กลับไปหน้า สารบัญ
เปลื้องผ้าเพื่อป่าไม้
เรื่อง : รุ่งโรจน์ จุกมงคล
ภาพ : ปณต ไกรโรจนานันท์

    บรรดาสาวมั่นทั้งหลายที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เมื่อไปปรากฏตัวที่ใดก็มักจะได้รับความสนใจจากผู้คนเสมอ แต่คุณเคยสังเกตบ้างไหมว่า มันไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป โดยเฉพาะเวลาที่เดินเข้าร้านอาหาร...
    เพราะดูเหมือนว่าในร้านเหล่านั้น สาวมั่นอย่างคุณอาจได้รับการใส่ใจ น้อยกว่าเพศตรงข้าม 
    ว่ากันว่าแม้คุณจะจบจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ใส่ชุดของอาร์มานี่ สะพายกระเป๋าหลุยส์ วิกตอง เดินเข้าไปในร้านอาหารเพื่อหาโต๊ะว่าง บริกรในร้านก็อาจทำเป็นมองไม่เห็น และหันไปสนใจคุณผู้ชายที่กำลังเดินหาโต๊ะแทน
    จากแบบสอบถามที่จัดทำขึ้นโดยทีมงานหนังสือ Zagat Survey of America's Top Restaurants ลูกค้าของร้านอาหารชื่อดังในสหรัฐอเมริการ้อยละ ๘๓ ระบุว่า ลูกค้าผู้ชายมักได้รับการต้อนรับจากทางร้าน ดีกว่าลูกค้าผู้หญิง
    แบบสอบถามชุดนี้ประกอบด้วยคำถามว่าด้วยราคาอาหาร รสชาติอาหาร การบริการ การตบแต่งภายในร้าน ฯลฯ ของร้านอาหารชื่อดังมากกว่า ๑,๑๓๐ แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามนี้เข้ามาถึง ๑ แสนคน 
    หนังสือเล่มนี้ระบุว่าร้อยละ ๙๐ ของผู้ตอบแบบสอบถามในกรุงซานฟรานซิสโก เห็นว่าผู้ชายได้รับการบริการที่ดีกว่า ขณะที่ในกรุงนิวยอร์ก ตัวเลขอยู่ที่ร้อยละ ๘๐ 
    "เมื่อผู้หญิงกับผู้ชายมารับประทานอาหารเย็นด้วยกัน ผู้ชายจะเป็นคนสั่งไวน์และลองชิมไวน์ เมื่อถึงเวลาเก็บเงิน บ๋อยก็จะมุ่งหน้าไปวางบิลที่ผู้ชายมากกว่า ทำให้พนักงานในร้านสนใจลูกค้าผู้ชายมากกว่า" นายทอม ซาแกต บรรณาธิการหนังสือเล่มดังกล่าวให้สัมภาษณ์
    ด้านผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นสุภาพสตรีระบุว่า เมื่อเข้าไปในร้านอาหาร เธอรู้สึกราวกับว่าตนเองเป็นพลเมืองชั้นสอง หากเธอมารับประทานอาหารเย็นกับเพื่อนผู้หญิงหรือมาคนเดียว บริกรจะพาเธอไปนั่งโต๊ะที่ไม่ค่อยดี และการบริการก็แย่พอกัน
    โจอีเลน แซ็คส์ แห่งสมาคมบาร์อเมริกันในกรุงชิคาโกเห็นด้วยว่า โดยปรกติพนักงานในร้านอาหาร จะนำคุณผู้หญิงที่มาคนเดียวไปนั่งด้านหลังของร้าน
    "พวกบ๋อยมักมีสมมุติฐานในใจว่า ผู้ชายจะให้ทิปดีกว่าผู้หญิง ดังนั้นจึงมักเอาใจผู้ชายมากกว่า" แซ็คส์ตั้งข้อสังเกต 
    ที่น่าสนใจคือ ร้านอาหารฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน มักจะไม่ค่อยรับผู้หญิงเป็นพนักงานเสิร์ฟ ขณะที่ร้านอาหารชั้นสูงก็จะรับแต่พนักงานชาย และให้พนักงานเหล่านั้นแต่งทักซิโดเพื่อยกระดับร้านอาหารให้ดูสูงเริ่ดขึ้นไปอีก
    นอกเหนือไปจากร้านอาหาร สาว ๆ ที่ไปซื้อไวน์ เหล้า หรือเบียร์ ตามซูเปอร์มาร์เกตหรือตามร้านค้า ก็มักจะถูก "เลือกปฏิบัติ" เช่นเดียวกัน จนถึงกับมีการทดสอบโดยส่งอาสาสมัครชายหญิงหลายคน ไปซื้อไวน์ตามร้านค้าต่าง ๆ จากการทดสอบได้พบข้อมูลที่น่าสนใจ กล่าวคือ
    พนักงานขายไวน์จะเอาใจใส่กับผู้ชายผิวขาวมากที่สุด รองลงมาคือสาวผิวขาว ถัดมาคือสาวเลือดผสมเอเชีย และสุดท้ายคือสาวนิโกร ซึ่งพนักงานขายไวน์แทบจะไม่สนใจเลย
    "ดิฉันถูกดูถูกจากคนขายทีเดียว พอเข้าร้านไม่ทันจะเอ่ยปาก พนักงานขายก็เอาไวน์ราคาถูกที่สุดในร้านมาให้ดิฉันดูก่อน ราวกับว่าดิฉันมีปัญญาซื้อได้แค่นี้ พอดิฉันจะเดินไปดูไวน์ชนิดต่าง ๆ ในร้าน พวก รปภ. ก็เดินตามราวกับว่าจะมาขโมยของ" อาสาสมัครหญิงนิโกรคนหนึ่งกล่าวอย่างอารมณ์ดี 
    ทางด้าน ดร. แวนด้า โดบริช จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอคติทางเพศในการทำงาน ตั้งข้อสังเกตว่า หลายครั้งที่พนักงานบริการฝ่ายชาย มักจะมีพฤติกรรมดูถูกลูกค้าผู้หญิงโดยไม่ตั้งใจ อาทิ พาลูกค้าผู้หญิงไปนั่งที่ด้านในสุดของร้านอาหาร เพื่อกันโต๊ะดี ๆ ไว้ให้ลูกค้าผู้ชายด้วยหวังทิปหนัก ๆ หรือพูดให้สั้นคือ ผู้ชายจ่ายเก่งกว่าผู้หญิง โดยเฉพาะเวลาเมา ชอบแย่งกันเป็นเจ้าภาพ และทิปไม่อั้น
    เรื่องนี้ สว. บางคนทราบดี เพราะเผลอทิปให้น้องหนูไม่อั้น จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวในรอบปี