต่เป็นความรักที่อยู่ท่ามกลางสถานการณ์อันไม่สงบ แต่เรื่องราวของนวนิยายเรื่องนี้ก็ลงตัวได้ดี สนุกสนาน ชวนติดตาม น่าลุ้นบ้าง และขอรับรองว่าใครอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว จะได้รับรสชาติชีวิตครบทุกรส สายลม เสียงซอ เป็นอีกผลงานหนึ่งที่ชวนติดตาม การเขียนในแนวชาวบ้าน ธรรมชาติ และอารมณ์ต่างๆ ผสมผสานกับจินตนาการ เมื่ออ่านแล้วบางครั้งรู้สึกว่าผู้เขียนสามารถทำสิ่งที่ดูเหมือนไม่มีชีวิตให้ดูมีชีวิตได้ และสามารถเขียนถึงบุคคลสมมุติได้อย่างแยบยล น่าหลงใหล ชวนติดตาม ในเรื่องนี้สิ่งที่ข้าพเจ้าชอบมากที่สุดคือวิถีการดำเนินชีวิตของครูอุดม ตัวเอกของเรื่องที่คลุกคลีอยู่กับเสียงเพลง เมื่ออ่านแล้วทำให้รู้สึกรักและหวงแหนดนตรีไทยของเรา และเห็นคุณค่าดนตรีไทยขึ้นมาทันที ทั้งที่ผู้เขียนไม่รู้จักดนตรีไทยหรือดนตรีพื้นบ้านเลย แต่เพราะความอุตสาหะ วิริยะ ในการศึกษาทำให้สามารถเอามาประยุกต์เขียนเป็นเนื้อเรื่องนี้ขึ้นมาได้อย่างลงตัว เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของความรักเหมือนเดิม เพียงแต่มีการแต่งแต้มสีสนของเนื้อเรื่องให้น่าสนใจยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าชอบคือคติสอนใจในเรื่องนี้ซึ่งมีอยู่มากมาย อ่านไปก็ทำให้คิดถึงตนเอง เพราะบางตอนมันเหมือนกับชีวิตของข้าพเจ้า ชอบตอนที่ครูอุดมสอนคล้าเรื่องของไอ้เขียม ซึ่งเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ก็ไม่มีใครสอนเรื่องการดำเนินชีวิตที่ดี เกิดมาท่ามกลางเสียงด่าทอของแม่ซึ่งเป็นคนพูดแต่คำหยาบคาย ครอบครัวไม่อบอุ่น มีแต่เรื่องทะเลาะกันทุกวัน ทำให้ไอ้เขียมกลายเป็นเด็กที่มีปัญหา เป็นนักเลงประจำหมู่บ้าน แต่แม่ของเขาก็ไม่ผิด เพราะตอนเด็กๆ แม่ก็เป็นเด็กมีปัญหาเหมือนกัน จะเห็นได้ว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นย่อมมีเหตุและปัจจัยของมันทั้งนั้น ยังมีอีกหลายตอนที่ข้าพเจ้าชื่นชอบ ยอมรับว่าข้าพเจ้าชอบเรื่องนี้จริงๆ ชอบการดำเนินชีวิตที่อยู่ท่ามกลางป่าเขา ทุ่งนา และก็มีเรื่องสภาพการดำเนินชีวิตของคนในสังคมเข้ามาเกี่ยวข้อง นวนิยายสองเรื่องที่ข้าพเจ้าได้แนะนำมาข้างต้นล้วนเป็นเรื่องราวของความรักมาเกี่ยวข้องด้วยและมีเสียงปืน ความตายมาเสริมเนื้อเรื่องนี้ ทำให้ข้าพเจ้าได้รู้ถึงอันตรายของปืนที่ในสมัยก่อนใครอยากถือปืนก็ได้ถือ อยากยิงปืนตอนไหนก็ได้ยิง และที่สำคัญอยากยิงใครตอนไหนก็ได้ มินึกเกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ข้าพเจ้าเห็นด้วยกับรัฐบาลที่พยายามจะปราบปรามผู้มีอิทธิพล และวางมาตรการเกี่ยวกับการใช้ปืนและอาวุธสงคราม เมื่ออ่านหนังสือเรื่องปุลากง และสายลม เสียงซอ บางครั้งคุณอาจจะเห็นด้วยกับสิ่งที่รัฐบาลทำหรือสามารถเดาเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศของเราในสมัยปัจจุบัน เพราะว่าผู้เขียนคือคนไทยที่นำเรื่องราวต่างๆ ที่พบเห็นหรือนำความรู้สึกเขียนลงไปในเรื่องนี้ เพื่อสื่อถึงความคิด บางครั้งนวนิยายที่เขียนขึ้นมาก็ไม่ใช่เพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ว่ามีอะไรที่เกินกว่านั้น โดยเฉพาะสอนการใช้ชีวิตให้กับผู้อ่าน นี่คือสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุด หนังสือสำหรับบางคนเมื่ออ่านแล้วก็เป็นยานอนหลับที่ดี แต่สำหรับข้าพเจ้า การอ่านเป็นยารักษาความโง่ของคนให้ฉลาดได้ บางคนหนังสือคือเพื่อนแท้ในยามที่เหงา ไม่มีใคร บางคนหนังสือคือครูหรือแหล่งท่องเที่ยว หนังสือมีอะไรหลายๆ อย่างที่น่าค้นหา ทำให้เรามองเห็นตนเอง มองเห็นคนอื่น มองว่าโลกนี้ยังมีอะไรอีกมากมายให้คุณค้าหา คุณไม่อยากหาสิ่งดีๆ ให้กับตัวคุณบ้างหรือ? ลองหาหนังสือสักเล่มหนึ่ง หนังสือที่คุณสนใจ แล้วให้มันอยู่ใกล้ๆ ตัวคุณ แล้วคุณจะรู้ว่าหนังสือมีคุณค่าและให้อะไรกับคุณมากกว่าที่คุณคิดก็ได้ | |
นางสาวสุภา ผิวนวล นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนไพรธรรมคุณวิทยา ต. ไพร อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ 33150 |