home
Contact Uscontact@sarakadee.com
สาระเพื่อนักเดินทาง และการท่องเที่ยว อย่างเข้าใจและรอบรู้
www.Thaitraveler.com
เที่ยวทั้วไทยกับ "นายรอบรู้" เดือนพฤษภาคม

ล่องคลองมหาสวัสดิ์ สัมผัสเสน่ห์สวนริมน้ำ

บนถนนคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ในยามเช้าวันอาทิตย์อย่างนี้ โล่งเรียบขับรถสบาย อากาศยังแจ่มใส แสงแดดยังไม่ร้อนแรงนัก เมื่อมองผ่านสองข้างทางไปก็ยังได้เห็นทิวมะพร้าวเรียงรายอยู่ลิบ ๆ คราวนี้ "นายรอบรู้" ขอพาหนีจากคลองฝั่งธนบุรี แถบบางกอกน้อย บางระมาด ไปล่องเรือชมสวนที่ริมคลองมหาสวัสดิ์ ในเขต อ. พุทธมณฑล จ. นครปฐม กันบ้าง
แผนที่ (คลิกดูภาพใหญ่)
เมื่อขับรถวิ่งไปจนถึงชุมทางต่างระดับพุทธมณฑล เลี้ยวขวาผ่านหน้ามหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา แล้วเลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ ๔ กม. ด้านซ้ายมือก็จะพบป้ายบอกทางเข้าไปวัดสุวรรณาราม อีก ๑ กม. ที่ท่าน้ำในวัดนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของการล่องเรือไปชมสวนในคลอง 
คลองมหาสวัสดิ์ เป็นคลองที่ขุดขึ้น ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อย่นระยะการเดินทางไปนมัสการพระปฐมเจดีย์ ถึงปัจจุบันนี้ก็มีอายุร้อยกว่าปีแล้ว แต่ยังคงมีสภาพธรรมชาติที่งดงาม น้ำในคลองยังมีความใสสะอาดพอที่ชาวสวนจะใช้น้ำไปราดรดพืชสวนต่าง ๆ สองฝั่งคลองจึงเต็มไปด้วยสวนผลไม้ สวนกล้วยไม้ อีกทั้งนาบัวที่ผลิดอกชูช่อน่าชม ชาวสวนในพื้นที่จึงร่วมมือกับกรมส่งเสริมการเกษตร จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม ให้นักท่องเที่ยวได้ล่องเรือชมสวนกัน
บรรยากาศการล่องเรือในคลองมหาสวัสดิ์ (คลิกดูภาพใหญ่)คน เรือ และสายน้ำ วิถีชีวิตที่พึ่งพากัน (คลิกดูภาพใหญ่)
เมื่อติดต่อเรือเรียบร้อย คนขับเรือซึ่งเป็นผู้นำชมสวนไปในตัว ก็พาเรือหางยาวค่อย ๆ ลัดเลาะไปตามคุ้งโค้ง ผ่านบ้านเรือนริมน้ำ ที่หลายหลังยังมีรูปทรงแบบเก่า ๆ ทั้งเรือนไทย เรือนปั้นหยา กระทั่งบริเวณจุดจอดเรือก็ยังเป็นตลาดไม้เล็ก ๆ ดั้งเดิมที่เคยขายของให้ชาวสวน เรือจะล่องตามคลอง เพื่อไปยังจุดชมสวนต่าง ๆ สามจุด คือ นาบัว สวนกล้วยไม้ และสวนส้มโอ ซึ่งใครจะเลือกไปสวนไหนก่อนก็ได้ และมีอีกจุดซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนช่างกิน โดยเฉพาะสาว ๆ เพราะเป็นจุดที่กลุ่มแม่บ้านมารวมตัวทำขนมขาย 
ที่นาบัวนั้น ลุงแจ่ม สวัสดิ์โต วัย ๗๘ ปี คนคลองมหาสวัสดิ์แท้ ๆ ออกมาต้อนรับพร้อมกับนำชม นาบัวของลุงแจ่มปลูกมา ๒๐ ปีแล้ว โดยปลูกดอกบัวหลวงพันธุ์ฉัตรขาว ชูดอกชูใบอวดความงามอยู่ในท้องนากว้างถึง ๒๐ ไร่ บัวที่เก็บมากองอยู่ที่ลานบ้าน จะนำมามัดเป็นกำ กำละ ๑๐ ดอกบ้าง ๒๐ ดอกบ้าง แล้วแต่ขนาด ก่อนส่งไปขายที่ปากคลองตลาด
ฤดูกาลนี้ขนุนสุกอยู่เต็มต้น (คลิกดูภาพใหญ่)ส้มโอก็ยังพอมีอยู่บ้าง (คลิกดูภาพใหญ่)
ใครที่ไม่อยากคุยเรื่องการปลูกบัวกับลุง จะขอยืมเรือลงไปพายเล่นในนาบัวได้พอเพลิน ๆ ถ้าพายเรือไม่แข็งจะขอให้คนขับเรือมาพายให้นั่งก็ได้ แต่ถ้าอยากลองเก็บบัวต้องมาให้ตรงกับวันโกน เพราะวันนั้นจะลงเก็บบัวกันหลายรอบ 
ชมนาบัวกันจนหนำใจแล้ว เรือก็จะลัดเลาะคลองไปเรื่อย ๆ จนถึงสวนกล้วยไม้ของคุณชุบ และคุณทิพย์ภา คชเวช รายนี้ปลูกกล้วยไม้พันธุ์หวาย ตัดดอกส่งขายต่างประเทศ กล้วยไม้มีทั้งสีชมพู สีม่วง และสีขาว โดยเฉพาะกล้วยไม้พันธุ์ "ทัศนีย์" ที่คุณชุบเพาะขึ้นมาเอง มีสีชมพูเข้ม ดอกใหญ่ สีสด ถ้าอยากรู้เรื่องกล้วยไม้ให้สอบถามคุณทิพย์ภา เพราะเธอจะพาชมแปลง ใครสนใจจะสอบถามเรื่องเพาะเลี้ยง การแยกกล้วยไม้ การดูแล เธอก็อธิบายให้ฟังอย่างเต็มใจ แถมยังมีกล้วยไม้บางส่วน ที่แบ่งขายเป็นกระถางให้ซื้อกลับไปลองเลี้ยงที่บ้านอีกด้วย
จากนั้นก็ลงเรือต่อไปยังสวนส้มโอ ของลุงบุญเลิศ เสรษฐอำนวย วัย ๗๕ ปี จะว่าไปแล้วราวเดือนพฤษภาอย่างนี้ ส้มโอคงเพิ่งจะออกดอกหอมไปทั้งสวน ยังไม่มีผลให้ชิมกันสักเท่าไร แต่ในสวนเองใช่ว่ามีแต่ส้มโอ ยังมีขนุนพันธุ์ต่าง ๆ เช่น บางเตย เขียวข้างคด เป็นต้น ซึ่งช่วงนี้กำลังสุก โดยเฉพาะมะม่วงที่มีทั้งมะม่วงเขียวเสวย อกร่อง น้ำดอกไม้ รวมทั้งกะท้อนหวาน ๆ เนื้อเป็นปุย
พายเรือเล่นในนาบัวของลุงแจ่ม สวัสดิ์โต (คลิกดูภาพใหญ่)สวนกล้วยไม้ผลิช่อ พร้อมตัดขาย (คลิกดูภาพใหญ่)
เข้าสวนมาแล้วจะพบว่า บรรยากาศอันร่มรื่น และชุ่มเย็นด้วยลมที่พัดมาจากในคลอง ชวนให้ง่วงนอนดีชะมัด ดังนั้นใครใคร่เดินชมสวนดูผลหมากรากไม้หลากหลายในพื้นที่กว่า ๒๔๐ ไร่ ก็มีลูกหลานเจ้าของสวนพาเดินชม จะได้รู้จักต้นไม้ พันธุ์ไม้ต่าง ๆ มากขึ้น แต่ถ้าขี้เกียจเดิน จะนั่งชิมขนุน มะม่วง อยู่ที่บริเวณบ้านก็ทำได้ไม่มีใครหวงห้าม สนใจจะซื้อผลไม้ หรือหากิ่งตอนไปปลูกที่บ้านบ้าง ก็คุยกับเจ้าของสวนได้ 
ก่อนกลับคงขนต้นไม้ ผลไม้กันมาเกือบเพียบลำเรือ อย่าลืมแวะไปชิมขนมของกลุ่มแม่บ้าน ที่ทำ ข้าวตัง ส่งขายไปทั่วทั้งกรุงเทพฯ และนครปฐม เป็นข้าวตังข้าวซ้อมมือ หน้างา หน้าหมูหยอง จะได้เห็นกลุ่มแม่บ้านช่วยกันนำข้าวมาตากแห้ง ก่อนจะนำไปทอดให้ฟูเป็นแผ่น ทาหน้าต่าง ๆ แล้วนำไปอบอีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีผลไม้ปรุงรส ทั้งมะม่วง มะยม มะละกอ ฝรั่ง ช่วยอุดหนุนกันได้ขีดละ ๑๐บาทเท่านั้น 
ครบสี่แห่งตามโปรแกรมแล้ว ถ้ายังอยากล่องเรือตามคลองนี้อยู่ จะเหมาเรือเป็นพิเศษเพื่อให้ล่องไปยังแม่น้ำนครชัยศรี ไปหาข้าวกลางวันกินที่ตลาดท่านาก็ยังได้ ส่วนถ้าใครอยากจะมาแต่เช้ามืด เพื่อจะได้ใส่บาตรพระที่พายเรือมาบิณฑบาตตอนเช้า แล้าค่อยล่องเรือก็จะได้บรรยากาศไปอีกแบบ

บริการวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา ๐๘.๐๐-๑๖.๐๐ น. 
ค่าเช่าเรือพร้อมผู้นำชม ๓๐๐ บาท/ลำ นั่งได้ ๖ คน 
ค่าบัตรเข้าชมสวนทั้งสี่จุด ผู้ใหญ่ ๗๐ บาท เด็ก ๔๐ บาท
ติดต่อศูนย์บริการท่องเที่ยวเกษตร อ. พุทธมณฑล
โทร. ๐-๓๔๒๙-๗๑๕๒, ๐-๒๘๘๙-๓๘๔๒ หรือที่สำนักงานเกษตร อ. พุทธมณฑล โทร. ๐-๒๔๔๑-๐๘๓๗
Home