นกปรอดหัวโขน เสียงขับขานจากกรงเลี้ยง
( ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณ คลิกที่นี่ )
วันดี สันติวุฒิเมธี : รายงาน
บันสิทธิ์ บุณยะรัตเวช : ภาพ

    นกปรอดหัวโขน หรือ Red-whiskered Bulbul เป็นนกปรอดในวงศ์ Pycnonotus jocosus มีลักษณะทั่วไป คือ กระหม่อมสีดำ และมีหงอนยาวตั้งชันสีดำ แก้มสีขาว มีเส้นสีดำลากจาก โคนปากลงมาต่อกับ แถบสีดำข้างคอ ใต้ตามีแต้มสีแดง ลำตัวด้านบนสีน้ำตาล ด้านล่างสีขาว โคนหางด้านล่างสีแดง ปลายขอบหางสีขาว ขาสีดำ นกปรอดหัวโขนกินผลไม้ หนอน และ แมลงเป็นอาหาร พบทั่วไปตามพื้นที่โล่ง ป่าละเมาะ พื้นที่เกษตรกรรม และบริเวณรอบ ๆ บ้านเรือนใกล้ชุมชน จากที่ราบไปจนถึง ระดับความสูง ๑,๘๐๐ เมตร กระจายอยู่ทั่วประเทศ ยกเว้นพื้นที่ส่วนใหญ่ของ ภาคอีสาน เนื่องจากไม่ชอบถิ่นอาศัย ที่ค่อนข้างแห้งแล้ง

    คนไทยเลี้ยงนกปรอดหัวโขนกันมาก โดยเฉพาะในภาคใต้ ด้วยนิยมรูปร่างอันสวยงาม และเสียงอันไพเราะ ผู้เลี้ยงนกในภาคใต้ เรียกนกชนิดนี้ว่า "นกกรงหัวจุก"   และนำมา ประกวดเสียงร้องกัน ถือเป็นงานอดิเรกชนิดหนึ่ง ที่ได้รับความนิยม อย่างแพร่หลาย ส่งผลให้ ปริมาณนกปรอดหัวโขน ในพื้นที่ภาคใต้ ไม่เพียงพอต่อ ความต้องการของ ผู้เลี้ยง จึงมีการจับนก จากภาคอื่น ๆ ลงไปขายยังภาคใต้มากขึ้น ในระยะหลัง ความนิยม เลี้ยงนกปรอดหัวโขน เริ่มแพร่ขยายสู่ ชาวบ้านภาคเหนือ และภาคกลาง ปริมาณ นกปรอดหัวโขนในธรรมชาติ จึงลดลงอย่างเห็นได้ชัด
    เนื่องจากนกปรอดหัวโขน เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ประเภทนก ตามพระราชบัญญัติสงวน   และคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ผู้ใดมีไว้ในครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาตจาก กรมป่าไม้ ถือว่าผิดกฎหมาย ส่วนผู้มีนกในครอบครอง ก่อนปี ๒๕๓๕ ต้องขอ ใบอนุญาตครอบครอง และหากผู้ใด ต้องการเพาะพันธุ์ จะต้องปฏิบัติตามกฤษฎีกา เล่มที่ ๑๑๑ ตอนที่ ๕๘ ปี ๒๕๓๗ ซึ่งระบุว่า นกปรอดหัวโขน หรือนกกรงหัวจุก เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่เพาะพันธุ์ได้ แต่จะต้องได้รับ การอนุญาตจาก กรมป่าไม้เสียก่อน
    ถึงแม้ว่ากฎหมาย จะเปิดโอกาสให้เพาะพันธุ์ นกปรอดหัวโขน ในกรงเลี้ยงได้ แต่ผู้ขาย ก็ไม่นิยมเพาะเลี้ยง เพราะการขออนุญาตจาก กรมป่าไม้ มีขั้นตอนยุ่งยาก อีกทั้ง การเพาะพันธุ์ ก็ต้องลงทุนสูงกว่า การจับ จากธรรมชาติ   ซึ่งสามารถจับได้ครั้งละมาก ๆ เพราะนกปรอดหัวโขน อยู่รวมกันเป็นฝูง ตามท้องทุ่ง ใช้ตาข่าย ดักจับครั้งเดียว ก็ได้นกเป็นสิบตัว
    ปัจจุบัน นกปรอดหัวโขน กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ น่าเป็นห่วง ขณะที่ มีการซื้อขาย นกปรอดหัวโขนกันมาก กลับไม่มีกลุ่มผู้เลี้ยง หรือผู้ขายนกรายใด ออกมายืนยันความสำเร็จ ในการเพาะพันธุ์ ต่อกรมป่าไม้แต่อย่างใด
    ควรเลี้ยง นกปรอดหัวโขนหรือไม่ ? ความคิดเห็นจากทั้ง ฝ่ายสนับสนุน และคัดค้าน คงจะเป็นข้อมูลที่ดี สำหรับผู้ที่คิดจะเลี้ยง นกรูปร่างสวยเสียงใสชนิดนี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น สนับสนุน หรือ คัดค้าน !
คลิกที่นี่


ไพบูลย์ กนกวัฒนาวรรณ (อ่านฝ่ายสนับสนุน คลิกที่นี้)

นกปรอดหัวโขน เสียงขับขานจากกรงเลี้ยง (แสดงความคิดเห็น คลิกที่นี้)

อุทัย ตรีสุคนธ์ (อ่านฝ่ายคัดค้าน คลิกที่นี้)

ไพบูลย์ กนกวัฒนาวรรณ
ผู้เลี้ยงนกปรอดหัวโขน

อุทัย ตรีสุคนธ์
อุปนายก สมาคมอนุรักษ์นก และธรรมชาติ แห่งประเทศไทย

ส นั บ ส นุ น
  • การประกวด แข่งเสียงร้องของ นกปรอดหัวโขน ทำให้เกิดการ พัฒนาสายพันธุ์
  • ควรถอดชื่อ นกปรอดหัวโขน ออกจากบัญชีรายชื่อ สัตว์ป่าสงวน และคุ้มครอง และเปิดโอกาสให้ เพาะพันธุ์ได้โดยอิสระ
  • ผู้เลี้ยงหลายราย ยืนยันว่า สามารถเพาะพันธุ์ นกปรอดหัวโขน ในกรงได้
  • ผู้เลี้ยงนก ดูแลประคบประหงมนก เป็นอย่างดี

คั ด ค้ า น

  • การจัดประกวด แข่งเสียงร้อง ทำให้ นกปรอดหัวโขน สูญพันธุ์เร็วขึ้น
  • ยังไม่มี ใครยืนยันว่า เพาะพันธุ์ นกปรอดหัวโขน ในกรงเลี้ยงได้
  • การจับนก มาแข่งกันร้อง ทำให้ นกเกิดความเครียด เป็นการทรมานสัตว์
  • ขั้นตอนการขนย้ายนก จากป่า ทำให้นกตาย มากกว่าครึ่ง

อ่านฝ่ายสนับสนุน คลิกที่นี่
click here
กลับไปหน้า สารบัญ อ่านฝ่ายคัดค้าน คลิกที่นี่
click here

แล้วคุณล่ะ สนับสนุน หรือ คัดค้าน !
.ต้องการ แสดงความคิดเห็นเพิ่ม คลิกที่นี่


แ ส ด ง ค ว า ม คิ ด เ ห็ น เ พิ่ ม เ ติ ม

ชื่อ-สกุล: *
E-Mail:
แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม: *
*

 

พบเห็น ข้อความไม่เหมาะสม กรุณาช่วยกันแจ้ง ผู้ดูแลเว็ป (WebMaster) ขอบคุณครับ

ถ้ารัฐบาลจับผู้เลี้ยงนกปรอทไปจำคุกตลอดชีวิต แต่จะเลี้ยงดูอย่าดีด้วยอาหารเหลาทุกมื้อ และนอนแช่จากุชชี่ แลกกับกานตะเบ็งร้องเพลงเดิมๆทุกวันจกว่าจะตาย ถือว่ารัฐบาลมีความรักให้อย่างเต็มเปี่ยมไม๊ครับ ผมสงสัยจัง ?
เถาะ
- Wednesday, December 17, 2003 at 09:58:04 (EST)

อย่าเลี้ยงนกกรงหัวจุกเลยครับเสียเวลาเปล่าๆปล่อยให้นกมันอยู่ตามธรรมชาติดีกว่าครับ
นายธีรเดช แสงเงิน <date@thai.com>
- Tuesday, November 25, 2003 at 03:48:42 (EST)

นกปรอดหัวโขนเป็นนกที่ทำให้ คนเราอารมณ์ดี
นาย ทวีวัฒน์ วรรณทอง <www.oof.com>
- Wednesday, November 12, 2003 at 02:38:28 (EST)

ควรสนับสนุนเพาะพันธุ์ให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้นกสูญพันธ์ ถึงแม้จะมีกฎหมายควบคุม ก็ไม่สามารถควบคุมได้หรอกครับ
สุรพล <SURAPON_SUB_IN@HOTMAIL.COM>
- Monday, September 08, 2003 at 01:14:04 (EDT)

ควรสนับสนุนเพาะพันธุ์ให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้นกสูญพันธ์ ถึงแม้จะมีกฎหมายควบคุม ก็ไม่สามารถควบคุมได้หรอกครับ
สุรพล <SURAPON_SUB_IN@HOTMAIL.COM>
- Monday, September 08, 2003 at 01:13:55 (EDT)

ควรสนับสนุนเพาะพันธุ์ให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้นกสูญพันธ์ ถึงแม้จะมีกฎหมายควบคุม ก็ไม่สามารถควบคุมได้หรอกครับ
สุรพล <SURAPON_SUB_IN@HOTMAIL.COM>
- Monday, September 08, 2003 at 01:13:36 (EDT)

ผมเป็นคนหนึ่งที่เริ่มเลี้ยงนกประเภทนี้ได้ประมาณ 1 ปี อาศัยถามกับคนที่เคยเลียงมาก่อนและซื้อหนังสือซึ่งตอนนี้มีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือมาอ่านประกอบการเลี้ยงและตอนนี้มันก็ออกลูกมาให้เชยชมสองตัวอายุที่ออกจากไข่ตอนนี้22วันถ้าคุณได้ดูตั้งแต่นกเริ่มไข่จนออกลูกแล้วลูกนกมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆจนขนนกเต็มและพ่อแม่นกสอนลูกให้หัดบินมันเป็นอะไรที่มีความสุขเหมือนได้ดูสารคดีนกอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว
นายอชิตพล ผลินสุคนธ์01-4768329
- Thursday, August 14, 2003 at 04:57:42 (EDT)

ผมเป็นคนหนึ่งที่เริ่มเลี้ยงนกประเภทนี้ได้ประมาณ 1 ปี อาศัยถามกับคนที่เคยเลียงมาก่อนและซื้อหนังสือซึ่งตอนนี้มีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือมาอ่านประกอบการเลี้ยงและตอนนี้มันก็ออกลูกมาให้เชยชมสองตัวอายุที่ออกจากไข่ตอนนี้22วันถ้าคุณได้ดูตั้งแต่นกเริ่มไข่จนออกลูกแล้วลูกนกมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆจนขนนกเต็มและพ่อแม่นกสอนลูกให้หัดบินมันเป็นอะไรที่มีความสุขเหมือนได้ดูสารคดีนกอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว
นายอชิตพล ผลินสุคนธ์01-4768329
- Thursday, August 14, 2003 at 04:46:18 (EDT)

การเลี้ยงนกจะช่วยพัฒนาสายพันธุ์นก
สุรินทร์ <suren.kb@chaiyo.com>
- Sunday, August 03, 2003 at 00:07:38 (EDT)

เลี้ยงได้ครับอย่าเลี้ยงเกินคนละ2ตัวเอาไว้ร้องขานกันบางคนเลี้ยงมากเกิน2
หนึ่ง <petchrune9923@w-web.co.th>
- Wednesday, July 09, 2003 at 02:18:01 (EDT)

สนับสนุน
ทรงยศ
- Thursday, July 03, 2003 at 09:15:06 (EDT)

เห็นด้วย ...ต้านยาเสพติดได้
วาณิชย์ ไพศาลวาณิชย์ <paisan@vanid.co.th>
- Wednesday, May 21, 2003 at 02:58:19 (EDT)

OK เลี้ยงได้
วาณิชย์ ไพศาลวาณิชย์ <paisan@vanid.co.th>
- Friday, April 25, 2003 at 00:00:39 (EDT)

ผมคิดว่าควรมีการสนับสนุนให้มีการเพราะเลี้ยงนกชนิดนี้และกรมป่าไม้ก็ควรออกกฎหมายให้มีการขอใบอนุญาตไม่ว่าจะมีใว้ในครอบครองหรือเพราะเลี้ยงได้ง่ายกว่านี้จะได้เป็นการเพิ่มให้มีการเพราะเลี้ยงกันมากขึ้นและเป็นการเพิ่มจำนวนนกและลดการลักลอบจับจากธรรมชาติด้วยเพราะว่าทุกภาคในประเทศไทยมีผู้นิยมเลี้ยงนกชนิดนี้กันมากรวมทั้งตัวข้าพเจ้าด้วยและเมื่อมีการเพราะเลี้ยงกันมากขึ้นก็จะทำให้นกมีโอกาสกลับคืนสู่ป่ามากขึ้นด้วยเพราะว่าการเพราะเลี้ยงเพื่อให้ได้ลูกนกออกมานั้นก็จะได้ทั้งนกที่ต้องการคือเสียงเพาะหรือตรงตามที่ผู้เพราะเลี้ยงต้องการและต้องมีส่วนที่ไม่ตรงกับความต้องการ เช่น เสียงไม่ดีหรือว่าผู้เพราะเลี้ยงไม่ต้องการนกก็จะถูกปลอยสู่ธรรมชาติมากขึ้น แต่นกที่ถูกปลอยสู่ธรรมชาติก็จะไม่เพียงแต่นกที่ผู้เพราะไม่ต้องการเท่านั้นในเมื่อมีการเพราะเลี้ยงกันมากขึ้นนกที่ถูกปลอยก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ผมก็ขอฝากความคิดเห็นไว้ให้ท่านผู้ที่เกียวข้องหรือผู้หลักผู้ใหญ่ได้ ช่วยนำไปพิจารณาด้วยครับ
บัญชา อำพวา <banchaampawa@.com>
- Saturday, March 01, 2003 at 00:57:11 (EST)

ข้าพเจ้าว่าพวกที่คัดค้านกันอยู่ในปัจจุบันมีแต่ความคิดเก่า..เก่า ไม่ได้ติดตามข่าวสารกันอย่างจริงจังว่าโลกปัจจุบันในส่วนของการพัฒนาสายพันธุ์นกป่าก้าวไปถึงระดับไหนกันแล้ว..ซึ่งความจริงนกป่าหลายชนิดสามารถเพาะขยายพันธุ์สำเร็จแล้ว และบางส่วนได้มีการทดลองปล่อยคืนสู่ป่าธรรมชาติแล้วพบว่าสามารถหากินเองได้ เพราะเนื่องจากกรงเพาะเลี้ยงมีการทำให้ใกล้เคียงสภาพธรรมชาติมากที่สุด ข้าพเจ้าจะยกตัวอย่างให้ฟังว่ามีนกอะไรกันบ้าง....นกขุนทอง..นกปรอทหัวโขน..นกกางเขนดง เป็นต้น เพียงแต่กลุ่มคนพวกนี้มิได้เปิดเผยเพราะทำด้วยใจรัก และไม่เป็นที่ยอมรับของกรมป่าไม้ ข้าพเจ้าจึงชี้แจงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน....อย่ามัวแต่มีหัวคิดอนุรักษ์...หัดหาทางแก้ไขที่ดีกว่าการโจมตีด้วยคำพูด
นกป่า
- Wednesday, February 26, 2003 at 22:42:22 (EST)

คิดว่าเป็นเรื่องดีทีได้รู้เกียวกับนกมากขึ้น ควรมีสถานทีเพราะเลียงแจ้งดัวย
เวทิน จันทรัตน์ <vatin@thaimail.com>
- Wednesday, February 12, 2003 at 08:41:05 (EST)

ควรเปรียบเทียบการเลี้ยงนกเขาชวา -การเริ่มนำมาเลี้ยง ถึงปัจจุบัน -วัตถุประสงค์ของผู้นำมา -การนำไปประกอบอาหาร (ชนบท ในเมือง) -มีการนำมาประกวดแข่งขัน -มีการซื้อ-ขาย -มีการเพาะเลี้ยง (ยังไม่แพร่หลาย) -อื่นๆ ในทุกวันนี้ จากการพบเห็น มีนกจำนวนมากแพร่พันธ์ อยู่ในตัวเมือง (ต่างจังหวัด)
ชุมพร ปาวะรีย์
- Friday, January 03, 2003 at 03:55:08 (EST)

นกปรอดหัวโขน หรือนกปรอดหัวจุก ในกรงเลี้ยงเป็นเรื่องทางวัฒนธรรม ไม่ควรมีโทษทางกฎหมายกับผู้เลี้ยง(เก่า) แต่กับผู้ที่เริ่มเลี้ยง(ใหม่) ต้องเล่นให้หนัก
มงคล
- Tuesday, October 08, 2002 at 03:44:10 (EDT)

มีการเลิ้ยงและเพาะนกจะทําให้นกชินดนี้ไม่ สูนพันธ์ไป
นายสมชาติ พัฒนกิจการุณ
- Monday, October 07, 2002 at 06:30:38 (EDT)

นกกรงหัวจุกเป็นนกที่สามารถเพาะพันธ์ได้ในกรงเพาะ หากทางกรมป่าไม้และผู้ที่เกี่ยวข้องได้มีโอกาสศึกษาหาข้อมูลอย่างจริงจัง คนที่ไม่มีความรู้เรื่องสัตว์โดยตรงไม่ได้เรียนมายังเพาะได้เลย และถ้าเปรียบเทียบการตายของนกระหว่างการจับมาทำอาหารของชาวบ้านในถิ่นกันดานมีจำนวนมากกว่าที่จับมาเลี้ยงด้วย เพราะชาวบ้านต้องการอาหารมากกว่าอย่างอื่นๆ
ประจิตร์ <prajit@thaimail.com>
- Tuesday, July 09, 2002 at 12:31:26 (EDT)

ไม่แสดงความคิดเห็น แต่จะขอวิธีการเลี้ยงนกขมิ้นครับ ขอบคุณครับ
Aphilak khankham <aphilak.kh@chaiyo.com>
- Friday, July 05, 2002 at 03:24:42 (EDT)

ก่อนอื่นต้องสารภาพตามตรงว่าผมก็เป็นอีกคนที่เลี้ยงนกหัวจุก สำหรับผ่ายค้าน ตอนนี้เขาเพาะพันธ์นกได้มาตั้งนานแล้วท่านเปิดไปดูได้ที่www.pantip.comครับ ในความเห็นส่วนตัวเทีบยได้กับนำมันครับเป็นทรัพยากรที่ใช้ก็อาจหมดไปผมไม่เถียงแต่ถ้าไม่ใช้ก็ไม่มีคุณค่าจะหมดไปหรือมีอยู่ก็ไม่สำคัณอะไรมีสัตว์อื่นๆอีกมากที่กำลังจะสูญพันธ์ท่านเอากำลังของท่านไปต่อสู้เพื่อสัตว์เหล่านั้นเถอะสำหรับนกหัวจุกผู้ที่เลียงแทบทุกคนจะรักมันและจะไม่ปล่อยให้มันสูญพันธ์แน่นอนอย่างน้อยก็ผมคนหนึ่งละที่พยายามผสมพันธ์นกชนิดนี้อยู่
เอ
- Saturday, December 08, 2001 at 09:05:02 (EST)

ขอให้มีการเพราะเลี้ยงอย่างเสรีและสามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้จนสามารถส่งไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านเช่น มาเลย์ สิงค์โปร์ ซึ่งนกที่ขยายพันธ์เองจะมีคุณภาพดีกว่าทั้งน้ำเสียงและความคุ้นเคยกับมนุษย์ซึ่งจะเป็นจุดหักเหให้คนไม่หันไปจับนกป่ามาเลี้ยงเพราะนกป่าจะดิ้นและใช้เวลาเลี้ยงหลายปีกว่าจะนำเข้าแข่งขันได้ถ้าเป็นนกเสียงไม่ดีก็จะถูกปล่อยอยู่ตามในเมืองสังเกตุได้จากแถวบ้าน(หลักสี่)มีนกชนิดนี้เกาะตามต้นไม้ส่วนใหญ่น้ำเสียงไม่ค่อยดีและมีการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมได้ดีเพราะในแต่ละปีจะมีนกชนิดนี้เพิ่มขึ้นแต่เนื่องจากไม่มีการอนุญาตให้เพราะเลี้ยงนกชนิดนี้จึงถูกจับไปขายอีกจึงจะเห็นได้ว่านกชนิดนี้ปรับตัวให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมได้เป็นอย่างดีจึงสามารถขยายพันธ์ได้โดยฝีมือมนุษย์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ควรลืมหูลืมตาได้แล้วอย่าทำตัวเป็นคนมือไม่พายแต่เอาเท้าลาน้ำ ตาสว่างเสียที
ปทุม นิ่มน้อย <patum@tha.xerox.com>
- Tuesday, November 06, 2001 at 05:18:11 (EST)

ผมเห็นด้วยว่าควรจะปลดชื่อนกกรงหัวจุกออกจากสัตว์สงวนเพื่อที่จะได้เพาะเลี้ยงและขยายพันธ์ได้อย่างเสรี เพราะปัจจุบันนี้คนเลี้ยงเขาเพาะขยายพันธ์กันเองได้มานานแล้วที่ทางกรมป่าไม้บอกว่าไม่มีใครออกมายืนยันว่าเพาะได้นั้น ผมขอบอกว่าใครจะกล้าออกมาแสดงตัว ถ้าออกมาแสดงตัวว่าทำได้ก็จะถูกจับเพราะทำผิดกฎหมาย ผมไม่เข้าใจเลยว่าทางกรมป่าไม้จะอนุรักษ์หรือว่าทำลายกันแน่ สัตว์ป่าควรอยู่ในป่านั้นใช่แต่สัตว์สัตว์บางชนิดสามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ที่ไม่ใช่ป่าได้ ก็ควรจะปล่อยให้เขาได้อยู่ไป ท่านต้องดูด้วยว่าป่าที่ท่านจะให้สัตว์อยู่นั้นมันมีมากน้อยเพียงใด อนาคตผมคิดว่านกกรงก็จะเหมือนกับนกเขาชวาที่เมื่อก่อนก็เกือบสูญพันธ์ แต่พอเพาะเลี้ยงในกรงได้ผลก็คือตอนนี้มีนกเขาชวาเต้มไปหมดนกกรงก็เช่นกันถ้าทางกรมป่าไม้เปิดโอกาศให้ผู้เลี้ยงเพาะขยายพันธ์ได้อย่างเสรีอีกไม่นานลูกหลานนกกรงก็จะมีมากมายเหมือนนกเขาชวา เมื่อมีคนทำได้ก็จะขยายวงกว้างขึ้นต่อไปก็จะไม่มีใครไปจับนกป่ามาเลี้ยงอีกแถมยังปล่อยส่วนที่เพาะได้ส่วนที่ไม่ได้นำมาแข่งสู่ธรรมชาติอีกท่านลองนึกดูก็แล้วกัน ถ้าไม่ปล่อยให้สามารถเลี้ยงได้เสรีอีกไม่นานนกก็จะหมดป่าและสาบสูญไปแน่นอน ขอความกรุณาจากท่านอธิบดีกรมป่าไม้ช่วยพิจารณาด้วย จากคนรักนกคนหนึ่ง
thane pugplean <p_thane@hotmail.com>
- Wednesday, September 26, 2001 at 05:14:44 (EDT)

ทราบมาว่าเดี๋ยวนี้มีการเพาะพันธุ์นกปรอดหัวโขนได้แล้ว คงไม่ต้องห่วงแล้วมั้งครับว่านกชนิดนี้จะสูญพันธุ์
ปาน <newsexyman@chaiyo.com>
- Tuesday, August 14, 2001 at 13:44:20 (EDT)

ควรให้มีการเลี้ยงนกปรอดหัวโขนอย่างอิสระ ดีกว่าไปติดยาเสพติดหรือหากิจกรรมมั่วสุม นอกจากนี้ควรจัดการแข่งขันนกปรอดหัวดขนระดับเยาวชนเพื่อทำให้เยาวชนใกล้ชิดกับธรรมชาติ คลายความเครียดกับความสับสนวุุุ่่นวายในยุคนี้
คนบ้านก <Sky_Horizon@hotmail.com>
- Friday, May 11, 2001 at 00:15:07 (EDT)

การเลี้ยงนกปรอดหัวจุก เพื่อฟังเสียงร้องและประกวดแข่งขันกัน ทำให้เกิดความสุขความเพลิดเพลินของคนเราก็จริงอยู่ แต่ในทางกลับกัน ถ้านกปรดอหัวจุก เป็นฝ่ายจับคนมาขังเพื่อชื่นชมสรีระอันสวยสดงดงาม คุณจะมีความสุขไหม ผมไม่ทราบว่านกปรอดหัวจุกต้องการอะไร แต่คิดว่ามันคงชอบอิสระเสรี เหมือนกับคนเรานะครับ.
ขจรเกียรติ เครือประดับ <gipsy99@ji-net.com>
- Thursday, October 05, 2000 at 12:32:17 (EDT)

ดิฉันเป็นคนที่รักนกมากเท่าๆกับรักธรรมชาติ ดิฉันขอแสดงความคิดเห็นว่าอะไรที่ธรรมชาติสร้างาแล้วเราก็ควรปล่อยให้มันอยู่หรือเป็นไปตามธรรมชาติจะดีกว่าเพราะว่าธรรมชาติจะมีความสมบูรณ์อยู่ในตัวของมันเอง ถ้าคนเราเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธรรมชาติจะไม่เกิดผลดีมากกว่า การที่นกมากมายได้ใกล้สูญพันธุ์ก็เกิดจากมนุษย์ไปยุ่งกับธรรมชาติของมันนั่นเอง
ปวีณา วงค์มาก <toom28@hotmail.com>
- Tuesday, September 26, 2000 at 08:35:01 (EDT)

การปล่อยนกให้อยู่ในธรรมชาติเป็นสิ่งที่ดีที่สุดถึงแม้เอามาเลี้ยงดีอย่างไรถ้าขาดความอิสระก้อเหมือนคนคุกมากกว่าผู้ดี-----------จากนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร
วิรัตนื อุบลวรรรณ์ <aonoff2@hotmail.com>
- Friday, September 08, 2000 at 08:35:43 (EDT)

ธรรมชาติสร้างให้มาด้วยความเหมาะสมแล้วแต่ทุกวัน"คน" เราทำให้ธรรมชาติไม่เป็นธรรมชาติแล้วจะมาคาดหวังอะไรกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ทุกอย่าง "คน" ทำขึ้นมาสุดท้ายก็ต้องทำลายมันไป มันเป็นเรื่องของ "คน" ไม่ใช่มนุษย์ ขอบคุณครับ นายเด
นายเด <thanavit59@thaicentral>
- Friday, September 08, 2000 at 06:52:30 (EDT)

ผมขอคัดค้านการจับนกจากธรรมชาติมาเลี้ยงเพราะจะทำให้ระบบนิเวศขาดความสมดุล คุณลองคิดดูในธรรมชาตินกเป็นผู้ควบคุมปริมาณหนอนและแมลงไม่ให้มากเกินไป แล้วถ้าไม่มีนกละครับ?
Dunyarat suwannives <Dunyarat@thaimail.com>
- Thursday, August 24, 2000 at 22:18:32 (EDT)

ผมมีความคิดเห็นกลาง ๆ ครับ ส่วนตัวไม่ได้เลี้ยงนกครับ และไม่เคยเลี้ยง แต่ข้างบ้านผมเลี้ยงนกปรอทหัวจุกไว้ 3 ตัวครับ เช้า ๆ มันจะส่งเสียงคุญกัน ฟัง ๆ แล้วก็เพลินดีครับ ผมไม่เห็นด้วยที่จะมีการจับนกจากป่ามาเลี้ยงครับ เพราะจะทำให้มันตายระหว่างขนย้าย และทำให้ระบบนิเสศเสียสมดุล แต่ก็ไม่อยากให้มีกฎหมายที่ยุ่งยากในการเพาะพันธุ์ ผมคิดว่าควรให้อิสณะในการเพาะนกชนิดนี้ เพราะถ้าหากมันใกล้สูญพันธุ์ การที่เรายังมีนกชนิดนี้ไว้ไห่ลูกลานดู ถึงแม้ว่าจะอยู่ในกรง ก็ยังดีกว่าไม่มีเลยไม่ใช่หรือครับ ? การเลี้ยงนกก็เป็นการเลี้ยงสัตว์อย่างหนึ่ง ที่ ฝึกให้เจ้าของเกิดความรักและความเมตตาต่อสัตว์ได้วิธีหนึ่ง ถ้าคุณเอาใจใส่มันดีจริง ๆ ผมว่ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไรนะครับ แต่นกบางประเภทที่ควรจะอยู่ในที่ ๆ ควรอยู่ก็ไม่ควรจับมาเลี้ยงครับ / เล็ก
วริทธิ์ จูงเจริญวัฒนา <dragon2519@hotmail.com>
- Thursday, August 10, 2000 at 12:43:40 (EDT)

.ในฐานะที่ผมก็เป็นอีกคนที่เลี้ยงนกตัวนี้ ฝ่ายที่คัดค้านรู้สึกว่าจะใจแคบไปนิดนะ คุณว่าเราทรมานสัตว์ได้ไง เรารักมันเหมือนกับสมาชิกคน (ตัว) หนึ่งของครอบครัว ดูแลอย่างดี รักมัน เอาใจใส่มัน การทำอย่างนี้ เราทรมานมันหรือ เหมือนคุณเลี้ยงหมา คุณตีหมา ยังออกจะเป็นการทรมานมันเสียมากกว่า ใจกว้างหน่อยนะ นะจ๊ะ
เจษฎา ณ ระนอง <่jnaranong@yahoo.com>
- Sunday, August 06, 2000 at 09:55:00 (EDT)

การเลี้ยงนกชนิดใดก็ตามแต่ ก็ไม่ดีทั้งนั้น การเอานกมาจับไว้อยู่ในกรง ก็เหมือนเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีาภาพของนก มนุษย์ด้วยกันเองยังเรียกร้องสิ่งนี้แทบเป็นแทบตาย มนุษย์เองยังต้องการโอกาส ต้องการทางเลือก นกก็น่าจะเหมือนกัน ถ้าคุณเปิดกรงทิ้งไว้แล้วให้นกเลือกระหว่างบินออกไปหรืออยู่ในนั้น คุณน่าจะตอบได้ว่านกจะเลือกแบบใด
สุทัชชา สุขมั่น <oh_my_budha_@yahoo.com>
- Friday, July 28, 2000 at 03:41:54 (EDT)

การเลี้ยงนกปรอดหัวโขนในเชียงใหม่ เมื่อก่อนจะมาจับนกทางนี้ไปขายทางภาคใต้ แต่เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่จะเริ่มนิยมเลี้ยงตาม เพราะค่านิยมและการเก็งราคานกที่สูงมาก
ณัฏฐกร
- Wednesday, July 26, 2000 at 01:01:49 (EDT)

คัดค้าน การเลี้ยงนกทุกชนิดแบบหัวชนฝาเลยแหละ ยกเว้นที่เลี้ยงมาแล้วและปล่อยมันไปสู่ธรรมชาติไม่ได้แล้ว เพราะเท่ากับส่งมันไปตายเท่านั้น การเพาะพันธุ์ใหม่ที่ต้องเลี้ยงในกรงก็ไม่เห็นด้วย ลองนึกถึง คนในกรง กับ คนนอกกรง ดูบ้างซิ เราบอกว่า คนนี้อ่อนแอ ออกไปนอกกรงไม่ได้ แล้วเราก็เอาเขามาไว้ในกรง มันน่าชื่นชม หรือ ขื่นขม กันแน่ เราถามนกไม่ได้ว่า ชอบอยู่นอกกรงหรือในกรง เราก็เลยถือสิทธิเให้นกอยู่ในกรงเสียเลย ที่จริงแล้วมันคือการสนองตัณหาของคน ใช่หรือไม่?
กนกวรรณ กนกากร อุโฆษกิจ <kanokwan@skybiz.com>
- Tuesday, July 25, 2000 at 23:45:19 (EDT)

บ้านของนกไม่ใช่ 'กรง' ใช่ค่ะ เคยเดินทางไปจังหวัดทางใต้ พบนกสีสวยหลายชนิด ถูกนำมาเป็นของประดับหน้าบ้าน บ้างบ้านแขวนกรงไว้ริมกันสาด เห็นแล้วรู้สึก ห ง อ ด แทนนกจริงๆ
ทองริน <thongrin@hotmail.com>
- Tuesday, July 18, 2000 at 14:09:59 (EDT)

บ้านอยูเมืองทองหนึ่ง ต้นไม้แยะ เคยเห็นมันมาอยุ่กันมาก พาลูกๆ มาหัดบิน แล้ววันนึง มันก็หายไป....... มันเคยมีอยุ่แยะ และไม่กลัวคน เราเคยเอากระจกไปแขวนให้มันเล่นด้วยซ้ำ นกปรอดนี่เป็นนกที่อาศัยในเมืองได้ ถ้ามีต้นไม้ให้อยู่... เคยเห็นนกโดนตากแดดที่คิดว่าร้อนมากนะ สำหรับนก ทำไมคนชอบเอาความรุ้สึกส่วนตัวไป จำกัดเสรีภาพนก คิดว่ามันดีกว่า สำหรับนก.... ที่รั้วข้างบ้าน มีนกปรอดร้องเสียงดัง เราเดินเข้าไปดู...ปรากฏว่ากลายเป็นนกต่ออยู่ในกรง อยากจะช่วย แต่คนใจร้ายที่ซุ่มดูอยู่ รีบมายกกรงนกไป...เราโกรธ ที่เขามาทำแบบนี้ แต่เราทำอะไรไม่ได้....ค่านิยมบ้าๆ บอๆ ของมนุษย์แท้ๆ เลย ที่ทำให้มันหายไปจากละแวกบ้าน ของเรา.....เรารุ้สึกว่ามันเปํนนกที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมเมืองได้..... แต่มนุษย์ก็ยังไม่พอใจ... ยังหาประโยชน์จากมัน มากกว่าเสียงใสๆ และความร่าเริงตาม ธรรมชาติของมัน
พรีมา ศิริมุขย์ <prima@simtechbangkok.com>
- Thursday, July 13, 2000 at 15:49:26 (EDT)

ผมมีความเห็นว่าการนำนกมาเลี้ยงที่บ้าน ดูจะเป็นการดีสำหรับนกในปัจจุบันนี้เนื่องจากภาวะแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อกาารดำรงชีวิตด้วยตัวเองของนกเหมือนอย่างที่เคย แต่ว่าก็ต้องมีข้อแม้เหมือนกันว่าอย่าเลี้ยงเป็นแฟชั่น ขอให้เลี้ยงด้วยใจรักและกรุณาจริงๆจะเป็นผลดีที่สุด
ศักดา ศรีสุพัฒน์ <b40susp@pirun.ku.ac.th>
- Thursday, July 13, 2000 at 01:41:44 (EDT)

ทำไม?? ถ้าอยากฟังเสียงเพราะๆ ของมัน ต้องนำมันมาเลี้ยงด้วย เข้าไปดูในป่าไม่ได้เหรอ มันจะได้มีคุณค่ามากขึ้น รู้จักอนุรักษ์ทรัพยากร ให้ถูกต้องหน่อยนะคะ
ปวีณา วัฒนสุทธิพงศ์ <w_paweena@yahoo.com>
- Tuesday, July 11, 2000 at 04:28:22 (EDT)

ผมมีความคิดเห็นที่เป็นกลาง ในขณะที่เวลานี้ ผมเองก็มีนกกรงหัวจุกเลี้ยงเอาไว้1 ตัว มันเป็นนกที่ร้องเก่งมาก และผมก็รักมันมาก มันเชื่อง และดูไม่อึดอัดเลยกับกรง เพราะผมดูแลทำความสะอาดอยู่เสมอ และที่สำคัญ ผมก็ศึกษาพฤติกรรม และลักษณะนิสัยของนกชนิดนี้ ดีพอสมควรด้วย แต่ทั้งนี้ ผมก็มีความคิดเห็นที่เป็นกลาง คือ
1.หากคุณนำมันมาเลี้ยง แม้คุณจะดูแลมันได้ดีขนาดไหน แต่ถ้าดูกันเรื่อง สถานะที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ก็น่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย เพราะในปีหนึ่งๆ ที่ผ่านไป ในขณะที่นกที่คุณเลี้ยง มีความพร้อมทางด้านการสืบพันธุ์ มันก็เสียโอกาศ ที่จะขยายพันธ์ในปีนั้นๆ แล้วคุณเลี้ยงมันมากี่ปีนั้น ก็หมายความว่า คุณตัดโอกาศที่นก จะผลิตลูกนกออกมาไม่รู้กี่ตัว ที่จะควรมีในธรรมชาติ จึงทำให้ประชากรนกปรอทจุกในธรรมชาติ ลดลงเป็นอย่างมาก
2.มันเป็นการที่ดีสำหรับคนกรุง หรือคนที่รักในธรรมชาติคือเราๆ ก็รู้สภาพการในกรุงเทพมหานครของเรา ที่มีแต่ มลภาวะ ความเร่งรีบ ความเครียด การจราจรที่ติดขัด และอีกมากมาย เพราะฉะนั้นจึงทำให้คนในกรุงเทพ จำนวนไม่น้อย ที่รักในการ เลี้ยงนกที่สวยงาม และเสียงร้องที่ไพเราะน่าฟัง ที่พอจะทำให้ความเครียด จากที่ทำงาน หรือความน่าเบื่อหน่าย ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นี้ ถูกกรบเกลี่อนด้วย เสียงร้องนั้นเอง และเท่าที่สังเกตมานั้น หลักความจริงคือ คนที่เลี้ยงนกเป็นงานอดิเรก ยามเมื่อต้องการผ่อนคลา ยส่วนมากจะเป็นกลุ่มบุคคลที่ มีอันจะกิน ถึง พอมีกินพอมีใช้ เพราะ คนที่ต้องหาเช้ากินค่ำ หรือไม่มีเวลา เค้าจะมาเลี้ยงนกให้เป็นภาระทำไม เพราะฉะนั้น จึงสะท้อนถึงสิ่งที่ดี ความรักที่นกจะได้จากเจ้าของด้วย
3.ข้อนี้สำคัญมากๆ เพราะในการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกเพราะ ถ้าหากยังมีป่า มีบ้านให้พวกนกทั้งหลาย แม้ว่าคนจะดักจะล่าอย่างไร มันก็คงที่จะหลบหลีก เข้าป่าลึก หรือ มีสภาพแวดล้อม ในสถาณที่ ที่เป็นถิ่นที่อยู่ของมัน ให้มันได้สืบสายพันธ์ของมันต่อไป แต่นี้ทำไมเราไม่ตามล่า จับพวกที่มีอิทธิพลท่วม ฟ้า ตัดไม้ทำลายป่า โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านกฏหมายเมือง อยู่กันอย่างหน้าชื่นตาบานทุกวันนี้ และ พวก ชาวป่าชาวเขา ที่พาลแต่จะก่อปัญหา และ ตัวการที่น่าเบื่อ ที่ คอยหาของป่า ล่าสัตว์ที่หาได้ยากเต็มทีอยู่ทุกเมือเชื่อวันนี้ นี่สิคือปัญหาที่แท้จริง "แม้ในหนังสือ พืชและสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ ในประเทศไทย โดย สาขาวิจัยนิเวศวิทยา สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย และ มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่า และพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมนาชินูปถัมภ์ 2536 พิมน์ครั้งที่ 2 พ.ศ.2540 ฉบับปรับปรุง นั้น เกือบจะทุก ชนิดของทั้งสัตว์และพืช มักจะกล่าวสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ พืชหรืสัตว์ชนิดนั้นๆ ต้องสูญพันธุ์คือ การถูกทำลาย แหล่งที่อยู่อาศัย และทำไม เราไม่หันไปเอาจริงเอาจังกับจุดนั้น ให้หนักละครับ"

นาย ฉัตรพัฒน์ รักแผน <aury33@hotmail.com>
- Monday, July 03, 2000 at 12:58:11 (EDT)

ขอแสดงความคิดเห็นในด้านสนับสนุน เพราะว่าที่บ้านก็เห็นมีคนนำมาเลี้ยง ซึงมันก็ยังอยู่เป็นสุขดี แต่ถ้าจะให้ดีมากกว่านี้สำหรับคนที่คิดจะเลี้ยง ก็ควรจะดูแลเอาใจใส่ในเรื่องของธรรมชาติ ที่มันควรจะอยู่ดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรเลี้ยงไว้เป็นคู่
สีแพร <seeprae.s@chaiyo.com>
- Monday, July 03, 2000 at 07:09:10 (EDT)

ถึงแม้จะไม่ใช่นกปรอดหัวโขน ก็จะคัดค้านอยู่ดี เพราะยังไงก็ไม่เห็นด้วยกับ การเอานกมาเลี้ยงไว้ในกรง ธรรมชาติของนกมันต้องบิน ต้องการอิสระ แต่คนเราเห็นแก่ตัวจับมันมาขังไว้ในกรงเล็กๆ เพียงเพื่อสนองความพอใจของตัวเอง ไม่คิดบ้างว่าหากตัวเองถูกขังมันจะอึดอัดขนาดไหน เวรกรรมมันมีจริง ลองคิดดูซิทำไมถึงต้องมีคุก ทำไมเราอยู่บ้านจะต้องคอยปิดประตู ใส่กลอนให้แน่นหนา ทำไมต้องติดเหล็กดัดเหมือนขังตัวเอง ทุกอย่างมันสะท้อนให้อย่างอ้อมแล้ว แต่พวกที่ยังคิดไม่ได้ก็ยังมีอีกมาก สังคมมันจึงวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้
สุชาดา ไกรนิตย์ <mangabe@lemononline>
- Sunday, June 18, 2000 at 05:04:55 (EDT)

ถ้ามีการเพาะเลี้ยงได้จริงควรมีเอกสารเผยแพร่เหมือนกับม.รามคำแหงที่สามารถขยายพันธุ์นกขุนทองทำให้แน่ใจว่านกทั้งสองชนิดจะไม่สูญพันธุ์ไป
เสงี่ยม ไตรหัตถทรัพย์ <rasle@mahidol.ac.th>
- Tuesday, June 13, 2000 at 01:49:25 (EDT)

แม้ว่าจะสามารถเพาะพันธ์ นกในกรงได้มากเพียงใด ถ้านกในธรรมชาตฺสูญพันธุ์ มันก็สูญพันธ์แล้ว
อัศวิน ตั้งจรูญจิตต์ <p_hod@hotmail.com>
- Tuesday, May 30, 2000 at 14:30:22 (EDT)

ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบเลี้ยงนกผมจึงขอสนับสนุน เหตุผลก็คือ การเลี้ยงนกมิใช่เป็นการทำร้ายนกกักขังนก ถ้าจะดูให้ดีคนที่เลี้ยงนกจะเป็นคนที่มีจิตใจเมตตาและช่วยฝึกให้เป็นคนใจเย็น สังเกต คนจีนชอบเลี้ยงนก เพราะเขาถือว่าการเลี้ยงนกเป็น ศิลปะ อย่างหึ่ง ฝึกให้เชื่อง เหมือนกันกับการเลี้ยงสัตว์ทุกชนิดก็ผิด เพราะ เราไม่ปล่อยให้เขามีอิสระตามธรรมชาติของเขา
พจน์ <poter1@thaimail.net>
- Tuesday, May 23, 2000 at 04:03:46 (EDT)

ไม่ควรเก็บเอามาเลี้ยงที่ไว้ที่บ้าน ควรจะให้มันอยู่ตามธรรมชาติของมันเอง ถึงแม้ว่าคนเลี้ยงจะประคบประหงมเป็นอย่างดีก็ตาม ก็ไม่สามารถให้เกิดสมดุลย์ทางระบบนิเวศได้
คนรักสิ่งแวดล้อม <lamai@jungkonni>
- Wednesday, May 17, 2000 at 06:23:59 (EDT)

ไม่เห็นด้วยกับการแข่งขันนกกรงหัวจุก แม้จะเป็นประเพณีที่นิยมของทางภาคใต้ เพราะสิ่งนี้มีส่วนสำคัญมากที่ทำให้นกชนิดนี้อยู่ในภาวะใกล้สูญพันธ์ เมื่อตอนเด็ก (อยู่ทางภาคใต้) จำได้ว่านกชนิดนี้เป็นที่นิยมเลี้ยงกันมาก ไม่เห็นมีใตรเพราะพันธ์ขึ้นมาเองนอกจากจับจากธรรมชาติ ตอนนั้นคิดว่านกชนิดนี้มีเยอะ แต่ 20 ปี ผ่านไปจึงรู้ว่านกชนิดนี้ใกล้สูญพันธ์ แต่เสียดายเหลือเกินที่บ้านเรามีคนเห็นแก่ตัวเยอะมากว่าผลประโยชน์ของส่วนรวม แต่ขอติผู้เกี่ยวข้องนิด ที่ปล่อยให้ปัญหาเกิดเสียก่อนแล้วจึงค่อยแก้ เพราะว่ามองเห็นปัญหาเรื่องนี้เมื่อ 20 ปี ก่อน ทำการป้องกันเสียก่อนนกปรอดหัวโขนคงไม่ต้องอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธ์อย่างนี้
s.wankhrua <s_wankhrua.hotmail.com>
- Friday, May 12, 2000 at 01:01:58 (EDT)

ไม่น่าจับมาเลี้ยงนะ เพราะธรรมชาตฺสร้างนกมาให้อยู่กับธรรมชาติ
kanjanaphat rattanasoongnoen <deawgunney@hotmail.com>
- Tuesday, May 09, 2000 at 20:05:43 (EDT)

น่าจะเพิ่มกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองนกมากกว่านี้ เพราะนกเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญมาก
ชยภัทร รัชตวิภาสนันท์ <pop_biologist@hotmail.com>
- Tuesday, May 09, 2000 at 02:34:58 (EDT)

เมื่อวานนี้ นักดูนกหัดใหม่อย่างผม มีโอกาสโชคดีส่องกล้อง Binox ไปเจอเจ้าปรอดหัวโขนเกาะอยู่ยอดไม้ แต่ยักไม่เห็นเพื่อนๆ ของมัน นอกจากสองวันก่อนที่เจอปรอดหัวสีเขม่าอยู่กันเป็นฝูง ทั้งก้นเหลืองและก้นแดง เจอที่ ม.มหิดล ศาลายา นี่เอง นกมากเลยครับ 2 วันมานี้ ดูได้ประมาณ 20 สปีชี่ส์แล้วครับ ปรอดหัวโขนนี่เคยเห็นเขาเลี้ยงอยู่แต่ในกรง รู้สึกสงสารมาก ที่ศาลายานี่ก็มี เขาเลี้ยงไว้หน้าร้าน(เชื่อม อ๊อกเหล็ก) น่าสงสารมาก ดีใจจังที่ยังเห็นเขาอยู่ในธรรมชาติ ตอนนี้มีเวลาผมกับเพื่อนคนสวยก็จะออกไปดูนกนักเป็นประจำเลยครับ
วิษณุ ศรีทะวงศ์ <Naitui@chaiyo.com>
- Tuesday, May 09, 2000 at 01:16:57 (EDT)

ปล่อยให้มันตามธรรมชาติดีที่สุด แม้ว่าเราจะอยากได้มันมาครอบครองก็ตามจงระงับความอยากนั้นเสียเถอะ ผองเพื่อน
โค่ <co.w@chaiyo.com>
- Wednesday, May 03, 2000 at 14:02:45 (EDT)

The only condition to support is that you must proof that breeders can breed "Red-whiskered Bulbuls", and wild Red-whiskered Bulbul must not be captured. By doing this, it may cease the depleation of wild Red-whiskered Bulbul. Some good example are ostriches, bulls, horses, indian-peacock, bengal-tiger. These animal can be bread by farmer, hence the number of these animal being captive form wild is reduced.
P.C.
- Wednesday, May 03, 2000 at 03:32:35 (EDT)

อยากให้ผู้ต้องการเลี้ยงนก ไว้ในกรงเล็กๆ ทดลองเข้าไปอยู่ในห้องเล็ก ที่มีลูกกรงอยู่รอบด้านสัก 7 วัน นะคะ ลองสมมุติตนเองว่า เป็นนก ที่คุณคิดว่า คุณรักเขา อยากเลี้ยงเขาไว้ในกรง ตลอดชีวิต ถามความรู้สึกของตนเอง ว่าเป็นอย่างไร ได้คำตอบแล้ว ค่อยตัดสินใจนะคะ ว่าคุณยังอยากเก็บเขาไว้ในกรง เพื่อสนองความสุขส่วนตัวของคุณ อีกหรือไม่
เพื่อนร่วมโลกคนหนึ่ง
- Tuesday, May 02, 2000 at 05:14:56 (EDT)

สำหรับผมแล้วคิดว่า นกที่อยู่ในป่าตามปกติ ถึงแม้มันจะกินไม่อิ่ม สำหรับบางมื้อแล้ว แต่มันคงจะมีความสุข มากกว่าที่จะมากินอิ่ม แต่อยู่ในกรงเลี้ยง ซึ่งขาดอิสระภาพ บางคนเห็นว่า นกปรอดร้องได้ไพเราะ จะไพเราะได้ก็ต่อเมื่อ มันอยู่เองตามธรรมชาติเท่านั้น แต่ในกรงขัง ความไพเราะของมัน กลับเป็นการร้องเพื่อ ขอความช่วยเหลือ เพื่อจะได้ออกจากกรงเลี้ยง ไปสู่ธรรมชาติซะมากกว่า เลิกซะเถิดครับ ที่จะเอานกเข้ามากักขัง เพราะตัวคุณเอง ก็ต้องการอิสระภาพ เหมือนกับสัตว์โลกโดยทั่วไป ขอบคุณครับ กระต่าย
Kratay Rangsoi <thunyarat@redundance.com>
- Monday, April 24, 2000 at 06:13:36 (EDT)

ไม่เห็นด้วยกับ การนำนกมาเลี้ยงในกรง
ไม่ประสงค์ออกนาม <enermy_ch@keromail.com>
- Thursday, April 20, 2000 at 09:24:26 (EDT)

สัตว์ทุกชนิด เป็นของธรรมชาติ พวกเรา ซึ่งเป็นมนุษย์ ไม่ควรจะทำลายธรรมชาติ เพราะธรรมชาติ ให้ประโยชน์แก่เรา ดังนั้นเราควรจะให้ธรรมชาติบ้าง
สุกัลยา แก้วขาว
- Wednesday, April 12, 2000 at 03:37:48 (EDT)

รอไว้ให้นกปรอดหัวโขน ครองโลกก่อนเถอะ จะจับนักร้องเสียงดีทั้งหลาย ทั้งพี่เบิร์ด น้องนิโคล ไปจับขังกรงเสียให้เข็ด
นกปรอดหัวโขน <suruwa_99@yahoo.com>
- Thursday, April 06, 2000 at 08:53:05 (EDT)

สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องการอิสรภาพ คุณจะรู้สึกอย่างไร ถ้าถูกขังไว้ในกรงแคบๆ ถึงแม้มันจะทองก็ตาม นกมันควรจะบินไปในโลกกว้าง มันถึงจะเรียกว่า "นก"
NOPPADON <KNOPPADON@HOTMAIL.COM>
- Thursday, March 30, 2000 at 01:33:23 (EST)

ไม่ควรจับสัตว์ป่าทุกชนิดมาเลี้ยง เพื่อสนองตัณหา
warun
- Tuesday, March 28, 2000 at 12:31:41 (EST)

ต้องจับพวกเลี้ยงสัตว์ป่า ขังกรงบ้าง จะได้สำนึก
ศุภชัย พงษ์สำราญกุล
- Saturday, March 25, 2000 at 11:00:08 (EST)

ผมคิดว่า น่าจะมีกฎหมายรองรับ ว่าแต่ละคน ควรถือครองนก ได้คนละกี่ตัว หรือมีการเก็บภาษีรายปีต่อนก 1 ตัว เป็นเงินเท่าไหร่ ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ควรสนับสนุน เพราะจะได้คลายเครียด และป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่ง อีกทั้งเป็นการ สนับสนุนให้ผู้ทำกรงนก มีอาชีพเสริม เพื่อเป็นรายได้ เพราะว่า ราคาของกรง ซึ่งมีลวดลายที่สวยงาม ย่อมมีราคาแพง เป็นการสนีบสนุน การสร้างอาชีพอย่างหนึ่ง
อนุสรณ์ แซ่หลี <mom23135@thai2k.com>
- Wednesday, March 22, 2000 at 23:32:15 (EST)

หากจะเรียกว่า เป็นเสียงขับขานแล้ว มันเป็นเสียงเพลง แห่งความรันทด ที่ขับขานออกมาให้รู้ถึง ความคับแค้น ที่ถูกกัก ถูกขัง โดยไม่ความผิด มันเป็นเสียงแห่งความความห่วง และเสียงแห่งความอาลัย ถึง อิสรภาพที่เคยมี และอาลัยหาลูกน้อย และฝูงญาติ ที่....มันถูกพรากมา มันเป็นเสียงเพลงสาป เพลงแช่ง....... ให้เวรกรรม ตามให้ทัน ผู้ที่จับพวกมันมา หากว่า เรียกรูปร่างของมันว่า งามแล้ว........... ดูแล้วจะรู้สึกถึงความหมอง.... ความเศร้า ของพวกมัน เพราะความงามแท้...ของมัน มีอยู่เมื่อ มันได้โผบิน อยู่กับลูกน้อย และฝูงญาติ ในธรรมชาติ เท่านั้น
จำปา <enviresys@yahoo.com>
- Wednesday, March 22, 2000 at 10:08:29 (EST)

ขอสนับสนุน ให้มีการเลี้ยงกันต่อไป เพื่อให้มีการพัฒนาให้ดีขึ้น
มนตรี สิงสุข <bluemol@hotmail.com>
- Wednesday, March 22, 2000 at 01:53:46 (EST)

Life's find a way ชีวิตแต่ละชีวิต ย่อมมีหนทางของตัวมันเอง.. หยุดเถิดครับ ความพยายามในการ กักขังชีวิตผู้อื่น ปล่อยให้เขา กระทำหน้าที่ ที่ธรรมชาติได้มอบหมายมา ให้สมบูรณ์ การผสมพันธุ์ ถ่ายเทสายใยแห่งชีวิต เติมเต็มเมล็ดพันธุ์ สู่ผืนดินธรรมชาติ ผสมเกษรละอองชีวี ควบคุมประชากรแมลง พร้อมสร้างสรร บรรยายเสียง แห่งธรรมชาติ อันไพเราะเสนาะหู ไม่จำกัดกาลเวลา และผู้รับฟัง นกมิได้ร่ำร้อง คร่ำครวญเพลง ให้เพียงมนุษย์ฟังเท่านั้น แม้แต่จิ้งหรีด จักจั่นเรไร ก็เป็นเพื่อนร่วมวงดนตรีต่อกัน หากต่างเวลา และสถานที่กันเท่านั้น ปล่อยชีวิตทุกสรรพสัตว์ คืนสู่ธรรมชาติเถิดครับ ชีวิตของใคร ใครคนนั้น ก็ปรารถนาที่จะเลือกทางเดิน ทางโบยบินของเขาเอง ด้วยรัก..
วิษณุ ศรีทะวงศ์ <naitui@hotmail.com>
- Monday, March 20, 2000 at 22:35:08 (EST)

นกอยู่ในป่ามีความสุขดีอยู่แล้ว อย่าทำความลำบากอีก
ธรรมชัย ชัยธรรม <tongmoo@hotmail.com>
- Wednesday, March 15, 2000 at 14:31:42 (EST)

ไม่ว่าจะคัดค้านหรือไม่ประการใด......... ในวินาทีนี้ ก็ยังคงมีการพรากนกชนิดนี้ จากป่า และยังคงมีการซื้อขายกัน..... ราวกับเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
พงษ์ <rockshiver@usa.net>
- Wednesday, March 15, 2000 at 12:26:01 (EST)

สนับสนุน เพราะต้องการเหมือน รมต.บางคน
bang
- Friday, March 10, 2000 at 10:58:46 (EST)

ขอคัดค้าน ตามเหตุผล เหมือนกับคน อื่นๆ ซึ่งด่ามามากแล้ว
สิริยากร ศรีเพียรวิชานนท์ <a4028@thaimail.com>
- Friday, March 10, 2000 at 04:32:27 (EST)

คัอค้านโดยสิ้นเชิง
กร เชียงใหม่
- Thursday, March 09, 2000 at 21:12:33 (EST)

.....อดีตนกพิราบเป็นนกป่า ปัจจุบันกลายเป็นนกบ้าน ก่อความรำคาญ ต่อมนุษย์ สาเหตุเพราะมนุษย์จับเขามาเลี้ยงอย่างดี แล้วก็ปล่อยเมื่อเบื่อ นกเสียสัญชาติญาณสัตว์ป่าอย่างสิ้นเชิง นกเขาที่ข้างบ้านก็เห็นเขา ปล่อยแต่ก็ไม่เห็นบินไปไหน คงวนเวียนอยู่ข้างบ้าน..นกปรอดหัวโขน จะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ในอนาคต ?? หรืออาจจะต้องประกาศเป็นสัตว์ สงวนอีกชนิดหนึ่งเมื่อมันหมดไปจากโลก..... นั้นหรือเปล่า..
Suriya nonsiri <nonsiri@chaiyomail.com >
- Thursday, March 09, 2000 at 12:56:32 (EST)

ชอบฟังเสียนก ที่อยู่ตามธรรมชาติมากกว่า นกที่ถูกขังค้านเพราะว่านกที่อยู่
No name.
- Thursday, March 09, 2000 at 10:38:34 (EST)

คัดค้านการเลี้ยงนกชนิดนี้ มันบาป
้ืืืหนูนา
- Thursday, March 09, 2000 at 05:36:16 (EST)

ข้างบ้านผมมีอยู่ 3-4 ตัวได้ยินเสียงร้องบ่อยๆและเห็นตัวด้วยบางครั้งดูน่ารักดี แต่ตอนนี้ถูกคนเอากรงมาดักไปแล้วเหลืออยู่แค่ 2 ตัว นานๆจะมาให้เห็นที เหงาจัง ปล.คนที่ดักไปเป็นคนข้างๆบ้านเขาเอาไปเลี้ยงในกรงได้ยินเสียงร้องแล้วน่าสงสารแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
หนุ่ม <perayu@yahoo.com>
- Thursday, March 09, 2000 at 04:43:26 (EST)

คัดค้านเนื่องตามเหตุผลหลายประการ เช่น 1 เกี่ยวกับการเพาะพันธ์ - ไม่ปรากฎหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่า ว่าสามารถเพาะพันธ์ได้จริง - ที่ว่าเพาะพันธ์ได้ มีอัตราการรอดเท่าไหร่ และมีวิธีอนุบาลอย่างไร (สงสัยอย่างยิ่งว่าสามารถเพาะพันธ์ได้เหมือนกับไก่ ของCP หรือไม่) - เลี้ยงและเพาะพันธ์ได้ตั้งนานมาแล้ว ทำไมจำนวนตามธรรมชาติจึงลดน้อยลงอย่างมาก และยังมีการจับนกป่าไปขายอีก - ที่บ้านดิฉัน(เชียงใหม่) นกนี้ถูกจับไปขายจนแทบจะหมดอยู่แล้ว 2 คนที่เลี้ยง อาจไม่มีความรู้เพียงพอที่จะดูแลนกชนิดนี้ได้ เช่น ทั้งชาติให้นกกินแต่กล้วยสุกกับน้ำ ไม่ให้กินอย่างอื่นเลย ซึ่งจะเป็นการทรมานสัตว์ 3.ผู้ที่จับนกนี้ไปขาย จับนกโดยไม่เลือกฤดู เช่นช่วงเวลานี้เป็นฤดูผสมพันธ์นก ถ้าจับพอแม่นกไป ลูกก็ต้องตาย อย่างน่าสงสาร อีกทั้งสาเหตุที่ศตรูตามธรรมชาติก็มีมากขึ้น ต้นไม้ที่เป็นแหล่งอาหารและแหล่งที่อยู่อาศัยลดน้อยลง 4. ผู้ที่จับนกป่าไปขาย ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์เพียงพอ เช่นจับนกในฤดูผสมพันธ์ (ช่วงนี้ของทุกปี) ทำให้ไข่นกที่พ่อ,แม่ นกถูกจับไม่สามารถฟักได้ หรือถ้าฟักเป็นตัวแล้วไม่มีใครเลี้ยงลูกนก 5.นกนี้มีจำนวนตามธรรมชาติลดน้อยลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากสิ่งแวดล้อมที่เหมาะกับการดำรงชีพและขยายพันธ์ลดลงและ ศตรูมากขึ้น และยิ่งมีการจับไปจากป่ามากขึ้นก็เป็นการเร่งให้สูญพันธ์ เร็วขึ้น 6. เป็นการส่งเสริมให้คนทำผิดกฎหมาย และทำบาป
มารี <bearhugs@chmai.loxinfo.co.th>
- Tuesday, March 07, 2000 at 10:50:38 (EST)

...ถ้าการเลี้ยงนกมีผลดี..ทำไมนกชนิดนี้จึงหมดไปจากภาคใต้ ทำไมไม่เพิ่มปริมาณ.??..ทำไมภาคเหนือจึงพบว่านกป่าถูกจับมา ทีละมากๆ???..เมื่อนิยมเลี้ยงก็ถูกจับมาก อีกหน่อยถ้าหมดไปจาก ภาคเหนือแล้ว..อยากทราบว่าลูกหลานของท่านจะเอานกปรอด หัวโขนที่ไหนมาเลี้ยงอีกต่อไป...เราช่วยกันเลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่กัน ดีกว่า ได้กินไข่ กินเนื้อ....
นายชาญยุทธ แสงอบ <chanyut@chaiyomail.com>
- Monday, March 06, 2000 at 21:50:48 (EST)

...การรณรงค์ได้ผลส่วนหนึ่งเท่านั้น โดยเฉพาะเยาวชน ได้ผลมาก แต่กับผู้ใหญ่แล้วได้ผลบางส่วน แต่ละคนยังอ้าง ว่าเจ้าหน้าที่ ผ่อนผันให้เลี้ยงได้ ทั้งๆ ที่กฎหมายระบุชัดว่า ผิด...องค์กรเอกชนหลายๆองค์กรควรเคลื่อนไหวให้มากๆ ในข่ายต่างประเทศด้วย..เพราะเท่าที่ดูผู้ใหญ่ในบ้านเมือง โดยเฉพะรัฐมนตรีบางท่านทำตัวอย่างที่ไม่ดีเสียเอง....
นายชูชาติ แสงอบ <chuchas@egat.or.th>
- Monday, March 06, 2000 at 21:36:59 (EST)

ขอค้านเนื่องจากว่าไม่เชื่อว่าสามารถเพาะพันธ์ นกชนิดนี้ได้เพราะ ถ้ามีคนที่สามารถเพาะพันธ์นกนี้ได้จิรงก็คงจะไปจดทะเบียนกับกรมป่าไม้แล้วละครับ และในภาคใต้นกชนิดนี้ก็คงจะไม่สูญพันธ์ไปจาก รรมชาติ ในฐานะที่เป็นนักกฎหมาย คนหนึ่ง ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมภาคกรมป่าไม้และตำรวยจึงไม่จับกุม กวดขันกับผู้ที่ทำผิดกฎหมายบ้าง หรือกรมป่าไม้สบับสนุนให้เลี้ยงนกนี้ ก็ควรแก้ไขกฎหมายเสียก่อน เพราะบุคคลย่อมเท่าเทียมกันทางด้านกฎหมาย (ท่านนายยกชวนบอก ไว้) รักนกเสมอ ตุ้ง
ตุ้ง <k rattanan@hotmail.com>
- Monday, March 06, 2000 at 05:58:00 (EST)

ที่บอกว่าถ้านกเครียดจะไม่ร้อง ถ้านกนั้นร้องแปลว่านกอารมณดีนี่คงไมค่อยตรงนัก นกที่เอามาใส่กรงใกล้ๆกันจะร้องเพื่อขับไล่อีกตัวให้ออกจากอาณาเขตของมัน แต่ต่างตัวกํต่างอยู่ในกรง ร้องให้คอแตกก็ไม่มีตัวไหนไป
อะแฮ่ม
- Monday, March 06, 2000 at 02:22:19 (EST)

สนับสนุนเพราะว่านกที่เลี้ยงแล้วไม่สามารถหากินเองได้เพราะว่าตอนนี้ทางใต้สามารถเพาะพัน ธืืืืืืืุได้แล้วคนที่่คิดจะเลี้ยงควรจะหานกที่เพาะพันธุ์จากกรงเลี้ยงไม่ควรจับนกป่ามาเลี้ยง
nirun chaiyavanuruk <pom123>
- Saturday, March 04, 2000 at 11:24:34 (EST)

ในเมื่อเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองอยู่แล้วก็ไม่ควรเลี้ยง ไม่เข้าใจว่าทำไมภาครัฐจึงไม่เด็ดขาด ยังปล่อยให้มีการจัดประกวดแข่งขันกันอย่างเสรี
ศักรินทร์ นิรัติกุลชัย <skrnirat@thaimail.com>
- Thursday, March 02, 2000 at 22:44:01 (EST)

ไม่เห็นด้วยกับการนำนกปรอดมาขังกรงเลี้ยง เพราะเป็นการกำจัดอิสระภาพของสัตว์ ซึ่งมนุษย์เองก็ไม่มีใครปรารถนาจะถูกจำขัง ขอคัดค้าน
สว่าง แก้วกันทา <sawang99@chmai.loxinfo.co.th>
- Tuesday, February 29, 2000 at 11:16:21 (EST)

การนำสัตว์มาเลี้ยงในกรง เป็นการเห็นแก่ตัวอย่างยิ่งยวด กล่าวคือ เมื่อมนุษย์ทราบซึ้งในเสียงไพเราะ ของส่ำสัตว์ ก็อยากได้มาไว้ฟังเสียงเสียเองที่บ้าน นิสัยแบบนี้ มีนานนมแล้ว ตั้งแต่สมัยสมบูรณาญาสิทธิราช ผู้มีอำนาจวาสนา เมื่อเห็นอะไร หรืออยากได้อะไร ก็เอ่ยปากบอกอยากได้ ผู้ประจบสอพลอ ก็จะสรรหามามอบให้ โดยหวังผลทางความดีควาามชอบในหน้าที่การงาน โดยเฉพาะคนที่อยู่ในวงราชการ ดังนั้นเมื่อมีคนต้องการเลี้ยงสัตว์ในกรงมากขึ้น ก็นำมาซึ่ง ธุรกิจการขายสัตว์ ที่บ้านผู้เขียน เคยมีนกปรอดลงมาหากินผลไม้ที่จัดหาให้ หลังจากที่ได้ข่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด ไปเป็นประธานในงานพิธี เปิดงานเลี้ยงนกกรงหัวจุก ปรากฏเห็นได้ชัดว่า จำนวนนกปรอด เหลือน้อยลง ผู้เขียนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับ การนำสัตว์ โดยเฉพาะนกปรอด หรือนกอะไรก็ตาม มากักขังไว้ในกรง โดยอ้างว่า "เลี้ยง" ดูอย่างดี การกระทำที่ไม่ชอบมาพากล ไม่ชอบด้วยหลักการ และเหตุผล หากไม่มีการทักท้วง ปล่อยให้เลยตามเลยเป็นเวลานาน ผู้ประกอบการดังกล่าว ก็จะสมอ้างเอาว่า เป็นวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น เผลอๆ อาจมีการส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวเกิดขึ้น จึงขอสนับสนุนให้มีการคัดค้าน อย่างเป็นรูปธรรม ต่อการนำนกปรอดมาเลี้ยงในกรง
สว่าง แก้วกันทา <sawang99@chmai.loxinfo.co.th>
- Tuesday, February 29, 2000 at 11:10:34 (EST)

เจ้านกปลอดหัวโขนหน้าสงสาร โดนทรมานจับใส่กรงส่งประกวด มาวันนี้เจ้านกน้อยนั้นเริ่มงวด ต้องเริ่มกวดขันเอาจริงก่อนสูญพันธ์
ลลิตา รงค์สวัสดิ์ <Ice48 hotmail.com>
- Tuesday, February 29, 2000 at 02:07:36 (EST)

ทำไมทางภาครัฐ ไม่ทดลองเลี้ยง และเพาะพันธ์เองก่อนล่ะคะ เพื่อที่จะได้รู้ว่า มันเพาะได้ไม่ได้อย่างไร แล้วค่อยมาตกลงกันใหม่
คนกลาง
- Tuesday, February 29, 2000 at 00:36:47 (EST)

ขอคัดค้านในความเห็นแก่ตัว ของผู้กักขังนกนี้ เพียงเพื่อบำเรอหู ของตัวเอง เห็นแก่ได้ ไม่ยอมเข้าใจสิทธิของสัตว์ ที่จะอยู่ตามธรรมชาติ
- มนุษย์ไม่ใช่นกปรอด จึงไม่สามารถพูดได้ว่า ถูกเลี้ยงมาอย่างดี และมีความสุขที่ได้อยู่ในกรง
- ผู้ที่กำลังกักขังนกนี้อยู่ โปรดเปลี่ยนความคิดทีเถิด ชีวิตของใคร ใครก็รัก และหวงแหนอิสร หวังว่าท่านคงจะเข้าใจ ขอบคุณทุกท่านที่อ่าน สำหรับวันนี้ขอ ลาก่อนหวังว่าคงจะได้พบกันใหม่ สวัสดี

สุรสิทธิ์ ดลใจไพรวัลย์ <suraitd@hotmail.com>
- Monday, February 28, 2000 at 08:45:45 (EST)

การนำนกมาขังในกรง ผมว่าเหมือนการ กักกันอิสรภาพ ที่ควรจะมีของนก ผมว่าไม่เฉพะนกปรอดหัวโขนเท่านั้น นกทุกชนิดก็เหมือนกัน ก็รักอิสระภาพของตัวเอง ถ้าคนเลี้ยงถูกขังในกรงเหมือนนกบ้าง จะรู้สึกอย่างไร
เจษฎา เชียงใหม่
- Monday, February 28, 2000 at 04:40:08 (EST)

เท่าที่สังเกต ผู้ที่แสดงความคิดเห็นมา จะมีแต่ผู้คัดค้านเป็นส่วนใหญ่ ทำไมไม่เห็นมี ผู้สนับสนุน แสดงความคิดเห็นออกมาบ้างเลย อาจเป็นเพราะ มัวแต่เลี้ยงนก เลยไม่มีเวลาอ่านสารคดี หรืออาจไม่รู้จักสารคดีเลยก็ได้
จินตนา สุวาวัลย์ <chintana37@hotmail.com>
- Sunday, February 27, 2000 at 02:40:31 (EST)

-เห็นด้วยกับคุณอุทัยทุกประการ
-คุณไพบูลย์กับพวก ก็ทราบดีแล้วว่า ขณะการเลี้ยงนกนี้ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผมเห็นว่า คุณไพบูลย์กับพวก หยุดเลี้ยงก่อนดีไหม ตามวิสัยของพลเมืองดี
-นกชนิดนี้ออกไข่ปีละครั้ง ราวๆ เดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน ของทุกปี จะออกไข่ครั้งละ ไม่เกินสองฟอง ดังนั้นการที่คุณไพบูลย์บอกว่า นกที่คุณไพบูลย์เลี้ยงไว้ ออกไข่เมื่อปีแล้ว 4-5 ฟอง นั้น จึงไม่ตรงกับความจริง

บุญส่ง 053 272313 <siamter@loxinfo.co.th>
- Friday, February 25, 2000 at 12:59:18 (EST)

ไม่เห็นด้วย การที่เอานกที่ไกล้จะสูญพันธ์ ถ้าเป็นนกเลี้ยง มีการเพาะพันธ์ขึ้นมา แล้วนำมาแข่งกัน ก็จะมีประโยชน์มาก เช่นนกเขา นกพริราบ แล้วต้องให้ความรู้ด้วย ถ้ายังไม่มีการรักษา หรือป้องกัน จะทำให้มีการทำลายผิดพลาดได้ ไม่มีใครรับผิด รัฐบาล หรือคนมีอำนาจ หรือคนท้องถิ่น ก็ไม่ควรกระทำเพื่อผลประโยชน์ เพื่อความสนุก ต้องมีการเข้าไปในป่า ไปจับมาขังกรง ทำให้นกได้รับอันตราย แล้วตายลง กว่าจะได้นกมา มันเป็นการทำลาย
วุฒืชัย สุรศักดิ์ศิลป <่่่่่่่่่่่Jiupaetong@notmail>
- Thursday, February 24, 2000 at 01:57:54 (EST)

คัดค้านการที่จะจับนกจากป่ามาเลี้ยง เพราะนกมีสิทธิทางธรรมชาติที่ จะอยู่ในป่า มากกว่าจะให้คนจับมาเลี้ยง
นายศรัณย์ เกียรติมาลีสถิตย์ <Sarun.K@chaiyo.com>
- Monday, February 21, 2000 at 11:15:48 (EST)

ขอต่อต้าน และขอร่วมกิจกรรมทุกอย่าง ที่มีเพื่อการต่อต้านนี้ โดยเฉพาะ ส่งขายตลาดต่างประเทศ เนื่องจากผิดกฎหมาย
- ใครสามารถเพาะเลี้ยงได้ ช่วงแจ้งเบาะแสด้วย เพราะต้องการไปศึกษา (จริงๆ ไม่ไปแจ้งความหรอก)

วิชญ เชยะกุล <siamter@loxinfo.co.th>
- Monday, February 21, 2000 at 10:48:59 (EST)

ไม่ควรเลี้ยงเพราะเหตุว่า
- ไม่ปรากฎว่าสามารถเพาะเลี้ยงได้
- เป็นการทารุณสัตว์,เป็นปาป
- จำนวนที่มีตามธรรมชาติ ลดน้อยลงมาก เสี่ยงต่อการสูญพันธ์

วิชญ เชยะกุล <siamter@loxinfo.co.th>
- Monday, February 21, 2000 at 10:33:23 (EST)

นกมีปีกแต่บินไม่ได้ เหมือนคนมีตาที่มองไม่เห็น
ชัยวุฒิ กลิ่นเพชร
- Monday, February 14, 2000 at 08:02:33 (EST)

หายนะแห่งการอนุรักษ์ เขามีสิทธิที่จะใช้ชีวิตอยู่บนผืนโลก เท่าเทียมกับเรา นกมีปีก ดังนั้นเขาควรจะได้บินไปตามใจที่เขาต้องการ
ประดิษฐ์ ทองคำ <iora23@chaiyomail.com>
- Monday, February 14, 2000 at 00:33:08 (EST)

ถ้าคนถูกจับขังกรงบ้าง แล้วคนๆ นั้นจะรู้สึกยังไง
ปลาบู่ <supatcha_k@hotmail.com>
- Tuesday, February 08, 2000 at 04:48:32 (EST)

การนำนกจากธรรมชาติมาเลี้ยง จนใกล้หมดไปจากธรรมชาติ เป็นอัoตรายต่อการพัฒนาพันธุ์ และการขยายพันธุ์ตามธรรมชาติของนก และยังทำลายระบบนิเวศด้วย ทำให้ความหลายหลายทางธรรมชาติเสียดุลย์ไป
freshsky <freshsky_dee@hotmail.com>
- Monday, February 07, 2000 at 12:30:32 (EST)

เพราะนกที่เลี้ยง ถูกเลี้ยงอย่างดี ให้ความเพลิดเพลินกับผู้เลี้ยง
จิรวุฒิ อุ่นชู
- Thursday, February 03, 2000 at 03:23:16 (EST)

ไม่เห็นด้วยเพราะ จะทำให้นกในธรรมชาติ มีน้อย ไม่สามารถพัฒนาสายพันธ์ุที่แข็งแรงในธรรมชาติได้
ขจรศักดิ์ นกร่อน <kajhonsa@yahoo.com>
- Thursday, February 03, 2000 at 03:19:16 (EST)

ไม่ใช่ค้านแบบหัวชนฝานะ แต่อยากให้ทั้งสองฝ่ายคุยกันด้วยเหตุผลมากกว่า ทุกอย่างมันมีทั้งข้อดี และข้อเสียอยู่ในตัวของมัน อยากให้เปิดรับความคิดของหลายๆ ฝ่ายด้วย ความจริงแล้ว เราซึ่งเป็น "คน" ไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสินในเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป เพราะผู้ที่ตัดสินจริงๆ ควรจะเป็น "นกปรอดหัวโขน" ซะมากกว่า ว่าพวกเขามีความคิดเห็นอย่างไร ที่ถูก "คน" กระทำกับพวกเขาแบบนี้ สำหรับผู้ที่นิยมเลี้ยงนก และบอกว่ารัก -เลี้ยงดูมันอย่างดี- ดียิ่งกว่าลูกตัวเองซะอีก ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เจ้าตัวเล็กว่า เอาเวลาที่เลี้ยงนก ไปเลี้ยงลูกของตัวเองให้เติบโตขึ้น เป็นคนดี มีจิตสำนึก และการกระทำที่ดี จะดีกว่านะ ส่วนค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงนก ก็เอามาใช้เป็นค่าอาหาร และค่าเทอมให้ลูก จะดีกว่าไหม? ไม่ใช่ประชดประชัน หรือสั่งสอนใครนะ เป็นเพียงข้อเสนอแนะ คนเลี้ยงนกเอง ก็คงจะรักนก และคิดในแบบคนเลี้ยงนก เพียงแค่อยากจะให้คนเลี้ยงนก ลองหันมาฟังและยอมรับความคิดเห็นเล็กๆ น้อยๆ แต่จริงใจของคนรักนกบ้าง อย่างน้อยเราก็มีความรู้สึกดี-ดี และรักนกเหมือนกัน
เจ้าตัวเล็ก
- Tuesday, February 01, 2000 at 02:39:58 (EST)

การเอานกมาแข่งขันกันในการประกวดเสียงร้อง ดูแล้วเหมือนกับว่า ต้องการแสวงหาผลประโยชน์เข้าตัวเอง แต่ใช้นกเป็นเครื่องมือ แย่มาก
ใบเตย
- Monday, January 31, 2000 at 19:53:04 (EST)

นกคือสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมาคู่กับป่า, เป็นเครื่องประดับของป่า มิได้สร้างมาคู่กับกรงเล็กๆ ลองหันมามองตัวเองบ้างซิครับว่า ถ้าต้องถูกจับอยู่ในห้องเล็กๆสักเดือนเดียวก็พอแล้วจะรู้สึกอย่างไรบ้าง...ปีกแห่งเสรีภาพ.....
Mr AJ
- Monday, January 31, 2000 at 12:00:19 (EST)

สิ่งมีชีวิตทุกชีวิต ชอบอยู่ในที่เขาชอบ และควรอยู่ หยุดเถอะครับกับการเอา ชีวิต... อิสระเสรีของผู้อื่นมาปรนเปรอความอยาก... แลกิเลส... ตัณหาของตัวเอง
ทรัพย์ ฉิมพาลี <drongoboy@yahoo.com>
- Sunday, January 30, 2000 at 10:23:39 (EST)

ที่ว่าเพาะพันธุ์ได้นั้น ผมว่า กว่าจะเพาะพันธุ์ได้ จะต้องมีนกอีกมากเท่าไรที่ถูกจับมาเลี้ยง และนกที่เพาะพันธุ์ขึ้นมา ก็ไม่เหมือนกับ นกที่ถูกคัดเลือกจากธรรมชาติหรอกครับ ดูอย่างปลาทอง หรือนกเขาชวาก็ได้ ถ้าจะพยายามเพาะให้ได้จริง ๆ น่าจะเป็นหน้าที่ของ นักวิชาการดีกว่า (อย่างที่มีผู้เพาะนกขุนทองได้)
nathapong pomsopon <indian_roller@excite.com>
- Saturday, January 29, 2000 at 11:16:27 (EST)

ควรปล่อยให้เขาอยู่อย่างอิสระจะดีกว่า ก็เหมือนเราไม่อยากถูกขังนั่นแหละ
choosak khemtai
- Friday, January 28, 2000 at 10:22:51 (EST)

ผมคิดว่าการจับสัตว์ในธรรมชาติมากักขังนั้น ควรเลิกได้แล้ว เพราะเป็นการทรมานสัตว์ เบียดเบียนกัน และเป็นการส่งเสริมการค้าขายชีวิตอื่นๆ
สุรเดช วงศ์สินหลั่ง <exposure@linethai.co.th>
- Friday, January 28, 2000 at 08:34:34 (EST)

การเลี้ยงนกในกรงเป็นการทรมานสัตว์แน่นอน ถ้าไม่เชื่อลองเปิดกรงซิ ถ้ามันยังพอใจที่จะอยู่ก็แสดงว่ามันไม่ทรมาน ว่าแต่าว่าจะกล้าให้นกมันเลือกหรือเปล่า
เจษฏา สุขพิทักษ์ <jsukpitak@hotmail.com>
- Friday, January 28, 2000 at 07:51:36 (EST)

เลิกเรียกมันว่า " นกกรงหัวจุก " เถอะครับ ไม่มีนกตัวไหนที่เกิดมาเพื่ออยู่ในกรง
นักรบโบราณ
- Friday, January 28, 2000 at 05:22:50 (EST)

ธรรมชาติสร้างปีกไว้ให้นกบิน นกไม่ควรอยู่ในกรง
โสภณ
- Sunday, January 23, 2000 at 10:27:56 (EST)

เราไม่จำเป็นต้อง เพาะพันธ์นกในกรง เพราะถ้าเรา ไม่จับมันมาขัง มันก็สามารถ สืบพันธ์เองได้ตามธรรมชาติ หรือที่ว่า ใครสามารถเพาะพันธ์นกเองได้เนี่ย เบี่ยงเบนทางเพศหรือเปล่า อย่าเอาสัตว์มากักขังเลยครับ ใครๆ แม้แต่คุณ ก็รักอิสระภาพ ไม่อยากถูกกักขังกันทั้งนั้น ถ้าคุณคิดว่านกชอบหรือ ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี คุณก็ลองอย่าขังมันสิ มันจะบินหนีคุณรึไม่ ลองซิครับ
bigsu <bigsu@netsiam.com>
- Thursday, January 20, 2000 at 09:55:51 (EST)

เห็นด้วยกับที่คุณอุทัย ทุกประการ
ไม่ประสงค์ออกนาม
- Wednesday, January 19, 2000 at 04:34:08 (EST)

นก ปกติอยู่ในธรรมชาติ ก็จะส่งเสียงร้อง ซึ่งเป็นธรรมชาติของมันอยู่แล้ว หากมนุษย์เรา ต้องการที่คิดจะ เลี้ยงนกประเภทนี้แล้ว ใยเราไม่มาช่วยกันปลูกป่า ปลูกต้นไม้ ที่เป็นแหล่งอาหารของมัน เพื่อที่จะได้เห็นสิ่งที่สวยงาม มากกว่าที่จะเห็นในกรงแคบ ๆ
คนปักษ์ใต้
- Wednesday, January 19, 2000 at 00:59:18 (EST)

หยุดซะที เลิกทรมานสัตว์ เพียงเพื่อ สนองความต้องการของตนเอง ธรรมชาติของนก คืออยู่ในป่า ไม่มีสัตว์ชนิดไหน อยากถูกขัง ยังมีมนุษย์บางคน คิดว่า กรงคือสวรรค์สำหรับนก คนพวกนี้ น่าเอาไปอยู่สวรรค์
kullanit kankam <nirvanah66@hotmail.com>
- Monday, January 17, 2000 at 23:30:48 (EST)

ถ้าเลี้ยง ควรเอาใจใส่ ดูแลให้เหมือนกับคนในครอบครัว แต่ถ้าเลี้ยงเพื่อแข่งเสียง คงถือว่าทรมานสัตว์
จิระ บุตรดี <jirabutrdee@hotmail.com>
- Monday, January 17, 2000 at 08:00:11 (EST)

ไม่เห็นด้วยกับ การจับจากป่ามาเลี้ยง เพื่อการแข่งขัน แต่ถ้าเป็นการ เพาะพันธุ์ขึ้นเอง เพื่อเลี้ยงไว้ดูเล่น หมายถึง จะไม่มีการทรมานใด ๆ เลี้ยงดูอย่างดี นั่นน่าจะเป็นเหตุผลที่ดี ในการเลี้ยง
ศศิวิมล ชาญวานิชบริการ <chanvanit@hotmail.com>
- Sunday, January 16, 2000 at 23:03:00 (EST)

ไม่เห็นด้วยกับการที่จะ เอานกมาเลี้ยง เพราะควรปล่อยให้สัตว์ ได้อยู่ตามธรรมชาติ เพราะสัตว์ สามารถดำรงชีวิตได้ ด้วยตัวของมันเอง ผู้ที่นำมาครอบครอง เนื่องจากเห็นถึง สิ่งสวยงามตามธรรมชาติของมัน ถือว่า เป็นผู้ที่มี ความเห็นแก่ตัว ทำลายชีวิตทางธรรมชาติ โดยไม่คำนึงถึง ชีวิตของมัน ??
ชัชศรัณย์ พึ่งสุข <cphungsuk@yahoo.com>
- Sunday, January 16, 2000 at 09:34:10 (EST)

ธรรมชาติมีสิ่งสวยงามอยู่แล้ว ทุกวันนี้ คนนำสิ่งสวยงามนั้นมาใช้ และเกินไป จนทำให้หมดไป มันเป็นการไม่สมควรเลย ที่จะทำอย่างนั้น ลองถามคนที่ดูนก ดูว่า การที่เราได้เห็นนก อยู่ในธรรมชาติ คนดูนะ มีความสุขแค่ไหน นกมีความสุขแค่ไหน ปัจจุบันก็ลดลงไปเยอะมากแล้ว ยิ่งช่วงนี้ นกปรอดหัวโขน ก็เริ่มทำรังแล้ว อยากให้ช่วยกันดูแล เพราะว่าจะได้มี นกชนิดนี้ อยู่ต่อไป ไม่อยากให้เมืองไทย มีสัตว์ป่าหายากของทะเบียน cites เหมือนกับสัตว์หลายชนิด ที่มีข่าวมา ขอบคุณครับ
ธนา เตชะติ <U4108122@cm.edu>
- Friday, January 14, 2000 at 08:04:19 (EST)

การนำนกที่อยู่ในป่ามาเลี้ยง ผมไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมากเลยครับ เพราะสัตว์มีชีวิตต่าง ๆ ที่ อยู่ในโลกของเรา ก็ต้องการความเป็นอิสระ รวมทั้งมนุาย์ด้วย ถ้าลองจับมนุษย์ ไปขังไว้ในกรงอย่างนก จะมีความรู้สึกอย่างไร นอกจากนี้ มนุษย์ยังเป็นตัวทำลายธรรมชาติ ทุกอย่างด้วย การที่สัตว์ต่าง ๆ ที่อยู่บนโลกของเรา สูญพันธุ์ไป ก็เพราะมนุษย์ แล้วอย่างนี้ เรายังจะจับสัตว์ที่มีอยู่บนโลกมาขังไว้ ทำไมเรา ควรปล่อยให้มันเป็นอิสระ ผมขอเป็นอีกคนหนึ่ง ที่จะคัดค้าน กับการจับนก หรือสัตว์ต่าง ๆ มาขังไว้ เพื่อความเป็นอิสระของ มัน
adisorn sritoom <j.at@chaiyomail.com>
- Thursday, January 13, 2000 at 02:32:53 (EST)

ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการทรมานสัตว์ เป็นอย่างมาก การนำนกปรอดฯ มาเลี้ยง และเอามาส่งเสียงแข่งกัน อาจทำให้ตายเร็วได้ ซึ่งเป็นสาเหตุของ การสูญพันธ์
ด.ญ พีระดา สายบัว <noppawan@ksc.th.com>
- Wednesday, January 12, 2000 at 09:00:43 (EST)

ผมคิดว่า บางทีเราต้องแยกให้ออก ระหว่าง สิ่งที่เห็นได้ในความเป็นจริง กับสิ่งที่เราไม่เห็น แต่ก็เป็นความจริงเช่นกัน ว่าธรรมชาติที่มีอยู่นั้น เป็นเรื่องที่ยากจะเข้าใจ คุณไม่มีวันรู้ถึง ความแตกต่างระหว่าง อิสรภาพ หรือวิถีชีวิต ที่ถูกสร้างขึ้น กับที่มันเกิดขึ้นเอง ตามธรรมชาติ ถ้าคุณรู้ คุณจะไม่ขังมันไว้ เพื่อสนองความพอใจของคุณหรอก และแน่นอน เมื่อเรารู้ว่า ธรรมชาติ สร้างทุกอย่างให้สมดุล และงดงามดีอยู่แล้ว คุณควรจะคิด และหยุดขังมันเอง
panumas <palm01@chiyo.com>
- Tuesday, January 11, 2000 at 02:32:29 (EST)



สนับสนุน หรือ คัดค้าน นกปรอดหัวโขน   เสียงขับขาน จากกรงเลี้ยง
เมื่อวิทยานิพนธ์ ถูกบังคับ ให้เขียน เป็นภาษาอังกฤษ
การแปลงพันธุกรรม GMOs
สารบัญ | จากบรรณาธิการ | อัครศิลปิน | "ความจริง" ของปัญหา คนกับป่า ที่จอมทอง
หกรอบพระชนมพรรษา | ซองคำถาม | เฮโลสาระพา
  In a Changing World: Seventy-two Years as King of the People
A Bright Diary from Khao Nampu | Dung Beetles: Sculptors on the Ground


สำนักพิมพ์ สารคดี | สำนักพิมพ์ เมืองโบราณ | วารสาร เมืองโบราณ | นิตยสาร สารคดี
[ วิริยะบุคส์ | มีอะไรใหม่ | เช่าสไลด์ | ๑๐๘ ซองคำถาม | สมาชิก/สั่งซื้อหนังสือ | WallPaper ]

ขึ้นข้างบน (Back to Top) นิตยสาร สารคดี (Latest issue) email