สัมภาษณ์ : ณัฐนันทน์ โตเขียว
เรียบเรียง : “หนอนกระดึ๊บ”
ภาพ : วิจิตต์ แซ่เฮ้ง, ศุภนารี สุทธวิจิตรวงษ์

“เฟิน” - ศุภนารี สาวม้าเต่อสุดติสต์ ผู้หลงกลิ่นป่า
ศุภนารี สาวม้าเต่อสุดติสต์ ผู้หลงกลิ่นป่า

“เป็นนกได้มะ ก็นกบินไปไหนก็ได้ เป็นต้นไม้ก็สวย ต้องเลือกว่าจะสวยหรืออิสระ แต่นกก็สวยนะ”

สาวม้าเต่อผมสั้นมาดมั่นดึงดูดสายตาในชุดกีฬาสปอร์ตบราสีเขียวพร้อมออกวิ่งในยามเย็น ตอบคำถามของเราว่าถ้าเธอเป็นสิ่งหนึ่งในธรรมชาติได้ เธอจะเป็นอะไร

นกที่เธอเลือก คงแทนความเป็น “เฟิน” ศุภนารี สุทธวิจิตรวงษ์ ได้เป็นอย่างดี

นางแบบ-นักแสดงที่ตอนนี้ผันตัวเป็นฟรีแลนซ์อย่างเต็มตัว ทั้งร่าเริง สวยงาม มีสปิริต ชอบความเรียบง่าย และรักความเป็นอิสระ

แถมสถานที่ที่เธอชอบโบยบินไปเสมอ ก็คือผืนป่าและธรรมชาติสีเขียว เธอยังบอกเราด้วยว่า

“เราก็เป็นเหมือนสัตว์ ต้นไม้คงมองว่าเราเป็นเหมือน ‘มดยักษ์’ ป่ะ”

เริ่มสนใจไปเที่ยวป่าเที่ยวธรรมชาติตั้งแต่เมื่อไหร่

ตั้งแต่เด็กแม่เคยพาเข้าป่า จะไม่ไปก็ไม่ได้ แต่ตอนเด็กไม่อิน ร้อน นอนก็ไม่สบาย พามาทำไม อยู่บ้านได้นอนแอร์เย็นๆ พอเป็นวัยรุ่นก็ชอบเที่ยวผับ ได้เจอเพื่อน พอโตขึ้นอีกก็รู้สึกว่าเบื่อเสียงดังๆ เบื่อต้องเข้าไปอยู่กับคนเยอะๆ เริ่มอยากอยู่กับกลุ่มเพื่อนด้วยกันน้อยๆ แล้วออกไปถ่ายรูปเล่น ไปเที่ยวป่ามากกว่า ไม่ได้ต้องการเที่ยวอย่างงั้นแล้ว เพราะทุกครั้งก็ไปแต่ที่เดิมๆ ก็เบื่อ

มันเบื่อแล้วที่จะเที่ยวในเมือง เที่ยวห้างอะไรอย่างงั้น เวลามีวันหยุดเราก็อยากจะหยุดจริงๆ ไอ้เที่ยวห้างไปวันธรรมดาหลังเลิกงานก็ไปได้ วันหยุดก็เลยออกไปแบบนั้นมากกว่า

แม่เป็นคนยังไงก็ได้ นอนที่ไหนก็ได้ ช่วงหนึ่งที่เขาทำงานก็ไม่มีเวลาเที่ยวป่า ตอนนี้ทำงานด้วยกัน แม่มีเวลามากขึ้น ก็เลยไปเที่ยวด้วยกัน

ชอบไปคนเดียวหรือไปกับเพื่อนมากกว่า

ไปกับเพื่อน เพราะว่าไปคนเดียวเหงา ชอบไปกับคนที่ชอบเหมือนกัน ไปถ่ายรูปด้วยกัน เดินเล่นตรงนั้นกันงี้ เอาคนที่มันเอากับเราอ่ะ ไปกับเรา ชอบคนแอคทีฟ แบบว่าไปไหนไปกันงี้

ล่าสุดมีเพื่อนสนิท คือเขาก็ไม่เคยแคมป์แล้วเราก็บอกว่าเห้ยไปดิ สวนยายดา เราก็ชวนไป มันก็เออลองไปดู ตอนนี้ชอบ ซื้อเต็นท์เลย

ไปกับเพื่อนไปกับที่บ้าน ได้คุยกัน มันมีอะไรมากกว่าการไปเที่ยว มันเหมือนได้พักสมอง เพราะอยู่ที่นี่ก็ทำงานเต็มที่ พอออกไปเราก็ได้พักผ่อนเต็มที่ด้วย ถ้าว่างทุกอาทิตย์ ก็คือไปทุกอาทิตย์ ไปบ่อยมาก แบบมากๆ เลยอ่ะ ชวนครอบครัวไป ถ้าครอบครัวไม่ว่างก็จะเป็นเพื่อน ตอนหลังก็เป็นน้องละ

“เฟิน” - ศุภนารี สาวม้าเต่อสุดติสต์ ผู้หลงกลิ่นป่า

หลงเสน่ห์อะไรในป่าในธรรมชาติ

พอได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติมันเหมือนการได้อยู่กับตัวเอง เพราะว่าบางที่มันไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีอะไรเลย

พอไปป่าได้กลิ่นของธรรมชาติก็จะได้ความรู้สึกผ่อนคลาย เหมือนเวลาไปนวดมันก็จะมีกลิ่นอะโรมา แต่ป่าจะเป็นกลิ่นดิน กลิ่นฝนกำลังจะตก ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย นั่งอยู่ได้ทั้งวันโดยที่ไม่ต้องทำอะไร เดินเล่น ดูวิวไปเรื่อยๆ บางทีเห็นต้นไม้ในป่าสวยมาก ต้นไม้ใหญ่มากแบบที่ไม่เคยเจอ เห็นอะไรที่มันเหมือนเป็นฟอสซิลไดโนเสาร์ ได้เห็นอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มันก็เพลิน

กิจกรรมที่ชอบทำเวลาเข้าป่า

ชอบเดินไปเรื่อย ๆ ระหว่างเดินก็จะเจออะไรที่เปลี่ยนไปตลอด อยู่ตีนเขาก็เจอต้นไม้แบบหนึ่ง เดินขึ้นไปก็จะเป็นอีกป่าอีกแบบหนึ่ง ขึ้นไปอีกก็จะเป็นวิวแบบ 360 องศา แต่ละที่มันก็จะมีเสน่ห์แตกต่างกันออกไป

แล้วชอบไปที่ไม่มีไฟฟ้า อย่างแคมป์ปิ้งที่เอกชนมันก็จะมีไฟมีอะไรให้ แต่ถ้าเราเดินเข้าป่าลึก อย่างขึ้นดอยขึ้นไรงี้ เราก็ต้องพกอะไรไปกินเอง เอาเต็นท์ไปเอง ไม่มีไฟฟ้า ไม่ได้อาบน้ำ มันก็จะเป็นอีกฟีลลิ่งหนึ่ง

ถ้าสมมติอยู่บ้านมันก็ต้องหาอะไรทำ อย่างเช่นเล่นโทรศัพท์ เล่นคอม ออกไปข้างนอก แต่อยู่ป่าก็เดินเล่น ทำกับข้าว ทำไรกิน นั่งดูวิว วิวมันไม่เหมือนบ้านอ่ะ ก็มองไปเรื่อยๆ

ล่าสุดไปล่องขุนตาหมื่น จังหวัดพิษณุโลก ได้ไปนอนแคร่ แล้วก็นอนเรียงกัน 6 คน บนเขาที่เดินขึ้นไป มันเป็นเหมือนหินปูน เป็นการนอนแบบนี้ครั้งแรก รู้สึกชอบ

supanaree03

มีอะไรแนะนำสำหรับคนที่จะไปเที่ยวแบบนี้บ้าง

ต้องลองไปเองถึงจะรู้ เพราะว่าบางคนก็ไม่ชอบไง อย่างเพื่อนบางคนไปก็เห้ยไปด้วยดิ ไปดิ แต่พอไปถึงบอกเมื่อไหร่จะถึง ร้อนว่ะ ไม่มีที่อาบน้ำเหรอ ไม่มีที่ฉี่ คือก็แล้วแต่คนว่าชอบไหม เคยไปกับกลุ่มเพื่อนที่อยากลองดูแต่ว่าไม่ได้ชอบ เขาก็จะเป็นอีกฟีลหนึ่ง เขาก็จะเบื่อว่า เอ๊ะ ไม่มีโทรศัพท์ให้เล่นเลย ไม่มีอินเตอร์เน็ตเลย อาบน้ำก็ไม่ได้ อะไรก็ไม่ได้ เขาก็จะเบื่อ

ถ้าคนที่ไม่อินเขาก็จะไม่อินนะ เพราะว่าผู้หญิง เรื่องอาบน้ำมันก็สำคัญ ฉี่งี้มันก็สำคัญ พอไปอย่างงั้นมันจะไม่มีที่ดีๆ ให้อยู่แล้วอ่ะ อย่างดอยหลวงเชียงดาวก็ต้องฉี่ใส่ถุงพกพาแบบที่เอาผงใส่ให้มันเป็นเจล มันก็เลยอยู่ที่คนชอบอ่ะ

แต่ถ้าชอบ คือมันได้อยู่กับกลุ่มเพื่อน ได้ทำอะไรด้วยกัน ทำกับข้าว ร้องเพลงฟังเพลง มันก็เป็นความสุขอีกอย่างหนึ่ง แบบสงบในธรรมชาติ มีแค่เรากับเพื่อน

แล้ววิ่งเทรลนี่มาชอบเมื่อไหร่

เริ่มจากเพื่อนชวนวิ่ง จริงๆ ก็ไม่ได้คิดว่าจะอินกับการวิ่ง แต่เพื่อนชวนบ่อยๆ รำคาญก็เออ ไปก็ได้ วิ่งวันแรกนี่โคตรเหนื่อย จำได้ว่าวิ่งไม่จบรอบสวนลุม แค่ 2 กิโลกว่าเองนะ แต่รู้สึกว่าเหนื่อยจังเลย ปวดตัวด้วย เรายังไม่รู้วิธีการวอร์ม อาทิตย์ต่อมาเพื่อนชวนอีก ก็ไปก็ได้ว่ะ ก็สนุกดีอ่ะ มีต้นไม้มีคนให้ดู แล้วเราจะไม่ใส่หูฟัง เพราะเราชอบฟังเสียงรอบข้างว่าเขาทำอะไรกัน คนเต้น คนออกกำลังกาย คนเล่นสเก็ต มีอะไรให้ฟัง

เราก็วิ่งมาเรื่อยๆ จนตอนนี้เพื่อนเลิกวิ่งเรายังวิ่งอยู่ กลายเป็นติดเองสักพักมาลองวิ่งเทรล ก็ยิ่งชอบไปใหญ่ เพราะว่าเป็นการวิ่งในป่า นี่วิ่ง 60 กิโลที่เชียงใหม่ โคตรชาแลนจ์ตัวเองเลย วิ่งตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน มันต้องเตรียมร่างกาย ต้องซ้อม เอาอาหารไปให้พอ ต้องกินเจลให้พอ พอล้มแล้วก็ต้องรู้ว่าจะต้องปฐมพยาบาลยังไงให้มันไปต่อได้

สนุกมาก วิ่งไปก็จะถึงจุดชมวิว แต่ดูได้ไม่นานเพราะถ้าเราไปถึงเกินเวลาเขาก็จะเอาเราออก ก็จะชมนกชมไม้มากไม่ค่อยได้ ถ้าเราเดินป่าเองก็ชมได้เต็มที่ แต่นี่มันก็มีเวลาของเขา

supanaree04

ระหว่างออกกำลังกายในฟิตเนสกับในธรรมชาติ

ถ้าเราออกกำลังกายในฟิตเนส มันก็ไม่ได้เห็นอะไร มันเห็นแต่เครื่องออกกำลังกาย อยู่เดิมๆ ซ้ำๆ มันเบื่อ แต่ถ้าไปออกกำลังกายข้างนอก เราสามารถเปลี่ยนวิว ถ้าไปวิ่งเราก็เปลี่ยนสวน เปลี่ยนวิวไปได้เรื่อยๆ ได้ทั้งสบายใจ ได้พักผ่อน แล้วก็ออกกำลังกายไปด้วยในตัว

การวิ่ง การทำกิจกรรมอะไรในธรรมชาติ เอาจริงๆ แค่ได้มองก็รู้สึกดีแล้วอ่ะ เพราะมันสบายใจ โล่งโปร่ง บางที่ที่เราไปเจอมันสวยแบบไม่เคยเห็นมาก่อน ในชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะมีสิ่งนี้อยู่บนโลก รู้สึกเซอร์ไพรส์ ตื่นตาตื่นใจ ตื่นเต้นกับการเจออะไรใหม่ๆ มันให้ความจรรโลงใจ รู้สึกอิ่ม นั่งมองได้ไม่เบื่อ มีความสุข อธิบายเป็นคำพูดไม่ออก ถ้าเปรียบเทียบกับทำงานมาทั้งวันเจอฝุ่น เจอแต่คุยเรื่องงาน พอเราไปได้ไปเที่ยวไม่ต้องทำอะไรเลย แค่นั่งอย่างเดียวก็มีความสุขแล้ว มันคือการพักผ่อนจริงๆ

แค่นั่งมองต้นไม้ สถานที่สวยๆ วิว ภูเขา ก็รู้สึกแฮปปี้แล้ว ไม่งั้นจะนั่งรถไปไกลๆ ทำไม เพื่อไปเจอภูเขาต้นไม้ เชื่อว่าคนที่อินและชอบเหมือนกันน่าจะเข้าใจ มันเป็นความสุขอ่ะ

ถ้าให้แนะนำสถานที่ใกล้ๆ เมือง ไปที่ไหนดี

ก็แล้วแต่คนชอบ ถ้าสมมติว่าจะขับรถสักชั่วโมงสองชั่วโมง ก็ถึงสุพรรณบุรี นครนายก ราชบุรีแล้ว แถวนั้นมีแคมป์ปิ้งของเอกชนที่ไม่ต้องเข้าไปในป่า อยู่ติดกับธรรมชาติ มีแม่น้ำ ห้องน้ำก็ดี มีที่อาบน้ำ มีคนดูแล ไม่ต้องอันตราย เผื่อบางทีผู้หญิงไป อย่างสวนวังแก้วนี่ไปโคตรบ่อยเลย 5-6 รอบ เวิร์ก มีสองโซน สำหรับคนที่ไปแต่ตัวก็มีเต็นท์ให้เช่าด้วย ไปดิ สวย

supanaree05

การไปเที่ยวธรรมชาติเปลี่ยนแปลงอะไรในตัวเราบ้าง

มีสมาธิขึ้น มีความอดทนขึ้น อย่างที่บอกว่าผู้หญิงเราต้องอาบน้ำอ่ะ เดินทั้งวันเหงื่อมันก็เยอะมาก เราก็เลยพกน้ำไปเลย แบกไป 3-4 ขวดเลย เอาทิชชู่เปียกไปเช็ดตัว เช็ดจั๊กกะแร้ ใช้ของตัวเอง กำจัดจุดอ่อนของตัวเอง แล้วก็เอาแป้งทาหอมฉุย สบาย

แรกๆ ความอดทนไม่สูงนะ เรื่องการกินก็ยาก ตอนหลังก็จะกินง่ายขึ้น กินอะไรก็ได้ ไข่ต้มก็ได้ แต่ขอให้ได้ไปเที่ยว บางที่ก็จะมีอาหารที่เรากินไม่เป็น เราก็ไม่เป็นไร อย่างไปใต้ไปฮาลาบาลา ไปยะลา เขาก็จะพูดภาษาใต้ อาหารใต้ เราก็เปิดใจลองกินอาหารของเขาได้

เคยไปเดิน EBC ที่เนปาล 13 วัน อาหารเขาก็จะเป็นโรตีมันๆ เป็นแกง เราก็กินไข่ต้มกับสเต๊กไก่เกือบทุกวัน น้ำหนักลง แต่ก็ยังแฮปปี้อยู่ โคตรชอบ เพราะว่าเป็นการเดินหิมะครั้งแรก ตัดสินใจแปล๊บเดียวเลย ไปคนเดียวด้วยตอนนั้น ไป join trip กับคนที่ไม่รู้จัก หลังจากนั้นก็ไปเรื่อยๆ เลย ไปเดินทุกที่ แต่ตอนนี้ประเทศต่างๆ ปิด ก็เลยไม่ได้ไปไหน

คิดว่าธรรมชาติสำคัญอย่างไรต่อชีวิตเรา

ธรรมชาติอยู่กับเรามาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต ตอนเด็กก็มองธรรมชาติธรรมดาๆ แต่พอโตก็มองว่ามันสวยงาม มองต่างจากตอนเด็ก ยกตัวอย่างนาที่บ้านป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่ ฤดูหนึ่งเขาปลูกข้าว ฤดูหนึ่งหญ้าขึ้นเป็นสีเขียว ฤดูหนึ่งก็เก็บหญ้า มีการเปลี่ยนแปลงไปแต่ละฤดู มันก็ไม่เหมือนกัน ทำให้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ

ธรรมชาติทำให้เราเจริญเติบโต จิตใจผ่องใส ถ้าไม่มีธรรมชาติโลกก็คงจืดชืด มันเป็นเรื่องของลมหายใจ เกี่ยวเนื่องกับอีกหลายอย่าง ถ้าไม่มีธรรมชาติ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศคงแย่กว่านี้ โลกคงเป็นอีกสภาพหนึ่ง ตอนนี้เขาถึงหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ ECO กันมากขึ้น คนก็เริ่มรักษ์โลกมากขึ้น

supanaree06

อยากให้มีธรรมชาติรอบตัวเรามากขึ้นไหม

เคยไปปลูกป่าต้นโกงกาง เพราะรู้สึกอยากอนุรักษ์ อยากให้มันอยู่ไปนานๆ เพราะยังมีคนที่ทำลายอยู่ด้วย ถ้าเราช่วยกันปลูกต้นไม้ให้เพิ่มขึ้น มันก็ช่วยไปทบส่วนที่หายไป

อยากมีสวนให้วิ่งใกล้บ้าน สวนใหญ่ๆ ร่มรื่นมีต้นไม้เยอะๆ วิ่งได้ตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าถึงเย็นเลย เราควรมีสวนที่ต้นไม้เยอะๆ ถ้าเนรมิตได้ก็อยากให้กรุงเทพฯ มีภูเขา มีดอยเลย มีชาวบ้านมาขายของจะได้ทำงานได้เงินด้วย เอาผลิตภัณฑ์ที่บ้านมาขาย OTOP แล้วก็เป็น กทม. OTOP

supanaree07

ขอขอบคุณ

  • เฟิน-ศุภนารี สุทธิวิจิตรวงษ์ ฟรีแลนซ์
  • สถานที่ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) กรุงเทพมหานคร

สำหรับท่านที่สนใจเรียนรู้การ Parkใจ สามารถติดตามกิจกรรมอื่นๆ ในปีนี้ได้ที่ เฟซบุ๊กกรุ๊ป Parkใจ
ดำเนินการโดย นิตยสารสารคดี และนายรอบรู้ นักเดินทาง
สนับสนุนโดย เพจความสุขประเทศไทย และ ธนาคารจิตอาสา
ชวน Park ใจ โดยนิตยสารสารคดี และ “นายรอบรู้” นักเดินทาง
สนับสนุนโดยเพจความสุขประเทศไทย และธนาคารจิตอาสา