เขียน : ลดาวัลย์ ตาไชยยศ
ภาพ : ภาพิมล วีระเกียรติกิจ

yanocraft00

“2 ก.พ. 2553 กำลังนั่งเหนื่อยและหาคำตอบ

หาเป้าหมายให้ตัวเอง

ตอบตัวเองให้ได้สิ ว่าตัวเองต้องการอะไร”

ข้อความในสมุดเล่มเก่าถูกอ่านให้เราฟังผ่านเสียงทุ้มละมุนของ เก่งนครินทร์ ยาโน อายุ 49 ปี

เก่งเผยว่า โชคดีที่เขาเขียนความรู้สึก ณ ห้วงเวลาที่ยากลำบากเอาไว้ เพราะสิ่งที่เขาจรดปากกาลงไปกลายเป็นวัฏจักรความสุขให้ใครอีกหลายคนในปัจจุบัน

ระบบการศึกษาสร้างบาดแผลให้จากการไม่ได้เข้าเข้าเรียน ณ สถาบันที่ใฝ่ฝัน ทั้งที่เพียรบ่มเพาะวิชาความรู้เพื่อช่วงเวลานั้น และเมื่อเข้าสู่วัยทำงาน ความสามารถที่มียกระดับให้เขาประสบความสำเร็จ แต่ความกดดันและความไม่เป็นธรรมในที่ทำงาน ลดทอนทั้งคุณค่าและความมั่นใจ

ช่วงหนึ่งที่พยายามสู้กับชะตาชีวิตด้วยเงินก้อนสุดท้ายบวกกับเงินที่กู้มา แต่กลับไม่ได้ผลตอบแทนที่ดี เก่งเผชิญหน้ากับความล้มเหลวอีกครั้ง

ในช่วงเวลาดำดิ่งที่สุด ความกังวลทั้งหมดถูกลบออกด้วยสายโทรฯ เข้าของแม่

คำว่า “กลับบ้าน” คือการตัดสินใจที่เปลี่ยนชีวิตเขาตลอดกาล

เก่งเริ่มเขียนโจทย์ชีวิตครั้งใหม่ “ความสุขที่ยาวนานคืออะไร?”

เขาได้คำตอบนี้จากการให้กำเนิด ยาโน แฮนด์ดิคราฟ

Yano Handicraft
ชื่อ ยาโน แฮนดิคราฟท์ (Yano Handicraft) มาจากนามสกุลของ เก่ง-นครินทร์ ยาโน ผู้ก่อตั้งแบรนด์ผ้าปักและสินค้าทำมือจากเชียงใหม่ ผลิตภัณฑ์ของยาโนมีตั้งแต่งานผ้าปัก ตุ๊กตา กระเป๋า รวมถึงของที่ระลึกต่าง ๆ

ยาโน แฮนด์ดิคราฟ

ณ ตำบลท่ากวาง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากถนนเส้นต้นยางสายเลื่องชื่อราว 13 กิโลเมตร ยาโน แฮนดิคราฟท์ กำเนิดขึ้นในบ้านหลังหนึ่ง เก่งใช้นามสกุล “ยาโน” ตั้งเป็นชื่อแบรนด์ เพราะนอกจากจะบ่งถึงตัวเขาแล้ว คำนี้ยังแปลก เขียนและจดจำง่ายตามลักษณะการตั้งชื่อแบรนด์ที่ดี

ยาโน แฮนดิคราฟท์ เป็นแบรนด์สินค้าประเภทเสื้อผ้าและของที่ระลึก วางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ อย่างไอคอนสยาม สยามดิสคัฟเวอรี รวมถึงศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศและการตั้งบูธในงานแสดงสินค้า รวมทั้งมีช่องทางจำหน่ายทางออนไลน์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าอย่างกว้างขวาง

เก่งเติบโตในภาคเหนือ จึงดึงเอกลักษณ์ของเครื่องนุ่งห่มแห่งล้านนามาประยุกต์ให้ร่วมสมัย อย่างเตี่ยวสะดอหรือกางเกงขายาวสามส่วนย้อมสีน้ำเงินหรือดำ เสื้อผ้าฝ้ายทอคอกลมผ่าครึ่งอก ผ้าถุง เสื้อคอกลมแขนกระบอกผ่ากลางตลอด ผ้าคลุมไหล่ ฯลฯ ปรับรูปแบบให้ทันตามเทรนด์เสมอ อย่างเสื้อคลุมขนาดใหญ่ (โอเวอร์ไซซ์-Over Size) ที่กำลังได้รับความนิยมเนื่องจากสวมใส่ได้โดยไม่จำกัดเพศ (ยูนิเซ็กซ์-Unisex) ยาโนฯ ก็ผลิตโดยเพิ่มสเน่ห์กลิ่นอายอัตลักษณ์ภาคเหนือ

แต่ผู้คนจำนวนไม่น้อยก็รู้ว่ายาโนฯ ยังมีบทบาทขับเคลื่อนสังคม

หลังเริ่มทำงานกับพี่ป้าน้าอาในชุมชน โดยมีผืนผ้าเป็นสื่อกลาง ผ้าสีเรียบ ๆ แสนธรรมดากลับปรากฏความสุขและคุณค่าในช่วงเวลาที่ใช้ทักษะงานฝีมือตามความถนัดของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นด้นมือ ถักโครเชต์ หรือเย็บจักรลงบนผืนผ้า

“เรารู้แล้วว่าอะไรคือความสุข เราหาตัวเองเจอแล้วว่าเป้าหมายชีวิตคืออะไร ต้องการอะไร ยาโนฯ ประกอบด้วยหลายคนมาร่วมสร้างสรรค์งานฝีมือด้วยใจรัก ทำงานด้วยความสุขใจ เราภาคภูมิใจที่ส่งสิ่งเหล่านี้สู่คนข้างนอก ให้เขาสัมผัสได้ นั่นแหละยาโนฯ”

yanocraft02
จุดเริ่มต้นของยาโนฯ เกิดจากข้อความที่บันทึกในสมุดคู่ใจของเก่ง หลังโชคชะตาพลิกผันเมื่อหลายปีก่อน เขาจึงตั้งคำถามกับตนเองว่าอะไรคือความสุขที่แท้และยืนยาว จากนั้นไม่นานยาโน แฮนดิคราฟท์ ก็ถือกำเนิดขึ้น
yanocraft03
ห้องทำงานขนาดไม่เกิน 12 ตารางเมตรคือพื้นที่ที่เก่งใช้ออกแบบและสร้างสรรค์ผลงาน เก็บอุปกรณ์ สินค้าต้นแบบ รวมถึงใช้เป็นที่ตรวจงานปักเย็บที่ผู้ผลิตผลงานนำมาส่ง

คุณยายความหลังและมุมโปรด

เก่งขี่จักรยานยนต์นำเราไปตามถนนปูนซีเมนต์กว้างไม่มากนักเพื่อแวะที่บ้านหลังหนึ่ง เรานั่งรอใต้เพิงหลังคากระเบื้องหน้าบ้าน เก่งเข้าไปประคองหญิงสูงวัยร่างเล็ก สวมเสื้อคอกระเช้าแขนกุดสีน้ำเงินจากในบ้านออกมานั่งพูดคุย

ยายไลศรีไล พงษ์ปัน อายุ 78 ปี เล่าเรื่องราวชีวิตด้วยรูปตาสระอิและมุมปากสองข้างที่ยกขึ้นตลอดเวลา ยายชอบปั่นจักรยานไปร่วมวงสภาโอวัลตินพร้อมกับขนมครกหน้าหมู่บ้าน จากนั้นปั่นไปเข้าวัดตามวิถีชาวพุทธ ชอบที่วัดสีขาว ได้ใส่ชุดสีขาว เพราะไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนสีขาวจะเห็นชัดที่สุด นั่นคงเป็นเหตุผลหนึ่งที่กองด้ายและไหมตรงหน้ามีสีขาวที่ยายพอใจรวมอยู่ด้วย

ยายไลไว้เล็บนิ้วโป้งยาวเพื่อให้เย็บผ้าถนัด สายตาที่เริ่มเลือนรางต้องใช้พื้นที่สว่างเพื่อให้มองเห็นรูเข็ม

ณ ห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้างราวสองคนกางแขน ปรกติใช้ทำกับข้าวและล้างจาน พื้นที่นี้แหละมุมโปรดแสนสบายใจ จากวันนั้นถึงวันนี้ราว 18 ปี ยายนับไม่ได้แล้วว่าด้นลายผ้าให้ยาโนฯ มากี่ผืน

“เอ้อออ…มันหยั้งบ่ได้ ข้าวก็อั้นเนี่ย แกงก็อันเนี่ย โอวัลตินก็อันเนี่ย ขนมครกก็อันเนี้ย…จะบอกหื้อเหียสุด ๆ เอี๊ย!”

ความสดใสของยายไลถูกถ่ายทอดอยู่ในเส้นด้ายและลายผ้า เธอย้ำเสียงหนักแน่นว่า ผ้าทุกผืนที่ผ่านมือคือความภูมิใจในความพยายาม แม้เรี่ยวแรงจะโรยราไปบ้าง แต่สองมือสองเท้ายังยกไหว จะไม่ไปรบกวนลูกหลานให้กังวล เพราะงานผ้าทำให้ยายมีข้าว ปลา แกงไก่ ทั้งของโปรดอย่างโอวัลตินและขนมครก

ความสุขวัดค่าได้ยาก แต่เสียงหัวเราะเล็กๆ ของยายไล ถือเป็นยาชูใจกลับไปให้คนที่หยิบยื่นแบ่งปันความสุขผ่านผืนผ้าอย่างเก่งได้อิ่มเอมในทุกวัน

“ลวดลายพื้นฐานอย่างการด้นมือ ยายทำเป็นอยู่แล้ว เราไม่เร่งงาน ไม่อยากให้เขาเครียด เสร็จเมื่อไหร่ค่อยมาส่ง แล้วเราจะเอาไปให้อีกคนหนึ่งเย็บเป็นกางเกง เสื้อ หรือกระเป๋า ขอแค่ให้ยายมีความสุขเป็นพอ”

yanocraft04
เก่งดูแลธุรกิจและการออกแบบสินค้าเป็นหลัก มีผู้รับหน้าที่ผลิตทั้งผ้าปักและงานทำมือต่าง ๆ คือสตรีในแถบชนบทของเชียงใหม่ โดยการกระจายงานนั้นพิจารณาตามความถนัดของแต่ละคน ผ้าผืนนี้เป็นหนึ่งในลายที่ขายดี
yanocraft05
ศรีไล พงษ์พัน หรือยายไล ส่งยิ้มมาให้จากมุมประจำที่เธอนั่งปักผ้า ภายในห้องครัวแสนเรียบง่าย แสงแดดลอดช่องผนังปูนลงมากระทบงานผ้าที่เพิ่งปักเสร็จ ความสุขของผู้สร้างสรรค์ผลงานให้ยาโนฯ คือสิ่งหนึ่งที่หล่อเลี้ยงเก่ง-ผู้ก่อตั้ง ให้มุ่งมั่นทำงานต่อไปเช่นกัน
yanocraft06
เมื่อกิจการขยายขนาดขึ้น สมาชิกผู้ผลิตผลงานจึงมีมากขึ้นด้วยเช่นกัน แตง-รสสุคนธ์ กอคำ เติบโตมาจากผู้ผลิตผลงานทั่วไป ปัจจุบันคือหัวหน้าทีมที่ช่วยดูแลเครือข่ายยาโนฯ แถบอำเภอแม่ริม เธอกับเก่งกำลังนั่งตรวจงานผ้าและหารือเรื่องอื่น ๆ ในห้องนั่งเล่นบ้านของเธอ

แม่เลี้ยงเดี่ยวขุมทรัพย์ของยาโนฯ

จากตำบลเล็กๆ ที่แทบไม่มีใครรู้จักในอำเภอสารภี ถึงบ้านหลังน้อยล้อมรอบด้วยธรรมชาติในอำเภอแม่ริม ราว 50 กิโลเมตร ยาโนฯ ขยายฐานการผลิตมาถึงที่นี่

แตงรสสุคนธ์ กอคำ อายุ 43 ปี เจอกับเก่งครั้งแรกในงานฝึกอบรมทักษะฝีมือของกลุ่มชาติพันธุ์ในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ในเวลานั้นแตงนิยามตัวเองว่าเป็นช่างเย็บผ้าธรรมดา

“ครั้งแรกที่เจอกัน แอบคิดว่าจะมีสักวันไหมที่จะได้ร่วมงานกับคนเก่งๆ แบบนี้ หลังจากงานวันนั้นพี่เก่งได้เห็นงานของเรา และเป็นโอกาสที่ได้ทำงานด้วยกันจนมาถึงทุกวันนี้ก็ 6 ปีแล้วเนาะ”

ช่วงนั้นแตงเผยว่าอยู่ในช่วงมรสุมชีวิตของการเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ต้องอดทนสู้ชีวิตเพื่อลูกชายผู้เป็นแก้วตาดวงใจ พอได้ร่วมงานกับเก่งเหมือนเป็นจุดพลิกผันที่ทำให้เธอเติบโตและพัฒนาขึ้น จนกลายเป็นผู้ชำนาญด้านการเย็บและออกแบบแพตเทิร์น เป็นหัวหน้าช่างคอยดูแลช่างเย็บผ้าคนอื่นๆ ที่ผลิตงานให้ยาโนฯ ทั้งในอำแม่ริม แม่แตง และสันทราย รวมถึงหน้าที่ประสานงาน และนำเสนองานให้ลูกค้า แตงก็สัมผัสมาแล้ว

ถึงปัจจุบันใช้คำว่าแค่มองตาก็รู้ใจคงไม่ผิดนัก เพราะทุกแนวคิดและไอเดียของเก่ง แตงจะเป็นผู้รับและถ่ายทอดออกมาเป็นผลิตภัณฑ์

“เราไม่ชอบงานที่แบน ๆ คือเรียบเกินไป มันต้องมีมิติ มีติ่ง นูน จะงอย มีความสูงต่ำ หรือถ้าเป็นลายด้นมือ จะใช้สีมืดตัดสว่างจับคู่กัน เราจะมีความเยอะนิดนึง แต่ว่าแตงเก่ง เสนอไอเดียอะไรทำได้หมด”

เก่งแบ่งปันความชอบของเขาผ่านการออกแบบสินค้าของตัวเองอย่างมั่นใจ

“ทุกชิ้นที่อยู่ในห้องนี้ไม่มีอันไหนที่เราไม่ภูมิใจ ลายทุกลายแม้คล้ายกัน แต่ถ้าดูดีๆ มันมีคุณค่าในตัวเอง เพราะเป็นงานทำมือ ทุกคนที่ทำจะทิ้งเอกลักษณ์ของตนผ่านชิ้นงานนั้นๆ เสมอ นั่นแหละเสน่ห์ที่แท้จริง”

ทุกคนมีจังหวะและเส้นลายเป็นของตนเอง แสดงออกถึงคุณค่าและความทุ่มเทของคนนั้นๆ ได้

เมื่อดูรอบ ๆ ห้องที่นั่งอยู่ มีทั้งสินค้า ผ้า เข็ม จักร ล้อปั่นด้าย ทุกชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ถือเป็นลายแทงชีวิตของช่างเย็บผ้าธรรมดาคนหนึ่งที่เก่งช่วยสนับสนุน แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ที่คนทั้งโลกต้องเผชิญ

ปัจจุบันแตงมีสามีและลูกๆ อีกสองคน เป็นครอบครัวที่น่ารัก อบอุ่น

“มีความสุขที่มีงานไม่ขาด”

เก่งยังวางแผนยกระดับสินค้าให้น่าสนใจไปอีกขั้นด้วยการผลิตแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยวิธี upcycling คือนำเสื้อผ้าตัวเดิมมาตัดหรือเย็บให้เป็นสินค้าใหม่ที่มีรูปแบบน่าสนใจยิ่งขึ้น ทั้งยังมีแนวคิด zero waste คือนำเศษผ้าจากการตัดเย็บมาดัดแปลงเป็นสินค้ารูปแบบใหม่ที่ไม่มีใครเหมือน

ไอเดียและแนวคิดต่างๆ ที่เก่งถ่ายทอดนั้น ปรากฏในสมุดบันทึกของแตง ซึ่งเธอจดทุกอย่างไว้เป็นเสมือนขุมทรัพย์ของยาโนฯ

แตงหวังว่าสักวันเธอจะหยิบยื่นโอกาสให้ใครสักคน เพื่อต่อยอดเป็นความสุขเมื่อพวกเขาได้เห็นคุณค่าของตนเอง เฉกเช่นเดียวกับที่เธอได้รับ

yanocraft07
ขณะที่งานเสื้อปักมือลายดอกไม้หนึ่งตัวอาจต้องผ่านมือช่างมากถึงหกคนภายใต้ขั้นตอนต่าง ๆ งานตุ๊กตาช้างซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ตรงนกที่เกาะด้านบนและพู่ประดับปลายงวงก็ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจดีไซน์และปรับแก้หลายครั้งเช่นกัน
yanocraft08
คำ-บัวคำ ขันเพชร และ หลึง-สมนึก คณะวงค์ สองแม่ลูกสมาชิกทีมแม่ริมที่ร่วมงานกับยาโนฯ มาหลายปีผ่านการรู้จักกับแตง กำลังนั่งทำสายโมบายซึ่งร้อยด้วยตุ๊กตาช้างและลูกปัดหลากสี นอกจากงานในมือแล้ว สายตาของหลึงยังแสดงให้เห็นว่ารอยยิ้มของคนตรงหน้าคือความสุขของเธอเช่นกัน

ยา (โน) แห่งความสุขของคนข้างกาย

ณ บ้านสองชั้นที่หน้าบ้านมีต้นมะม่วงลูกใหญ่กำลังจะสุก ห่างจากบ้านแตงราว 2 กิโลเมตร คือบ้านของ คำบัวคำ ขันเพชร อายุ 74 ปี และ หลึงสมนึก คณะวงค์ อายุ 54 ปี ลูกสาวของเธอ

ยายคำนั่งเหยียดขาอยู่ตรงลานบ้าน กำลังถือเข็มร้อยเรียงลูกปัดหลากสีให้เป็นเส้นสำหรับทำโมบายแขวน หนึ่งในสินค้าของยาโนฯ ด้วยท่าทางสบายใจ แลรอยยิ้มเห็นฟันขาว เธอยังเตรียมร้อยลูกปัดและเย็บตุ๊กตาช้างด้วย ลูกปัด 17 ลูกแบบคละสีแยกไว้ในตะกร้าพลาสติก ส่วนตุ๊กตาช้างมีสองแบบ ตัวผู้มีงวงยกขึ้นและตัวเมียมีงวงพับลง

“ของพวกนี้ลูกสาวยายทำนะ เขาเก่ง ทำได้ทุกอย่าง งานสอย งานคัตเวิร์ก เขาสอนยายหมดเลย”

ยายคำเผยความภูมิใจต่องานฝีมือของลูกสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอเผยอีกว่า ลูกสาวสอนให้เธอทำงานนี้ตั้งแต่แตงยังอยู่ในหมู่บ้าน จนย้ายออกจากหมู่บ้านไป และแตงทำให้ยายคำได้พบกับเก่ง

“เขาใจดีมาก งานไม่ต้องรีบเลย เสร็จเมื่อไหร่ค่อยส่ง ถามตลอดว่าโอเคไหม มีความสุขไหม”

ฟังดูคล้ายกับคอนเซ็บต์ slow fashion ของยาโน คือการสนับสนุนให้ผู้คนใส่เสื้อผ้านาน ๆ โดยผ่านกระบวนการผลิตที่ไม่ทำลายธรรมชาติและมีจริยธรรมต่อทุกคน สวนกระแสกับ fast fashion ที่ผลิตเยอะๆ ราคาถูก แต่ใช้ได้ไม่นาน หมดความนิยมได้เร็ว

แม้ค่าแรงจะไม่สามารถเลี้ยงทุกคนในบ้านได้ครบ แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ระหว่างทำได้ต่อเติมหัวใจที่ว่างเปล่า ซึ่งป้าหลึง ลูกสาวที่สอนงานให้แม่สังเกตเห็นเสมอ

“ตลอดเวลาที่เขาทำ เราเห็นว่าเขามีความสุข”

เธอยังบอกว่าภูมิใจกับงานฝีมือที่คนอื่นอาจดูว่าเป็นงานธรรมดา แต่มีแนวคิดเอื้ออาทรต่อสิ่งแวดล้อมและเปี่ยมคุณค่า

……………………..

yanocraft09
เก่งและหนึ่งในทีมผู้ผลิตผลงานไหว้กันและกันเมื่อเธอนำผ้าปักผืนสวยลายสายรุ้งซึ่งใช้เวลาปักถึง 1 เดือนมาส่ง ไม่ว่าคำตอบของความสุขหรือสิ่งที่แต่ละคนได้รับจากยาโนฯ คืออะไร เก่งและคนอื่น ๆ ต่างกล่าวว่ายินดีที่จะทำงานตรงหน้านี้ต่อไปในลักษณาการอันเรียบง่ายเช่นนี้เอง
yanocraft10
สุขที่ได้สร้าง / สุขที่ได้ให้ / สุขที่ได้ใส่ คือ Motto ของยาโน แฮนดิคราฟท์ คล้ายจะเปรียบว่าเส้นด้ายเหล่านั้นไม่ได้ถักทอได้เพียงผืนผ้าหรืองานศิลปะ แต่ยังส่งต่อความสุขจากผู้ก่อตั้ง ผ่านผู้ผลิตผลงาน ตลอดจนถึงผู้สวมใส่ได้นั่นเอง

เก่งเปรียบตนเองเหมือนเป็นหัวสมองที่สร้างสรรค์ผลงาน เป็นตาที่มองตลาด ต่อสู้ปรับปรุงแผนการผลิตสินค้าให้ทันกระแสโลกเสมอ และมองหาช่องทางการจำหน่ายใหม่ๆ เพื่อให้ยาโนฯ และผู้ผลิตคงอยู่ต่อไป

ผู้ถักทอความสุขทุกคนเปรียบเสมือนหัวใจ และร่างกายที่ไม่สามารถขาดส่วนใดส่วนหนึ่ง ยาโนฯ พึ่งพาพวกเขา และพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อให้พวกเขาไม่ลำบาก อุปสรรคในช่วงชีวิตที่ผ่านมาล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งประกอบสร้างให้ ยาโน แฮนดิคราฟท์ เข้มแข็งจวบจนทุกวันนี้

ความสุขที่ยั่งยืนของแต่ละคนถูกขัดเกลาและถ่ายทอดออกมาในแบบฉบับของตน

ทุกอย่างแทรกซึมและถ่ายทอดอยู่ในสินค้า ที่เป็นมากกว่าสินค้า

อ้างอิง