Page 71 - Skd 373-2559-03
P. 71
เจื่องจงิ
(Trơừng Chinh)
สำ� หรบั คนจ�ำนวนมาก “เจอื่ งจงิ ” เปน็ ชอ่ื ทรี่ จู้ กั นอ้ ยกวา่ “ลงุ โฮ” ความผดิ พลาดนส้ี ง่ ผลเสยี หายอยา่ งหนกั ตอ่ พรรคคอมมวิ นสิ ต์
(โฮจิมินห์) บิดาเอกราชเวียดนาม ในระดับที่ต่างกันลิบลับ กระทั่งคน เวียดนาม เจื่องจิง ต้องลาออกจากทุกต�ำแหน่ง ก่อนจะกลับมามี
เวียดนามรุ่นใหม่บางคนก็เลิกค้ิวด้วยความสงสัยเมื่อเอ่ยถึงช่ือนี้ ท้ังที่ บทบาทอีกครั้งระหว่างเป็น “ประธานประเทศ” (ประธานาธิบดี ค.ศ.
ในความเป็นจริงเขามีความส�ำคัญแทบจะเทียบเท่า โฮจิมินห์ ด้วยซ�้ำ ๑๙๘๑-๑๙๘๗) ดว้ ยการสนบั สนนุ ของ เหงวยี นวนั ลนิ (Nguyễn Văn
Linh) เลขาธิการพรรคฯ โดยผลักดันนโยบาย “โด่ยเหมย” (จินตนา-
เจอ่ื งจงิ มชี อ่ื เดมิ วา่ ดง่ั เซวนิ ค ู (Đặng Xuân Khu) เกดิ วนั ท ่ี ๙ การใหม่) น�ำระบบเศรษฐกิจแบบตลาดกลับมาใช้อีกครั้งในทศวรรษ
กมุ ภาพนั ธ ์ ค.ศ. ๑๙๐๗ ทจ่ี งั หวดั นามดงิ่ (Nam Định) ภาคเหนอื ของ ๑๙๘๐ (เวยี ดนามเหนอื รวมกบั เวยี ดนามใตใ้ น ค.ศ. ๑๙๗๕) ซง่ึ ทำ� ให้
เวยี ดนาม เขาเขา้ รว่ มขบวนการกชู้ าตขิ อง โฮจมิ นิ ห ์ เมอ่ื ค.ศ. ๑๙๒๘ ต่อมาเศรษฐกิจของเวียดนามพัฒนาอย่างก้าวกระโดดมาจนถึงทุกวัน
และมบี ทบาทมากระหวา่ ง โฮจมิ นิ ห ์ ยงั ไมก่ ลบั มาเคลอื่ นไหวในเวยี ดนาม นี้ เรียกได้ว่าหาก โฮจิมินห์ มี หวอเหงวียนซ้าบ (ฝ่ายบู๊) เป็นมือซ้าย
ในพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีนเขาท�ำหน้าที่เลขาธิการพรรคคนแรกใน เจอื่ งจงิ ก็คอื มอื ขวา (ฝ่ายบุน๋ ) นั่นเอง
ค.ศ. ๑๙๔๑ ท�ำงานร่วมกับนายพล หวอเหงวียนซ้าบ (Võ Nguyên
Giáp) ซึ่งเป็นนายพลคนส�ำคัญของ โฮจิมินห์ ท้ังยังเป็นก�ำลังหลัก จากปากค�ำของบตุ รคี นหน่งึ เจอื่ งจงิ นน้ั “เปน็ คนเขม้ งวดและ
ในการยึดอ�ำนาจจากทหารญ่ีปุ่นที่ปกครองเวียดนามในช่วงสิ้นสุด มุ่งมั่นในการท�ำงาน บางครั้งก็ละเลยการให้เวลากับครอบครัว ท่าน
สงครามโลกครง้ั ท่ี ๒ ก่อนจะมีการประกาศเอกราช ไม่ชอบใช้เส้นสาย มักให้ลูก ๆ ท�ำงานให้ประสบผลส�ำเร็จด้วยตัวเอง
แมช้ ว่ งหนง่ึ ท่านจะเปน็ ประธานประเทศกต็ าม”
หลังก่อต้ังเวียดนามเหนือ เจ่ืองจิง มีบทบาทส�ำคัญเร่ืองการ
ปฏิรูปท่ีดินพัฒนาเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์โดยได้แม่แบบจากจีน อย่างไรก็ตามการแสดงความรับผิดชอบเร่ืองการปฏิรูปที่ดิน
ด�ำเนินนโยบายระหว่าง ค.ศ. ๑๙๕๓-๑๙๕๖ มีการริบทรัพย์ ยกเลิก ก็ท�ำให้ภาพลักษณ์ของ เจื่องจิง เสียไปมากและยังมีผลโดยอ้อมให้
กรรมสิทธิ์ที่ดิน ล้มล้างสัญลักษณ์เก่ียวกับศักดินาในหมู่บ้าน เช่น ชุด โฮจิมินห์ ไม่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากนัก ทุกวันน้ีคนเวียดนามจึงมักจะ
ทท่ี ำ� จากผา้ ไหม เจา้ ของทด่ี นิ ทถ่ี กู มองเปน็ ปฏปิ กั ษก์ บั การปฏวิ ตั ถิ กู นำ� จ�ำบทบาทของเขาในแง่ลบมากกว่าบวก เด็กรุ่นหลังไม่ค่อยรู้จักเขา
ไปลงโทษในลักษณะศาลเต้ีย มีการปลุกระดมประชาชนโดยผู้ปฏิบัติ ขณะท่ีลูก ๆ ของ เจ่ืองจิง ก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนได้รับมรดกทางการเมือง
งาน ชาวนายากจน เหตุการณ์ด�ำเนินไปลักษณะเดียวกับปฏิวัติ จากบดิ าแตอ่ ย่างใด
วัฒนธรรมในจีน นโยบายนี้เป็นเหตุให้มีผู้บริสุทธิ์ต้องรับเคราะห์
มากมายจากคนในชุมชนหวาดระแวงกันและกัน และคนจ�ำนวนมาก ที่แน่ ๆ ถ้าไม่มี เจื่องจิง นโยบายโด่ยเหมยย่อมไม่เกิด และ
หนไี ปอยเู่ วียดนามใตซ้ ่ึงปกครองดว้ ยระบอบต่างกัน การน�ำระบบตลาดมาใช้กับเศรษฐกิจเวียดนามคงเล่ือนออกไปอีก
หลายสบิ ป ี
สถิตทิ ่ีนา่ สนใจ : นโยบายปฏิรปู ทด่ี ิน ๑๐,๕๑๔,๐๐๐ ๒๐,๐๐๐,๐๐๐
๓,๓๑๔ ๕๐๐,๐๐๐
จำ� นวนชมุ ชน จ�ำนวนโดยประมาณของผู้เสียชวี ติ จ�ำนวนประชากรท่ีไดร้ ับผลโดยตรง จ�ำนวนประชากรเวยี ดนามเหนือ
ท่ีมีการปฏริ ปู ท่ีดนิ ระหว่างดำ� เนินนโยบาย ท้งั บวกและลบจากนโยบาย ระหวา่ งมกี ารปฏริ ปู ท่ีดนิ
ที่มา : มรกตวงศ์ ภูมิพลบั . “‘ปฏริ ปู (ทดี่ ิน) เพ่ือมวลชน ?’ เจอ่ื งจงิ กบั การพลกิ โฉมศกั ดนิ าและการรอื้ สรา้ งพ้ืนทีใ่ หม่ในเวยี ดนาม.”
ใน ชมุ ทางอนิ โดจนี เอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ปริทศั น์ ร่นุ พิเศษ ๗, ๔ (กรกฎาคม-ธันวาคม ๒๕๕๘) : ๔๑๕-๔๓๑.
มีนาคม ๒๕๕๙ 69