เรื่อง : วรากร แก้วทอง
ภาพ : ศิวดล ทองดีนอก และ Facebook Fanpage : Egg Family – ครอบครัวไข่

เรื่อง แมว แมว

แมวสลิด

“แมวเอ๋ยแมวเหมียว รูปร่างประเปรียวเป็นหนักหนา ร้องเรียกเหมียวเหมียวเดี๋ยวก็มา เคล้าแข้งเคล้าขาน่าเอ็นดู รู้จักเอารักเข้าต่อตั้ง ค่ำค่ำซ้ำนั่งระวังหนู ควรนับว่ามันกตัญญู พอดูอย่างไว้ใส่ใจเอย”

ดอกสร้อยสุภาษิตบท “แมวเหมียวแยกเขี้ยวยิงฟัน” ซึ่งแต่งโดย “นายทัด เปรียญ” บ่งบอกชัดถึงความนิยมแมวในยุคสมัยที่ผ่านมา บทกลอนนี้นอกจากจะเป็นภาพจำของใครหลายคนแล้ว ยังถูกบรรจุลงในหนังสือสาระการเรียนรู้พื้นฐาน วิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 อีกด้วย
.
แมวเป็นที่นิยมเลี้ยงในทุกยุคทุกสมัยและทุกที่บนโลก ทุกปีในประเทศญี่ปุ่นจะมีวันแห่งแมว ซึ่งเป็นวันที่ชาวญี่ปุ่นทำการเฉลิมฉลองกับเจ้าเหมียวอย่างหรรษา ที่มาของวันดังกล่าวมาจากเสียงร้องของเจ้าเหมียวที่ไปพ้องเสียงกับเลข 2 ในภาษาญี่ปุ่น ดังนั้นทุกวันที่ 22 เดือน 2 จึงกลายเป็นวันของแมวไปโดยปริยาย
.
นอกจากนี้กองทุนเพื่อสวัสดิการสัตว์ระหว่างประเทศ หรือ IFAW ก็ยังกำหนดให้วันที่ 8 สิงหาคมของทุกปีเป็นวันแมวโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนและผู้เลี้ยงแมวทั่วโลกคำนึงถึงสวัสดิภาพของแมว เห็นแล้วใช่ไหมว่าเจ้าแมวนั้นมีอิทธิพลกับมนุษย์โลกขนาดไหน
.
คริสโตเฟอร์ ฮิตเชนส์ นักเขียนลูกครึ่งอังกฤษ-อเมริกัน กล่าวว่า “เจ้าของสุนัขจะรู้ว่าถ้าคุณให้อาหาร น้ำ ที่พักพิง และความรักแก่สุนัข สุนัขจะคิดว่าคุณคือพระเจ้า แต่สำหรับเจ้าของแมวก็จะตระหนักว่าถ้าคุณให้อาหาร น้ำ ที่พักพิง และความรักแก่แมว แมวจะสรุปว่าพวกมันคือพระเจ้า” นี่อาจเป็นที่มาของคำว่า “ทาสแมว”

maewmaew03

เหตุที่ดูเหมือนแมวจะมีอำนาจเหนือคนเลี้ยง อาจมาจากนิสัยรักสันโดษของมันซึ่งสืบต่อจากบรรพบุรุษที่มาจากป่า ย้อนกลับไปสัก 6.2 ล้านปีก่อน แมวบ้าน หรือในชื่อวิทยาศาสตร์ Felis catus ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกพร้อมกับขนาดที่เล็กจิ๋ว เมื่อโตเต็มวัยจะหนักเพียง 4.1 ถึง 5.4 กิโลกรัมเท่านั้น ความยาวเฉลี่ย 76.2 เซนติเมตร อาศัยอยู่ทุกทวีปในโลก ยกเว้นแอนตาร์กติกา
.
Felis catus ยังคงดำรงพันธุ์มาได้จนถึงปัจจุบัน แต่มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างเล็กน้อย คือ “กลายมาเป็นนายของมนุษย์”
.
มีการพบมัมมี่แมวอายุ 4,000 ปีในเมืองซัคคาราซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรอียิปต์โบราณ อยู่ทางตอนใต้ของกรุงไคโร นั่นหมายความว่าเจ้าเหมียวมีอิทธิพลกับเหล่ามนุษย์มานานแล้ว
.
ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่า แมวมีสถานะพิเศษในปรโลก และเป็นสัตว์เทพเจ้าตัวแทนแห่งเทพีบาสเต็ต (Bastet) เทพีแห่งความรักซึ่งมีหัวเป็นแมว ลำตัวเป็นคน ชาวอียิปต์จึงมีกฎห้ามทำร้ายแมว ผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษถึงชีวิต
.
นี่เป็นหลักฐานว่า เจ้า Felis catus หรือแมวบ้าน ทำสำเร็จมานานแล้วในฐานะนายของทาส ด้วยมีขน สี ลวดลาย เป็นอาวุธ และความเชื่องแบบซื่อๆ บวกกับความหยิ่งในแบบของแมว ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เหล่ามนุษย์จะกลายเป็นทาสไปโดยง่าย
.
แมวบ้านในยุคแรกๆ คาดว่าวิวัฒนาการมาจากแมวป่าแอฟริกันและแมวทะเลทรายในเอเชีย แมวบ้านกว่า 100 สายพันธุ์มีรูปร่างและขนาดที่ใกล้เคียงกัน เช่น น้ำหนักตัว ความยาวลำตัว รวมถึงลักษณะกระดูกซึ่งมีทั้งหมดราว 244 ชิ้น และ 30 เปอร์เซ็นต์เป็นกระดูกสันหลัง นี่ทำให้เจ้าแมวหันหลังได้ถึง 180 องศา นอกจากนี้มันยังมีกรงเล็บที่หดได้ในแต่ละอุ้งเท้าและไม่ขยายออกเวลาเดิน

แมวบ้านมีฟันทั้งหมด 26 ซี่ ลูกแมวอายุประมาณ 2 สัปดาห์จะมีฟันน้ำนม และในระยะเวลา 4 เดือนฟันน้ำนมจะถูกแทนที่ด้วยฟันแท้

maewmaew02

แมวลายหินอ่อน

เจ้า Felis catus นี้ปรับตัวเข้าหามนุษย์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ในขณะที่แมวอีกสกุลหนึ่ง คือ Pardofelis marmorata หรือแมวลายหินอ่อน ยังคงดำรงชีวิตเช่นเดิม Pardofelis เป็นหนึ่งในสกุลแมวที่เก่าแก่ที่สุด มีอายุ 9.4 ล้านปี และยังดำรงพันธุ์มาจนปัจจุบัน

แมวลายหินอ่อนมีขนาดใกล้เคียงกับแมวบ้าน ความยาวหัวและลำตัวมีตั้งแต่ 45 ถึง 61 เซนติเมตร ความสูงของไหล่โดยเฉลี่ย 28 เซนติเมตร และความยาวหาง 35 ถึง 55 เซนติเมตร มีเสียงร้องเหมือนแมวบ้าน แต่แตกต่างกันอย่างเด่นชัดตรงที่แมวลายหินอ่อนมีความไวต่อการพบเจอมนุษย์ หากถูกรบกวนก็พร้อมจะทิ้งถิ่นฐานทันที

เนื่องจากเป็นสัตว์ที่สันโดษ จึงมีข้อมูลของแมวชนิดนี้ไม่มากเท่าไรนัก เมื่อเทียบกับแมวบ้านแล้ว เจ้าแมวลายหินอ่อนจะมีเขี้ยวและอุ้งเท้าที่ใหญ่กว่า รวมถึงกระโหลกที่สูงและกลมกว้าง เบ้าตาล้อมรอบด้วยวงแหวนกระดูกซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของแมวหายากพันธุ์นี้

แมวลายหินอ่อนมีแหล่งที่อยู่อาศัยเป็นป่าเบญจพรรณและป่าดิบชื้น พบตั้งแต่เทือกเขาหิมาลัยลงมาจนถึงเกาะบอร์เนียว (ซึ่งมีสามประเทศอยู่บนเกาะ คือ มาเลเซีย บรูไน และอินโดนีเซีย) มันมีความสามารถในการปีน การกระโดด และมีลายขนสีดำคล้ายลายหินอ่อน จึงเป็นที่มาของชื่อ
.
ด้วยสาเหตุที่ยังดำรงพันธุ์ตามธรรมชาติ แมวลายหินอ่อนจึงมีลักษณะแตกต่างจากแมวบ้านค่อนข้างมาก นั่นก็คือ มีนิสัยดุร้าย หากินในเวลากลางคืน และมักอยู่บนต้นไม้ ที่สำคัญแมวชนิดนี้ยังมีจำนวนที่น้อยจนแทบจะสูญพันธุ์อีกด้วย
.
ในประเทศไทยมีการบรรจุชื่อแมวลายหินอ่อนเป็นสัตว์ป่าสงวนเมื่อปี พ.ศ. 2535 หากเทียบกับสัตว์อื่น แมวชนิดนี้มีจำนวนน้อยมาก และในไทยก็มักพบตามป่าดงดิบบริเวณเทือกเขาตะนาวศรีและป่าดิบชื้นในภาคใต้
.
แมวลายหินอ่อนดำรงพันธุ์ตามธรรมชาติ แต่แมวบ้าน หรือ Felis Catus การปรับตัวถือเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิต

Felis Catus เริ่มเข้าหามนุษย์ตั้งแต่ยุคหินใหม่ หรือราว 8,000-4,000 ปีก่อนคริสตกาล ในช่วงนั้นมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ คือเริ่มมีการปลูกข้าวเป็นครั้งแรก มีการเลี้ยงสัตว์ ทำเครื่องปั้นดินเผา และมนุษย์เลิกเป็นผู้เสาะหาอาหาร แต่กลายมาเป็นผู้ผลิตอาหารแทน

Eva-Maria Geigl นักพันธุศาสตร์เชิงวิวัฒนาการ บอกว่า คลังเก็บเมล็ดพันธุ์ของชุมนุมเกษตรกรรมยุคแรกๆ ดึงดูดสัตว์ฟันแทะให้เข้ามาสร้างความเสียหาย และเจ้าสัตว์ฟันแทะที่ว่าก็ดึงดูดสัตว์ป่าอีกชนิดหนึ่งให้ตามมาด้วย นั่นคือ “แมว”

หลังจากนั้นเพื่อนใหม่ของมนุษย์ก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เป็นเหตุให้มนุษย์ยอมรับแมวเป็นสัตว์เลี้ยง ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่า แมวเป็นฝ่ายเข้ามาหามนุษย์เอง ไม่ได้มีการบังคับขู่เข็ญแต่อย่างใด

แมวในช่วง 1,000 ปีแรกที่เข้ามาอยู่กับมนุษย์นั้น ยังใช้ชีวิตเช่นที่เคยเป็นมา คือผสมพันธุ์เองตามธรรมชาติ ส่งผลให้แมวบ้านยังคงลักษณะของแมวป่าอยู่บ้างในแง่ของนิสัย ทรวดทรง และการทำหน้าที่ของอวัยวะ แต่ถึงจะมาจากป่า เมื่อถูกเลี้ยงดูนานวันเข้า มันก็ปรับตัวเข้าหามนุษย์มากขึ้น ทักษะจากป่าบางอย่างจึงค่อยๆ เลือนหายไป กระทั่งกลายเป็นแมวบ้านอย่างสมบูรณ์

maewmaew03

 

ในช่วงคริสต์ศักราชที่ 500-1300 มีการเลือกสายพันธุ์แมวเพื่อสร้างลูกผสมที่มีสีขนสวยงามเป็นครั้งแรก วิธีการคือนำแมวพันธุ์แท้มาผสมกับพันธุ์แท้หลายๆ รอบ เมื่อได้พันธุ์ที่ชัดเจนแล้วจึงนำไปผสมข้ามสายพันธุ์ จนได้แมวพันธุ์ผสมออกมา นั่นคือสาเหตุที่แมวบ้านมีหลากหลายสายพันธุ์บนโลกนี้

แต่ไม่ว่าอย่างไรแมวก็ยังคงความสันโดษอันเป็นนิสัยเดิมจากบรรพบุรุษ รักในอิสระ และมีสัญชาตญาณนักล่าซึ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ดังนั้นจึงไม่แปลกที่วันดีคืนดี “นาย” ของเหล่ามนุษย์จะคาบเอาสัตว์ต่างๆ มาอวดให้บรรดาทาสตกใจเล่น

เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2017 มีแมวครอบครัวหนึ่งถือกำเนิดขึ้นบนโลกออนไลน์ แมวตัวพ่อเป็นพันธุ์ American Shorthair แมวที่ชาวยุโรปนำลงเรือเพื่อให้คอยกำจัดหนูในช่วงเดินทางอพยพมาตั้งรกรากในสหรัฐอเมริกา แมวตัวแม่เป็นพันธุ์ Scottish Fold มีถิ่นกำเนิดจากสกอตแลนด์ และถูกค้นพบโดยชาวนาในปี 1961 แมวทั้งสองมีนิสัยขี้เล่นและรักความสนุกสนานพอๆ กัน

สิ่งที่น่าสนใจคือ เจ้าเหมียวสองพันธุ์นี้ผสมพันธุ์และคลอดลูกเองตามธรรมชาติ แล้วลูกทั้งสี่ที่ลืมตาดูโลกก็ถูกตั้งชื่อโดยมี “ไข่” นำหน้าตามพ่อแม่ และนั่นคือต้นกำเนิดของ Egg Family-ครอบครัวไข่ ที่มีไข่เค็มเป็นพ่อ ไข่หวานเป็นแม่ พร้อมลูกๆ คือ ไข่ขาว ไข่ดำ ไข่ลาย และไข่แดง

ไข่แดงเป็นเพศผู้ตัวเดียวในครอบครัว แถมมีสีแตกต่างจากตัวอื่น ขณะที่อีกสามไข่มีสีถอดมาจากพ่อและแม่

เจ้าไข่หวานผู้เป็นแม่ไม่เคยมีลูกมาก่อนและมีขนาดตัวเล็ก การคลอดลูกจึงค่อนข้างลำบาก ซ้ำมันยังหมดแรงในช่วงคลอดลูกตัวที่ 3 และ 4 แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีจากการดูแลอย่างใกล้ชิดของคุณวรรณวิศา เกตุใหม่ เจ้าของ Facebook Fanpage: Egg Family-ครอบครัวไข่ ผู้เลี้ยงดูเจ้าไข่ทั้งหลาย

เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นเรื่องใหม่ของทั้งแมวและคน ซึ่งการผสมพันธุ์และคลอดลูกเองของแมวเช่นนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้เลี้ยงเจ้าไข่เค็มและไข่หวานเป็นอย่างมาก

หลังจากเจ้าสี่ไข่ลืมตาดูโลกแล้ว ไข่หวานใช้เวลาดูแลลูกนานถึง 6 เดือน และให้น้ำนมในระยะ 2-3 เดือนแรก แต่เจ้าไข่ทั้งสี่ก็ยังตามอ้อนขอกินนมแม่อยู่เรื่อยๆ

สามไข่เพศเมียมีนิสัยเหมือนแม่ คือไม่ค่อยสนใจคนอื่น จะอ้อนแต่เจ้าของคนเดียว ส่วนไข่แดงบุรุษเพียงหนึ่งเดียวในครอบครัวนั้นมีนิสัยเหมือนพ่อ คือชอบรับแขก ชอบถ่ายรูป แต่มักไม่ลงรอยกับพี่น้องผู้หญิง จะคอยแกล้งและชวนทะเลาะอยู่บ่อยๆ จนทำให้ไข่เค็มผู้เป็นพ่อต้องห้ามอยู่เป็นประจำ

เจ้าไข่ลายจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอน เข้าทำนองนิ่งเป็นหลับขยับเป็นกิน มันจึงมีลำตัวอวบอ้วนกว่าพี่น้อง ส่วนไข่ขาวกับไข่ดำมักจะอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเอง ไม่ยุ่งวุ่นวายกับอะไรทั้งสิ้น

แต่เมื่อใดที่เห็นจิ้งจก ทั้งสี่ไข่จะเข้าไปรุมดูและตะปบเล่น แต่พวกมันไม่เคยล่าสำเร็จ นั่นอาจเพราะถูกเลี้ยงแบบปิด ทำให้สัญชาตญาณบางอย่างไม่ถูกใช้จนขาดความชำนาญ แล้วเมื่อบรรดาไข่ต่างๆ เห็นนก มันก็สงสัยและกล้าๆ กลัวๆ ตัดสินใจไม่ถูกว่าควรเข้าไปหาดีไหม ท้ายที่สุดนกก็บินหนีไป

ไข่เค็มผู้พ่อนั้นยังคงทำหน้าที่พ่อเป็นอย่างดี เมื่อไข่หวานตายลง มันก็คอยดูแลลูกในแบบของตัวเอง คือเวลาที่ลูกๆ ทะเลาะกัน เจ้าไข่เค็มจะถึงที่เกิดเหตุเป็นตัวแรก คอยเข้าไปห้ามและลงโทษตัวที่หาเรื่องโดยการตบ ซึ่งไข่แดงจะโดนบ่อยสุด

คุณวรรณวิศา ผู้เลี้ยงดูเจ้าไข่ทั้งหลาย กล่าวทิ้งท้ายว่า “การเลี้ยงแมวนั้น ถ้าในเรื่องความรับผิดชอบก็คือหน้าที่ แต่ในทางความรู้สึก แมวสามารถเติมเต็มบางอย่างทำให้ผู้เลี้ยงรู้สึกผ่อนคลาย อย่างเช่นต่อให้เราเครียดกับบางอย่างในแต่ละวัน แต่พอกลับมาเจอแมว ความเครียดเหล่านั้นมักจะหายไปโดยไม่รู้ตัว และคนเลี้ยงแมวไม่สามารถตายได้ เพราะถ้าตายไป แล้วใครจะเลี้ยงแมว”

“นั่นสิ ถ้าเจ้าทาสตาย แล้วใครจะเลี้ยงข้า…” แมว แมว ขวัญใจของบรรดาทาส อาจเมี้ยวๆ รำพึงรำพันออดอ้อนอยู่เช่นกัน.

maewmaew04

เกร็ด แมว แมว

  • แมวบ้านกระโดดได้สูงถึง 5 เท่าของความยาวลำตัว
  • แมวลายหินอ่อนมีหางที่ยาวถึง 3 ใน 4 ของความยาวลำตัว เพื่อช่วยในการปีนป่ายและทรงตัว
  • แมวบ้านไม่มีกระดูกคอและกระดูกสะบัก จึงสามารถผ่านช่องแคบๆ ได้
  • แมวลายหินอ่อนมีการมองเห็นที่คล้ายกับกล้องส่องทางไกล การดูดหรือเคี้ยวผ้าของแมวบ้านเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติ สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากความบกพร่องทางพันธุกรรม
  • แมวลายหินอ่อนจะโตเต็มที่ในระยะเวลา 2 ปี
  • ลูกแมวบ้านจะได้รับการดูแลจากแม่เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์
  • แมวลายหินอ่อนจะเคลื่อนไหวอย่างอิสระหลังจากอายุ 65 วัน

อ้างอิงข้อมูล

มาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการสานสัมพันธ์กับธรรมชาติด้วยกันใน เฟซบุ๊กกรุ๊ป Park ใจ

ชวนสัมผัสและสื่อสารกับธรรมชาติโดย นิตยสารสารคดี นายรอบรู้ นักเดินทาง
สนับสนุนโดย เพจความสุขประเทศไทย และ ธนาคารจิตอาสา