สารคดี ปีที่ ๑๘ ฉบับที่ ๒๑๔ เดือน ธันวาคม ๒๕๔๕
สารคดี ปีที่ ๑๘ ฉบับที่ ๒๑๔ เดือน ธันวาคม ๒๕๔๕ "หมาสมัยใหม่, ความรัก, และผลประโยชน์"
นิตยสารสารคดี Feature Magazine ISSN 0857-1538
  ปีที่ ๑๘ ฉบับที่ ๒๑๔ ธันวาคม ๒๕๔๕  

"ชุดนักศึกษาหญิง" กะเทยมีสิทธิ์ไหมคะ?

"ชุดนักศึกษาหญิง" กะเทยมีสิทธิ์ไหมคะ ?
(ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณ คลิกที่นี่)
เกษร สิทธิหนิ้ว : รายงาน / บุญกิจ สุทธิญาณานนท์ : ถ่ายภาพ
      "ระเบียบกติกาสำคัญยิ่งประการหนึ่งของสังคมที่หลาย ๆ คนยึดถือ แต่ไม่ค่อยจะนึกถึง คือการแสดงออกทางเพศให้ตรงกับเพศสภาพที่ได้รับมอบหมาย แบบว่าผู้หญิงก็ควรจะแต่งเนื้อแต่งตัวเป็นผู้หญิงให้ชัดเจน และผู้ชายก็ควรแสดงออกทั้งทางกายและกิริยาให้เป็นผู้ชาย... แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยในระบบที่แบ่งคนออกเป็นเพียงสองเพศสภาพนี้ ที่ไม่ค่อยจะพออกพอใจกับเพศสภาพที่ได้รับมอบหมายตามลักษณะอวัยวะเพศที่ติดร่างกายมาแต่กำเนิด และแสดงออกทางเพศไม่ตรงกับความคาดหวังหรือการกำหนดของสังคม คนในสังคมจึงได้เห็นกรณีของผู้ที่เกิดมาพร้อมอวัยวะเพศชาย และถูกอบรมกล่อมเกลาให้เป็นผู้ชาย มีกิริยาอาการหรือแต่งกายใส่เสื้อผ้าแบบผู้หญิง... อย่างที่เรียกว่า "กะเทย" ถูกมองว่าเป็นปัญหามากบ้างน้อยบ้างต่างกันไปในแต่ละสังคม"

ดร. ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ
เนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ ๑๘ พ.ย. ๒๕๔๕


      ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเสนอข่าวกะเทยในสถานศึกษาบางแห่งแต่งชุดนักศึกษาหญิงไปเรียน เป็นข่าวหน้าหนึ่ง ติดตามมาด้วยการนำเสนอเป็นสกู๊ปพิเศษและบทความต่อเนื่องอีกหลายวัน อาจารย์ในหลายสถาบันมีท่าทีไม่เห็นด้วยต่อกรณีนี้ เพราะเห็นว่าเป็นการแสดงออกซึ่งเสรีภาพที่เกินขอบเขต ขณะที่อีกฝ่ายซึ่งไม่ได้คัดค้าน (แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสนับสนุนหรือเห็นดีเห็นงามด้วย) มองว่าเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกซึ่งตัวตนในขอบเขตที่ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร อีกทั้งไม่ใช่ประเด็นที่ควรเป็นข่าวเพราะเป็นเรื่องธรรมดา นอกเสียจากว่าหนังสือพิมพ์ต้องการสร้างประเด็นเพื่อเพิ่มยอดขายเท่านั้น
      ในบทความ "กะเทยเหล็ก" ของ ดร. ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ ที่ยกมาข้างต้น วิเคราะห์ปรากฏการณ์นี้ต่อว่า สังคมกำหนดให้คนต้องเป็นเพศสภาพใดเพศสภาพหนึ่งซึ่งถูกจัดแบ่งโดยอวัยวะเพศที่มีอยู่ การแต่งกายและท่าทางการแสดงออกก็ควรชัดเจนตามเพศสภาพนั้น ไม่ควร "ข้ามเส้น" ทำตัวเป็นอีกเพศหนึ่ง สังคมจะเรียกผู้ชายที่มีพฤติกรรมและแสดงออกในแบบผู้หญิงว่าเป็น "สาวประเภทสอง" หรือ "กะเทย" เพราะความคิดเรื่องระบบเพศสภาพทำให้เชื่อว่ามี "สาวประเภทหนึ่ง" อยู่แล้ว (คือถูกจัดให้เป็นหญิงอย่างชอบธรรม เพราะมีอวัยวะเพศหญิงและแสดงออกตามแบบแผนที่สังคมกำหนด ทั้งที่ในความเป็นจริงผู้หญิงที่ถูกจัดว่าเป็นประเภทที่หนึ่งนั้นอาจจะไม่มีอยู่หรือมีน้อยเหลือเกิน) 
      การที่ "สาวประเภทหนึ่ง" ไม่สามารถจะมี หรือแสดงลักษณะความเป็นหญิงได้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเพราะความขาดทางกายภาพ (หน้าตาไม่สวย รูปร่างไม่ดี) หรือเพราะความไม่พอใจกับลักษณะดังกล่าว สาวประเภทหนึ่งจึงหลีกเลี่ยงที่จะทำตัวเป็นผู้หญิง ขณะที่ "สาวประเภทสอง" นั้นอยากจะเป็นผู้หญิง ก็เลยรับเอาลักษณะที่ถูกจัดว่าเป็นหญิง โดยเฉพาะท่าทางการแสดงออกและการดูแลร่างกาย ที่สาวประเภทหนึ่งออกจะขาดๆ เกินๆ เพื่อให้ได้รับการยอมรับว่าตัวเองเป็นผู้หญิง (ซึ่งสาวประเภทสองมีคุณสมบัติทั้งรูปลักษณ์และการแสดงออกได้ดีกว่าผู้หญิงจริง ๆ) 
      การแสดงออกและพยายามจะเป็นผู้หญิงของกะเทยหลายๆ คน จึงเป็นทั้งขบถของระบบเพศสภาพ และเป็นผู้รักษาระบบเพศสภาพให้ดำรงอยู่ไปพร้อมๆ กัน
แต่การ "แตกแถว" ต่อระบบความเชื่อใด ๆ มักจะนำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และการตั้งคำถามเอากับ "จำเลย" ในเรื่องนั้น ๆ เสมอ การแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาหญิงของกะเทยหลาย ๆ คนในสังคมไทยขณะนี้ก็เช่นเดียวกัน
      ศูนย์ประชามติ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในกรุงเทพฯ หัวข้อ "สิทธิและบทบาทของกะเทย : สังคมยอมรับเพียงใด" โดยเก็บข้อมูลจากการสุ่มตัวอย่าง ๑,๔๙๐ คน แบ่งเป็นเพศชายร้อยละ ๔๑.๓ เพศหญิงร้อยละ ๕๕ กะเทยร้อยละ ๒.๘ และอื่น ๆ เช่น ทอม ดี้ ร้อยละ ๐.๘ 
      กลุ่มตัวอย่างเหล่านี้ให้ความเห็นเกี่ยวกับสิทธิของกะเทยหลายประการ ส่วนใหญ่ (ร้อยละ ๗๗.๓) เห็นว่ากะเทยควรได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายเมื่อถูกข่มขืน ส่วนสิทธิเรื่องการจดทะเบียนสมรสนั้น ร้อยละ ๕๐.๕ เห็นว่าควรได้รับ ขณะที่ร้อยละ ๔๙.๕ เห็นว่าไม่ควรได้รับ
      สิทธิที่กะเทยไม่ควรได้รับ เช่น ร้อยละ ๗๑.๑ เห็นว่าไม่ควรใช้คำนำหน้านามว่า เด็กหญิง นาง นางสาว, ร้อยละ ๖๔.๒ เห็นว่าไม่ควรใช้ห้องน้ำผู้หญิง และร้อยละ ๕๓.๓ เห็นว่าไม่ควรให้แต่งชุดนักเรียน นักศึกษาหญิง
      นอกจากนี้บทบาทของกะเทยที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดถึงร้อยละ ๙๓.๗ คือการทำงานด้านการบันเทิง รองลงมาร้อยละ ๗๐.๔ คือการเป็นครูอาจารย์ ร้อยละ ๖๖.๙ คือเป็นแพทย์ ร้อยละ ๖๖.๖ คือเป็นผู้บริหาร ร้อยละ ๖๕.๘ คือเป็นพยาบาล และร้อยละ ๖๒.๙ ทำงานที่แสดงออกโดยการแต่งกายเย้ายวนอารมณ์
      บทบาทที่กลุ่มตัวอย่างไม่ยอมรับมากที่สุดคือ การเป็นรัฐมนตรี (ร้อยละ ๖๑.๙) รองลงมาคือการเป็นนักการเมือง (ร้อยละ ๕๖.๗)
ในเรื่องการแก้ไขกฎหมายเพื่อรองรับสิทธิของกลุ่มเพศที่สาม ร้อยละ ๖๖.๑ เห็นว่า ควรแก้ไขเพราะเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน มีเพียงร้อยละ ๒๖.๙ เท่านั้นเห็นว่าไม่ควรแก้ไข เพราะจะทำให้เกิดความสับสนทางสังคมมากขึ้น 
      แม้ว่าปรากฏการณ์ที่บรรดากะเทยสามารถแต่งชุดนักศึกษาหญิงมาเรียนในสถานศึกษาได้นี้ จะไม่ได้เป็นตัวชี้ขาดว่า เส้นแบ่งของความเป็น ชาย-หญิงในระบบเพศสภาพถูกสั่นคลอนไปแล้วอย่างสิ้นเชิง หรือความเชื่อเรื่อง "ระบบเพศสภาพ" ของสังคมไทยได้เปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน แต่อย่างน้อยก็ทำให้ได้เห็นว่า คนที่ยืนอยู่คนละฝั่งมีทัศนะต่อเรื่องนี้ต่างกันอย่างไร

ร่วมแสดงความคิดเห็น สนับสนุน หรือ คัดค้าน !
คลิกที่นี่


จุ๋ม
นักศึกษาชั้นปีที่ ๔ 
ภาควิชาการละคร คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • คนที่ผ่านการเรียนรู้และมีวิจารณญาณมากพอ ไม่ต้องกลัวว่าเมื่อจบออกไปเขาเหล่านี้จะยังดึงดันแต่งตัวอย่างนี้
  • เราไม่ได้บอกว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระ แต่ควรจะหยุดถกเถียงกัน เพราะมันไม่ได้กระทบอะไรกับสังคม

      "ที่อาจารย์วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ เล่าว่า เพื่อนของท่านคนหนึ่งเรียนคณะแพทยศาสตร์ แล้วแต่งชุดนักศึกษาหญิงไปเรียน จนคณบดีเรียกมาเตือนแล้วให้ไปเรียนคณะเภสัชศาสตร์ เพราะเกรงว่าหากไปทำงานเป็นหมอ เป็นพยาบาล จะแต่งตัวเป็นผู้หญิงนั้น ตรงนี้เรายอมรับว่าการจะไปประกอบอาชีพบางอย่าง ไม่อาจแต่งตัวเป็นผู้หญิงได้เหมือนที่เราทำอยู่ขณะนี้ แต่ที่เราเลือกแต่งชุดนักศึกษาหญิงวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตเราจะแต่งหญิงตลอดไป กะเทยที่แต่งหญิงเขาทราบดีว่า คณะที่เขาเลือกเรียน อาชีพที่เขาเลือกจะเป็นนั้น มีจรรยาบรรณอย่างไร เมื่อเราเลือกที่จะเรียนเพื่อไปเป็นครู เราก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นครูจะแต่งตัวผิดเพศไม่ได้ เป็นผู้บริหาร เป็นแพทย์จะมาแต่งหญิงก็ไม่ได้ แต่อย่าลืมว่าการเรียนรู้มันก็เหมือนขั้นบันได เมื่อจบการศึกษาออกไป คนที่ผ่านการเรียนรู้ คิดเองได้ มีวิจารณญาณมากพอ ก็จะปรับตัวได้เอง ไม่ต้องกลัวว่าเขาเหล่านี้จะยังดึงดันแต่งตัวอย่างนี้ เพียงแต่เขารู้ว่า ณ ปัจจุบันเขาอยู่ตรงไหน ทำอะไรได้แค่ไหน
      "การที่กะเทยแต่งชุดนักศึกษาหญิง จึงไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญอะไรมากมายขนาดต้องหยิบยกมาถกเถียงกัน เราไม่ได้บอกว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระ แต่ควรจะหยุด เพราะมันไม่ได้กระทบอะไรกับสังคม สังคมคือความหลากหลาย แต่จะทำอย่างไรให้คนทุกคนเป็นตัวของตัวเอง และมีชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขโดยไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน เป็นตัวของตัวเองโดยไม่สร้างผลกระทบให้ใครไม่ดีกว่าหรือ อยากฝากไปถึงสาวประเภทสองที่เป็นนักศึกษาเหมือนกันว่า ไม่ต้องซีเรียสเรื่องนี้ เราไม่ใช่คนที่ผิดแผกจากสังคม เรามีหน้าที่อะไรก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดดีกว่า คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกจะเป็นคนดี เป็นคนมีคุณภาพได้" 

วาย
นักศึกษาชั้นปีที่ ๔
ภาควิชาจิตวิทยา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
รองศาสตราจารย์วัชรี ทรัพย์มี
รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ส นั บ ส นุ น

คั ด ค้ า น

  • กระเทยที่แต่งชุดนักศึกษาหญิง มีมานานแล้ว ไม่ว่าจะในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือสถาบันอื่น ๆ
  • สิ่งที่ทำอยู่ ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร และไม่ได้ทำให้สังคม ถึงกับพังพินาศ
  • ไม่เห็นด้วยกับกรณีนักศึกษาชาย สวมชุดนักศึกษาหญิง เพราะจะทำให้มีปัญหาอื่น ๆ ตามมา ประเด็นสำคัญคือไม่เหมาะสม
  • เมื่อยังอยู่ในสังคมซึ่งมีกฎระเบียบ เราต้องยอมรับและปฏิบัติตาม
  • เราทุกคนต่างก็มีเสรีภาพ แต่เสรีภาพทั้งหลายทั้งปวง ต้องมีขอบเขต 
อ่านฝ่ายสนับสนุน คลิกที่นี่
click here
อ่านฝ่ายคัดค้าน คลิกที่นี่
click here
กลับไปหน้า สารบัญ

แสดงความคิดที่ สารคดีกระดานข่าว (Sarakadee Board)


แล้วคุณล่ะ สนับสนุน หรือ คัดค้าน !

ต้องการ แสดงความคิดเห็นเพิ่ม คลิกที่นี่


แ ส ด ง ค ว า ม คิ ด เ ห็ น เ พิ่ ม เ ติ ม

ชื่อ-สกุล: *
E-Mail:
แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม: *
*

 

พบเห็น ข้อความไม่เหมาะสม กรุณาช่วยกันแจ้ง ผู้ดูแลเว็ป (WebMaster) ขอบคุณครับ

ทำไมสังคมไม่ยอมรับเราบางนะยอมรับพวกเราสิ
jack จากนักศึกษาลำปาง <JACK_KOY_KA@Hotmail.com>
- Wednesday, June 22, 2005 at 21:58:07 (EDT)

แม้จะเป็นกระเทยก็ไม่เคยที่จะทำร้ายใจใคร แต่กลับ
รักและเอาใจใส่ผู้ชายมากกว่าผู้หญิงเสียอีก ขอบคุณ

ทิวา นิยมยาติ <tiwaniyomyat@hotmail.com>
- Friday, June 17, 2005 at 02:31:05 (EDT)

การที่มีการยอมรับที่สาวประเภทสองแต่งชุดนักศึกษาเป็นหญิง พวกที่ไม่มีสมองคิดได้แค่นี้เองหรือ ลองมาฟังกันนะครับ
1. เขาเหล่านั้นบอกว่าทำให้สับสนในเรื่องเพศ ขอตอบ ถ้าโง้ ๆ มาก ก็อย่าเรียนหนังสือเลย แยกไม่ออกว่าเป็นกระเทยก็บ้าแล้ว
2. ยุ้งยากในเรื่องกฎหมาย ขอตอบถ้าเปลี่ยนว่าให้ใส่ได้ แต่งเป็นหญิงได้ แล้วกฎหมายทำให้คนปวดหัว คงปวดหัวเฉพาะพวกมีอคติ กลัวกระเทยสวยกว่าละมัง
3.แต่งตัวไม่เหมาะสม ขอตอบ แล้วถ้ามันหนักมากนักก็อย่าไปถือสิ เรื่องของเขา อย่าหัดเป็นคนชอบสอด ถ้าตัวเองจะแต่งชุดอะไร มีคนมาสอดว่า ไม่เหมาะสมโกรธหรือเปล่า แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ยังไม่อายเลย
4.เด็กเรียนแบบหรือน้อง ๆ ทำตาม ขอตอบ เพราะเขาทำตามที่ใจเป็น และใจต้องการ ลองให้คุณทำอะไรไม่ตรงกับใจ ท่านจะพอใจใหม
5.เรียกร้องความสนใจ ตายแล้ว พวกนี้ เป็นบ้าหรือเปล่า คนมีสมองใครจะทำอย่างนั้น ถ้าท่านเป็นหญิงแล้วใสกางเกงขาสั้นเหมือนผู้ชาย เดินไปไหนมาไหนแล้วจะอายไหม กระเทยก็เหมือนกันสิ่งที่คิดว่าใช่สำหรับตัวเองต้องทำ
จะแต่งอะไร ก็คงไม่สำคัญ กระเทยเก่ง ๆ ออกจะมากด้วยซ้ำ เช่น รศ.ดร.เสรี เป็นต้นและอื่น ๆ อีกนะครับ

อวยพร <uaiporn_yangchai@hotmail.com>
- Wednesday, June 15, 2005 at 09:54:27 (EDT)

การที่มีการยอมรับที่สาวประเภทสองแต่งชุดนักศึกษาเป็นหญิง พวกที่ไม่มีมองคิดได้แค่นี้เองหรือ ลองมาฟังกันนะครับ
1. เขาเหล่านั้นบอกว่าทำให้สับสนในเรื่องเพศ ขอตอบ ถ้าโง้ ๆ มาก ก็อย่าเรียนหนังสือเลย แยกไม่ออกว่าเป็นกระเทยก็บ้าแล้ว
2. ยุ้งยากในเรื่องกฎหมาย ขอตอบถ้าเปลี่ยนว่าให้ใส่ได้ แต่งเป็นหญิงได้ แล้วกฎหมายทำให้คนปวดหัว คงปวดหัวเฉพาะพวกมีอคติ กลัวกระเทยสวยกว่าละมัง
3.แต่งตัวไม่เหมาะสม ขอตอบ แล้วถ้ามันหนักมากนักก็อย่าไปถือสิ เรื่องของเขา อย่าหัดเป็นคนชอบสอด ถ้าตัวเองจะแต่งชุดอะไร มีคนมาสอดว่า ไม่เหมาะสมโกรธหรือเปล่า แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ยังไม่อายเลย
4.เด็กเรียนแบบหรือน้อง ๆ ทำตาม ขอตอบ เพราะเขาทำตามที่ใจเป็น และใจต้องการ ลองให้คุณทำอะไรไม่ตรงกับใจ ท่านจะพอใจใหม
จะแต่งอะไร ก็คงไม่สำคัญ กระเทยเก่ง ๆ ออกจะมากด้วยซ้ำ เช่น รศ.ดร.เสรี เป็นต้นและอื่น ๆ อีกนะครับ

อวยพร <uaiporn_yangchai@hotmail.com>
- Wednesday, June 15, 2005 at 09:50:29 (EDT)

ไม่สนับสนุนค่ะ เพราะมีพวกหัวโปก มันน่าเกลียด
นางสาว วนิดา ทรัพย์นิมิตร <น้องปอย>
- Monday, June 13, 2005 at 09:40:20 (EDT)

ไม่สนับสนุนค่ะ เพราะมีพวกหัวโปก มันน่าเกลียด
นางสาว วนิดา ทรัพย์นิมิตร <น้องปอย>
- Monday, June 13, 2005 at 09:40:14 (EDT)

สนับสนุนคะ เพราะว่าไม่เห็นมันจะทำให้ใครเดือดร้อนเลย ที่นักศึกษาญ แต่งเป็น ชาย ไม่เห็นจะมีปัยหา ที่สำคัญ เราไม่ได้ทำให้ใคครเดือด ร้อนคะ
หมั่นโถว <popteen2002@hotmail.com>
- Wednesday, June 01, 2005 at 22:26:22 (EDT)

สนับสนุนคะ เพราะว่าไม่เห็นมันจะทำให้ใครเดือดร้อนเลย ที่นักศึกษาญ แต่งเป็น ชาย ไม่เห็นจะมีปัยหา ที่สำคัญ เราไม่ได้ทำให้ใคครเดือด ร้อนคะ
หมั่นโถว <popteen2002@hotmail.com>
- Wednesday, June 01, 2005 at 22:25:50 (EDT)

คนจะดีหรือเรียนเก่งไม่เก่ง ไม่เกี่ยวกับการแต่งตัว แล้ว กะเทย คือความคิดตั้งแต่เด็กเขาคิดว่าตัวเองเป็น หญิง ครับ พอโตเขาก็อยากแต่ง หญิง ครับ
เอ <changutd@hotmail.com>
- Sunday, May 01, 2005 at 11:23:15 (EDT)

เราไม่ควรปิดกั้นกันในเรื่องแต่งกายน่ะเราควรยอมรับมากกว่าให้พวกเขากดดันในใจจะยิ่งทำให้เขาเกิดการเก็บกดขึ้น

บี <anntt@lemononline.com>
- Friday, April 15, 2005 at 08:57:07 (EDT)

ขอบคุณคณะบดีผู้ที่มีเวลาว่างมากจนเอาเวลาทำงานมาตั้งกระทู้ไร้สาระ ปัญญาอ่อน เอาสมองส่วนที่มีอยู่น้อยนิดไปพัฒนา มหาลัยหรือไม่ก็ไปหายใจจะดีกว่านะ ดิฉันหละเกลียดจริงๆพวกเห็นแก่ตัว ชอบเหมาว่าเพศที่ผิดกับตัวเองมันเลวไปซะหมด คนดีหัวคลีเอทมีก็ออกจะมาก แล้วพวกเราที่แน่ๆสมองมีรอยหยักมากกว่า ผู้ตั้งกระทู้ไร้สาระนี้มากคะ..... อยากทราบว่าเวลาเรียนคุณอธิการใช้เครื่องแบบ หรือหัวสมองเรียนกันแน่คะ หากใส่ชุดถูกระเบียบแล้วเรียนเกรดAหมด ก้อน่าใส่นะคะ บางครั้งคนเราก้อต้องมีการอนุโลม เห็นอกเห็นไจ เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง........ แค่อึดอัด อยากระบาย

โดนัท <donat_jp@hotmail.com>
- Friday, February 25, 2005 at 00:50:16 (EST)

ขอบคุณคณะบดีผู้ที่มีเวลาว่างมากจนเอาเวลาทำงานมาตั้งกระทู้ไร้สาระ ปัญญาอ่อน เอาสมองส่วนที่มีอยู่น้อยนิดไปพัฒนา มหาลัยหรือไม่ก็ไปหายใจจะดีกว่านะ ดิฉันหละเกลียดจริงๆพวกเห็นแก่ตัว ชอบเหมาว่าเพศที่ผิดกับตัวเองมันเลวไปซะหมด คนดีหัวคลีเอทมีก็ออกจะมาก แล้วพวกเราที่แน่ๆสมองมีรอยหยักมากกว่า ผู้ตั้งกระทู้ไร้สาระนี้มากคะ..... อยากทราบว่าเวลาเรียนคุณอธิการใช้เครื่องแบบ หรือหัวสมองเรียนกันแน่คะ หากใส่ชุดถูกระเบียบแล้วเรียนเกรดAหมด ก้อน่าใส่นะคะ บางครั้งคนเราก้อต้องมีการอนุโลม เห็นอกเห็นไจ เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง........ แค่อึดอัด อยากระบาย

โดนัท <donat_jp@hotmail.com>
- Friday, February 25, 2005 at 00:48:31 (EST)

อยู่จุฬา ต้องแอบไว้
pp
- Tuesday, February 22, 2005 at 03:48:38 (EST)

ดีค่ะ เราเป็นกระเทยไม่ได้ทำให้โลกแตก ไม่ได้ก่อความไม่สงบทางภาคใต้ อยากให้ทางผู้ใหญ่คิดบางโลกไปถึงไหนขนาดประเทศลาว ประเทศที่ด้อยการพัฒนากว่าเรากระเทยเขาเปลี่ยนเป็นนางสาวจากคำว่า"นาย"ถึงลาวเป็นประเทศด้อยการพัฒนาด้านต่างๆแต่เขามีความเสรีภาพสูงกว่าประเทศไทยเรามากกระเทยไทยเรามีแต่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ
ฟ้าเสกสรรค์ <kdd_6 @homail.com>
- Sunday, February 20, 2005 at 23:43:43 (EST)

แมวไม่ว่าจะมีสีอะไร ก็ขอให้จับหนูได้ ก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ
------ <----->
- Friday, February 11, 2005 at 23:45:17 (EST)

แมวไม่ว่าจะมีสีอะไร ก็ขอให้จับหนูได้ ก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ
------ <----->
- Friday, February 11, 2005 at 23:45:17 (EST)

แมไม่ว่าจะมีสีอะไร ก็ขอให้จับหนูได้ ก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ
------ <----->
- Friday, February 11, 2005 at 23:45:04 (EST)

แมไม่ว่าจะมีสีอะไร ก็ขอให้จับหนูได้ ก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ
------ <----->
- Friday, February 11, 2005 at 23:45:03 (EST)

แมไม่ว่าจะมีสีอะไร ก็ขอให้จับหนูได้ ก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ
------ <----->
- Friday, February 11, 2005 at 23:44:59 (EST)

เหมาะสม
ด.ญ พะรีนา ปุกปุย <www. hyuioplj ybgjjjkk >
- Tuesday, February 08, 2005 at 23:30:18 (EST)

ไม่เกี่ยวกันค่ะ ดิฉันคิดว่าการเป็นกะเทยนั้นก็มีสิทธิที่ทางสังคมน่าจะยอมรับบ้าง เพราะว่า สมัยนี้ผู้หญิงบางคนหรือว่าผู้ชายบาวคนแทบจะไม่มีความสามรรถเทียบเท่ากะเทยได้เลยค่ะควรจะพิจารณาดวยนะคะ แล้วอีกอย่างนะค่ะดิฉันคิดว่ากระเทยนั้นอาจจะมีความสามารถมากกว่าผู้ชายและผู้หญิงบางคนอีกค่ะ
kfdkij deloooflod
- Friday, January 21, 2005 at 05:55:24 (EST)

ไม่เกี่ยวกันค่ะ ดิฉันคิดว่าการเป็นกะเทยนั้นก็มีสิทธิที่ทางสังคมน่าจะยอมรับบ้าง เพราะว่า สมัยนี้ผู้หญิงบางคนหรือว่าผู้ชายบาวคนแทบจะไม่มีความสามรรถเทียบเท่ากะเทยได้เลยค่ะควรจะพิจารณาดวยนะคะ แล้วอีกอย่างนะค่ะดิฉันคิดว่ากระเทยนั้นอาจจะมีความสารถมากกว่าผู้ชายและผู้หยิงบางคนอีกค่ะ
kfdkij deloooflod
- Friday, January 21, 2005 at 05:54:57 (EST)

เป็นกระเทยแต่งขุดอารายก้อไม่ว่าขอแค่เป็นคนดีในสังคมเท่านั้นก็พอ
เกตุ <c_to1@hotmail.com>
- Sunday, January 16, 2005 at 07:23:48 (EST)

ไม่เข้าใจว่า ไอ้ชุดนักศึกษานี่มันจะมีไว้ทำไมตราบใดที่เขายังมีความรับผิดชอบ ยังสนใจในการศึกษา จะแต่งอะไรก็ช่าง ยกเลิกไอ้ชุดบ้าๆนี่เสียทีเถอะเอาสมองมาเรียน ครับไม่ใช่ชุดนักศึกษา
ขวัญเมือง <nantawuthi@thaimail.com>
- Sunday, November 28, 2004 at 07:54:59 (EST)

หีเป็นสิ่งอร่อยเพราะหีมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายผู้ชาย

เเเเเเเเ <เเเเเเ>
- Wednesday, November 10, 2004 at 04:47:21 (EST)

สังคมทุกที่ มีทั้งคนดีและเลวปนกัน ไม่มีที่ไหนดีหมด และเลวหมดหรอก คนเราเกิดมามีกรรมทุกคน เราต้องชดใช้กรรม การที่สาวประเภทสองแต่งเป็นผู้หญิงไปเรียน ก็ดี ไม่ได้เสียหายอะไรเลย ไม่แปลก ดีกว่าปิดกั้นเค้า แล้วทำให้เกิดปัญหาสังคมอย่างอื่นด้วยซ้ำ...สนับสนุน...ชอบ..น่ารักดี
minz <minz@kittymail.com>
- Sunday, October 17, 2004 at 12:57:48 (EDT)

ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยถ้าจะแต่งตัวเป็นผู้หญิงไปเรียนหนังสือ จิตใจเขาก็เป็นผู้หญิงแล้วก็ให้เขาได้เป็นผู้หญิงทั้งทางจิตใจและร่างกายเถอะนะ ไม่เห็นจะเสียหายเลยยุคนี้ไม่ควรจะปิดกั้นในเรื่องของเพศที่สามนะ คนก็เป็นคนเหมือนกันบางคนอาจจะนิสัยดีกว่าผู้หญิงหรือผู้ชายแท้ ๆ กํได้
ผู้หญิง <ิำำิ bee@yahoo.com>
- Sunday, October 17, 2004 at 08:45:08 (EDT)

ลองหันมามองผู้หญิงแต่งชายใส่กางเกงไปเรียนบ้างสิค่ะ น่าสังเกต ไหม ? หนู เอง เป็นกระเทย แต่งหญิงมาเรียน ตั้งแต่ ปี 1 ตอน นี้ ปี 3 แล้ว อาจารย์ ที่มหาลัย(ม.รัฐบาล) แห่งหนึ่งไม่มีใครว่าสักคน อาจเพราะเหมือน สวย กว่าผู้หญิงประเภท 1 ซะอีก เพื่อน ๆ ก็ เข้าใจ และยังไม่อยากจะเชื่อว่า เป็น (กระเทย) ด้วย ซ้ำ แต่ ถ้าจะให้เสมอภาคกันจริง ๆ ในสังคมประชาธิปไตยนี้ ทำไม ไม ลองมองให้กว้าง กว่า นี้ ว่า หญิงแต่งชาย ก็มีในสังคม "มหาลัย" ลองคิดดูนะ ค่ะ ที่ออกความเห็นมานี้ ก็ เพราะรู้สึกน้อยใจ "สิ่งที่เป็นอยู่ ก้อเจ็บปวดอยู่แล้ว ถ้าหนูเลือกเกิดได้คงจะเลือกเป็นหญิงแท้แล้วค่ะ" แต่ มันเลือกไม่ได้ มันเป็นกรรม เรา ต้องยอมรับ ปลอบใจตัวเอง บางทีก็ร้องไห้ สิ่งที่สังคมนี้อ้าง ต่าง ๆ นาน ๆ แท้ จริงแล้ว มันไม่ เป็น ธรรม จริง ๆ สังคมคืออะไร คือการอยู่ร่วมกัน แล้วสิ่งไหนคือการอยู่ร่วมกัน มองว่า เป็น ตุ๊ด เป็น กระเทย เป็น ทอม ดี้ แล้วคบไม่ได้เหรอ อะไร คือบรรทัดฐาน คนเหล่านั้น ไม่ใช่ "คนเหรอ" เค้าไปทำอะไรเสื่อมเสียในสังคมหรือเปล่า แล้ว ที่เค้าเหล่านั้น ได้ไปทำงานด้าน การบันเทิง คืออะไร ? ทำไมตอนนี้คนยอมรับ เห็นมั๊ยละค่ะ ถึงเป็นกระเทย ก็ไม่ได้โง่ มีความสามารถ หางานทำได้ ไม่เป็นภาระสังคม และก็ไม่ได้ขอใคร ทาน
คุณ เคยเห็น กระเทยไปนั่งขอทานไหม?
แล้วสังคม ยังจะมีเหตุผลอะไรอีกเหรอที่จะมารังเกียจกัน

B ค่ะ <b_b_11@hotmail.com>
- Monday, September 06, 2004 at 03:41:16 (EDT)

ลองหันมามองผู้หญิงแต่งชายใส่กางเกงไปเรียนบ้างสิค่ะ น่าสังเกต ไหม ? หนู เอง เป็นกระเทย แต่งหญิงมาเรียน ตั้งแต่ ปี 1 ตอน นี้ ปี 3 แล้ว อาจารย์ ที่มหาลัย(ม.รัฐบาล) แห่งหนึ่งไม่มีใครว่าสักคน อาจเพราะเหมือน สวย กว่าผู้หญิงประเภท 1 ซะอีก เพื่อน ๆ ก็ เข้าใจ และยังไม่อยากจะเชื่อว่า เป็น (กระเทย) ด้วย ซ้ำ แต่ ถ้าจะให้เสมอภาคกันจริง ๆ ในสังคมประชาธิปไตยนี้ ทำไม ไม ลองมองให้กว้าง กว่า นี้ ว่า หญิงแต่งชาย ก็มีในสังคม "มหาลัย" ลองคิดดูนะ ค่ะ ที่ออกความเห็นมานี้ ก็ เพราะรู้สึกน้อยใจ "สิ่งที่เป็นอยู่ ก้อเจ็บปวดอยู่แล้ว ถ้าหนูเลือกเกิดได้คงจะเลือกเป็นหญิงแท้แล้วค่ะ" แต่ มันเลือกไม่ได้ มันเป็นกรรม เรา ต้องยอมรับ ปลอบใจตัวเอง บางทีก็ร้องไห้ สิ่งที่สังคมนี้อ้าง ต่าง ๆ นาน ๆ แท้ จริงแล้ว มันไม่ เป็น ธรรม จริง ๆ สังคมคืออะไร คือการอยู่ร่วมกัน แล้วสิ่งไหนคือการอยู่ร่วมกัน มองว่า เป็น ตุ๊ด เป็น กระเทย เป็น ทอม ดี้ แล้วคบไม่ได้เหรอ อะไร คือบรรทัดฐาน คนเหล่านั้น ไม่ใช่ "คนเหรอ" เค้าไปทำอะไรเสื่อมเสียในสังคมหรือเปล่า แล้ว ที่เค้าเหล่านั้น ได้ไปทำงานด้าน การบันเทิง คืออะไร ? ทำไมตอนนี้คนยอมรับ เห็นมั๊ยละค่ะ ถึงเป็นกระเทย ก็ไม่ได้โง่ มีความสามารถ หางานทำได้ ไม่เป็นภาระสังคม และก็ไม่ได้ขอใคร ทาน
คุณ เคยเห็น กระเทยไปนั่งขอทานไหม?
แล้วสังคม ยังจะมีเหตุผลอะไรอีกเหรอที่จะมารังเกียจกัน

B ค่ะ <b_b_11@hotmail.com>
- Monday, September 06, 2004 at 03:40:11 (EDT)

มึงบ้ากันรึเปล่า ใครวะตั้งกฎว่าต้องมีหญิงชาย หรือหญิงต้องคู่ชาย รู้จักชื่อไอ้คนตั้งกฎนี่ไหม แค่นี้สังคมก็ทรมานพวกเค้าเกินไปแล้ว ทำแต่ละอย่าง ผู้หญิงผู้ชายแท้ๆมันประเสริฐกว่ารึไงกันวะ ไอ้พวกโจรพวกอาชญากร ไปตั้งระเบียบกับพวกมันโน่น มองมุมแคบเหลือเกินนี่หว่า ประเทศอื่นเขาคิดกันได้มากกว่านี้ไปไหนต่อไหนแล้ว แม่ง กูผู้ชายแท้ๆยังเหลืออด เพราะงี้แหละ ประเทศไทยถึงได้เดินลงเหว
Great <Kotiadio@hotmail.com>
- Tuesday, August 31, 2004 at 16:57:39 (EDT)

ลองมาคิดมุมกลับกันคือ ถ้ากระเทยคนนั้นเหมือนผู้หญิงจนแต่งชุดนักศึกษา ชายแล้วก็ยังเหมือนผู้หญิงเนี้ย
เวลาเด็กมองแล้วก็ต้องเกิดความงง
แต่ถ้าแต่ง ญ แล้วดูเหมือนผู้หญิงจริงๆเนี้ย
เวลาเด็กมองก็จะไม่งง
แค่นี้ก็ทำให้ไม่เกิดความสับสนกับคนที่มีคุณวุฒิน้อยแล้ว
ส่วนคนที่มีปัญญาก็คงแยกแยะได้ แค่นี้อะไรก็ง่ายขึ้นแล้ว ความสับสนก็น้อยลง

กระเทยบางคนที่เดินตามถนนบางทีคุณก็อาจไม่รู้ว่าเป็นกระเทยก็ได้คุณก็ไม่โวยวาย แต่พอเจอใครไม่ชอบขี้หน้าก็มาจ้องรังเกียจคอยจับผิดเค้าอยุ่นั้นแหละ

กฏถ้ามีไว้ทูนไว้บนหัวจะมีประโยชน์อะไร แต่มีไว้ให้เกิดความสุขแก่คนที่ถูกใช้ไม่ใช่ความสุขของคนออกกฎน่าจะมีประโยชน์มากกว่านะค่ะลองคิดดูคะ

กระเทยอีกคน
- Tuesday, August 31, 2004 at 16:48:10 (EDT)

เก
กเ
- Tuesday, August 24, 2004 at 11:47:39 (EDT)

ทำเรื่องที่ดี ดี เถอะ พัฒนากระเทยบ้าง เรื่อง ดี ดี มีมากมาย
A
- Wednesday, August 18, 2004 at 14:29:39 (EDT)

เรื่องแต่งตัวน่ะจะแต่อย่างไรก็เป็นสิทธิ์ของเขาหากไม่ใช่ยูนิฟอร์ม ถ้าเป็นยูนิฟอร์มเขาจะระบุให้แต่ละเพศแต่งกายอย่างไร มั่วไม่ได้ คิดถึงถ้าเป็นตำรวจตุ๊ดใส่กระโปรงคงทุเรศสิ้นดี สรุปคือไม่เห็นด้วย
เฉื่อย
- Thursday, February 26, 2004 at 02:15:19 (EST)

ดิฉันมาจากมหาวิทยาลัยมหาสารคามค่ะ ที่นี่ก็มีการต่อต้านการแต่งชุดนิสิตหญิงของสาวประเภทสองเช่นกัน แต่ดิฉันคิดว่าปัจจุบันนี้ สังคมยุคนี้แล้ว น่าจะนำสมองที่คิดเรื่องพวกนี้ไปคิดพัฒนาประเทศให้ทันโลกทันเหตุการณ์เผื่อจะมีความคิดใหม่ๆ สิ่งใหม่ๆ ใส่สมองแทนขี่เรื่อยที่อยู่บนหัวที่นับวันมีแต่จะพอกพูนขึ้นด้วยการที่มาเน้นเฉพาะเรื่องไร้สาระ การที่สาวประเภทสองแต่งชุดนิสิตหญิงก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนไม่ดี มิหนำซ้ำเรียบร้อยและดูถูกระเบียบกว่าผู้หญิงบางคนโดยมากด้วยซ้ำ โอกาสเป็นสิ่งที่สำคัญนะคะ ลองให้โอกาส ดิฉันเชื่อว่าสาวประเภทสองมีความสามารถมากพอในการที่จะทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม และประเทศได้มากพอดังที่ท่านเห็นทั่วไปโลกในปัจจุบัน ขอบคุณค่ะ
ภัทร
- Tuesday, December 23, 2003 at 10:11:57 (EST)

ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เนื่องจากไม่เหมาะสม
นายทวีศักดิ์ ***** <cheme@****.com>
- Sunday, December 21, 2003 at 01:26:31 (EST)

ผมเคยใช้ชีวิตอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาประมาณ ๑๐ ปี. เป็นประเทศที่มีอิสระเสรีทางความคิดแต่มีระเบียบวินัยเป็นเลิศ. คนไทยอยากได้แต่เสรี แต่ไม่อยากปฏิบัติตามกฏระเบียบวินัยของสังคม. ผมเห็นมีเกย์ในย่านที่เขารวมตัวกันอยู่ แต่งตัวผู้่ชายเดินจูบกัน แต่ไมเคยเห็น มาตะแล็ดแต็ดแต๋ ผ่านสื่อต่างๆ (ทีวี, หนังสือพิมพ์) ไม่มีแม้แต่ละครนำ้เน่าเรื่องเดียว. การผิดธรรมชาติเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ แต่การให้ออกผ่านสื่อเป็นสิ่งที่อเมริกายอมรับไม่ได้. มันกระทบต่อสังคมส่วนรวมจริงๆ ครับ. ลอจิกง่ายๆ คิดดูเอาเอง.
watch dog
- Monday, December 08, 2003 at 21:17:00 (EST)

กระเทยในสังคมไทยปัจจุบัน โดยเฉพาะกระเทยวัยรุ่น หรือกระเทยที่วัยกำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาต่าง ๆ ทุก ๆ ที่ ซึ่งกระเทยก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เป็นผู้ที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน ผิดแปลกไปจากเพศเดิมของตน ทำให้การประพฤติ ปฎิบัติตัวก็ผิดปกติไปจากบุคคลทั่วๆ ไป ที่เราพบเห็นในสังคม การแต่งกายของคนในสังคมทั่ว ๆ ไป ที่คนส่วนใหญ่พบเห็น น่าจะจัดได้ออกเป็น 3 กลุ่มหลัก
กลุ่มแรก คือ กลุ่มบุคคลทั่วไปในสังคมทั้งชายและหญิงไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไรก็แล้วแต่ การแต่งกายก็เป็นไปตามปกติอย่างที่พบเห็นได้ทั่วไป
กลุ่มที่สอง กลุ่มบุคคลประเภทที่สติไม่สมประกอบ กลุ่มนี้จะเป็นบุคคลที่ไม่มีสติสมบูรณ์ ไม่ค่อยที่จะรับรู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวของเขาในสังคม ทำให้การปฏิบัติตัวผิดแปลกไป การแต่งกายก็ไม่สะอาด และไม่น่าดู ทำให้คนในสังคมทั่วไปค่อนข้างที่จะไม่ยอมรับกลุ่มคนประเภทนี้
กลุ่มที่สาม "กระเทย" กลุ่มบุคคลนี้ทั้งพฤติกรรม ความคิด การปฎิบัติตนในการแสดงออกในด้านต่าง ๆ ผิดปกติไปจากบุคคลทั่วไปในสังคม คล้ายกับกลุ่มที่สองไม่ค่อยที่จะยอมรับบรรทัดฐาน ประเพณี ของสังคมทั่วไป ทำให้เป็นกลุ่มบุคคลที่มีการปฏิบัติตนในด้านต่าง ๆ ชอบที่จะเรียกร้องความสนใจ จากสังคม มีความปกติทางเพศ มีความยึดติดในราคะจริตมาก ๆ เช่น การจับกลุ่มมีการแสดงออกเพื่อเรียกร้องความสนใจ ส่งเสียงดัง ในเสียงสำเนียง หรือภาษาที่ผิดแปลกไปจากปกติ การแต่งกายที่ผิดแปลกไปจากเพศเดิมของตนทำให้ไม่น่าดู ซึ่งจากพฤติกรรมต่าง ๆ ของกลุ่ม "กระเทย" นี้ซึ่งปะปนอยู่ทั่วไปในสังคมและดูเหมือนจะลุกลามขยายตัวมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอย่างถดถอยของสังคมในทุก ๆด้าน การอบรมสั่งสอนเลี้ยงดูของครอบครัว สถานศึกษา บรรทัดฐานของสังคมไทยเกี่ยวกับ "กระเทย"
ทำให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่อผู้คนในสังคม เกิดมีความคิด พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดี เกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคม ซึ่งก็เป็นที่รับรู้กันอยู่ทั่วไป

กิจ
- Friday, November 28, 2003 at 09:15:28 (EST)

- ไม่เห็นด้วย เพราะสังคมไม่ยอมรับ คนประเภทนี้ และธรรมชาติสร้างให้เค้าคนนั้นเกิด มาเป็น ชาย แต่เนื้องด้วยท่านผู้นั้นไม่ผึงพอใจในสิ่งที่มีอยู่ ถ้าให้กระเทยใส่กระโปง ก็คงไม่ได้ เพราะเค้าไม่ใช้หญิงแท้ และถ้าสังคมยอมรับ กระเทย กฎหมายคงต้อง เพื่ม / ลด ทำไห้สังคมยุ่งยากขึ้น
ไหนจะเป็นชื่อ นำหน้า ฯลฯ
หนูคิดว่ามันคงจะยุ่งยากน่าดูทีเดียว
อีกอย่างก็สงสารเค้าแต่มันคงจะยากสำหรับสังคม หรือ ให้ทุกคน ยอมรับได้
ยากม๊ากมากๆๆ

pone <->
- Tuesday, November 25, 2003 at 05:32:48 (EST)

- ไม่เห็นด้วย เพราะสังคมไม่ยอมรับ คนประเภทนี้ และธรรมชาติสร้างให้เค้าคนนั้นเกิด มาเป็น ชาย แต่เนื้องด้วยท่านผู้นั้นไม่ผึงพอใจในสิ่งที่มีอยู่ ถ้าให้กระเทยใส่กระโปง ก็คงไม่ได้ เพราะเค้าไม่ใช้หญิงแท้ และถ้าสังคมยอมรับ กระเทย กฎหมายคงต้อง เพื่ม / ลด ทำไห้สังคมยุ่งยากขึ้น
ไหนจะเป็นชื่อ นำหน้า ฯลฯ
หนูคิดว่ามันคงจะยุ่งยากน่าดูทีเดียว
อีกอย่างก็สงสารเค้าแต่มันคงจะยากสำหรับสังคม หรือ ให้ทุกคน ยอมรับได้
ยากม๊ากมากๆๆ

pone <->
- Tuesday, November 25, 2003 at 05:32:35 (EST)

คุณอย่าคิดว่าสาวประเภทสองจะต้องเดินบิดตูดไปมาทุกคนคุณช่วยมองคนในแง่ดีได้ไหมคะและผู้หญิงละเดินบิดตูดไปมาไม่เห็นมีใครว่าเลยคะ
จอย
- Thursday, October 30, 2003 at 10:59:59 (EST)

สาวประเภทสองก็ถือว่าเป็นเพศหนึ่งของสังคมไม่ใช้เหรอค่ะดังนั้นสังคมควรให้โอกาศกับสาวประเภทสองบ้างสาวประเภทสองก็มีคุณภาพสามารถทำอะไรได้เหมือนหญิงและชายหรืออาจจะมีมากกว่าก็ได้ดังนั้นคุณควรให้โอกาศเข้าได้แสดงความสามารถออกมาให้สังคมเห็นและยอมรับ
แตงโม
- Thursday, October 30, 2003 at 10:47:06 (EST)

ให้พวกคุณๆเหล่านั้น ที่ไม่รู้จักใช้สมมุติ ใช้บทบาทของตนเองที่มีต่อสังคมนั้นปลีกตัวออกจากสังคมนั้นไป ถ้ากระเทยจะแต่งเป็นหญิงก็ไม่ควรจะเข้าสถาบันการศึกษา ไม่งั้นพวกครูที่เป็นกระเทยก็คงจะนุ่งกระโปรงมาสอนได้ใช่ไหม!!!
สมไม่ชาย
- Tuesday, September 30, 2003 at 12:17:53 (EDT)

ให้พวกคุณๆเหล่านั้น ที่ไม่รู้จักใช้สมมุติ ใช้บทบาทของตนเองที่มีต่อสังคมนั้นปลีกตัวออกจากสังคมนั้นไป ถ้ากระเทยจะแต่งเป็นหญิงก็ไม่ควรจะเข้าสถาบันการศึกษา ไม่งั้นพวกครูที่เป็นกระเทยก็คงจะนุ่งกระโปรงมาสอนได้ใช่ไหม!!!
สมไม่ชาย
- Tuesday, September 30, 2003 at 12:17:51 (EDT)

ให้พวกคุณๆเหล่านั้น ที่ไม่รู้จักใช้สมมุติ ใช้บทบาทของตนเองที่มีต่อสังคมนั้นปลีกตัวออกจากสังคมนั้นไป ถ้ากระเทยจะแต่งเป็นหญิงก็ไม่ควรจะเข้าสถาบันการศึกษา ไม่งั้นพวกครูที่เป็นกระเทยก็คงจะนุ่งกระโปรงมาสอนได้ใช่ไหม!!!
สมไม่ชาย
- Tuesday, September 30, 2003 at 12:16:53 (EDT)

เรื่องไม่เป็นเรื่อง

เอาสมองไปทำอย่างอื่นดีกว่ามั๊ง
กะเทยไทยทั้งหลาย เห็นชอบอวดตัวว่าไม่มีมีดีแค่เรื่องพรรณ์อย่างนี้นี่

ก็แสดงให้คนอื่นเขาเห็นหน่อยซี๊

มัวแต่แต่งหญิงๆ

ไร้สาระ

ไร้สาระ
- Wednesday, September 17, 2003 at 18:55:37 (EDT)

เรื่องไม่เป็นเรื่อง

เอาสมองไปทำอย่างอื่นดีกว่ามั๊ง
กะเทยไทยทั้งหลาย เห็นชอบอวดตัวว่าไม่มีมีดีแค่เรื่องพรรณ์อย่างนี้นี่

ก็แสดงให้คนอื่นเขาเห็นหน่อยซี๊

มัวแต่แต่งหญิงๆ

ไร้สาระ

ไร้สาระ
- Wednesday, September 17, 2003 at 18:55:27 (EDT)

มีสิทธิสิ เพราะมันอยากอยู่แล้วนี้

- Saturday, September 06, 2003 at 03:25:23 (EDT)

การที่กระเทยแต่งกายเหมือนผ้หญิงนั้น อาจไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แต่เป็นการทำให้พวกเขาเหล่านั้นคิดว่าสิ่งที่เขาทำอย่นั้นถูกต้อง เพราะไม่มีใครว่า ไม่มีใครอยากสนใจ ทำให้สังคมในสถาบันการศึกษาไม่มีระเบียบวินัยในการควบคุมการแต่งกายของนักศึกษา
น.ส.ลัดดา โอสถ <ladda.osot@chaiyo.com>
- Wednesday, August 27, 2003 at 04:33:35 (EDT)

การที่กระเทยแต่งกายเหมือนผ้หญิงนั้น อาจไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แต่เป็นการทำให้พวกเขาเหล่านั้นคิดว่าสิ่งที่เขาทำอย่นั้นถูกต้อง เพราะไม่มีใครว่า ไม่มีใครอยากสนใจ ทำให้สังคมในสถาบันการศึกษาไม่มีระเบียบวินัยในการควบคุมการแต่งกายของนักศึกษา
น.ส.ลัดดา โอสถ <ladda.osot@chaiyo.com>
- Wednesday, August 27, 2003 at 04:33:34 (EDT)

การที่กระเทยแต่งกายเหมือนผ้หญิงนั้น อาจไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แต่เป็นการทำให้พวกเขาเหล่านั้นคิดว่าสิ่งที่เขาทำอย่นั้นถูกต้อง เพราะไม่มีใครว่า ไม่มีใครอยากสนใจ ทำให้สังคมในสถาบันการศึกษาไม่มีระเบียบวินัยในการควบคุมการแต่งกายของนักศึกษา
น.ส.ลัดดา โอสถ <ladda.osot@chaiyo.com>
- Wednesday, August 27, 2003 at 04:33:34 (EDT)

การที่กระเทยแต่งกายเหมือนผ้หญิงนั้น อาจไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แต่เป็นการทำให้พวกเขาเหล่านั้นคิดว่าสิ่งที่เขาทำอย่นั้นถูกต้อง เพราะไม่มีใครว่า ไม่มีใครอยากสนใจ ทำให้สังคมในสถาบันการศึกษาไม่มีระเบียบวินัยในการควบคุมการแต่งกายของนักศึกษา
น.ส.ลัดดา โอสถ <ladda.osot@chaiyo.com>
- Wednesday, August 27, 2003 at 04:33:30 (EDT)

ถ้าตามความเป็นจริงแล้ว มนุษย์ ย่อมมีทางเลือกที่จะปฏิบัติ ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งเสมอ
ถูกหรือความเหมาะสมนั้น อีกกรณีหนึ่ง

บี
- Sunday, August 24, 2003 at 10:56:52 (EDT)

ในปัจจุบันทุกคนก็ทราบกันดีว่าประเทศของเราเป็นสังคมประชาธิปไตยทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในความคิดของตนเอง แต่บางท่านอาจค้านว่ามีสิทธิก็จริงอยู่แต่ก็ต้องดูว่าเหมาะสมหรือไม่ แต่ดิฉันคิดว่าการที่กระเทยจะแต่งตัวเป็นหญิงนั้นไม่เห็นว่าจะดูไม่เหมาะสมจนรับกันไม่ได้ตรงไหนแทนที่เราจะมาถกเถียงกันว่าเค้าแต่งตัวแบบนี้เหมาะสมไหมเราควรกลับไปดูที่จิตใจและความเป็นเค้า เค้าได้ทำให้สังคมเดือดร้อนหรือไม่ดีกว่าไหม คุณเคยคิดหรือไม่ว่าถ้าวันหนึ่งคุณเป็นเค้าแล้วมีคนมาถกเถียงหรือมาว่าความเป็นตัวของคุณคุณจะรู้สึกอย่างไร ทุกคนมีสิทธจะคิดมีสิทธที่จะแสดงออกไม่ใช่หรือ เราทุกคนเข้ามาเรียนเข้ามาศึกษาหาความรู้เพื่อจะได้รู้ ได้เห็น ได้คิดเป็นไม่ใช่หรือ แต่ทำไมเมื่อคนกล่มหนึ่งเค้าคิดเค้าแสดงความเป็นตัวเค้าคุณถึงไม่เข้าใจ
สิริกานต์
- Wednesday, August 13, 2003 at 23:53:28 (EDT)

ในปัจจุบันทุกคนก็ทราบกันดีว่าประเทศของเราเป็นสังคมประชาธิปไตยทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในความคิดของตนเอง แต่บางท่านอาจค้านว่ามีสิทธิก็จริงอยู่แต่ก็ต้องดูว่าเหมาะสมหรือไม่ แต่ดิฉันคิดว่าการที่กระเทยจะแต่งตัวเป็นหญิงนั้นไม่เห็นว่าจะดูไม่เหมาะสมจนรับกันไม่ได้ตรงไหนแทนที่เราจะมาถกเถียงกันว่าเค้าแต่งตัวแบบนี้เหมาะสมไหมเราควรกลับไปดูที่จิตใจและความเป็นเค้า เค้าได้ทำให้สังคมเดือดร้อนหรือไม่ดีกว่าไหม คุณเคยคิดหรือไม่ว่าถ้าวันหนึ่งคุณเป็นเค้าแล้วมีคนมาถกเถียงหรือมาว่าความเป็นตัวของคุณคุณจะรู้สึกอย่างไร ทุกคนมีสิทธจะคิดมีสิทธที่จะแสดงออกไม่ใช่หรือ เราทุกคนเข้ามาเรียนเข้ามาศึกษาหาความรู้เพื่อจะได้รู้ ได้เห็น ได้คิดเป็นไม่ใช่หรือ แต่ทำไมเมื่อคนกล่มหนึ่งเค้าคิดเค้าแสดงความเป็นตัวเค้าคุณถึงไม่เข้าใจ
สิริกานต์
- Wednesday, August 13, 2003 at 23:53:21 (EDT)

ในปัจจุบันทุกคนก็ทราบกันดีว่าประเทศของเราเป็นสังคมประชาธิปไตยทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในความคิดของตนเอง แต่บางท่านอาจค้านว่ามีสิทธิก็จริงอยู่แต่ก็ต้องดูว่าเหมาะสมหรือไม่ แต่ดิฉันคิดว่าการที่กระเทยจะแต่งตัวเป็นหญิงนั้นไม่เห็นว่าจะดูไม่เหมาะสมจนรับกันไม่ได้ตรงไหนแทนที่เราจะมาถกเถียงกันว่าเค้าแต่งตัวแบบนี้เหมาะสมไหมเราควรกลับไปดูที่จิตใจและความเป็นเค้า เค้าได้ทำให้สังคมเดือดร้อนหรือไม่ดีกว่าไหม คุณเคยคิดหรือไม่ว่าถ้าวันหนึ่งคุณเป็นเค้าแล้วมีคนมาถกเถียงหรือมาว่าความเป็นตัวของคุณคุณจะรู้สึกอย่างไร ทุกคนมีสิทธจะคิดมีสิทธที่จะแสดงออกไม่ใช่หรือ เราทุกคนเข้ามาเรียนเข้ามาศึกษาหาความรู้เพื่อจะได้รู้ ได้เห็น ได้คิดเป็นไม่ใช่หรือ แต่ทำไมเมื่อคนกล่มหนึ่งเค้าคิดเค้าแสดงความเป็นตัวเค้าคุณถึงไม่เข้าใจ
สิริกานต์
- Wednesday, August 13, 2003 at 23:53:20 (EDT)

ขอโทษด้วยครับเนตไม่ค่อยดีน่ะเลยแปะกด ไปซะหลายรอบไปหน่อย
ผมไม่มีความรู้
- Wednesday, August 13, 2003 at 15:17:31 (EDT)

ตอนนี้โลกเราก็ได้พัฒนาไปมากไกลกว่าสมัยก่อนที่ยังไม่ยอมรับผู้หญิงประเภท 2 อยู่ แต่เดี๋ยวนี้สังคมเริ่มให้ความยอมรับ แต่ก็อย่าได้คิดว่าทุกคนต้องให้ความสำคัญและยอมรับไปซะทุกคน เพราะทุกวันนี้การที่มีบุคคล กลุ่มนี้เพิ่มขึ้นมามากขึ้นเพราะสิ่งกระตุ้นทางสภาพแวดล้อม และพบเห็นจากทางบุคคลที่รู้จัก สัญจรไปมา รึแม้แต่ในสื่อทุกแขนง จึงทำให้เกิดความกล้าที่จะแสดงออก แต่การแสดงออกนั้นควรได้การยอมรับแล้วหรือ ? เพราะการที่จะให้ผู้หญิงประเภท 2 นั้นแต่งกายแบบเดียวกับผู้หญิงประเภท 1 ซึ่งจะทำให้ บุคคลที่อายุน้อยกว่าเกิดการสับสนและเลียนแบบมากขึ้น สิทธิเสรีภาพ นั้นก็ใช่ที่ว่าจะไม่มีเส้นแบ่งขอบเขตการจำกัดสิทธิ มันขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และเหตุที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย ทุกวันนี้มันมีเส้นบางๆ ระหว่างคำว่า เหมาะสม และ เสรีภาพ ถ้าไปล่วงล้ำฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายก็จะต้องถูกว่ากล่าวและประนาม จากใครก็ตาม ดังนั้น ขอให้ไม่ล่วงล้ำฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็เป็นอันดีอยู่แล้ว สำหรับเรื่องการรับทำงาน รึ มีสิทธิในอันควรแบบในต่างประเทศนั้นยังถือว่าเป็นไปไม่ได้ !!
เพราะมันก็ขึ้นอยู่กับค่าทางสังคม ที่จะมีคนยอมรับผู้หญิงประเภท 2 มากน้อยเพียงใด และต่างประเทศ นั้นเขาก็ถือว่าบุคคลผู้มีความสามารถไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถทำงานได้ แต่ที่รับเพราะถ้าไม่มีการยอมรับก็จะให้เกิดการว่างงานแค่บุคคล เหล่านี้ขึ้น ซึ่งเขารับทำก็จริงอยู่ แต่ก็จะมีกฎข้อห้ามอยู่มากและถ้าทำผิดกฏ ก็จะถูกดำเนินการลงโทษอย่างร้ายแรง และถูกสังคมประนามรุนแรง
ในต่างประเทศ นับวันจะมีผู้หญิงประเภท 2 ขึ้นมากเรื่อยๆ ซึ่งต้องดูที่ประชากรของเขาว่าเยอะมากแค่ไหนไม่ใช่ว่าจะต้องเอาประเทศของเราไปเปรียบเทียบ เพราะไม่ใช่ทุกประเทศจะต้องให้การยอมรับ เพราะของเขามากเกินไปต่างหาก ช่วงที่ไม่มีกฎหมายรับรองรึการรับเข้าทำงาน เพราะยังไม่กล้าแสดงออกกันมาเพราะกลัวว่าใครรู้ว่าผิดเพศ จะต้องถูกประนามเหยียดยาม รังแก และการไม่ยอมรับ จึงทำให้ไม่แสดงออกกันนักในบางคน แต่เมื่อมีการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ จนออกกฎหมายขึ้นมารองรับ และรับเข้าทำงานเกิดขึ้น จึงทำให้มีการกล้าแสดงออกมากขึ้นและถือว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรเพราะในเมื่อมีกฎหมายออกมาแล้วก็ถือว่ายอมรับแล้ว จึงทำให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น

ไม่ทราบว่าอยากให้มีบุคคลที่กำลังแตกแถวมากขึ้นงั้นหรืออย่าคิดว่าการแต่งกายนั้นไม่เป็นการผิดอะไรรึเสรีภาพจนมากเกินไปจนทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา ถ้าดูแต่ข้อดีของต่างประเทศ งั้นก็ขอให้ดูข้อเสียที่เกิดขึ้นของเขาด้วยนะครับ ทุกอย่างมีข้อกำหนดเสรีภาพมีได้แต่ทำไมต้องมีกฎหมายรึข้อบังคับออกมา

ไม่ทราบว่าทอมรึผู้หญิงที่ใส่กางเกงต่างจากพวกคุณรึไงครับ เขาก็ต้องการแต่พวกคุณยังมาอ้างพวกเขา โดนสังคมไม่ยอมรับเหมือนกันแทนที่จะเข้ากันได้เปล่าเลยยังยกมาเป็นข้ออ้างปัดสวะ แบบคนอื่นเป็นได้ชั้นเป็นไม่ได้เหมือนกันอยู่เถอะครับ

ผมไม่มีความรู้
- Wednesday, August 13, 2003 at 15:14:23 (EDT)

ตอนนี้โลกเราก็ได้พัฒนาไปมากไกลกว่าสมัยก่อนที่ยังไม่ยอมรับผู้หญิงประเภท 2 อยู่ แต่เดี๋ยวนี้สังคมเริ่มให้ความยอมรับ แต่ก็อย่าได้คิดว่าทุกคนต้องให้ความสำคัญและยอมรับไปซะทุกคน เพราะทุกวันนี้การที่มีบุคคล กลุ่มนี้เพิ่มขึ้นมามากขึ้นเพราะสิ่งกระตุ้นทางสภาพแวดล้อม และพบเห็นจากทางบุคคลที่รู้จัก สัญจรไปมา รึแม้แต่ในสื่อทุกแขนง จึงทำให้เกิดความกล้าที่จะแสดงออก แต่การแสดงออกนั้นควรได้การยอมรับแล้วหรือ ? เพราะการที่จะให้ผู้หญิงประเภท 2 นั้นแต่งกายแบบเดียวกับผู้หญิงประเภท 1 ซึ่งจะทำให้ บุคคลที่อายุน้อยกว่าเกิดการสับสนและเลียนแบบมากขึ้น สิทธิเสรีภาพ นั้นก็ใช่ที่ว่าจะไม่มีเส้นแบ่งขอบเขตการจำกัดสิทธิ มันขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และเหตุที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย ทุกวันนี้มันมีเส้นบางๆ ระหว่างคำว่า เหมาะสม และ เสรีภาพ ถ้าไปล่วงล้ำฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายก็จะต้องถูกว่ากล่าวและประนาม จากใครก็ตาม ดังนั้น ขอให้ไม่ล่วงล้ำฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็เป็นอันดีอยู่แล้ว สำหรับเรื่องการรับทำงาน รึ มีสิทธิในอันควรแบบในต่างประเทศนั้นยังถือว่าเป็นไปไม่ได้ !!
เพราะมันก็ขึ้นอยู่กับค่าทางสังคม ที่จะมีคนยอมรับผู้หญิงประเภท 2 มากน้อยเพียงใด และต่างประเทศ นั้นเขาก็ถือว่าบุคคลผู้มีความสามารถไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถทำงานได้ แต่ที่รับเพราะถ้าไม่มีการยอมรับก็จะให้เกิดการว่างงานแค่บุคคล เหล่านี้ขึ้น ซึ่งเขารับทำก็จริงอยู่ แต่ก็จะมีกฎข้อห้ามอยู่มากและถ้าทำผิดกฏ ก็จะถูกดำเนินการลงโทษอย่างร้ายแรง และถูกสังคมประนามรุนแรง
ในต่างประเทศ นับวันจะมีผู้หญิงประเภท 2 ขึ้นมากเรื่อยๆ ซึ่งต้องดูที่ประชากรของเขาว่าเยอะมากแค่ไหนไม่ใช่ว่าจะต้องเอาประเทศของเราไปเปรียบเทียบ เพราะไม่ใช่ทุกประเทศจะต้องให้การยอมรับ เพราะของเขามากเกินไปต่างหาก ช่วงที่ไม่มีกฎหมายรับรองรึการรับเข้าทำงาน เพราะยังไม่กล้าแสดงออกกันมาเพราะกลัวว่าใครรู้ว่าผิดเพศ จะต้องถูกประนามเหยียดยาม รังแก และการไม่ยอมรับ จึงทำให้ไม่แสดงออกกันนักในบางคน แต่เมื่อมีการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ จนออกกฎหมายขึ้นมารองรับ และรับเข้าทำงานเกิดขึ้น จึงทำให้มีการกล้าแสดงออกมากขึ้นและถือว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรเพราะในเมื่อมีกฎหมายออกมาแล้วก็ถือว่ายอมรับแล้ว จึงทำให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น

ไม่ทราบว่าอยากให้มีบุคคลที่กำลังแตกแถวมากขึ้นงั้นหรืออย่าคิดว่าการแต่งกายนั้นไม่เป็นการผิดอะไรรึเสรีภาพจนมากเกินไปจนทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา ถ้าดูแต่ข้อดีของต่างประเทศ งั้นก็ขอให้ดูข้อเสียที่เกิดขึ้นของเขาด้วยนะครับ ทุกอย่างมีข้อกำหนดเสรีภาพมีได้แต่ทำไมต้องมีกฎหมายรึข้อบังคับออกมา

ผมไม่มีความรู้มากมาย
- Wednesday, August 13, 2003 at 15:11:17 (EDT)

ตอนนี้โลกเราก็ได้พัฒนาไปมากไกลกว่าสมัยก่อนที่ยังไม่ยอมรับผู้หญิงประเภท 2 อยู่ แต่เดี๋ยวนี้สังคมเริ่มให้ความยอมรับ แต่ก็อย่าได้คิดว่าทุกคนต้องให้ความสำคัญและยอมรับไปซะทุกคน เพราะทุกวันนี้การที่มีบุคคล กลุ่มนี้เพิ่มขึ้นมามากขึ้นเพราะสิ่งกระตุ้นทางสภาพแวดล้อม และพบเห็นจากทางบุคคลที่รู้จัก สัญจรไปมา รึแม้แต่ในสื่อทุกแขนง จึงทำให้เกิดความกล้าที่จะแสดงออก แต่การแสดงออกนั้นควรได้การยอมรับแล้วหรือ ? เพราะการที่จะให้ผู้หญิงประเภท 2 นั้นแต่งกายแบบเดียวกับผู้หญิงประเภท 1 ซึ่งจะทำให้ บุคคลที่อายุน้อยกว่าเกิดการสับสนและเลียนแบบมากขึ้น สิทธิเสรีภาพ นั้นก็ใช่ที่ว่าจะไม่มีเส้นแบ่งขอบเขตการจำกัดสิทธิ มันขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และเหตุที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย ทุกวันนี้มันมีเส้นบางๆ ระหว่างคำว่า เหมาะสม และ เสรีภาพ ถ้าไปล่วงล้ำฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายก็จะต้องถูกว่ากล่าวและประนาม จากใครก็ตาม ดังนั้น ขอให้ไม่ล่วงล้ำฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็เป็นอันดีอยู่แล้ว สำหรับเรื่องการรับทำงาน รึ มีสิทธิในอันควรแบบในต่างประเทศนั้นยังถือว่าเป็นไปไม่ได้ !!
เพราะมันก็ขึ้นอยู่กับค่าทางสังคม ที่จะมีคนยอมรับผู้หญิงประเภท 2 มากน้อยเพียงใด และต่างประเทศ นั้นเขาก็ถือว่าบุคคลผู้มีความสามารถไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถทำงานได้ แต่ที่รับเพราะถ้าไม่มีการยอมรับก็จะให้เกิดการว่างงานแค่บุคคล เหล่านี้ขึ้น ซึ่งเขารับทำก็จริงอยู่ แต่ก็จะมีกฎข้อห้ามอยู่มากและถ้าทำผิดกฏ ก็จะถูกดำเนินการลงโทษอย่างร้ายแรง และถูกสังคมประนามรุนแรง
ในต่างประเทศ นับวันจะมีผู้หญิงประเภท 2 ขึ้นมากเรื่อยๆ ซึ่งต้องดูที่ประชากรของเขาว่าเยอะมากแค่ไหนไม่ใช่ว่าจะต้องเอาประเทศของเราไปเปรียบเทียบ เพราะไม่ใช่ทุกประเทศจะต้องให้การยอมรับ เพราะของเขามากเกินไปต่างหาก ช่วงที่ไม่มีกฎหมายรับรองรึการรับเข้าทำงาน เพราะยังไม่กล้าแสดงออกกันมาเพราะกลัวว่าใครรู้ว่าผิดเพศ จะต้องถูกประนามเหยียดยาม รังแก และการไม่ยอมรับ จึงทำให้ไม่แสดงออกกันนักในบางคน แต่เมื่อมีการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ จนออกกฎหมายขึ้นมารองรับ และรับเข้าทำงานเกิดขึ้น จึงทำให้มีการกล้าแสดงออกมากขึ้นและถือว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรเพราะในเมื่อมีกฎหมายออกมาแล้วก็ถือว่ายอมรับแล้ว จึงทำให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น

ไม่ทราบว่าอยากให้มีบุคคลที่กำลังแตกแถวมากขึ้นงั้นหรืออย่าคิดว่าการแต่งกายนั้นไม่เป็นการผิดอะไรรึเสรีภาพจนมากเกินไปจนทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา ถ้าดูแต่ข้อดีของต่างประเทศ งั้นก็ขอให้ดูข้อเสียที่เกิดขึ้นของเขาด้วยนะครับ ทุกอย่างมีข้อกำหนดเสรีภาพมีได้แต่ทำไมต้องมีกฎหมายรึข้อบังคับออกมา

ผมไม่มีความรู้มากมาย
- Wednesday, August 13, 2003 at 15:10:46 (EDT)

ไม่ได้เป็นกระเทยแต่อยากเสนอความคิดของตัวเองว่ามองปัญหานี้อย่างไร ตอนแรกคิดว่าไม่เหมาะ เพราะมันเหมือนกับเป็นการหรอกตัวเองหรอกสังคม แต่พอคิดดูใหม่ก็คิดว่าไม่ยุติธรรมเลยเพราะที่พวกทอมหรือพวกผู้หญิงท่กระเดียกใกงเกงไปเรียนแต่งตัวเหมือนผู้ชายทำไมไม่มีใครให้ความสนใจบ้าง และพวกเค้าก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายไม่ได้ไปก่อกวนความสงบชาวบ้าน ก็ไม่เห็นเป็นไร ดีกว่าพวกท่ชอบก่อกวนความวุ่นวายบางกลุ่มที่ทำตัวไร้สาระ
ดอกไม้
- Sunday, August 10, 2003 at 07:36:56 (EDT)

ไม่ได้เป็นกระเทยแต่อยากเสนอความคิดของตัวเองว่ามองปัญหานี้อย่างไร ตอนแรกคิดว่าไม่เหมาะ เพราะมันเหมือนกับเป็นการหรอกตัวเองหรอกสังคม แต่พอคิดดูใหม่ก็คิดว่าไม่ยุติธรรมเลยเพราะที่พวกทอมหรือพวกผู้หญิงท่กระเดียกใกงเกงไปเรียนแต่งตัวเหมือนผู้ชายทำไมไม่มีใครให้ความสนใจบ้าง และพวกเค้าก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายไม่ได้ไปก่อกวนความสงบชาวบ้าน ก็ไม่เห็นเป็นไร ดีกว่าพวกท่ชอบก่อกวนความวุ่นวายบางกลุ่มที่ทำตัวไร้สาระ
ดอกไม้ <philos>@hansa.com>
- Sunday, August 10, 2003 at 07:31:46 (EDT)

ไม่ได้เป็นกระเทยแต่อยากเสนอความคิดของตัวเองว่ามองปัญหานี้อย่างไร ตอนแรกคิดว่าไม่เหมาะ เพราะมันเหมือนกับเป็นการหรอกตัวเองหรอกสังคม แต่พอคิดดูใหม่ก็คิดว่าไม่ยุติธรรมเลยเพราะที่พวกทอมหรือพวกผู้หญิงท่กระเดียกใกงเกงไปเรียนแต่งตัวเหมือนผู้ชายทำไมไม่มีใครให้ความสนใจบ้าง และพวกเค้าก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายไม่ได้ไปก่อกวนความสงบชาวบ้าน ก็ไม่เห็นเป็นไร ดีกว่าพวกท่ชอบก่อกวนความวุ่นวายบางกลุ่มที่ทำตัวไร้สาระ
ดอกไม้ <philos>>
- Sunday, August 10, 2003 at 07:31:09 (EDT)

ที่หลายอ้างว่าการที่กระเทยแต่งหญิงเป็นความ ไม่เหมาะสม อยากทราบว่า ความเหมาะสมในความหมายของท่านคือ อะไร ความเหมาะสมคือความเหมือนงั้นหรือ คือการที่ต้องทำในสิ่งที่สังคมกำหนดไว้งั้นหรือ หากความแตกต่างไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนก็ไม่ใช่สิ่งผิดมิใช่หรือ การที่กระเทยแต่งหญิงก็เช่นกัน

คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปาร
- Sunday, August 10, 2003 at 03:54:00 (EDT)

เราก็เป็นกระเทยคนหนึ่ง ที่อยากให้สังคมยอมรับ เราก้แต่งหญิงมาเรียน ไม่เห็นจะมีใครว่าเลย ทุกคนยอมรับ กระเทยเกิดมาก็มีปมด้อยอยุ่แล้ว เลือกเกิดได้คงไม่มีใครอยากเกิดมาหรอก กับแค่การแต่งกายเป็นหญิงทำให้คนหลายกลุ่มต้องวิพากวิจารณ์ กันจัง แล้วทีนักศึกษาหญิง หรือชายแต่งกายผิดระเบียบ ไม่เห้นจะมีใครว่าเลย ที่กระเทยจะแต่งมั่งทำเป็นรับไม่ได้ เราแต่งแต่เราก็อยุ่ในความประพฤติของสถาบันไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่ว่าแต่งแล้วเราจะทำตัวเกเร นี่นา ที่ ปัญญานักศึกษา ขายตัวกันยังแก้ไม่ได้เลย ยิ่ง
ดูไม่ดีกว่ากระเทยไม่ใช่เหรอ บางครั้งที่เราฝืนกฏของระเบียบไม่ใช่ว่าเราไม่ดี แต่อยากให้ทุกคนรู้ว่าถ้าท่านเกิดมาเป็นอย่างพวกเรามั่งท่านจะรู้สึก ว่าการที่แต่งกายไม่ตรงกับจิตใจของตัวเองทรมานแค่ไหน กระเทยไม่ใช่ของเล่น กระเทยก้คือคน อยากให้พวกท่านเอาเวลาที่จะวิจารณ์กระเทยไปแก้ปัญหาสังคมดีกว่าค่ะ

อุทัย พร้อมพรม <homo.thai@chaiyo.com>
- Monday, July 07, 2003 at 03:17:05 (EDT)

หี
..
- Monday, June 23, 2003 at 03:09:18 (EDT)

ในที่นี้ใครอยากให้ลูกตัวเองเป็นกระเทยมั่ง
เวลาที่เด็กๆเห็นกระเทย พวกเค้าชอบถามเสมอว่า นั่นผู้ชายหรือผู้หญิงน่ะ น่ากลัวจริงๆการที่เด็กๆเห็นแล้วเอาไปเลียนแบบน่ะ

:)
- Sunday, May 25, 2003 at 22:54:01 (EDT)

ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง....
อย่าเลยคร้าบ ทนดูมะด้าย............................

เกลียดกระเทย
- Sunday, May 25, 2003 at 11:51:19 (EDT)

ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง....
อย่าเลยคร้าบ ทนดูมะด้าย............................

เกลียดกระเทย
- Sunday, May 25, 2003 at 11:48:57 (EDT)

หนูมีความเชื่อว่า การกระทำได้ที่ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เป็นการกระทำที่ไม่ผิด เพราะงั้นถ้าการที่กระเทยใส่ชุดนักศึกษาหญิงแล้วเค้าไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน หนูว่าเค้ามีสิทธิ์เต็มที่ที่จะใส่
อัญชลี รอดรั้งอ <edoom@thaimail.com>
- Tuesday, May 13, 2003 at 05:38:43 (EDT)

If there is no freedom in dressing, there would be even less freedom in thinking. If Thai student can not dress as they wish when would they be allowed to express their thoughts accordingly. Thailand is one of a few countries in the world that requires university students to wear uniform. Do we really need the uniform at all ? Why can't the students think by themselves what to wear. I am certain that people at that age will know how to properly dress althought it may not be appropriate by a century old standard.
Ken WONGSA <unken@mailcity.com>
- Thursday, May 01, 2003 at 12:48:59 (EDT)

เป็นคนเหมือนกันอยากใส่ก็มีสิทธิทั้งนั้น
่่jj
- Friday, April 18, 2003 at 06:00:42 (EDT)

สังคมจะเปลี่ยนไปขนาดไหนก็ช่างเถอะค่ะ แต่การแต่งชุดนักศึกษา เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลง คุณไม่รู้สึกภูมิใจบ้างเหรอคะเวลาสวมชุดนักศึกษาแบบถูกระเบียบ รู้สึกว่าเป็นชุดที่ศักดิ์สิทธิ์ อยากให้ความเคารพ ไม่ใช่แต่งอย่างไรก็แต่ง ในชีวิตหนึ่งก็แค่ช่วงนี้เท่านั้นที่ได้ใส่ชุดแบบนี้
นักศึกษา
- Wednesday, April 09, 2003 at 05:20:18 (EDT)

เท่าที่ผ่านมา สังคมให้โอกาสเปิดกว้างเพศที่สามมากขึ้น เมื่อเทียบกับสัมยก่อนแล้ว ถือว่ายุดนี้ให้เกียรติ สิทธิ์ที่พึงมีกับบุคคลกลุ่มนี้มาก เห็นด้วยกับความคิดเห็นเพิ่มเติมของคุณสมโชค แต่ก็ขอเพิ่มเติมด้วยว่า ทุกอย่างที่เรียกร้องน่าจะมีขอบเขตเห็นความสมควร และความเป็นจริง การยอมรับของสังคมมีให้พวกเขามากจริงๆ แต่ขณะเดียวกันเขาก็ควรยอมรับสภาพความเป็นจริง และผลกระทบรอบข้างกับคนอื่นๆด้วย
ขอบคุณครับ

ก.พ่อค้า <phorka@adw-th.com>
- Saturday, March 29, 2003 at 20:30:08 (EST)

กะเทย ก็คือ ผู้หญิง เหมือนกันนั่นแหละ เพียงแต่เค้าเกิดมาผิดร่าง สำหรับกะเทยที่มีร่างกายเป็นผู้หญิงแล้ว แบบมีหน้าอกแล้ว ก็ควรให้เค้าแต่งค่ะ เพราะเค้าเป็นผู้หญิงเหมือนกัน หัวอกเดียวกัน
นุ่น <nune_girl@hotmail.com>
- Saturday, March 22, 2003 at 03:05:47 (EST)

เสื้อผ้าเป็นแค่เครื่องปกปิดร่างกายกันอุจาด ใครเป็นผู้กำหนดว่าวัตถุชิ้นนี้ในรูปลักษณ์ใดต้องใช้กับเพศใด อย่ายึดอย่าถือกันนักเลย เป็นครูบาอาจารย์เขาถ้าสอนให้เขาคิดเป็น ใช้วิจารณญานเป็นเขาก็จะตัดสินใจได้เอง
Siamese Fighter
- Friday, March 21, 2003 at 13:13:19 (EST)

เห็นด้วยในแง่ของการใช้สิทธิของตนเองในการเลือกการแต่งกาย แต่ไม่เห็นด้วยหากการแต่งกายนี้ไม่เหมาะสมกับกาละและเทศะ เช่น หากเราไปเดินเที่ยวหรืออยู่ที่ไหนในสาธารณะสถานที่ไม่มีข้อกำหนดเรื่องการแต่งกาย เราก้อทำได้อย่างที่ต้องการ แต่เมื่อใดที่เราอยู่ในสถานที่ที่มีข้อกำหนดหรือมีแบบแผนในการแต่งกายที่ชัดเจนแล้ว ที่ถูกต้องคือเราควรจะแต่งกายตามแบบแผนนั้น ยกตัวอย่างง่ายๆ ในมหาลัยหรือที่ไหนก้อแล้วแต่ หากชายที่แต่งหญิงจะเข้าห้องน้ำ เราจะเลือกเข้าห้องไหน ห้องน้ำชายหรือห้องน้ำหญิง ซึ่งไม่ว่าเราจะเข้าห้องไหนแน่นอนย่อมมีปัญหาแน่นอน ยกเว้นเวลานั้นมีเราคนเดียวที่เข้าห้องน้ำ
นี่เป็นตัวอย่างนึงที่เป็นปัญหาในการร่วมกิจกรรมกับคนอื่นๆ สรุปคือเรื่องบางอย่างหญิงในร่างชายทำได้และไม่มีปัญหา แต่ก้อมีอีกหลายอย่างที่เธอเหล่านั้นทำได้แต่จะเป็นปัญหา เพราะฉนั้นจงคิดเถิดว่า เราจะอยู่อย่างไม่มีปัญหาหรือว่าจะอยู่อย่างมีปัญหาในสังคมเมืองไทย.........ด้วยความปราถนาดีครับ

คนมีเพื่อนเป็นกระเทยเหมือนกัน <...........>
- Wednesday, March 19, 2003 at 04:41:43 (EST)

ตามกฏระเบียบของสังคมแล้วผู้หญิง ก็ควรแต่งกายแบบผู้หญิงผู้ชายก็ควรแต่งกายแบบผู้ชายแต่ปัจจุบันสังคมก็เปลี่ยนไปกระเทยก็มีมากขึ้นถ้าเราไปกะเกณฑ์มากเกินไปก็ทำให้สังคมมีปัญหาอีกเราก็ควรจะละเว้นบ้างแต่การที่กระเทยแต่งชุดนักศึกษาไปเรียนดิฉันคิดว่าไม่เหมาะสมควรจละเว้นสถานที่บ้างถ้าเป็นสถานที่ศึกษาเราควรจะให้เกีตรสถานศึกษาบ้าง
siriwan patkong <onetwoone>
- Thursday, March 13, 2003 at 22:15:55 (EST)

ตามกฏระเบียบของสังคมแล้วผู้หญิง ก็ควรแต่งกายแบบผู้หญิงผู้ชายก็ควรแต่งกายแบบผู้ชายแต่ปัจจุบันสังคมก็เปลี่ยนไปกระเทยก็มีมากขึ้นถ้าเราไปกะเกณฑ์มากเกินไปก็ทำให้สังคมมีปัญหาอีกเราก็ควรจะละเว้นบ้างแต่การที่กระเทยแต่งชุดนักศึกษาไปเรียนดิฉันคิดว่าไม่เหมาะสมควรจละเว้นสถานที่บ้างถ้าเป็นสถานที่ศึกษาเราควรจะให้เกีตรสถานศึกษาบ้าง
siriwan patkong <onetwoone>
- Thursday, March 13, 2003 at 22:12:51 (EST)

ไม่ขอแสดงความคิดเห็นอะไรชี้ขาด แต่อยากยกตัวอย่างสถานการ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต คือ ถ้าอนาคต คนที่เป็นเพศที่ 3 นี้แต่งตัวเหมือนผู้หญิงได้อย่างถูกต้อง ได้รับการยอมรับมากขึ้น บางทีห้องน้ำหญิงอาจไม่เป็นที่ปลอดภัยของเพศหญิงจริงๆ เพราะถ้าผมเป็นคนโรคจิต ผมจะแต่งหญิง แล้วเข้าห้องน้ำหญิง จากนั้นก็เจาะรู ปีนฝา ติดกล้องจิ๋ว หรือกระทั่งข่มขืน สะดวกมากขึ้น
สมโชค <a_somchok@thaimail.com>
- Friday, March 07, 2003 at 01:14:13 (EST)

สำหรับผมแล้วไม่เห็นด้วยนะเพราะยังไงกระเทยก็ยังเป็นเพศชายอยู่ ที่มหาลัยผมก็มีดูแล้วไม่เหมาะ ฝากผู้ใหญ่ในด้านการศึกษาดูแลด้วย
AOD
- Thursday, March 06, 2003 at 01:29:06 (EST)

ไม่เห็นด้วยครับ ผมในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง เกิดเป็นชายแท้ๆนะครับควรจะภูมิใจในความเป็นชาย การที่ผู้ชายแต่งตัวเป็นผู้หญิงนั้นผมคิดว่าไม่ผิด แต่มันเสื่อมเสียคำว่า "ลูกผู้ชาย"
ศิริ เรืองจรัส <mr.siri@chaiyo.com>
- Tuesday, March 04, 2003 at 04:08:49 (EST)

No Comment!!
blackjack
- Monday, March 03, 2003 at 07:31:27 (EST)

ไม่เห็นด้วย ในทุกสังคมย่อมมีกฏต่างๆเพื่อความสงบสุขของสมาชิกของสังคมนั้นๆ เห็นใจและไม่คัดค้านถ้านักศึกษาชายใส่ชุดผู้หญิงในสถานที่หรือในสถานะที่ไม่ใช่นักศึกษา คิดว่าเกือบทุกคนจะไม่รังเกียจหรือมีอคติ แต่ถ้าอยู่ในสถาบันแล้วยังกระทำตน ดูถูกหมิ่นระบบ และกฏเกณฑ์ของสถบันที่เป็นสมบัติของคนส่วนใหญ่ เช่นนี้ถือว่าบุคคลนั้นไม่เคารพในสิทธิเสรีภาพของคนอื่น มีแต่จะคิดและเรียกร้องแต่ของตนฝ่ายเดียว
นายชรินทร์ ศิลป์พิสุทธิ์ <Info@siamadventuretourism.com>
- Saturday, March 01, 2003 at 20:02:16 (EST)

ไม่เห็นด้วย ในทุกสังคมย่อมมีกฏต่างๆเพื่อความสงบสุขของสมาชิกของสังคมรั้นๆ เห็นใจและไม่คัดค้านถ้านักศึกษาชายใส่ชุดผู้หญิงในสถานที่หรือในสถานะของนักศึกษา คิดว่าเกือบทุกคนจะไม่รังเกียจหรือมีอคติ แต่ถ้าอยู่ในสถาบันแล้วยังกระทำตน ดูถูกหมิ่นระบบ และกฏเกณฑ์ของสถบันที่เป็นสมบัติของคนส่วนใหญ่ เช่นนี้ถือว่าบุคคลนั้นไม่เคารพในสิทธิเสรีภาพของคนอื่น มีแต่จะคิดและเรียกร้องแต่ของตนฝ่ายเดียว
นายชรินทร์ ศิลป์พิสุทธิ์ <Info@siamadventuretourism.com>
- Saturday, March 01, 2003 at 20:00:11 (EST)

ไม่ต้องต้องให้แต่งเป็นนักษามาเรียนแต่การแต่งตัวในชีวิตประจำวันเป็นสิทธิที่ยอมรับครับอีกอย่างก็คือการจะเปลี่ยนคำนำหน้าคงยอมรับไม่ได้ครับ
แสนชัย คำหล้า <dgcthailand@mweb.co.th>
- Friday, February 21, 2003 at 00:55:07 (EST)

ไม่คัดค้าน แต่อาจสับสนหรือเป็นอันตรายหรือไม่เวลาเข้าห้องน้ำหรือหอพักที่แยกเพศ ถ้าจะพูดถึงเครื่องแบบจริงๆแล้วอยากพูดถึงเครื่องแบบตามแฟชั่นของนักศึกษาหญิงมากกว่าที่รัดรูปเสียจนอะไรๆจะปริออกมา เป็นสิทธิส่วนตัวก็จริงอยู่แต่ดูแล้วเสี่ยงต่อคดีไม่พึงปรารถนามากกว่า
กาสร <itsara_ta@hotmail.com>
- Thursday, February 20, 2003 at 04:28:53 (EST)

การเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาใดก็ตามต้องปฏิบัติตามระเบียบการแต่งกายของสถาบันนั้นๆอยู่แล้ว ระเบียบที่มีอยู่กำหนดว่าหญิงแต่งแบบนี้ ชายแต่งแบบนี้ ไม่มีว่าใครอยากแต่งอะไรก็ได้ มิฉะนั้นระเบียบก็ใช้ไม่ได้ การแต่งหญิงของชายควรแต่งที่บ้านหรือที่อื่นที่ไม่ใช่ในสถาบันการศึกษา มีอาจารย์ที่มีความโน้มเอียงและยอมรับตัวเองว่าอยากเป็นหญิงหรืออะไรทำนองนี้ ท่านเหล่านั้นก็แต่งตัวเป็นชายปกติ ไม่เห็นมีอะไรที่จะเรียกร้องเพื่อให้เกิดความวุ่นวายสับสนในสังคมเลย ยิ่งสถาบันธรรมศาสตร์แล้ว นักศึกษามีเสรีภาพเต็มที่ทั้งทางกายวาจาใจ แต่ทุกอย่างล้วนอยู่ในขอบเขต เสรีภาพของบุคคลมีขอบเขต มีข้อจำกัด การแสดงออกย่อมหมายถึงการเคารพระเบียบกฎเกณฑ์ที่ดีงาม มิฉะนั้นมหาวิทยาลัยคงต้องเปลี่ยนระเบียบใหม่เรื่องการปฏิบัติตั้งแต่ระเบียบการแต่งกาย คำเรียกนักศึกษา การให้คำจำกัดความเรื่องเพศและอะไรอื่นๆสารพัด สิ่งที่ควรคำนึงมากที่สุดคือเสรีภาพที่ชอบธรรมและมีขอบเขต การมีสติว่ากำลังคิดและทำอะไรอยู่
วัชระ ชำนาญฤทธิ์ <vachara44@hotmail.com>
- Wednesday, February 19, 2003 at 21:16:11 (EST)

ไม่เห็นด้วย ไม่เคยชอบใจแม้แต่เห็นพวกสาวประเภทสองมาเข้าห้องน้ำหญิงของเรา

คำว่าเครื่องแบบ มันก็บอกอยู่แล้วว่า ชุดเสื้อผ้าที่ใช้เฉพาะกลุ่มบุคคล เช่นเครื่องแบบตำรวจ ทหาร เครื่องแบบพระภิกษุ เครื่องแบบพนักงานบริษัท ฯลฯ

ในรั้วสถานศึกษาไทยที่กำหนดให้ใส่เครื่องแบบ เมื่อมีสถานภาพเป็นนักศึกษา
ก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบของสถานศึกษานั้นๆ
ไม่ใช่มัวมานั่งเปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยเมืองนอกให้เสียเวลา
สังคมไทย ประเทศไทย มีวิถีชีวิต ค่านิยม ประเพณี ที่แตกต่างกัน ก็ต้องยอมรับ


ดูพนักงานบริษัทฯที่เค้ามีเครื่องแบบสิ พนักงานชายก็ต้องแต่งกายแบบชาย
ถ้าตะแบงจะใส่เครื่องแบบพนักงานหญิง เค้าก็ไล่ออกเท่านั้น




นิรมล
- Tuesday, February 18, 2003 at 02:30:15 (EST)

ผมเห็นกระทู้นี้มานานแล้ว ผมเลยอยากแสดงความคิดเห้นบ้าง
จริงๆแล้วสิ่งที่พูดกันอยู่นี่ผมไม่สนับสนุนและไม่คัดค้าน
เมื่อวานก็เพิ่งเป้นวันมาฆะบูชา เป็นวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงโอวาทปฏิโมกขิ์ ท่านทั้งหลายรู้หรือเปล่าว่า ประโยคแรกของโอวาทปฏิโมกข์คืออะไร

"ขันติ ปรมัง ตโป ตีติกขา" ความอดทนเป็นตบะอย่างยิ่ง

สิ่งที่ผมอยากพูดก็คือ บรรดาผู้รู้ราตรีนานทั้งหลายก็ไม่ควรจะไปห้ามเขาหรอกครับ มันเป็นสิทธิของเขา มันเป็นเรื่องของปัจเจกชนที่เขาอยากทำ

แต่บรรดาน้องๆทั้งหลายที่แต่งนั้นก็ไม่ว่าหรอกเธออยากทำก็ทำไป มันเป็นสิทธ์ของพวกเธอ เราเองก็ยอมรับว่ากระเทยมีมาคู่ประวัติศาสตร์ มวลมนุษยชาติ
เราจะต้องไม่ลืมว่า บัณฑิตคือผู้ฝึกตน เราต้องฝึกทั้งความรู้และจิตใจ มนุษย์เป็นสัตว์สังคมมีบรรทัดฐานสังคม แต่ละสังคมแตกต่างกัน เธอจะอ้างว่าที่อื่นเขาทำไม่ได้ การที่เธอแต่งนั้นนั้นมันถูกต้องตามหลักสิทธิมนุษยชน แต่มันผิดตามบรรทัดฐานสังคม ประชาธิบไตย ไม่ใช่การอ้างสิทธิ แต่เป็นการทำตามหน้าที่ภายใต้สิทธิที่ได้รัยมอบหมาย เวลาที่มาเรียนก็แป๊บเดียวเอง การที่เธอยังใช้คำนำหน้าว่านายอยู่นัน้ เธอก็ต้องสามารถทำตามกฏิกาได้ เวลาอื่นนอกเหนือจากนี้มีมากมายที่เธอจะแต่งหญิง เอาให้สุดๆไปเลยไม่ว่าหรอก แต่เวลาเรียน ก็ทำให้มันถูก

สรุปว่าไม่ห้าม อยากแต่งก็แต่ง แต่อยากให้มี โยนิโสนมสิการ คือพิจารณาใคร่คราวญให้ดีก่อนทำอะไร เพราะอีกไม่นานเธอก็จะจบใช้คำว่าบัณฑิต ความอดทนอดกลั้นต่อกิเลสนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แค่นี่ยังทนไม่ได้ แล้วที่เหลือจะเป็นอย่างไร สิ่งที่ทำนี้ท่านก็เรียว่าเป็น ตัณหาแบบหนึ่ง เรียกว่า ภวตัณหา และวิภวตัณหา คือเป็นแบบหนึ่งแต่ไม่พอใจอยากเป็นอีกแบบหนึ่ง อยากให้เป็นอย่างที่ต้องการ
ท่านทั้งหลายลองคิดดูครับ นี่เป็นความคิดผมคนเดียวครับ จะผิดจะถูกก็ขออภัยด้วยนะครับ

บุญเรือง มะรังศรี <ryusuke007@yahoo.com>
- Monday, February 17, 2003 at 02:44:51 (EST)

Wearing a female uniform is no harm, just annoying the Conservative Dinosaurous people's eyes.
a student in the UK
- Thursday, February 13, 2003 at 18:46:19 (EST)

ไม่เห็นด้วยกับการที่กระเทยจะต้องมาใส่ชุดนักศึกษาหญิง ยอมรับว่าในปัจจุบันกระเทยในสังคมไทยมีความสามารถหลาย ๆ ด้านที่น่ายกย่องชมเชย จนบางสังคมอาจยอมรับ จนถือเป็นความเคยชินหรือเป็นเรื่องที่ปรกติไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงธรรมชาติย่อมเป็นธรรมชาติ ไม่มีใครมาเปลี่ยนแปลงได้ ทุกอย่างถึงจะมีอิสระในตัวของมันเอง แต่ทุกอย่างก็ย่อมมีขอบเขตที่จำกัด
เจนจิรา น้ำใจดี <ิfon5311@chaiyo.com>
- Wednesday, February 12, 2003 at 04:23:36 (EST)

ไม่เห็นด้วยกับการที่ให้กระเทยใส่ชุดนักศึกษาหญิง
เพราะยังไงถ้ามองตามสภาพความเป็นจริง ยังไงมันก็ต้องเป็นผู้ชายอยู่ดี ไม่ว่าเราจะไปทำอะไรให้เหมือนผู้หญิง แต่ก็ยังมีส่วนที่เป็นผู้ชายอยู่ เช่นผู้ชายจะมีพละกำลังมากกว่าผู้หญิง ถ้าเกิดมีปัญหากับผู้หญิงกระเทยย่อมชนะ เพราะยังคงกำลังไว้ด้วยซึ่งผู้ชาย หรือแม้แต่การแสดงออกของกระเทย เพราะผู้หญิงเขาไม่ดัดจริตมากเกินกว่าความเป็นผู้หญิง แต่กระเทยจะมีความดัดจริตมากเกินกว่าที่จะคำนึงว่าเขาอาศัยอยู่ในอารมณ์ หรือกริยาของเพศใด

sompon namdee <namdee.som@chaiyo.com>
- Wednesday, February 12, 2003 at 04:16:58 (EST)

การแต่งกายไม่ได้วัดความรู้ แต่แต่งให้ดูงามก็แล้วกัน ไม่อยากเห็นพวกครึ่งชาย/หญิง ที่ตัวเองไม่เหมาะกับชุดนักศึกษาหญิงใส่ชุดผู้หญิงเลย กลัวจิงๆนะ
วีระชัย <wee_bver@yahoo.com>
- Tuesday, January 28, 2003 at 04:41:17 (EST)

ชุดนักศึกษาไม่ได้วัดคุณค่าความเป็นคนของใครว่ามีเท่าไหร่ แต่ก็ควรแต่งให้ถูกต้องตามระเบียบของมหาวิทยาลัย นักศึกษาทุกวันนี้ไม่ได้คิดว่าชุดที่ตัวเองแต่งเหมาะสมหรือไม่ คิดว่าฉันเอาสมองมาเรียนเท่านั้นชุดไม่สำคัญ มันก็มีส่วนถูกแต่ลืมคิดในด้านจริยธรรมที่พึงมีในตัวเอง ทุกวันนี้เด็กๆที่เรียนในระดับอุดมศึกษา น้อยคนที่เรียนเพราะอยากเรียน ส่วนมากเรียนเพราะใครๆเขาก็เรียนกัน เรียนเพราะจะได้มีวุฒิ ปริญญาตรีไปสมัครงานจนลืมเอาจิตใจที่ดีงามไปกับตัวเอง ผมไม่สนับสนุนหรือคัดค้านแต่อยากให้ตัวนักศึกษาเองที่น่าจะมีความคิด ตัดสินใจเอาเองว่าเหมาะสมหรือไม่
ken
- Monday, January 27, 2003 at 09:34:16 (EST)

ต้องการแสดงเพศให้ชัดเจน ทำไมไม่แต่งชุดนักศึกษากระเทย! กรณีมีคดีต้องถูกซักถาม การที่เราเห็นลักษณะ หรือ ลักษณะการแสดงออก สมมติว่าน่าจะเป็นผู้หญิง การหักล้างพยานก็จะถูกทำได้ง่าย การกำหนดเพศได้ถูกกำหนดไว้แต่การมีชีวิตอยู่ การมาตู่เป็นเพศตรงข้ามในช่วงเวลาถัดมา จะเกิดปัญหาขึ้นมามากกว่า
วิญญู นาครักษ์ <winyoonak@yahoo.com>
- Monday, January 27, 2003 at 02:56:09 (EST)

การที่พวกเราจะแต่งตัวแบบไหนไปเรียนนั้นมั้นก็ไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าเรานั้นต้องโง่ ต้องเป็นคนแล้วของสังคม ทำไมสังคมไม่เอาเวลาที่มาจิจารณ์กรเทยไป ดูแลเอาใจใส่กับเรื่องยาเสพติด อาชญากรรม อย่างน้อยกระเทยเป็นแล้วก็ไม่ได้เดือนร้อนใคร ไม่ได้ไปฆ่าใคร ไม่ได้ขายยาบ้า แล้วเวลาที่สื่อต่าง ๆ เสนอเรื่องเกี่ยวกับกระเทยทำไม่เสนอในเรื่องที่ดีดีบ้าง ทำไมเสนอแต่เรื่องเลว ๆ ออกมา กระเทยที่เค้าดี มีคุณธรรม เรียนเก่ง ก็เยอะแยะไป คุณเสียเวลามากที่มากยุ่งกับเรื่องกระเทย เพราะอย่างนี้แหละประเทศมันถึงไม่พัฒนา เพราะมัวเอาเวลามาวิจารณ์คนดี ๆ แทนที่จะเอาเวลามาแก่ปัญหาของสังคมอื่น ๆ ที่สำคัญกว่า กระเทย มันคงจะทำให้ประเทยเจริญรุ่งเรืองไปกว่านี้เอยะทีเดียว ส่วนไอ้เรื่องที่กระเทยชั่ว คุณไม่คิดเหรอว่า ชายจริงหญิงแท้ก็เลวไม่แพ้กระเทยที่ทำชั่วเหมือนกัน แล้วคุณอย่าลืมนะว่า กระเทยบางส่วนก็เก่งกว่าชายจริงหญิงแท้เหมือนกัน ควรจะวัดกันที่ ความสามารถและวุฒิภาวะมากกว่าที่จะมาวัดกันที่ร่างกาย
เสียงของกระเทย <sandra_202@hotmail.com>
- Sunday, January 26, 2003 at 04:23:49 (EST)

ก้อดูน่ารักดีนะ
Spicy`Sex
- Wednesday, January 22, 2003 at 06:24:37 (EST)

อ้อ! อีกเรื่อง คือ ที่คุณวายได้ออกความเห็นว่า "ปัจจุบันคนยอมรับว่าการเป็นกะเทยถือเป็นเรื่องปรกติ ไม่ได้เป็นโรคจิต วิกลจริต" ผมว่าคุณวายคงจะเข้าใจอะไรผิดไปบางอย่างนะครับ เพราะการที่คนคนหนึ่งเกิดมา เป็นเพศชาย หรือหญิงก็ตามแต่แล้วไม่ยอมรับความจริงว่าตนเป็นเพศนั้นๆ ถือว่าเป็นความผิดปรกตินะครับ ถึงแม้ว่าปัจจุบันสังคมจะไม่ได้รังเกียดเพศที่ 3 นี้แล้วเพราะเขาไม่ได้ทำความเดือดร้อนกับคนอื่น และยังมีกระเทยอีกหลายคนที่มีความสามารถในหลายๆ แขนงวิชา ทำให้สังคมยอมรับกระเทยมากขึ้น แต่ก็มิได้หมายความว่า กระเทยจะมีสิทธิพิเศษ สามารถเลือกที่จะแต่งหญิง หรือชายก็ได้ จะกลายเป็นว่ากระเทยเป็นอภิสิทธิชน สามารถทำในสิ่งที่นักศึกษาคนอื่นทำไม่ได้
ชายจริง
- Wednesday, January 22, 2003 at 05:38:04 (EST)

ผมสงสัยจริงครับ ว่าคนที่เห็นด้วยกับการที่ให้พวกกระเทยทำผิดกฎระเบียบเป็นคนอย่างไรกัน การที่คนจะอยู่รวมกันเป็นสังคมได้จะต้องเคารพความคิดเห็น และกฎเกณฑ์ที่สังคมนั้นๆ ตั้งขึ้นมา ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดี ตั้งแต่ก่อนสอบเข้าในสถาบันฯแล้วว่า ผู้ชายจะต้องประพฤติตัวอย่างไร ผู้หญิงจะต้องประพฤติตัวอย่างไร แต่เมื่อเข้าเรียนในสถาบันจะมาเรียกร้องอะไรกันอีก

ส่วนเหตุผลที่ว่าการแต่งตัวเป็นสิทธิส่วนบุคคลนั้นก็จริงอยู่ แต่ถ้าไม่มีเครื่องแบบแล้ว เราจะไม่สามารถจำแนกนักศึกษาแต่ละคน ในการทำกิจกรรมหลายๆอย่างที่จะต้องแยกเพศนักศึกษา เช่น การเข้าหอนอนของนักศึกษาประจำ ซึ่งจะไม่อนุญาตให้ผู้ชาย เข้าไปในหอนอนของผู้หญิง หากอนุญาตให้กระเทยแต่งหญิง แล้วเกิดมีผู้ชายปลอมตัวแล้วอ้างว่าเป็นกระเทย จะไม่ยุ่งกันใหญ่หรือ

นี้เป็นแค่ตัวอย่างเดียว ซึ่งผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายกรณี ที่จะต้องแยกเพศชาย หญิง อย่างชัดเจนเพื่อกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งมันไม่คุมกันเลยกับ ถ้าจะเอามาแลกกับความมักง่ายของคนบางกลุ่ม......ถ้ารับไม่ได้กฎเกณฑ์เล็กๆน้อยๆ ก็ขอให้ลาออกไป จะได้ไม่เป็นปัญหากับคนส่วนใหญ่

ชายจริง
- Wednesday, January 22, 2003 at 05:24:39 (EST)

ทุกคนมีสิทธิส่วนตัวที่จะทำอย่างไรก็ได้ กางเกงไม่ได้สงวนสำหรับผู้ชาย ฉะนั้น กระโปรงก็คงไม่สามารถสงวนเฉพาะสำหรับผู้หญิงได้เช่นกัน
แต่ถ้าโรงเรียนมีระบุในคู่มือนักศึกษา ว่า ชายแต่งกายอย่างไร หญิง แต่งกายอย่างไร อย่างนี้ ฝ่ายชาย และกระเทยคงจะมาใส่กระโปรงไม่ได้ เฉพาะในชุดนักศึกษา
แต่ยิ่งกว่านั้นคือ ผู้หญิง (เช่นตัวเอง) ยังไงก็ไม่ไว้ใจกระเทยอยู่ดี เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เค้าจะเป็นชายเมื่อไหร่ หรือเป็นหญิง เมื่อไหร่ จุดนี้ยังมีอันตรายกับผู้หญิงแฝงอยู่ ยกเว้น กระเทยที่แปลงเพศแล้ว

Trace <cpanit@thaimail.com>
- Wednesday, January 22, 2003 at 03:16:17 (EST)

ถ้าแต่งตัวเป็นผู้หญิง แล้ว ทำตัวเป็นผู้หญิง ก็คงไม่เป็นอะไรหรอกครับ แต่ขอถามตรง ๆ เคยเห็นกระเทยในเมืองไทย มีกี่คน ที่ทำตัวเป็นผู้หญิง ส่วนมากมักทำตัวเกินผู้หญิงกันทั้งนั้น ดูแล้วไม่เหมาะหรอกครับ
ฉัตรชัย สันติบุตร <zonorous@hotmail.com>
- Tuesday, January 21, 2003 at 15:25:42 (EST)

อ่าาาา...
ูู^^TAZ^^^
- Tuesday, January 21, 2003 at 15:24:13 (EST)

กะเทยคือชายที่อยากจะเป็นหญิงฉะนั้นการกระทำใดๆที่แสดงได้ว่านั่นคือสิ่งบ่งบอกถึงความเป็นหญิงเขาจึงต้องสรรหารและปฏิบัติตามทุกอย่าง การแต่งกายแบบผู้หญิงจึงเป็นอีกอย่างที่เขาจะแสดงออกถึงความอยากและจิตใจที่ฝักไฝ่ของเขาปัจจุบันมันไม่ใช่เรื่องแปลกที่กะเทยแต่งเป็นผู้หญิงแต่การใส่ชุดนักศึกษาหญิงเป็นสิ่งที่คน คนนั้นควรมีสำนึกว่าสมควรหรือไม่ให้เกียรติสถาบันมากพอหรือเปล่าเพราะก่อนที่จะเข้าศึกษาในสถาบันใดก็ตามแต่ละสถาบันมักบอกกฏการปฏิบัติการแต่งกายให้สุภาพควรแต่งอย่างไร ชายแต่งอย่างไร หญิงแต่งอย่างไร นั่นถือว่าคุณได้ศึกษากฏระเบียบของสถาบันแล้ว แตเมื่อท่านเข้ามาศึกษาแล้วมีจิตใจอย่างที่เป็นอยู่ คิดว่าฉันจะแต่งหญิงเพราะฉันมีสิทธิ์มีเสรีภาพที่จะทำอะไรก็ได้ "อย่ามาบังคับนะ มันคือสิทธิ์ของฉันว่าจะเลือกใส่อะไร " เอ๊ะ นั่นแสดงว่าคุณไม่ได้อ่านกฏระเบียบของสถาบันเลยสิท่า ทุกวันนี้คนทุกคน ทำทุกอย่างตามใจตนเองมากขึ้นโดยมีคำว่านี่คือเสรีภาพ นี่คือสิทธิ์ของฉัน ฉันจะทำ!
น้อง <prasobpronrungruang143@hotmail.com>
- Sunday, January 19, 2003 at 08:51:58 (EST)

ผมเป็นกระเทยคนหนึ่งที่ใส่ชุดนักศึกษาหญิง....แต่เลือดผมก็ยังเป็นสีแดงอย่างทุกคนอยู่ มีเม้ดเลือดแดง ขาว และ เกร็ดเลือด รวมทั้งความเป็นคน เพราะยังงั้นอย่านั่งเถียงกันเลยนะครับ.....ขอบคุณค่ะ
สราวุธ ลิบอิ่ม <wut_20@hotmail.com>
- Tuesday, January 14, 2003 at 13:00:28 (EST)

Okay, if society agrees ,Pratueng can wear.
Kammee
- Tuesday, January 14, 2003 at 08:59:51 (EST)

จริงๆแล้วในสถาบันการศึกษา โดยเฉพาะในระดับอุดมศึกษาควรที่จะยกเลิกการแต่งชุดนักศึกษาได้แล้วนะครับ เพราะความจำเป็นในการแต่งชุดนักศึกษาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ การสำนึกรับผิดชอบของนักศึกษาเลยนะครับ เพราะฉะนั้นหากไม่อยากให้เกิดปัญหาก็ควรที่จะยกเลิกการแต่งชุดนักศึกษาได้แล้ว อาจจะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่ในระดับปัญญาก็ควรมีอะไรที่แตกต่างกับเด็กอนุบาลบ้างนะครับ
theerasuk <theerasuk44133001@hotmail.com>
- Tuesday, January 14, 2003 at 02:11:30 (EST)

แม้ว่าการกระทำนี้จะไม่ถึงกับทำให้สังคมเสื่อมสลาย แต่ยังคงไม่เหมาะสม เพราะจะเสื่อมเสียถึงสถาบันได้ครับ
Pjumpee <pjumpee@chaiyo.com>
- Saturday, January 11, 2003 at 14:26:30 (EST)

ผมคงมองเป็นกลางๆมากกว่านะครับสำหรับเรื่องนี้ ผมก็เข้าใจว่าบรรดาสาวๆประเภทสองทั้งหลายก็ต้องการทำตนเองให้เหมือนหรือใกล้เคียงผู้หญิงให้ได้มากที่สุด แต่เอาเถอะครับ แต่งยังไงก็แต่งกันไปเถอะ แต่อย่าให้มันเกินเลยกฎระเบียบของสังคมก็แล้วกัน
สาวกTHAITANIUM
- Friday, January 10, 2003 at 09:50:24 (EST)

ไม่เห็นความจำเป็นในเรื่องการแต่งกายชุดนักศึกษา
Pranee <mauy@maildoy.com>
- Friday, January 10, 2003 at 08:16:46 (EST)

ไม่เห็นด้วยครับ
pp
- Friday, January 10, 2002 at 05:40:16 (EST)