เรื่องและภาพ ชลชาติ พุ่มจันทร์

เเดดอ่อนๆสีทองสะท้อนผิวน้ำของเเม่น้ำโขงช่วงสี่โมงเย็น ทำให้วิถีชีวิตของผู้คนเริ่มคึกคักอีกครั้งหลังเจอเเดดร้อนๆมาทั้งวัน “ที่นี่มันจะมีคนเยอะตามที่เห็นในโซเชียลต่างๆขนาดนั้นเลยเหรอ ถ้าอากาศมันร้อนขนาดนี้” ผมคิดในใจในตอนที่ไปถึง ริมโขง จังหวัดนครพนม ตอนเวลาประมาณบ่ายสี่โมงครึ่ง โดยมีจุดมุ่งหมายคือ เดินเล่นชมสถาปัตยกรรมเมืองเก่า บ้านเรือนสวยๆ

“ริมโขงนครพนม” คือที่ที่ผู้คนจะต้องมาเยี่ยมชมสักครั้งเมื่อมาถึงจังหวัดนครพนม โดยมาเพื่อจุดประสงค์หลากหลายเเต่งต่างกัน ทั้ง มาจับจ่ายซื้อของ มาไหว้พระทำบุญ หรือบางคนเพียงเเค่ผ่านมาถ่ายรูปกับอาคารเก่าๆคลาสสิคๆก็เพียงพอเเล้ว

สถานที่นี้เหมาะเเก่การพักผ่อนอย่างเเท้จริง เมื่อมาถึงจังหวัดนครพนม เดินทางเข้ามาต่อจนถึงในบริเวณตัวเมืองก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะมาที่บริเวณริมโขงเพียงแค่ขึ้นรถมินิบัส สาย224 หรือ เดินเล่นไปเรื่อยๆจนถึงริมโขงเลยก็ได้ หรือถ้าจะให้ดีก็ลองเปิด GPS หรือ ถามทางชาวบ้านดูก่อนก็ย่อมได้ โดยมาถึงเเล้วทุกคนคงถูกสะกดด้วยความสวยงามของรูปปั้นพญาศรีสัตตนาคราชที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มาร่วมกันทำบุญ อาคารบ้านเรือนโคโลเนียลที่ได้อิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมรูปแบบผสมผสานอันเกิดจากการอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานของชาว จีน เวียดนาม รวมถึง ลาว ของช่วงสงครามฮ่อในประเทศลาวและสงครามอินโดจีน สมัยที่ชาวฝรั่งเศสครอบครองประเทศลาว ระหว่างปีพ.ศ.2436-2469 เเละ วิวฝั่งประเทศลาวริมเเม่น้ำโขง(เเถมยังสามารถนั่งเรือข้ามไปเที่ยวฝั่งท่าแขกของประเทศลาวได้ด้วยนะเออ)

เมื่อยามเย็นเเดดอ่อนไปจนถึงช่วงค่ำของวันศุกร์ เสาร์ เเละ อาทิตย์ จะมีถนนคนเดินริมโขงให้ผู้คนได้มาจับจ่ายใช้สอย เมื่อผมมีโอกาศได้ลองไปเดินเล่นตั้งเเต่ช่วงสี่โมงเย็นจนถึงสองทุ่ม จึงเห็นถึงความคลาสสิกของวิถีชีวิตผู้คนที่นี่ เเม่ค้าเริ่มตั้งเตาทำขนมครกเเบบโบราณเริ่มตั้งเเต่ก่อไฟหรือร้านค้าต่างๆที่เริ่มปรุงอาหารจนส่งกลิ่นหอมไปทั่วท้องถนน

เวลา ห้าโมงเย็น นี่คือช่วงที่ริมฝั่งโขงดูจะมีชีวิตชีวามากที่สุด เสียงผู้คนพูดคุย พ่อค้าเเม่ค้าพยายามเรียกลูกค้ากันอย่างคึกคัก ร้านค้าที่มีโต๊ะเก้าอี้นัันเริ่มมีผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงบริเวณที่นั่งริมฝั่งโขงที่ผู้คนพากันเริ่มมาจับจองที่นั่ง เพื่อพักใจผ่อนคลายไปกับวิวที่สวยงามของเเม่น้ำโขงยามเย็นเมื่อเเสงสีทองสะท้อนน้ำ ผมก็สงสัยขึ้นมาว่า “ทำไมตอนนี้อากาศมันไม่ร้อนเลยนะ” เมื่อมานึกดีๆคำตอบก็อยู่ตรงหน้าอยู่เเล้ว นั่นคือลมที่พัดเข้ามาจากเเม่น้ำโขงนั่นเอง ที่ทำให้บรรยากาศมันเย็นสบายขึ้นมาบ้าง

rimkhong13

เอาละที่นี้… พอเริ่มมืดบรรยากาศก็เริ่มมีความสนุกสนานมากขึ้น ผู้คนก็เริ่มทยอยมากันเยอะกว่าตอนเย็น บางจุดมีดนตรีสด บางจุดก็เป็นร้านสังสรรค์ บางจุดก็มีเครื่องเล่นสำหรับเด็ก แถมของกินยังมีเยอะกว่าเดิมด้วย ทำให้ริมโขงตอนนี้ครึกครื้นกว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาทั้งวัน

rimkhong14

“แล้วตึกหรืออาคารเก่าๆล่ะ เรายังไม่ได้ลองเดินดูพวกสถาปัตยกรรมเลยนี่หว่า” ผมมานึกออกก็ตอนที่มืดไปซะแล้ว นั่นมันจุดมุ่งหมายของการมานครพนมของผมเลยนะ ถ้าจะไปเดินเล่นเดินถ่ายรูปตอนนี้มันจะไปถ่ายเห็นได้ยังไงหล่ะ โดนของกินและบรรยากาศหลอกล่อเข้าให้แล้วไงวันนี้ จึงคิดไว้ว่าวันรุ่งขึ้นเราจะมาลองเดินเล่นดูเหล่าอาคารบ้านเรือนสถาปัตยกรรมอีกทีละกัน โชคดีที่มาถึงวันเสาร์ ทำให้ยังเหลือวันอาทิตอีกวันให้เดินเล่น (ฮ่าๆ)

พอถึงวันรุ่งขึ้น ผมก็ตั้งใจมาเดินชมบรรยากาศจริงๆ แล้วพบเลยว่า บ้านเมืองที่นี่มันช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน บางอาคารก็สวยไปด้วยสีสันพาสเทลซะจนน่าพาสาวๆมาถ่ายรูปเก๋ๆ บางตึกก็น่าถ่ายรูปไปอวดเพื่อนๆ ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ดูคลาสสิคและเก่าแก่ ทั้งอาคารบ้านเรือน ตรอกซอกซอย รวมถึงสถานที่ราชการที่ตั้งอยู่ติดกับถนนบริเวณริมโขงโดยเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลที่ได้รับอิทธิพลมาตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคมของฝรั่งเศสในประเทศลาว ก่อสร้างโดยช่างฝีมือชาวจีนและเวียดนาม นี่ยังไม่รวมร้านคาเฟ่หลากหลายร้านที่ตั้งปะปนไปกับอาคารเก่าๆอีกนะ เอาจริงๆบางทีเดินเล่นมาร้อนๆแล้วมาจิบกาแฟเย็นๆนี่ก็เป็นอะไรที่ผ่อนคลายมากๆเลย

ถ้าคนที่อยากจะมาเที่ยวริมโขงนครพนมแล้วกลัวว่า “ที่เที่ยวหรือสิ่งที่มีให้ทำนั้นมันจะน้อยไป” ให้สบายใจได้เลย ผมพูดได้เต็มปากเลยว่าที่นี่เป็นที่ในฝันของนักท่องเที่ยว ทั้งกิจกรรม ความบันเทิง สุนทรียภาพของตัวเมือง สิ่งเหล่านี้มันคุ้มค่ามากๆกับการที่คุณจะลองมาเที่ยวริมโขงนครพนมดูสักครั้ง

rimkhong23