Page 161 - Skd 373-2559-03
P. 161

ภาพ : บทความ “Probing the cosmos with gravitational waves” เขยี นโดย Bruce Dorminey ใน Astronomy magazine ฉบบั สงิ หาคม ๒๐๑๔

     องคก์ ารอวกาศยโุ รป (European Space Agency) มโี ครงการ                  แผนภาพแสดงช่วงความถ่ีและ
eLISA  (Evolved  Laser  Interferometer  Space  Antenna)  ซึ่งจะ              ความเข้มของคล่ืนความโน้มถ่วงจากวัตถุ
ส่งยานอวกาศสามล�ำขึ้นไปตรวจจับคล่ืนความโน้มถ่วงในอวกาศ                       และเหตุการณ์ทางดาราศาสตร์ 
ยานแต่ละล�ำอยู่ที่ต�ำแหน่งมุมของสามเหลี่ยมด้านเท่า  โดยมีระยะ                เส้นสีด�ำ (ท้ังเส้นเต็มและเส้นประ) 
หา่ งระหวา่ งยาน ๑ ลา้ นกิโลเมตร  คาดวา่ จะมแี หลง่ สญั ญาณคล่นื             แสดงเครื่องมือที่ใช้ตรวจจับคลื่น
ความโน้มถ่วงท่ี  eLISA  อาจตรวจจับได้  เช่น  การรวมตัวกันของ                 ในช่วงต่าง ๆ  
หลุมด�ำมวลมหาศาลที่อยู่ใจกลางกาแล็กซี  วัตถุขนาดเล็กซ่ึงโคจร
อยู่รอบหลุมด�ำมวลมหาศาล เหตุการณร์ ะยะแรก ๆ หลังบกิ๊ แบง                          ในกรณีไลโก  ขอยกตัวอย่างที่ความรู้และเทคโนโลยีเร่ิม
                                                                             เผยแพรส่ ่เู ชิงพาณิชย์ หรือวชิ าการสาขาอ่นื  ๆ ดงั นี้
     กล่าวได้ว่า  ศักราชใหม่แห่ง  “ดาราศาสตร์คล่ืนความโน้มถ่วง
(gravitational wave astronomy)” ไดถ้ อื กำ� เนดิ ขนึ้ อยา่ งเปน็ รปู ธรรม         บริษัท  Lightwave  Electronics  ซ่ึงเป็นผู้สร้างเลเซอร์ท่ีไลโก
แล้ว                                                                         ใช้ในระยะแรก  ได้ขายเทคโนโลยีเลเซอร์ดังกล่าว  (รวมท้ังเวอร์ชัน
                                                                             ที่ปรับปรุงแล้ว)  เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตวัสดุส�ำหรับอุปกรณ์
        คนทวั่ ไป                                                            ต่าง ๆ เช่น ไดโอดเปลง่ แสง ชปิ คอมพวิ เตอร ์ แผน่ วงจรสมารต์ โฟน
จะไดป้ ระโยชนอ์ ะไรจากเร่อื งนี้
                                                                                  ในการวิเคราะห์สัญญาณของไลโก  ผู้เช่ียวชาญได้พัฒนา
     การค้นพบหรือเร่ืองราวเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์พ้ืนฐานมักจะ                   อัลกอริทึมการตรวจหาคล่ืนความโน้มถ่วงซึ่งมีลักษณะท่ีเรียกว่า
ถูกตั้งค�ำถามในลักษณะเช่นน้ีเสมอ  ค�ำตอบคือ  คล่ืนความโน้มถ่วง               “chirp”  คือมีความถี่และแอมพลิจูดเพิ่มข้ึนอย่างรวดเร็วท่ามกลาง
นนั้ ไมไ่ ดม้ ผี ลกระทบโดยตรง (หรอื แมแ้ ตโ่ ดยออ้ ม) ตอ่ ชวี ติ ประจำ� วนั  สญั ญาณรบกวนจำ� นวนมาก (คลา้ ย ๆ กบั เราพยายามตงั้ ใจฟงั เสยี ง
ของคน  อยา่ งไรกด็ กี ารทม่ี นษุ ยส์ ามารถตรวจจบั คลนื่ ความโนม้ ถว่ ง       ใครสักคนในงานปาร์ต้ีท่ีเต็มไปด้วยเสียงคุยกันอ้ืออึง)  ปรากฏว่า
บ่งบอกว่าเรามีความรู้พ้ืนฐานทางวิทยาศาสตร์ท่ีถูกต้อง  อีกทั้งยัง             อัลกอริทึมน้ีมีประสิทธิภาพมาก  จึงน�ำไปใช้หาสัญญาณลักษณะ
ได้ใช้ทักษะทางวิศวกรรมสร้างเทคโนโลยีข้ันสูง  เทคโนโลยีต่าง ๆ  ที่            เดยี วกนั ทซี่ อ่ นอยใู่ นสญั ญาณจากเรดาร ์ โซนาร ์ และเลเซอรพ์ ลั สด์ ว้ ย
เกยี่ วข้องกบั การคน้ พบในท่ีสดุ กจ็ ะมีบทบาทต่อคนทัว่ ไป

                                                                                                                              มนี าคม ๒๕๕๙                159
   156   157   158   159   160   161   162   163   164   165   166