โลกหมุนช้าที่บางกระเจ้า

หลายเดือนที่ผ่านมา หากมีเวลาว่างจากที่ทำงานใหม่ ผมมักจะไม่ค่อยอยากออกไปไหน ชอบที่จะอยู่บ้านมากขึ้น หางานอดิเรกเลี้ยงปลา เล่นดนตรี ออกกำลัง พาพ่อแม่พี่น้องไปทานข้าวตามเรื่องตามราว

บางอาทิตย์อยากสังสรรค์กับเพื่อนเก่า ก็เชื้อชวนกันมาดื่มกินกันที่บ้านมากกว่าจะออกไปนั่งแช่ตามร้านอาหารหรือร้านเหล้า

เมาแล้วไม่ต้องขับ หลับอยู่ในบ้านนั้นแหละ

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโลกของที่ทำงานแห่งใหม่ คือสื่อโทรทัศน์มีภารกิจการออกอากาศเกือบตลอดเวลา  เปรียบเทียบกับที่ทำงานเดิม มันหมุนเร็วมากกว่าโลกของคนทำหนังสือรายเดือน
ดังนั้นแต่ละวันทำงานจึงมีเรื่องราวต่าง ๆ ผู้คนจำนวนมากหมุนเวียนกันเข้ามาให้ต้องคิด ต้องพิจารณาปรึกษาหารือ มีประเด็น ต้องตัดสินใจอยู่ตลอดเวลา รู้สึกได้ว่าโลกของที่ทำงานแห่งใหม่หมุนเร็วจนดูดเอาพลังงานไปพอสมควร พอถึงเวลาวันหยุดจึงอยากอยู่นิ่ง ๆ กับบ้าน ให้โลกหมุนช้าลงมั่ง

กระทั่งเสาร์วันหนึ่ง คนที่บ้านชักชวนกันไปปั่นจักรยานเที่ยวบางกระเจ้ากันกับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน อารมณ์ของการผจญภัยเล็ก ๆ กลับคืนร่าง หากไม่รีบฉวยเอาไว้ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสอีกเมื่อไหร่

ชีวิตที่ผ่านมามักไม่ค่อยปฏิเสธการเดินทางไม่ว่าใกล้หรือไกล หรือสมบุกสมบันแค่ไหน แต่กับการเดินทางด้วยจักรยาน  รู้สึกตัวว่าระยะหลังมักปฏิเสธการชักชวนของพรรคพวกมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้จึงเคลียร์เวลาว่างให้ได้ หมายมั่นจะเอาจักรยานพับออกไปท่องโลกกว้างด้วยกัน

สายของวันนั้นเรานัดพรรคพวกที่มีใจรักการปั่นจักรยานประมาณสิบกว่าคนที่หน้าห้างโลตัสตรงถนนพระรามสี่ ดีใจที่ได้พบเพื่อนสนิทหลายคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน ยกเว้นทางเฟสบุ๊ก
ส่งเสียงกันดังลั่น และแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนของเพื่อนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนอีกหลายคน แต่มีใจเดียวกัน คือรักจักรยาน ถามไถ่กันใหญ่ว่า จักรยานคันนี้ซื้อแถวไหนราคาเท่าไหร่ จักรยานที่ได้รับการกล่าวขวัญคือ จักรยานแม่บ้านมือสองราคาสองพันกว่าบาท แต่รูปทรงคลาสิกและขับสนุกมาก

ทักทายกันสักพัก ขบวนจักรยานสิบสามคันก็ปั่นกันเป็นขบวนตามถนนใหญ่มุ่งหน้าสู่วัดคลองเตยนอก ลัดเลาะมาถึงท่าเรือข้ามฟากเป็นท่าเรือเล็ก ๆ  ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปสู่บางกระเจ้า เห็นเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่จอดเรียงรายอยู่กลางแม่น้ำกำลังขนถ่ายสินค้าลงท่าเรือคลองเตย

พวกเราเหมาเรือหางยาวในราคาคนละ ๒๐ บาทรวมทั้งจักรยานด้วย ข้ามฟากไปขึ้นฝั่งบางกระเจ้า ดูจากแผนที่จะมีลักษณะที่เรียกว่ากระเพาะหมู จากลักษณะโค้งไปมาเหมือนกระเพาะหมูของแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศตะวันตก และถึงแม้ว่าบางกระเจ้าจะเป็นตำบลเล็ก ๆ
ขึ้นกับอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ แต่หากมองจากทางอากาศตามความเป็นจริง บางกระเจ้าเป็นพื้นที่อยู่ตรงใจกลางสำคัญของกรุงเทพมหานคร และนับตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๐ บางกระเจ้าได้ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่สีเขียวเหมาะแก่การเพาะปลูก   และพื้นที่แห่งนี้โด่งดังเป็นข่าวไปทั่วโลกเมื่อนิตยสาร Time ฉบับ The Best of Asia 2006 ประกาศยกย่องให้บางกระเจ้าเป็น เมืองที่มีอากาศบริสุทธิ์ดีที่สุดติดอันดับในเอเชีย

ยอมรับครับว่าเมื่อไม่ถึงยี่สิบนาทีก่อนยังติดไฟแดงสูดดมอากาศจากท่อไอเสียอยู่ตรงสี่แยกกรมศุลกากรเลย แต่พอข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาถึงบางกระเจ้าแล้วส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สีเขียว เป็นสวนขนาดใหญ่ จนเรียกได้ว่าเป็นปอดของคนกรุงเทพฯ

เพียงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา นาฬิกาของกรุงเทพฯที่หมุนเร็วตลอดเวลาตามวิถีชีวิตของคนกรุง
ก็หมุนช้าลงทันทีที่ขึ้นฝั่งมาที่บางกระเจ้า ไม่มีอะไรให้รีบเร่ง เราปั่นจักรยานไปเรื่อย ๆ ผ่านตรอกซอกซอยแคบ ๆ ไม่มีเสียงอึกทึกมากมายยกเว้นรถโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งนักการเมืองในช่วงนี้

สองข้างทางที่ปั่นจักรยานผ่านเป็นเรือกสวนร่มครึ้ม อากาศเย็น สบายจนทำให้นึกถึงงานวิจัยภาคสนามเล็ก ๆ ของมูลนิธิโลกสีเขียวที่ได้ทดลองวัดอุณหภูมิของอากาศในถนนที่มีต้นไม้ใหญ่ กับถนนที่ไม่มีต้นไม้เลยปรากฏว่ามีอุณหภูมิต่างกันประมาณ ๓-๔ องศาเซลเซียสทีเดียว

ต้นไม้ใหญ่ในเมืองจึงเป็นคำตอบสำคัญในการแก้ปัญหาโลกร้อนอย่างประหยัดที่สุด เพราะ นอกจากจะช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้วยังช่วยลดอุณหภูมิตามธรรมชาติได้ดีที่สุด

ขบวนจักรยานคณะนี้ไม่ได้ปั่นแบบนักปั่นจักรยานอาชีพแต่ปั่นไปแวะไปตามทางเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อน เริ่มจากเข้าชมพิพิธภัณฑ์ปลากัด แหล่งรวบรวมปลากัดสายพันธุ์ต่าง ๆ หลายสิบชนิด ได้ความรู้มากมาย เจ้าของก็ใจดีเปิดให้เข้าชมฟรีไม่เก็บเงินสักบาทพอใกล้เที่ยง แวะชมตลาดน้ำบริเวณวัดบางน้ำผึ้งหาก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ดหมูน้ำตกรองท้อง พลันได้กลิ่นปิ้งหมูสะเต๊ะหอมฉุย ด้วยความตะกละจึงสั่งจานใหญ่พร้อมขนมปังปิ้งอ้างว่ามาเผื่อคนรอบข้าง ตบท้ายด้วยไอติมกะทิสดจนพุงแทบปลิ้น

พรรคพวกเห็นตรงกันว่าตลาดน้ำแถวนี้ชักจะมีอารมณ์แบบอัมพวามากขึ้นเรื่อย ๆ คือเสาร์อาทิตย์มีนักท่องเที่ยวมากันมากขึ้น พ่อค้าแม่ค้าที่มาจับจองขายของริมคลองแห่งนี้ก็หน้าตาคุ้น ๆ ว่าเคยเห็นแถวอัมพวามาก่อน  แต่โชคดีที่เรายังไม่เห็นรถติดมากมายเหมือนกับที่อัมพวา

คณะของเราปั่นจักรยานไปตามทางเดินเล็กๆ เลียบแม่น้ำ สองข้างทางเป็นสวนร่มรื่นไปโผล่ตรงท่าน้ำฝั่งตรงข้ามคือบริเวณบางนา เห็นเรือรบของราชนาวีจอดเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งโน้น  เราเห็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำลังใช้ศาลาริมน้ำเป็นที่อบรมแม่บ้านเรื่องการลดน้ำหนักแบบง่าย  ๆเป็นกันเอง อากาศเย็นสบาย  ไม่ต้องใช้ห้องประชุมให้เปลืองแอร์

สักพักหนึ่งเพื่อนผู้แสนดีก็ไปเหมาขนมถ้วยเจ้าอร่อยพร้อมน้ำใบเตยมาแก้กระหายให้พวกเรา
ก่อนจะปั่นจักรยานไปเที่ยวเล่นที่สวนสาธารณะบางกระเจ้า หรือสวนนครเขื่อนขันธ์

ถึงตรงนี้ต้องอิจฉาคนบางกระเจ้าว่ามีพื้นที่สวนสาธารณะต่อประชากรดีที่สุด คือพลเมืองบางกระเจ้า ๘,๐๐๐ กว่าคน มีสวนสาธารณะ ๒๐๐ กว่าไร่ คิดเป็นพื้นที่สวนสาธารณะ ๒๕ ไร่ต่อประชากร ๑,๐๐๐ คน เทียบเท่ามาตรฐานเมืองใหญ่ ๆ ในสหรัฐอเมริกา ขณะที่คนกรุงเทพมีพื้นที่สวนสาธารณะเพียง ๑.๘ ไร่ต่อประชากร ๑,๐๐๐ คนเท่านั้น

ผู้คนที่อยู่ในบรรยากาศสีเขียวในสิ่งแวดล้อมที่ดี ดูเหมือนสุขภาพจิต สุขภาพกายก็จะดีตามไปด้วย ชุมชนคนบางกระเจ้าจึงไม่ค่อยมีข่าวเรื่องยาบ้า ยาเสพติดเหมือนกับหลายท้องที่ในสมุทรปราการ

พื้นที่สาธารณะแห่งนี้เราได้พบปะกับนักปั่นจักรยานท้องถิ่น พวกเขามารวมตัวกันทุกวันหยุดเพื่อปั่นจักรยานรอบเกาะ มีทั้งนายทหาร ตำรวจ พ่อค้า ครู  พวกเขาเข้ามาทักทายด้วยความดีใจที่เห็นคนพันธุ์จักรยานเดียวกัน  บางคนแลกจักรยานกันทดสอบ พวกเขาดีใจที่เห็นคนกรุงปั่นจักรยานมาเที่ยวแทนที่จะขับรถมา พวกเขาพยายามจะรักษาให้บางกระเจ้าเป็นเมืองท่องเที่ยวโดยใช้จักรยาน

หลายสิ่งที่บางกระเจ้าเหมือนกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่เพิ่งเปิดบริสุทธิ์กันมา คือตลาดน้ำ เรือกสวน  สภาพบ้านเรือน แต่ที่น่าจะแตกต่างกันคือบางกระเจ้าพยายามทำให้เป็นเมืองจักรยาน  มีทางจักรยานงดงามหลายสายที่รอต้อนรับคนที่อยากจะผจญภัยเล็ก ๆ

และที่สำคัญคือ

โลกหมุนช้าลงจริง ๆ เพียงข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา

Comments

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.