![]() |
ด.ญ. อัญชลี เตือนวีระเดชชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี | ||||
เรื่อง เรื่องหมาๆ ก็ไม่หมาขึ้นชื่อว่า หมา ใครไม่รู้จักนับว่าเชยมาก โดยเฉพาะในเมืองไทยซึ่งมีหมาชุกชุม จนถือได้ว่าหมาเป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของสังคม ในจำนวนหมาที่มีอยู่มากมายนั้น หลายๆ ตัวมีเจ้าของคอยให้ความรักความเมตตาและมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งอย่างเป็นสุขก็นับว่าเป็นบุญของหมาตัวนั้นอย่างล้นเหลือ แต่อีกหลายๆ ตัว มีเจ้าของก็ไม่ได้หมายความว่าเพียบพูนด้วยความสุข บางครั้งถูกเจ้าของเตะต่อยใช้เป็นที่ระบายอารมณ์อย่างไม่เป็นธรรม แต่หมาก็ไม่เคยโกรธเคืองด้วยชีวิตและวิญญาณของมันมีแต่ความจงรักภักดีต่อเจ้าของ หมาอีกหลายตัวไม่มีเจ้าของ เป็นหมาจรจัดต้องทำมาหาเลี้ยงชีพตั้งแต่เล็กๆ ด้วยการคุ้ยหาเศษขยะอย่างน่าเวทนา อยู่ด้วยความหวาดระแวงไม่เป็นสุข เพราะมนุษย์หลายคนมองมันด้วยสายตาขยะแขยงเหมือนกับว่าพวกหมาเป็นเหลือบสังคมก็ปานนั้น ภาพหมาถูกรถชนบนถนนจนเศษเนื้อกระจายมีให้เห็นบ่อย มนุษย์บางคนเมื่อเห็นหมากำลังจะข้ามถนนตั้งใจเร่งเครื่องเข้าไปชนก็มี ยังกับว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมาแต่ปางก่อนข้าพเจ้าเลือกเขียนเกี่ยวกับเรื่อง หมา เพราะข้าพเจ้าเป็นหนี้บุญคุณของ หมา เพราะหมาได้ช่วยให้ข้าพเจ้ารอดจากเขี้ยวงูสามเหลี่ยม ในคืนหนึ่งที่เดินป่า ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังก้มๆ เงยๆ บนพื้นดินที่มัจจุราชตัวเหลี่ยมกำลังตั้งท่าอยู่ทางหลังเท้าขวา หากไม่มี หมา ที่ตามหลังมา และจัดการเจ้างูตัวนั้นก่อน คนที่โชคร้ายคงเป็นข้าพเจ้าแน่นอน เรื่องของ หมา ก็เลยไม่ หมา สำหรับข้าพเจ้าตั้งแต่นั้นมา บ่อยไปที่ข้าพเจ้าได้เห็นภาพหมานั่งรอเจ้าของอย่างภักดีอยู่ที่ประตูหน้าบ้านด้วยท่าทีกระสับกระส่ายเดินเข้าเดินออก ยิ่งดึกยิ่งกังวลและส่งเสียงหอนโหยหวนอย่างยาวนาน ใช่ มันกำลังร้องไห้อย่างว้าเหว่ หมามีสัญชาตญาณจำแนกมิตรและศัตรูได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยเฉพาะมนุษย์ที่คอยจับหมาไปชำแหละเบียดบังเนื้อหนังกระดูกจากชีวิตหมา โดยใช้ความฉลาดที่มนุษย์มีมากกว่าไปหลอกล่อหมา หรือใช้เศษเงินไปแลกชีวิตหมาจากเจ้าของหมาหลายคน หมา ก็คือ หมา มันเป็นสัตว์เดรัจฉานที่ตรงไปตรงมา จิตใจหมาจึงเข้าใจง่ายกว่ามนุษย์ที่ยอมขายชีวิตหมาทั้งๆ ที่รู้ว่านั่นเป็นการส่งหมาไปตาย หมาแม้จะมีปากแต่มันพูดไม่ได้ ร้องขอชีวิตและความเป็นธรรมไม่ได้ นอกจากใช้สายตาวิงวอนต่อมนุษย์ผู้ที่มันไว้ใจที่สุด ข้าพเจ้าจึงถือโอกาสนี้แนะนำหนังสือเกี่ยวกับ หมา สักสองเล่มที่ท่านควรต้องหามาอ่าน เพราะการศึกษาจิตใจหมาเป็นการปูพื้นฐานการศึกษาจิตใจมนุษย์ที่ซับซ้อนมากกว่า เล่มแรกคือ เรื่องทองแดง (The Story Of Tongdaeng) ซึ่งเป็นบทพระราชนิพนธ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ของไทย เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่พระองค์ท่านได้ทรงเขียนให้เห็นถึงความรักของหมาที่เป็นสากล ไม่มีขีดขั้นด้วยชนชั้น วรรณะ หรือลัทธิ ซึ่งหมาไทยพันธุ์ทางเพศเมียที่ชื่อ ทองแดง ได้ถวายตัวรับใช้ในหลวงอย่างไม่เย่อหยิ่งอีกทั้งยังเฉลียวฉลาดจนเป็นที่โปรดปรานยิ่งนัก พระองค์ทรงถึงกับอาบน้ำให้ทองแดงด้วยพระองค์เองอย่างเอ็นดู ทองแดงทำให้ความเชื่อของผู้เลี้ยงหมาที่ว่า หมาไทยค่อนข้างเชื่อมั่นในตนเอง จึงไม่ค่อยปฏิบัติตามคำสั่ง ไม่เหมาะกับการนำไปฝึกเพื่อใช้งาน เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เราจึงไม่ค่อยเห็นการตรวจจับ ดมกลิ่นของตำรวจใช้หมาไทยเลย ทองแดงทำให้เรารู้ว่าภาษาของหมานั้นเข้าใจง่ายแค่มันได้มองตา ได้ยินเสียงพูดมันก็รู้แล้วว่าเจ้านายต้องการอะไร และมันก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามโดยไม่ขัดขืนทันที คำสั่งง่ายๆ ที่ในหลวงทรงสั่งให้ทองแดงนอนหงาย ก็คือ แอ้งแม้ง ซึ่งทองแดงก็จะนอนหงายสี่ขาชี้ฟ้าอย่างว่าง่ายต่อหน้าพระองค์เพื่อให้พระองค์ประแป้งให้หลังอาบน้ำ การแสดงออกอย่างง่ายๆ ของทองแดง เช่นการเลียพระหัตถ์สื่อให้พระองค์ทราบว่า ถึงเวลากลับแล้ว เป็นต้น ทุกๆ ตอนของเรื่องทองแดง ถ่ายทอดอย่างละเอียดพร้อมภาพสีฝีพระหัตถ์ที่สวยงามตลอดเล่ม ทำให้ผู้อ่านสามารถมองเห็นอิริยาบถของทองแดงบางอย่างที่พระองค์มองเห็น อีกทั้งผู้อ่านยังได้เห็นภาพพระองค์คลุกคลีอยู่กับหมาไทยทองแดงตัวนี้อย่างไม่ถือพระองค์เลย พระองค์ให้ความรักความเอาใจใส่ต่อทองแดงอย่างไม่รังเกียจแม้ว่าทองแดงจะเป็นเพียงลูกหมาไทยจรจัดตัวหนึ่งก็ตาม แม้กระทั่งบันทึกอิริยาบถการเลี้ยงลูกๆ ของทองแดงจนผู้อ่านมองเห็นได้ เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เราทราบว่าในหลวงของเราทำอะไรแล้วตั้งใจและจริงจัง พระองค์ถึงกับค้นคว้าสายพันธุ์ต่างๆ เพื่อเทียบเคียงหาบรรพบุรุษ หรือชาติพันธุ์ของทองแดงจนสามารถสรุปอย่างมีเหตุผลได้ด้วยความรักที่ทองแดงมีต่อพระองค์ และความเมตตาที่พระองค์มีให้กับทองแดง พระองค์ถึงกับใช้ตราทองแดง (สุวรรณชาด) เป็นตราเสื้อในโครงการส่วนพระองค์ เรื่องทองแดง จึงมีส่วนช่วยให้หมาจรจัดทั่วไปได้รอดตาย อีกทั้งยังทำให้หมาไทยมีโอกาสได้รับการฝึกหัดเพื่อช่วยงานตำรวจเทียบชั้นหมาเทศอย่างทุกวันนี้ได้ เล่มที่ 2 คือ เรื่องของคนรักหมา ซึ่งเขียนโดยหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมท อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ชั่วชีวิตของท่านผูกพันอยู่กับหมา และเนื่องจากท่านเป็นคนสนใจเรื่องของบ้านเมือง หมาทุกตัวที่ท่านเลี้ยงจึงถูกตั้งชื่อตามเหตุการณ์บ้านเมือง เป็นต้นว่า เสือใบ เสือสมิง เสือบวม ฉิ่งฉับ คำใส เป็นต้น ชื่อหมาเหล่านี้ล้วนมีที่มาอย่างน่าสนใจซึ่งสามารถอ่านได้จากหนังสือเล่มนี้ แล้วยังทำให้ทราบเหตุการณ์บ้านเมืองในสมัยนั้นๆ ได้ด้วย เรื่องนี้ผู้เขียนเขียนขึ้นจากประสบการณ์จริงที่คลุกคลีผูกพันอยู่กับหมามาตั้งแต่เด็ก ด้วยเหตุผลที่ว่าการศึกษาจิตใจของหมาง่ายกว่าศึกษาจิตใจของคน ท่านจึงได้ค้นคว้าความรู้เกี่ยวกับหมามากมายและถ่ายทอดลงในหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่ ฉี่หมา บอกอะไรได้บ้าง หมาศึกษาประวัติของหมาด้วยกันจาก ฉี่ ของหมาได้ ท่าทางการฉี่ของหมา เช่น ฉี่ยกขากับฉี่ไม่ยกขาของหมาตัวผู้ การฉี่ทับฉี่หมาอื่น ฉี่กะปริดกะปรอย หรือฉี่แบบสุภาพของหมาตัวเมีย ล้วนบ่งบอกพฤติกรรมหรือความหมายของหมาได้ นอกจากนั้นเสียงหอนของหมาก็ยังมีหลายแบบ เช่น หอนรับช่วง หอนสั้น หอนยาว หรือหอนโดดเดี่ยว ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าทราบจากหนังสือเล่มนี้ เรื่องราวหลายอย่างในหนังสือเล่มนี้ทำให้ผู้คนหัวเราะได้และเปลี่ยนเป็นน้ำตาได้เช่นกัน โดยเฉพาะการบรรยายถึงความผูกพันที่ท่านมีต่อหมาที่เลี้ยงมาทุกตัวด้วยความจำที่สดใสเหมือนเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้เอง และที่สำคัญทำให้ผู้อ่านได้ทราบถึงความรักของชายผู้สูงส่งผู้หนึ่งที่มีต่อ ย่าเหล เมื่อต้องจากกันด้วยเหตุอันไม่ควร ทำให้ชายผู้สูงส่งผู้นั้นได้เขียนกลอนบรรยายจากก้นบึ้งของหัวใจของเขาที่มีต่อ ย่าเหล ทุกบททุกตอนของตัวอักษรในบทกลอนนี้ ล้วนทำให้ข้าพเจ้าขนลุก เพราะชายผู้สูงส่งผู้นี้ก็คือในหลวงรัชกาลที่ 6 ของไทย หนังสือเกี่ยวกับหมาทั้งสองเล่ม ที่ข้าพเจ้าแนะนำให้อ่านนี้ ได้เผยแพร่ความผูกพัน ความจงรักภักดีของหมาที่มีต่อมนุษย์ด้วยการแสดงออกจากพฤติกรรมต่างๆ อย่างใสซื่อ บริสุทธิ์ มิบังควรที่เราผู้เป็นมนุษย์จะฉวยโอกาสใช้ความฉลาดที่ซับซ้อนมากกว่าไปเบียดเบียนเนื้อ หนัง กระดูก และชีวิต ไปจากหมาเหล่านี้อีกไป
| |||||
ด.ญ. อัญชลี เตือนวีระเดช เกิดวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2534 อายุ 13 ปี ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่อยู่ บ้านเลขที่ 10/22 ถ. สมบูรณ์กุล ต. หน้าเมือง อ. เมือง จ. ราชบุรี 70000 เบอร์โทรศัพท์ 0-3233-8845, 0-5182-4122 E-MAIL THUANWERADEJ@CHAIYO.COM โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี ถ. มนตรีสุริยวงศ์ ต. หน้าเมือง อ. เมือง จ. ราชบุรี 70000 |