โดย ธัชชัย วงศ์กิจรุ่งเรือง
ย้อนกลับในช่วงปลายทศวรรษที่ 90s เกิดความโกลาหลที่เรียกกันว่าปัญหา Y2K (Y2K Problem)
Y2K(อ่านว่า วาย-ทู-เค) ย่อมาจาก Year 2000(K ย่อจาก Kilo ซึ่งหมายถึง ปี ค.ศ.2000) ซึ่งใช้เรียกแทนปัญหาที่เกิดกับเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครื่องใช้ที่ทำงานโดยอาศัยชิบคอมพิวเตอร์ซึ่งเริ่มใช้อย่างแพร่หลายในขณะนั้นแล้ว อาจมีอาการสับสนเมื่อเปลี่ยนเวลาสู่ปี ค.ศ.2000 ในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ.2000 จะกลายเป็นปี ค.ศ.1900 เนื่องจากการเก็บข้อมูล ปี ค.ศ.ของชิปเก็บเพียงเลขสองหลักท้ายเท่านั้น (เช่น ปี ค.ศ.1996 ก็ตัดเหลือเพียง 96)
สาเหตุนั้นมาจากในอดีตหน่วยความจำยังมีราคาแพงมาก ผู้เขียนโปรแกรมจึงประหยัดเนื้อที่ให้ได้มากที่สุด การเก็บข้อมูลปี ค.ศ.จึงใช้เพียงเลขสองหลักโดยไม่ได้คิดถึงปัญหาที่จะเกิดตามมา
โดยปัญหานี้มีการกล่าวถึงในแวดวงคอมพิวเตอร์มาหลายปีแล้ว แต่พึ่งเริ่มเป็นกังวลกันในระดับนานาชาติตอนปลายทศวรรษที่ 90s นั่นเอง ซึ่งไม่ใช่เพียงจะส่งผลให้คำนวณปีผิดพลาด แต่ยังมีปัญหายิบย่อยด้านตัวเลขอีกหลายอย่าง
ความตื่นตระหนกนั้นมาจากทางฝั่งโลกตะวันตกเนื่องจากระบบธุรกิจ และสาธารณูปโภคต่างๆ พึ่งพิงระบบคอมพิวเตอร์อย่างมาก จนกลัวกันว่าระบบการสื่อสาร, ไฟฟ้า, ประปา จะล้มเหลวใช้การไม่ได้เมื่อเข้าสู่สหัสวรรษใหม่
ปัญหาดูจะพ้องกันดีกับกระแสคำทำนายที่โด่งดังมากในช่วงเวลานั้นของ นอสตราดามุส นักพยากรณ์ชาวฝรั่งเศสที่ถูกนำมาเรียบเรียงเป็นภาษาไทยจนกลายเป็นหนังสือขายดี เขาได้เขียนคำทำนายไว้ในรูปแบบบทกวีในหนังสือ The Century โดยมีบทหนึ่งถูกตีความว่าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ขึ้นในปี ค.ศ.1994 และรุนแรงที่สุดในปี ค.ศ.1999 และหลายคนก็ตีความว่าอาจนำไปสู่การเป็น “วันสิ้นโลก” ตามคำทำนายในปฏิทินมายัน ของชาวมายา
ความหวาดกลัวเรื่องวันสิ้นโลก ถูกนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ ทั้งในหนังสือการ์ตูน, ละครโทรทัศน์, รวมถึงภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด ที่มีหนังหายนะ(Diaaster Film) และ หนังที่มีเนื้อหาว่าด้วยวันสิ้นโลกออกมาจำนวนมาก อาทิ Independence Day(1996), Armageddon(1998), End of Days(1999), หรือ The Matrix(1999)
หากมองเผินๆ ปัญหา Y2K เมื่อเวลาผ่านไปก็ไม่ได้มีอะไรรุนแรงอย่างที่คาดคิด เพราะอาจเกิดปัญหาการทำงานของระบบต่างๆ บางส่วนในหลายประเทศช่วงต้น ปี ค.ศ.2000 แต่นั่นก็มาจากการเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาของภาครัฐ และเอกชนทั่วโลก ที่ประมาณการว่าใช้งบประมาณในการอัพเกรดคอมพิวเตอร์เพื่อแก้ปัญหานี้สูงถึง 300,000 ล้านเหรียญฯ (ซึ่งเกือบครึ่งอยู่ในสหรัฐอเมริกา)
…
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปลายปี ค.ศ.2022 เป็นต้นมา ความหมายของ Y2K ก็เปลี่ยนไป กลายเป็นคำเรียกถึง แฟชั่น Y2k หรือ แฟชั่นแนว Y2K แทน
ทำไมคำที่เคยสื่อถึงปัญหาระดับโลกถึงกลายเป็นแฟชั่นไปได้ ?
ย้อนมองกลับไป ในอีกด้านหนึ่งการเปลี่ยนผ่านสู่สหัสวรรษใหม่ในปี ค.ศ.2000 หรือที่เรียกว่า มิลเลนเนียม(Millenium-หนึ่งพันปี) ก็มีมุมมองของการเฉลิมฉลองการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ที่เรียกว่า การเฉลิมฉลองสู่สหัสวรรษใหม่(Millenium Celebration) เพื่อก้าวสู่สหัสวรรษที่ 3 ที่จัดขึ้นในหลายประเทศ หรือในวงการบันเทิงกระแสคำนี้ในเพลง Millenium ของ ร๊อบบี้ วิลเลี่ยมส์ ในปี ค.ศ.1998, การออกอัลบั้มชื่อ Millenium ของวง Backstreet Boys ในปี ค.ศ.1999 หรือในมิวสิควิดีโอเพลง Waiting For Tonight ของ เจนนิเฟอร์ โลเปซ ในปี ค.ศ.1999 ซึ่งเป็นการจำลองบรรยากาศเคานท์ดาวน์สู่ปี ค.ศ.2000
ช่วงเวลาดังกล่าวคือช่วงของการเติบโตของเพลงป๊อปในอเมริกา เกิดศิลปินเพลง และคนดังมากมายที่กลายเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่นที่ยังเป็นที่รู้จักกันถึงทุกวันนี้ อย่าง บริทนี่ย์ สเปียรส์, *NYSNC, บียอนเซ่, ลินด์เซย์ โลแฮน หรือ ปารีส ฮิลตัน
เทรนด์เสื้อผ้าสีสันสดใส หรือเสื้อสะท้อนแสงมันวาว ทำจากผ้ายืดใยสังเคราะห์ที่สะท้อนโลกอนาคตซึ่งได้อิทธิพลจากภาพยนตร์อย่าง The Matrix รวมไปถึงการแต่งกายเแบบผสมผสานหลายแนวทาง เสื้อเอวลอย กระโปรงสั้นมินิสเกิร์ต รองเท้าส้นตึก คู่กับเครื่องประดับอย่าง หูฟัง กระเป๋า แว่นกันแดด หรือนาฬิกาที่เข้ากัน ที่มาจากคนดังในฮอลลีวู้ด
เริ่มมีการเรียกแฟชั่นยุคมิลเลนเนียมที่กลับมาใหม่ว่า แฟชั่น Y2K ได้สักพักแล้วตามสื่อต่างๆ ตั้งแต่ช่วงปี 2019 เมื่อคนดังในฮอลลีวู้ดแต่งตัวไปร่วมงานพรมแดงในสไตล์ยุคมิลเลนเนียม และค่อยๆ ได้รับการพูดถึงทางโซเชียลมีเดียจากคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ยุคเจน Z เพราะหลังจากยุค 90s ถูกใช้อ้างถึงในการสร้างคอนเทนต์ต่างๆ รวมถึงแฟชั่นเสื้อผ้ามานาน ก็เสมือนเป็นวัฏจักรของวงการแฟชั่นที่แฟชั่นยุคปลายทศวรรษที่ 90s จนถึงต้นทศวรรษที่ 2000s ที่มีความแตกต่างจากเดิมจะถูกนำกลับมาเป็นที่นิยมใหม่อีกครั้ง พร้อมๆ กับแบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องสำอางได้ออกคอลเลคชั่นส่งเสริมกระแสที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามด้วยกระแสที่เกิดขึ้นมาจากคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ รุ่นใหม่ ที่ตีความหมายใหม่ แฟชั่นยุค Y2K จึงไม่ได้หมายความว่าแต่งตัวเหมือนคนยุคนั้นจริงๆ แต่ได้แรงบันดาลใจจากการแต่งกายของคนดัง และสื่อในยุคนั้นอย่างมิวสิควิดีโอ, ภาพยนตร์ หรือภาพถ่ายแฟชั่นนั่นเอง
จากกระแสในอเมริกา ไปจนวงการบันเทิงเกาหลีใต้ พอถึงปี ค.ศ.2022 กระแสแฟชั่นดังกล่าวก็ถูกพูดถึงอย่างมากทางโซเชียลมีเดียบ้านเราในที่สุด
อ้างอิงจาก
- สุวัฒน์ อัศวไชยชาญ. เรื่องยุ่งของ Y2K – สารคดี ฉบับที่ 170 เมษายน 2542
- ซองคำถาม. สงครามโลกครั้งที่ 3 กับ นอสตราดามุส – สารคดี ฉบับที่ 67 กันยายน 2533
- https://www.britannica.com/technology/Y2K-bug
- https://www.byrdie.com/gen-z-y2k-5203068