Page 27 - Skd 373-2559-03
P. 27
โลกใบใหญ่ ชุ ม ช น เรอื่ ง : สชุ าดา ลมิ ป ์ / ภาพ : วจิ ติ ต์ แซเ่ ฮง้
ปดิ ตำ� นำน “ฮวยจงุ่ โล้ง”
ชมุ ชนทำ่ เรอื ยกั ษใ์ หญ่ฝ่ังธนบรุ ี
มกราคม ๒๕๕๙ สารคดี ไปเยือน “ฮวยจุ่งโล้ง” อีกครั้งเพื่อ มาจาก ฮวย หรือฮ่วย (火) - ไฟ / จุ่ง (船) - เรือ / โล้ง คร้ันถึงวันส�าคัญต่าง ๆ ตามประเพณีจีน ชาวฮวยจุ่งโล้งจะ
สงั เกต “ความเปล่ยี นแปลงคร้ังใหญ่” (廊) - โรง รวมหมายถึง ทา่ เรอื กลไฟ ลงขันจัดงานเฉลิมฉลองสักการะเจ้าแม่ทับทิม เปล่ียนลานโอ่โถงเป็น
ทป่ี ระกอบกจิ กรรมแสนสนกุ ตอนกลางวนั ใชต้ ระเตรยี มอาหาร ตกเยน็
สภาพอาคารในวันน้ีเม่ือมองจากภายนอกยังไม่แตกต่างจาก ยุคต่อมามีการปรับปรุงตึกด้านหนึ่งของฮวยจุ่งโล้งเป็น แปลงโฉมเป็นโรงมหรสพ บางครั้งแสดงง้ิว บางคราวแสดงละคร มี
ทเ่ี คยเหน็ เมอื่ ปลายมิถุนายน ๒๕๕๘ ส�านักงานของบริษัทในเครือหว่ังหลี ส่วนตึกกลางใต้ศาลเจ้าและ ขนมขา้ วตม้ เพยี บพร้อม สนุกไมแ่ พ้งานวัดใหญ่ ๆ ในละแวก
ตึกริมอีกด้านทายาทหวั่งหลียังคงให้ลูกหลานของคนงานเก่าแก่
วนั นนั้ ผอู้ าศยั กลมุ่ สดุ ทา้ ยสาละวนขนขา้ วของออกจากตกึ แถว ในตระกลู ตนเชา่ อยู่อาศัย หญิงวัย ๗๐ ปี เปรยเสียดายที่ไม่ได้เตรียมอัลบัมรูปให้ด ู
สองชน้ั เปน็ ทแ่ี นน่ อนแลว้ วา่ อกี ๓-๔ วนั ถดั มาจะไมเ่ หลอื “วถิ ชี มุ ชน” อดอวดวนั วานอกี หลายเร่อื งทห่ี ลงลมื ไปบ้าง
ใหเ้ หน็ เนอื่ งจากครอบครวั หวง่ั หลผี เู้ ปน็ เจา้ ของสถานทตี่ อ้ งการบรู ณะ เรอ่ื งราวทช่ี าวฮวยจงุ่ โลง้ รนุ่ สดุ ทา้ ยถา่ ยทอดไวเ้ ปน็ ดง่ั รอ่ งรอย
อาคารท่ีเก่าทรุดโทรมเต็มที และอาจเปลี่ยนไปใช้ประโยชน์อ่ืนใน ล�้าค่าแห่งประวัติศาสตรค์ ลองสาน ความผูกพันต่อฮวยจุ่งโล้งไม่ได้เกิดข้ึนเพียงผู้อยู่มาแต่ก�าเนิด
ภายหน้า หน่มุ สาวทเี่ ขา้ มาอาศยั ทีหลงั กร็ สู้ กึ เชน่ เดียวกัน
“คนรนุ่ แรกมาจากเมอื งจนี พรอ้ มตระกลู หวง่ั หล ี สว่ นใหญเ่ ปน็
รมิ แมน่ า้� เจา้ พระยาฝง่ั ธนบรุ ี สดุ ถนนเชยี งใหม ่ เขตคลองสาน ชาวจงั หวดั แตจ้ ว๋ิ และจงั หวดั ซวั เถา พอ่ กบั พสี่ าวเปน็ ลกู จา้ งครอบครวั “เรามญี าตอิ ยทู่ นี่ จ่ี งึ ไดม้ าอาศยั ตอนอาย ุ ๑๗-๑๘ ป ี แตก่ อ่ น
จึงเงียบผิดจากเมื่อ ๑๐๐ กว่าปีก่อนซ่ึงเคยคึกคักด้วยเหล่าพ่อค้า หวั่งหลี เราจึงเกิดและเติบโตที่ฮวยจุ่งโล้ง สมัยก่อนอยู่กันแบบเครือ เคยเขา้ มาแคป่ ลี ะสองครง้ั เวลามงี านไหวอ้ ามา่ หมา่ โจว้ ไดด้ หู นงั ดงู ว้ิ
ชาวจีน เวลาน้ันมีนิวาสถานมากมายของขุนนางและพ่อค้าผู้มั่งค่ัง ญาติเพราะพ่อแม่ท�างานท่ีเดียวกัน เด็ก ๆ จึงพลอยเป็นเพื่อนเล่นกัน บรรยากาศคึกคักมาก แต่วันปรกติกลับเงียบสงบ โดยเฉพาะตอน
จากโพ้นทะเลท่ีมาค้าขายในกรุงเทพฯ หน่ึงในน้ันคือที่ดิน ๖ ไร่ ของ ยคุ ทไี่ มม่ โี ทรทศั น ์ แคไ่ ดถ้ อดเกย๊ี ะวางเรยี งแลว้ กระโดดขา้ มกส็ นกุ มาก กลางวนั ”
“พระยาพิศาลศุภผล (ชื่น)” ผู้เล็งเห็นความเจริญด้านการค้า จึงสร้าง แลว้ ชว่ งเยน็ เดก็ จะรวมตวั ทลี่ านวา่ งหนา้ ตกึ เยอะมาก พอ่ แมเ่ รยี กไป
“ท่าเรือกลไฟ” ตรงข้ามวัดส�าเพ็ง ซึ่งต่อมาขายต่อให้ “ตันลิบบ๊วย” เถอะ ไม่มใี ครยอมเขา้ บา้ น” หมวย-จรรยา จงจิตงาม ในวัย ๕๐ ปี ช่วยสมทบความ
ตน้ ตระกลู “หวงั่ หลี” ทรงจ�าครง้ั วยั รนุ่
โกวเม้ง-เอมอร ประเทศกรณีอ่างแก้ว เปิดฉากความ
แผนผังที่ดินผืนน้ีมีอาคารสองหลัง หลังหนึ่งเป็นคฤหาสน์ ทรงจ�าวัยเด็กและความสัมพันธ์แนบแน่นระหว่างเพื่อนร่วมชุมชน ว่า ในสายตาเธอความพิเศษของชุมชนฮวยจุ่งโล้งคือการ
ทรงเก๋งจีนขนาดใหญ่ส�าหรับพ�านักของครอบครัวหว่ังหลี อีกหลังเป็น รุ่นพ่อแม่แต่ละห้องหับยังไม่มีการกั้นทึบ ใช้ระเบียงร่วมกัน เดินทะลุ เดินทางอันแสนสะดวก แค่ลงเรือข้ามฝั่งไปก็ถึงเยาวราช พาหุรัด
ตึกแถวสองช้ันท่ีออกแบบให้เช่ือมต่อกันเป็นรูปเกือกม้า (หรือตัว U) ถงึ กันหมด กระท่ังเดก็ รุ่นลูกเตบิ โตจึงเร่ิมปรับเปลี่ยนรองรับความเป็น หัวล�าโพง รถไฟฟ้าใต้ดิน ที่ส�าคัญคือค่าเช่าบ้านถูกมาก จากยุคแรก
ตามแบบสถาปัตยกรรมจีน กั้นแบ่งเป็นห้องเกือบร้อยห้องให้พ่อค้า ส่วนตัว เร่ิมต้น ๑๒ บาท ปัจจุบันแม้ขยับเป็น ๖๐๐ บาท ไม่รวมค่านา�้ ค่าไฟ
ชาวจีนและคนงานเก่าแก่ในตระกูลหว่ังหลีเช่าเป็นที่ท�างานและ กอ็ าจหาไมไ่ ด้อีกแลว้ บนท่ีดนิ แถบคลองสาน
พักอาศัย โดยจัดให้ห้องชั้นบนกลางอาคารเป็นห้องบรรพบุรุษ เก็บ ขณะสนทนาทรี่ ะเบยี งหนา้ ศาลเจา้ เธอเลา่ วา่ หลงั จากสมเดจ็
รักษาป้ายส�าหรับเซ่นไหว้ ภายหลังจึงพัฒนาเป็น “ศาลเจ้าแม่ทับทิม พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ าร ี เสดจ็ ฯ เยอื นเมอ่ื ป ี ๒๕๔๓ เม่ือยังพอมีเวลาเหลือส�าหรับการขนย้ายของออกจากท่ีพัก
(หมา่ โจ้ว)” เทพผู้คุ้มครองคนเรอื ให้พ้นภยั ในท้องทะเล คนภายนอกจึงรู้ว่าฮวยจุ่งโล้งมีเจ้าแม่ทับทิมประทับและพากันมา น้องชายของเธอจึงอาสาพาเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมท่ีตนนิยามว่าเป็น
กราบไหว้ รูปแบบ “จนี -สยาม” หรอื “ชโิ นไซแอมมสี ” (Sino-Siamese)
ผู้เช่าห้องต่างเรียกบริเวณอาคารนี้ตามภาษาจีนแต้จ๋ิวว่า
“ฮวยจ่งุ โลง้ ” “เร่ืองศักดิ์สิทธ์ิกว่าศาลอ่ืนไหมเราไม่รู้ แต่เราภูมิใจที่มีส่ิง “โครงสร้างและรายละเอียดทางศิลปกรรมของฮวยจุ่งโล้งคือ
ยดึ เหน่ียวจติ ใจในบ้านของเราเอง” ตัวแทนของตึกจีนรุ่นเก่าแก่ เป็นตึกใหญ่ท่ีค่อนข้างสมบูรณ์มากแห่ง
หนึ่งของไทย ตัวอาคารสร้างขึ้นจากไม้ท้ังหมด แม้แต่เสาปูนที่เห็นใน
แล้ววันหน่ึงเด็กหญิงผู้เติบโตท่ามกลางความศรัทธาก็ได้เป็น วนั นผ้ี มกส็ นั นษิ ฐานวา่ แกนในนา่ จะเปน็ ไมต้ ามโครงสรา้ งบา้ นเรอื นใน
ตวั แทนชมุ ชนดแู ลศาลเจา้ สแี ดงสด เธอชชี้ วนใหม้ องลอดซกี่ รงระเบยี ง
สีเหลอื งสวา่ งลงไปยงั ลานกวา้ งชั้นล่างซึ่งปูพ้ืนดว้ ยศิลาอบั เฉา
“บรเิ วณนคี้ กึ คกั ตลอด บางบา้ นท�าอาหารหมกั ดองเปน็ รายได้
เสรมิ อยา่ งมะมว่ งดอง มะนาวดอง มเี ครอื่ งมอื คม ๆ วางอยหู่ นา้ บา้ น
เด็ก ๆ เห็นพวกอาเจ็กท�าดูน่าสนุกก็แอบไปเล่นจนโดนดุประจ�า บาง
บ้านท�าอาหารแห้ง ทา� ปลาทูตากแห้งก็มี พวกเรายงั ขอให้ผใู้ หญ่สอน
วธิ ตี ากปลาทใู ห ้ ถึงแดดร้อนเปรย้ี งก็ยอมเพราะสนกุ มาก”
นัยน์ตาของผู้เล่าฉายความร่ืนเริงชัดคล้ายกับความทรงจ�า
ในวยั ๑๐ กวา่ ขวบเพ่งิ ผา่ นพน้ ไม่นาน
“บางวนั ลานนย้ี งั ใชเ้ ปน็ ทบ่ี รรจหุ บี หอ่ ตอ่ ลงั ไมฉ้ า� ฉาเพอื่ สง่ ของ
ลงเรือ เสียงดังอึกทึกครึกโครม ยิ่งช่วงท่ีมีสินค้ามาถึงท่าเรือย่ิงสนุก
ลานบรรจุหีบห่อจะเปล่ียนเป็นลานพักสินค้าก่อนทยอยขนขึ้นไปเก็บ
บนหอ้ งแถว”
60 กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๙
ตอบ ฮวยจงุ่ โลง้
และหลังจากปิดต้นฉบับท่ี ๓๗๒ แล้ว สารคดี ยังได้รับข้อมูล
จาก ธปท. จึงขอนำ� มาเพ่ิมเตมิ ไว ้ ณ ทน่ี ี้
- ดร. ประสาน ไตรรตั นว์ รกลุ ดำ� รงตำ� แหนง่
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ปี ๒๕๕๓- ในข่าวคอลัมน์ “โลกใบใหญ่” เรื่อง ปิดต�ำนาน “ฮวยจุ่งโล้ง”
๒๕๕๘ ชุมชนท่าเรือยักษ์ใหญ่ฝั่งธนบุรี ฉบับท่ี ๓๗๒ สุชาดา ลิมป์ ผู้เขียน
ฝากชแ้ี จงข้อมลู ผดิ พลาด และแกไ้ ขที่ถูกตอ้ งดงั นี้
- ธนบัตรแบบสิบเอ็ด ที่น�ำออกใช้เม่ือ
วันท่ี ๒๔ มิถุนายน ๒๕๑๒ ซึ่งเป็นวันเปิด ๑. หน้า ๖๐ คอลัมน์ซ้าย เกี่ยวกับอาคารตึกแถวสองช้ันรูป
โรงพิมพ์ธนบัตร ธนาคารแห่งประเทศไทย เกอื กมา้ ผเู้ ขยี นระบวุ า่ หอ้ งชน้ั บนกลางอาคารเปน็ หอ้ งบรรพบรุ ษุ เกบ็
มรี าคาชนดิ ๑๐ บาทดว้ ย ดงั ภาพทนี่ ำ� มาลงไว้ รักษาป้ายส�ำหรับเซ่นไหว้ ภายหลังจึงพัฒนาเป็น “ศาลเจ้าแม่ทับทิม
ด้วยแลว้ (หมา่ โจว้ )” ทถี่ กู ตอ้ งคอื ฮวยจงุ่ โลง้ ไมไ่ ดเ้ ปน็ หอ้ งบรรพบรุ ษุ และไมไ่ ด้
เก็บรักษาป้ายส�ำหรับเซน่ ไหว้
๒. หน้า ๖๐ ย่อหน้าสุดท้าย ในเครื่องหมาย “บางวันลานน้ี
ยังใช้เป็น...” จนถึง “...ขึ้นไปเก็บบนห้องแถว” ที่ถูกต้อง ไม่มี
เครือ่ งหมาย “...”
๑๒ ปี ๒ เดอื น ๔ วนั ๓. ย่อหน้าสุดท้าย หน้า ๖๐ และย่อหน้าแรก หน้า ๖๑ เป็น
ป๋วย อง๊ึ ภากรณ ์ ดา� รงตา� แหน่งผวู้ า่ การ ข้อมูลอ้างอิงจากหนังสือ กระเบื้องถ้วยกะลาแตก โดย พิมพ์ประไพ
ธนาคารแห่งประเทศไทยยาวนานทส่ี ดุ พศิ าลบตุ ร ส�ำนกั พมิ พ์นานมบี ๊คุ สพ์ บั ลเิ คช่นั ส์ ป ี ๒๕๕๐
ระหวา่ งป ี ๒๕๐๒ - ๒๕๑๔ ชว่ งคาบเก่ยี วกันนัน้
ยงั ดา� รงตา� แหน่งสา� คัญ ไดแ้ ก่ กรรมการสภา
พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาต ิ (สภาพฒั น)์
ผู้อ�านวยการส�านกั งานเศรษฐกิจการคลัง
กระทรวงการคลงั
น” ธนบัตรแบบสิบเอ็ด ราคา ๕ บาท น�าออกใชเ้ มือ่ วันที ่ ๒๔ มถิ นุ ายน ๒๕๑๒ และผู้อ�านวยการสา� นกั งบประมาณ
ซง่ึ เปน็ วนั เปิดโรงพมิ พ์ธนบัตร ธนาคารแห่งประเทศไทย
ก มรดกจากปว๋ ย
ย โรงพมิ พธ์ นบตั ร ธนาคารพาณชิ ย์
ตง้ั แตอ่ ดีตประเทศไทยใชโ้ รงพมิ พ์ธนบตั ร ปว๋ ยมีส่วนสา� คัญในการยกรา่ ง
ในตา่ งประเทศเปน็ หลัก ยกเวน้ เพยี งช่วง พระราชบัญญตั กิ ารธนาคารพาณิชย ์
สงครามโลกครง้ั ที ่ ๒ ตอ่ มารัฐบาล พ.ศ. ๒๕๐๕ ทา� ให้กิจการธนาคาร
มีนโยบายจดั ตั้งโรงพมิ พธ์ นบัตร
ในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศ เจรญิ เตบิ โตข้นึ อยา่ งมาก
ไทยซง่ึ ป๋วยเป็นผู้วา่ การ โดยเฉพาะการอนุมตั ใิ ห้
จงึ รับมาด�าเนนิ การ ธนาคารพาณชิ ย์เปดิ สาขา
ซง่ึ การพมิ พ์ธนบัตรถอื เปน็ มากข้นึ และขยายไปทัว่ ประเทศ
งานท่ียากและซับซอ้ น ในส่วน ธปท. เองกข็ ยาย
แต่ในที่สุดในปี ๒๕๑๒ สา� นกั งานสาขาไปตามภมู ิภาค
ธปท. ก็เปดิ โรงพมิ พ์ สามแหง่ คอื ภาคใตท้ ห่ี าดใหญ่
สา� เร็จ และขยายงาน ภาคอีสานท่ีขอนแก่น
และภาคเหนือที่เชยี งใหม่
สืบเน่ืองมาถึงปจั จุบัน ให้ทุนศลิ ปิน
ทนุ ดร. ป๋วย จากแนวคดิ เรม่ิ ต้นของปว๋ ย
เริ่มตัง้ แต่ปี ๒๕๐๓ ทใี่ หธ้ นาคารสละทรัพย์
ก่อนจะเปล่ียนมาเป็น ส่วนหน่งึ เพือ่ สนับสนุนศิลปิน
“ทนุ ดร. ปว๋ ย อง๊ึ ภากรณ”์ สร้างผลงาน เริ่มจากภาพวาด
ในป ี ๒๕๔๗ เพือ่ ให้ทนุ ของ จกั รพนั ธ์ุ โปษยกฤต
ฉลี่ย การศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรี ปจั จบุ ันธนาคารแหง่ ประเทศ
ในตา่ งประเทศ สาขาใดก็ได ้ ไทยมีภาพของศิลปินมากมาย
โดยไมม่ ีข้อผูกพันการชดใชท้ ุน จัดแสดงในอาคาร
แต่ต้องกลบั มาทา� งานท่ีประเทศไทย กลายเปน็ ต้นแบบให้
ปัจจบุ นั มผี รู้ ับทุนแล้วกว่า ๑๐๐ คน ธนาคารพาณิชยอ์ น่ื ๆ
ได้สร้างบุคลากรที่กลบั มาท�างาน หนั มาสนบั สนนุ งานศลิ ปะ
ทั้งใน ธปท. และหน่วยงานอนื่ ๆ
ฉลย่ี ข้อมูลอา้ งอิง
กษิดศิ อนันทนาธร “มองอาจารยป์ ว๋ ย ผา่ นแวน่ ของ ดร. วริ ไท สนั ตปิ ระภพ
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย” ใน สารปว๋ ย ๘,๑ (ธนั วาคม ๒๕๕๘) : ๘-๑๔.
“ศลิ ปว๋ ย ว่าด้วยเร่ืองศิลปะ และอาจารยป์ ว๋ ย.” ใน ปว๋ ย กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ : ๑๑.
เวบ็ ไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย https://www.bot.or.th
“๙๙ ปี ‘คนช่อื ปว๋ ย’ ผูว้ างรากฐานเศรษฐกิจไทย - ครูท่ดี ี ๔ บทบาท ๔ มุมมอง
จากคนข้างตวั ” http://thaipublica.org/2015/03/a-man-called-puey/ ๑๓ มนี าคม ๒๐๑๕
มีนาคม ๒๕๕๙ 25