 ถ้าใครผ่านไปทางภาคใต้
เห็นชาวบ้านใช้ภาชนะชนิดหนึ่ง ที่มีรูปร่างโค้งครึ่งวงกลมหรือเป็นสี่เหลี่ยมคางหมู ทำจากใบไม้ ใช้ตักน้ำอยู่ อาจแปลกใจว่ามันคืออะไร และเมื่อมาเห็นเขาขายเป็นของที่ระลึก
ถามได้ความว่าคนใต้เรียกเจ้าสิ่งนี้ว่า
"หมาตักน้ำ"
คำว่า
"หมา"
นี้ บางทีก็เรียก ติหมา หรือ ตีหมา ผู้รู้กล่าวว่าไม่ใช่คำไทยแท้ แต่เป็นคำที่มาจากภาษามลายู คือคำว่า Timba ซึ่งหมายถึงภาชนะตักน้ำ ที่ทำด้วยกาบหมากนั่นเอง
หมาแบบต่าง ๆ นี้ มีชื่อเรียกตามลักษณะของพืชวงศ์ปาล์มในท้องถิ่นที่นำมาใช้ทำตัวหมา ถ้าทำมาจากใบจากเรียกว่า
"หมาจาก"
ถ้าทำจากต้อหมากหรือกาบหมาก ก็เรียกว่า "หมาต้อ" ถ้าทำจากกาบต้นเหลาชะโอนก็เรียกว่า
"หมาต้อหลาวโอน"
ในการทำหมานั้น ชาวบ้านทางใต้นิยมทำหมาจากมากกว่าชนิดอื่น ๆ โดยใช้ยอดอ่อนที่ใบยังรวมกันแน่นไม่แตกออกตัดออกมาเป็นใบ ๆ นำมาตากแดดพอหมาด ๆ
แล้วนำใบดังกล่าวมาสอดเข้าด้วยกัน ด้วยการคลี่ใบออกข้างหนึ่ง แล้ววางสลับโคน-ปลายไปเรื่อยๆ เพื่อให้มีขนาดเท่าๆ กัน เมื่อได้ขนาดที่ต้องการแล้ว
ก็รวบปลายทั้งสองข้างเข้าหากัน เพื่อผูกเป็นที่ถือ ถ้าเอาปลายมาผูกไขว้กันจะเรียกว่า
"หมาโผ้"
หรือหมาตัวผู้ ถ้าเอาปลายมาผูกแนบกันเรียกว่า
"หมาเหมีย"
หรือหมาตัวเมีย
ถ้าต้องการให้หมานั้นสวยงาม คงทน ใบไม่แยกออกจากกันง่าย ๆ ก็จะใช้เส้นหวายหรือคล้าแทงเย็บรอยต่อระหว่างใบจากไปตามแนวขวางของใบจาก
มักจะอยู่ตรงส่วนกลาง เพราะเป็นส่วนที่ช่วยรับน้ำหนัก
ในบางแห่ง เช่นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จะเรียกภาชนะตักน้ำสมัยใหม่ที่ทำด้วยสังกะสี อะลูมิเนียม หรือเหล็กว่า
"หมาถัง" หรือ "หมาถั้ง"
ถ้าทำด้วยพลาสติกก็เรียกว่า
"หมาพลาสติก"
ด้วย
|