Contact Us
สาระเพื่อนักเดินทาง และการท่องเที่ยว อย่างเข้าใจและรอบรู้
www.Thaitraveler.com
ชมทะเลหมอกที่ห้วยน้ำดัง
เมื่อฉบับที่แล้ว "นายรอบรู้" พาไปเตรียมตัวรับความหนาวที่ภูเรือกันมาแล้ว มาถึงฉบับนี้ก็เข้าหน้าหนาวจริงๆ เสียที เตรียมอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อม "นายรอบรู้" จะชวนขึ้นไปดูทะเลหมอกพร้อมตากอากาศหนาวที่ห้วยน้ำดัง จ. เชียงใหม่กัน
พูดถึงทะเลหมอกแล้ว ภาคเหนือของไทยเรามีทะเลหมอกให้เลือกไปชมกันมากมายหลายแห่ง ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็ได้แก่ห้วยน้ำดังนี่เอง ว่ากันว่าทะเลหมอกที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังนี้สวยที่สุดในประเทศทีเดียว ดังนั้นตลอดช่วงหน้าหนาวห้วยน้ำดังจึงไม่เคยเงียบเหงาจากนักท่องเที่ยวสักวันเลย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะมาห้วยน้ำดังก็เพียงประเดี๋ยวประด๋าว โดยออกเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ตั้งแต่ตีสามตีสี่ มาถึงห้วยน้ำดังตอนจวนสว่าง เมื่อเห็นทะเลหมอกสมใจแล้วก็พากันขึ้นรถไปเที่ยวที่อื่นต่อไป แต่ "นายรอบรู้" จะพามาค้างแรมรับอากาศหนาวกันสักคืนหนึ่งก่อน เห็นทะเลหมอกแล้วจะแยกย้ายไปเที่ยวปาย แม่ฮ่องสอน หรือจะย้อนกลับมาเชียงใหม่ ก็ค่อยว่ากันต่อไป
เรามาเริ่มต้นกันที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข ๑๐๗ (เชียงใหม่-ฝาง) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข ๑๐๙๕ (สายแม่มาลัย-ปาย) สามแยกนี้มีตลาดใหญ่ชื่อตลาดแม่มาลัย เราจะแวะซื้อเสบียงที่นี่ไว้สำหรับการพักแรมบนดอย "นายรอบรู้" ซื้อข้าวนึ่ง น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู หมูทอด และไส้อั่ว และที่จะลืมไม่ได้เลยก็คือผักสดสำหรับกินแกล้มน้ำพริก รำแต๊ ๆ เนาะ
จับจ่ายเสบียงเรียบร้อยแล้วก็เดินทางกันต่อไป "นายรอบรู้" ขอบอกไว้ก่อนว่าทางหลวงหมายเลข ๑๐๙๕ สายนี้เป็นเส้นทางขึ้นเขาลาดชันและคดเคี้ยว มีทางโค้งนับไม่ถ้วน ก่อนออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ อย่าลืมตรวจสอบรถให้พร้อมโดยเฉพาะระบบคลัตช์และเบรก ส่วนผู้โดยสารที่รู้ตัวว่าเมารถง่าย "นายรอบรู้" แนะนำให้นั่งทางด้านหน้าข้างคนขับ จะรู้สึกว่ารถเหวี่ยงไปมาขณะเข้าโค้งน้อยกว่านั่งทางด้านหลัง
ก่อนจะถึงจุดหมายที่ห้วยน้ำดัง เส้นทางนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง แห่งแรกที่น่าแวะเที่ยวคือน้ำตกหมอกฟ้าในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ทางเข้าน้ำตกเป็นถนนลูกรังอยู่ระหว่าง กม. ๑๘-๑๙
ทางซ้ายมือ เลี้ยวเข้าไปประมาณ ๒ กม. จะถึงที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ จากหน่วยฯ เดินไปอีกประมาณ ๓๕๐ ม. ก็จะถึงตัวน้ำตก แม้หมอกฟ้าจะเป็นน้ำตกชั้นเดียวที่สูงเพียง ๒๐ ม. แต่สายน้ำที่ทอดลงมาสู่แอ่งเบื้องล่างและบรรยากาศราวป่าที่เขียวครึ้ม ก็นับได้ว่าเป็นภาพที่สวยงามภาพหนึ่ง
ชื่นใจกับน้ำตกแล้ว แห่งที่สองที่น่าไปชมก็คือ พุน้ำร้อนที่ชื่อ โป่งเดือดป่าแป๋ ตรง กม. ๔๒ ของทางหลวงหมายเลข ๑๐๙๕ มีทางแยกด้านขวามือ เลี้ยวเข้าไปตามถนนลูกรังอีก ๖.๕ กม. ก็จะถึงหน่อยพิทักษ์อุทยานฯ เมื่อถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ต้องเดินเท้าเข้าไปที่โป่งเดือดอีกประมาณ ๕๐๐ ม.
โป่งเดือดป่าแป๋จัดว่าเป็นพุน้ำร้อนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ตัวน้ำพุจะมีน้ำพุ่งสูงประมาณ ๒ ม. ทุก ๆ ๓๐ วินาที น้ำพุนี้ไม่ใช่น้ำร้อนธรรมดา แต่ร้อนจัด โดยมีอุณหภูมิที่ผิวดินประมาณ ๙๙ ํซ. ถ้าลึกลงไปใต้ดินน้ำจะมีอุณหภูมิสูงถึง ๑๗๖-๒๐๓ ํซ เลยทีเดียว ชมน้ำพุแล้วชักคันเนื้อคันตัวอยากอาบน้ำร้อนเพื่อสุขภาพ ก็ต้องเดินต่อไปอีก ๒๐๐ ม. จะมีห้องอาบน้ำแร่ไว้บริการ
อย่าเพิ่งติดอกติดใจกางเต็นท์นอนที่โป่งเดือดเสียก่อน เพราะเราจะไปดูทะเลหมอกกัน กลับออกมาสู่ทางหลวงหมายเลข ๑๐๙๕ มุ่งหน้าไปทางแม่ฮ่องสอน เมื่อเห็นป้ายอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังขนาดใหญ่ตรง กม. ๖๕ ก็เลี้ยวขวาเข้าไปตามถนนลาดยางอย่างดี ลัดเลาะไปตามไหล่เขาอีกประมาณ ๖ กม. ก็จะถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ชำระค่าธรรมเนียมกางเต็นท์เรียบร้อยแล้ว ก็ไปจับจองสถานที่กางเต็นท์กันได้ ที่จุดกางเต็นท์ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไม่ไกลนัก จากนั้นก็พักผ่อนรอคอยรุ่งเช้าของวันใหม่
ห้วยน้ำดังมีจุดชมทะเลหมอกสวยๆ อยู่สามแห่งด้วยกัน ได้แก่ จุดชมวิวดอยกิ่วลม จุดชมวิวดอยช้าง และดอยสามหมื่น จุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและสะดวกที่สุดคือดอยกิ่วลม เนื่องจากอยู่ใกล้ลานกางเต็นท์ และเป็นที่ตั้งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยานฯ นอกจากนี้โดยรอบบริเวณยังมีพรรณไม้เมืองหนาว ปลูกประดับประดาอย่างสวยงาม ส่วนอีกสองจุดนั้นเหมาะกับผู้ชื่นชอบการท่องป่าแบบสมบุกสมบันสักหน่อย เพราะหนทางทั้งไกล ทั้งทุรกันดาร และไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ แต่สภาพป่าก็สมบูรณ์กว่าที่ดอยกิ่วลมและมีนกให้ดูมากมาย สำหรับเที่ยวนี้ "นายรอบรู้" ขอตั้งหลักดูหมอกอยู่ที่ดอยกิ่วลมนี้ดีกว่า
อย่างที่กล่าวไว้แล้วข้างต้นว่า ภาคเหนือมีสถานที่สำหรับชมทะเลหมอกหลายแห่ง แต่ถ้าคุณได้มาเห็นด้วยตาตนเองเมื่อใด จะรู้ทันทีว่าทำไมใครๆ จึงบอกว่าที่ห้วยน้ำดังสวยกว่าที่อื่น ก็ทะเลหมอกที่ลอยฟูฟ่องคล้ายปุยนุ่นปกคลุมอยู่ในหุบเขากว้างไกล โดยมียอดเขาตะปุ่มตะป่ำของดอยหลวงเชียงดาว ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางสายหมอกขาวในเบื้องหลังนั้น เป็นภาพที่จะติดตาตรึงใจไม่รู้คลาย
แม้ทะเลหมอกจะเป็นเพียงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติธรรมดาๆ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่ออากาศชื้นใกล้พื้นดินเย็นตัวลงจนไอน้ำในอากาศกลั่นตัวเป็นหมอก แต่เมื่อได้มองจากที่สูงลงมายังหมอก ที่ครอบคลุมต่อเนื่องกันเป็นผืนใหญ่ที่เบื้องล่าง แถมด้วยการจัดวางภูเขาน้อยใหญ่อย่างลงตัว ย่อมเป็นความสวยงามที่ชวนให้กลับมาชมได้อย่างไม่รู้เบื่อ
