เมื่อมังกรจีนถล่มมังกรไทย

เพื่อนรุ่นพ่อคนหนึ่งที่อาศัยอยู่แถวเยาวราชและเป็นลูกหลานคนจีนจากโพ้นทะเล เคยเล่าให้ผมฟังว่า

“เวลานี้คนจีนในเมืองไทยกำลัง ไม่ค่อยพอใจบรรดาคนจีนจากแผ่นดินใหญ่ที่เริ่มมารุกรานพวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ”

ผมถามถึงสาเหตุ

“ สมัยก่อนพวกคนจีนในเมืองไทยส่งเงินไปช่วยพี่น้องชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งตอนนั้นอดอยากมาก ข้าวไม่มีจะกินครบทุกมื้อ พวกเราต้องส่งไปให้ เงินที่ส่งไปทุกเดือนนั้น ทำให้พวกเขาไม่อดตาย และหลายสิบปีต่อมา พอจีนเจริญขึ้น อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีเงินมีทองมากขึ้น แทนที่จะขอบคุณหรือสำนึกในความช่วยเหลือของเรา ปรากฏว่าตอนนี้จีนกำลังจะมาแย่งกิจการที่พวกเราทำกันมาช้านาน”

ใช่แล้วครับ กองทัพเศรษฐกิจจากจีนกำลังสยายปีกมาเมืองไทยแล้ว

เมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ว่า

นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการก่อสร้างศูนย์ค้าส่งออกสินค้า ภายใต้โครงการ China City Complex นำโดยบริษัท Yunan-based Ashima Cultural Industry Group Investment.Co.Ltd โครงการดังกล่าวจะเป็นการพัฒนา ที่ดินบนถนนบางนา-ตราด ก.ม.ที่ 8-9 ในพื้นที่ประมาณ 64 ไร่ มูลค่าการลงทุนประมาณ 6,200 ล้านหยวน หรือประมาณ 30,000 ล้านบาท เพื่อจัดทำเป็นศูนย์ส่งออกสินค้าจากเมืองจีน

โดยจะเปิดให้ร้านค้าเข้ามาเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์รวมกว่า 10,000 ร้านค้า บนพื้นที่ 700,000 ตารางเมตร แบ่งสัดส่วนร้านสินค้าไทย 30% และจีน 70% มีการคัดเลือกสินค้าหลักพร้อมส่งออกเข้ามาวางขาย 7 หมวด ได้แก่ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม, เครื่องไฟฟ้า, อัญมณีและเครื่องประดับ, อะไหล่รถยนต์, ของตกแต่งบ้าน, ของเล่นและสินค้าไลฟ์สไตล์, อาหารและสินค้าแปรรูป

นักธุรกิจจีนผู้มีเงินมหาศาลเล็งเห็นแล้วว่า ในอนาคตกรุงเทพฯจะเป็นประตูระบายสินค้าจีนสู่อาเซียน ดังนั้นแทนที่บริษัทจีนจะส่งสินค้าจีนมาขายตามชายแดน หรือผ่านตัวแทนคนจีนในเยาวราช สำเพ็ง เหมือนในอดีต ก็มาตั้งศูนย์การค้าขนาดยักษ์ เอาสินค้าจากจีนมาขายเองดีกว่า ตัดคนกลางที่เป็นคนจีนในเมืองไทยออกโดยสิ้นเชิง

ที่ผ่านมาหลังจากที่รัฐบาลจีนทำข้อตกลงเปิดเสรี (FTA) กับกลุ่มอาเซียนเพียงปีเดียว ปรากฏช่วง 7 เดือนแรกของปี 2553 มีมูลค่าการค้าหมุนเวียนในภูมิภาคนี้สูงถึง 161,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในอนาคตเมื่ออาเซียนรวมกันเป็น ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะทำให้ได้มูลค่าการค้าระหว่างกันสูงถึงปีละ 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากบริษัทการค้าลูกคนจีนในเมืองไทยที่รับของจากเมืองจีนมาขายอาจจะล้มละลายแล้ว บรรดาผู้ผลิตสินค้าของไทย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม เครื่องไฟฟ้า ของเล่น ฯลฯ ก็อาจจะม้วนเสื่อกลับบ้าน เพราะสินค้าราคาถูกจากจีนคงมาตีตลาดแน่

คนที่ชอบเดินซื้อของแถววรจักร ราชวงศ์ สะพานเหล็ก หรือตามชายแดนแม่สอด คงทราบดีว่า สินค้าจีนมีราคาถูกมากแค่ไหนเมื่อเปรียบเทียบกับสินค้าเมดอินไทยแลนด์ จากราคาค่าจ้างแสนถูกเมื่อเปรียบเทียบกับค่าแรงในเมืองไทย

อันที่จริงหากสังเกตกันดี ๆ หลายปีที่ผ่านมา มีคนจีนจากแผ่นดินใหญ่เข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯกันมากมาย กิจการหลายแห่งในย่านเยาวราชเริ่มเปลี่ยนมือจากลูกหลานจีนในเมืองไทย กลายเป็นคนจีนรุ่นใหม่จากแผ่นดินใหญ่ที่เข้ามาครอบครองกิจการของคนจีนในเมืองไทยด้วยเงินทุนอันหนากว่า แต่ยังไม่ชัดเจนเท่ากับโครงการ China City Complex ที่ชัดเจนเลยว่า ต้องการมาเปิดตลาดสินค้าจีนของคนจีน โดยคนจีน เพื่อคนจีน(แผ่นดินใหญ่) เพื่อตีตลาดสินค้าไทยโดยตรง

และที่น่าเจ็บใจก็คือ โครงการนี้มีรัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ที่ควรจะเป็นผู้ปกป้องสินค้าไทย แต่กลับเป็นเจ้าภาพเชื้อเชิญอาเสี่ยจากเมืองจีนมาลงทุนเสียเอง

นายจิโรจน์ ตั้งกิจงามวงศ์ เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทยถึงกับออกมาพูดว่า

“น่าตกใจมากที่โครงการนี้มาแบบเงียบๆ ที่สำคัญคนของเราเป็นนำเข้ามา ผมเชื่อว่าคนอีกกว่า 80% ไม่รู้ว่าความตายกำลังมาเยือนแน่นอน”

อีกประมาณหนึ่งปี อภิมหาศูนย์การค้าริมถนนบางนา-ตราดจะเปิดทำการแล้ว และนั่นคือหายนะของสินค้าไทยและธุรกิจของคนจีนในเมืองไทยหรือไม่

นายอลงกรณ์ พลบุตรและพลพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะรู้ดีที่สุด

กรุงเทพธุรกิจ 17 กพ. 54

Comments

  1. ลัดดา วิวัฒน์สุระเวช

    รู้สึกเหมือนกันที่พ่อเราประหยัดเงินไม่ให้ลูกฝั่งเมืองไทยใช้เงินเพื่อความสุขสบาย เพราะเห็นว่าญาติพี่น้องในเมืองจีนลำบากกว่า เงินที่พ่อหาได้จึงส่งไปเมืองจีนเกือบหมด เราจึงต้องลำบาก ตอนนี้เมืองจีนรวยแล้ว เราลูกครึ่งคนจีนไทยก็ยังต้องลำบากยิ่งกว่าเดิมมากขึ้น คือคนไทยจะทำมาหากินอะไรได้ คนชั้นกลางก็ลำบากมากขึ้น คนชายขอบยิ่งลำบากกว่าอีก

  2. Pingback: Tweets that mention เมื่อมังกรจีนถล่มมังกรไทย | -- Topsy.com

  3. Pingback: Tweets that mention เมื่อมังกรจีนถล่มมังกรไทย | -- Topsy.com

  4. kate

    เมื่อสักเดือนก่อนได้อ่านบทความหนึ่งในกรุงเทพธุรกิจ กล่าวถึงช่างฝีมืองานทอส่าหรีในเมืองพาราณสีต้องปิดกิจการ บางคนต้องเปลี่ยนอาชีพ เพราะถูกส่าหรีจากจีนที่ราคาถูกกว่ามากเข้าไปแย่งชิงตลาด คิดดูแล้วกันว่าขนาดอินเดียที่แรงงานแสนถูกยังพ่ายแพ้จีน ทั้งที่ราคาวัตถุดิบและค่าแรงน่าจะสูสีกัน แสดงว่านอกจากใช้การผลิตด้วยเครื่องแบบ mass แล้ว รัฐบาลจีนต้องอุดหนุนการส่งออก ไม่งั้นไม่มีทางจะเข้าไปถล่มแขกได้ขนาดนี้แน่ๆ แล้วไทยเราจะเหลืออะไรคะ

  5. chim

    If you know they going to kill us.WHY LET THEM IN?
    Is there any way to solve this problem?
    I do not understand why let them do this to Thai?

  6. อุดมชัย โศจิพลกุล

    ผมขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวน่ะครับ
    คือว่าประเทศในแถบเอเซียได้ตกลงในเรื่อง อาเซียนเสรีมีไม่ต่ำกว่า 6-10ประเทศ อีกไม่เกิน 2ปี ใครจะไปลงทุนที่ประเทศไหนก็ได้ เราไปตั้งที่จีนก็ได้ ลาว เขมร พม่า มาเลเซีย สิงค์โปร เวียดนาม เกาหลี เราก็บุกไปตั้งที่ประเทศเขาได้เหมือนกัน จากที่ดูจากหลายฝ่ายออกความคิดเห็น เหมือนเรามองฝ่ายเดียว ใครมีเงินทุนเขาก็ไปตั้งหลักปักฐานกันเยอะแล้ว ที่ไม่รู้ก็มีอีกเยอะและไม่เข้าใจ ถ้าผมแสดงความคิดเห็นผิดไปก็ขอโทษด้วยน่ะครับทุกๆท่าน เหลืออีก 18 เดือนแล้ว อาเซียนก็จะเปิดเป็นทางการ ไชน่า ซิตี้ คอมเพล็กซ์ ก็สร้างเสร็จพอดี กม.8บางนา ถ้าเราคิดถึงส่วนรวม คนฐานะปลานกลาง และ ไม่มีกำลังเงินพอ ก็จะมีเงินพอซื้อของได้ในราคาถูกลง ผู้เสียผลประโยชน์ คือพ่อค้าคนกลางเท่านั้นที่ออกมาโวย คนรวยก็ค้ากำไร คนจนก็ต้องซื้อของแพงต่อไป คิดส่วนรวมด้วยสิครับ พ่อค้าคนกลางถ้าคิดเป็น ก็บุกไปตั้งที่ประเทศจีนกันบ้างสิ และเอาสินค้าคนไทยไปขายที่เมืองจีนก็ช่วยชาติได้ด้วย ส่งออกไป

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.