ผีสางเทวดา เกร็ดเรื่องราวความเชื่อผีสาง เทวดา ในวัฒนธรรมไทยแต่อดีต


three ladies
สมัยที่ยังเป็นมนุษย์ นายมฆะ หรือ “มฆะมานพ” แห่งหมู่บ้านอจลคาม คงมีฐานะดีพอควร เขาจึงมีภริยาถึงสี่คน ปรากฏชื่อคือนางสุธรรมา นางสุนันทา นางสุจิตรา และนางสุชาดา

นางสุธรรมา คือภริยาผู้ทำอุบายซ่อนช่อฟ้าไว้ เพื่อหวังเข้าไปมีส่วนร่วมในมหากุศลสร้างศาลาที่พักคนเดินทางของ “คณะสามสิบสาม” หรือ คสส. ซึ่งเคยเล่าไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

จากวีรกรรมของนางสุธรรมา ทำให้ภริยาคนอื่นๆ ขวนขวายขอมีส่วนร่วมในการบุญนั้นด้วย เช่น นางสุนันทาคิดอ่านขุดสระปลูกบัว ให้ทานน้ำอาบน้ำกินแก่คนทั้งปวงที่ไปมาอาศัย ณ ศาลาแห่งนั้น ส่วนนางสุจิตราก็ทำสวนไม้ดอกไม้ผล ให้ทานดอกไม้และผลไม้กับคนทั้งหลายบ้าง

เว้นก็แต่นางสุชาดา

ด้วยเธอคิดว่าเธอเป็นญาติใกล้ชิด คือเป็น “ลูกพี่ลูกน้อง” กับมฆะมานพ เพราะบิดาของนางคือลุงแท้ๆ ของนายมฆะ และเธอคงเคร่งครัดเรื่องสินสมรส จึงถือว่ากุศลใดๆ ที่สามีกระทำ ก็ย่อมต้องนับว่าเธอผู้เป็นภริยาคนหนึ่งย่อมมีส่วนร่วมอยู่แล้วเป็นอัตโนมัติ จึงมิได้คิดจะทำอะไรให้เหนื่อยยากเหมือนกับภริยาคนอื่นๆ

วันๆ เลยเอาแต่งหน้าแต่งตัวสวยๆ หวังให้ผัวปลื้ม

เมื่อมฆะมานพตายไปขึ้นสวรรค์พร้อมกับพรรคพวกใน คสส. แล้วไปก่อรัฐประหารยึดยอดเขาพระสุเมรุ ตั้งตัวเป็นพระอินทร์ นายกรัฐมนตรีแห่งสวรรค์ พร้อมกับสถาปนารัฐ “ดาวดึงส์” จากนั้นภรรยาแต่ละคนที่ตายไป ด้วยอานุภาพแห่งผลบุญก็ได้ไปเกิดเป็นมเหสีของพระอินทร์กันตามลำดับ

ผลบุญที่นางสุธรรมาเคยให้ช่อฟ้าตั้งแต่ครั้งนั้น ทำให้มีหอประชุม “สุธรรมา” บนดาวดึงส์เป็นเครื่องประกาศบุญญาธิการ

ด้วยกุศลที่นางสุนันทาให้ขุดสระน้ำ จึงเกิดมี “นันทาโบกขรณี” เป็นสระน้ำกว้างใหญ่งดงาม

และจากอานิสงส์การทำสวน ปลูกต้นไม้ดอกไม้ให้เป็นทาน บนสวรรค์เหนือยอดเขาพระสุเมรุจึงบังเกิด “จิตรลดาวันอุทยาน” เป็นสวนสวยประดับบารมีแห่งนางสุจิตรา

แต่นางสุชาดานั้นกลับหายตัวไป ไม่ยักขึ้นมาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ด้วยกัน

พระอินทร์ หรืออดีตนายมฆะ ร้อนใจที่เมียรักหายหน้าไปนางหนึ่ง จึงเสิร์ชดูด้วยทิพยเนตร พบว่านางสุชาดาตายแล้วดันไปเกิดเป็นนกกระยางตัวเมียอาศัยอยู่ที่ซอกเขา ท้าวเธอเกิดเวทนาจึงเสด็จลงมายกนางนกกระยางขึ้นสวรรค์ไปสู่ดาวดึงส์เทวโลกทั้งยังเป็นๆ

แต่ขึ้นไปแล้วจะเอาไปไว้ที่ไหนดี ?

สุดท้ายด้วยวิสัยของนกกินปลา พระอินทร์จึงปล่อยอดีตภริยาหมายเลข ๔ ไว้ข้างสระน้ำ “นันทาโบกขรณี” นั้นเอง

ฝ่ายภริยาอีกสามคนของนายมฆะ ที่บัดนี้กลายเป็นแก๊งมเหสีพระอินทร์ ทั้งนางสุธรรมา นางสุนันทา และนางสุจิตรา พอทราบข่าว จึงชวนกันมายืนมุงดูนางสุชาดา พร้อมกับเอ่ยวาจากระแนะกระแหนว่า นี่แหละหนา ดูเอาเถิด ไม่ทำบุญทำกุศล เอาแต่แต่งตัวสวยๆ ก็เป็นได้แค่นี้แหละ ฮ่า-ฮ่า-ฮ่า

เมื่อนางนกสุชาดาได้พบพระอินทร์อีกครั้งจึงเล่าเรื่องที่ถูกบรรดาเมียๆ เบอร์ ๑ ถึงเบอร์ ๓ รุมด่าว่าเย้ยหยัน พร้อมกับขอร้องให้พระอินทร์ช่วยพานางกลับไปปล่อยไว้ที่ซอกเขาตามประสาสัตว์ดังเดิมเถิด (เรื่องนี้ยังมีต่อ)