วันชัย ตัน
ภาพประกอบ : DINHIN

world2คนที่ไปเดินป่าบ่อยๆ จะรู้ว่า การเดินป่าเป็นการออกกำลังกายที่ดี แต่ถ้าต้องเดินขึ้นเขาด้วยเมื่อไรก็อาจจะถอดใจได้เหมือนกัน โดยเฉพาะเขาที่สูงชันมากๆ การเดินขึ้นเขาก็ถือเป็นเรื่องสาหัสเอาการ ส่วนตอนขาลง แม้จะไม่เหนื่อยเท่า แต่ก็ต้องใช้สติพอควร ไม่งั้นอาจกลิ้งตกเขาเอาได้ง่ายๆ

แต่เมื่อไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่า การเดินขึ้นเขา-ลงเขา มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าที่คิด

ดร. ไฮนซ์ เดรกเซล แห่งโรงพยาบาลเฟล็ดเคิร์ช ประเทศออสเตรีย ได้รายงานผลการวิจัยต่อที่ประชุมสมาคมโรคหัวใจของอเมริกาครั้งล่าสุดในรัฐนิวออร์ลีนส์ว่า

จากการศึกษาผู้ที่เดินขึ้นเทือกเขาแอลป์ พบข้อมูลใหม่ที่น่าสนใจว่า การออกกำลังกายต่างชนิดกันจะส่งผลต่อไขมันและน้ำตาลในเลือดต่างกัน การเดินขึ้นเขาจะเผาผลาญไขมันได้ดีกว่า ส่วนการเดินลงเขาจะช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้มากกว่า ทั้งนี้เพราะการเดินขึ้นเขาเป็นการทำงานของกล้ามเนื้อแบบ concentric หรือกระชับกล้ามเนื้อ ซึ่งจะเกิดเมื่อเรางอแขน-ขา ส่วนการเดินลงเขาเป็นการทำงานของกล้ามเนื้อแบบ eccentric หรือเหยียดยืดกล้ามเนื้อ ซึ่งจะเกิดเมื่อเรายืดหรือกางแขน-ขา

ดร. เดรกเซลได้ทดสอบการออกกำลังกายทั้ง ๒ แบบนี้กับผู้มีสุขภาพดีแต่ไม่ค่อยออกกำลังกายจำนวน ๔๕ คน โดยให้คนเหล่านี้ใช้เวลาเดินเขา ๓-๕ ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ๒ เดือนแรกจะเป็นการเดินขึ้นเขาอย่างเดียว โดยเวลาลงจะมีรถไปรับ และอีก ๒ เดือนหลังจะให้รถขับพาขึ้นเขา แล้วปล่อยให้เดินลงเขาอย่างเดียว ทั้งนี้กลุ่มคนดังกล่าวจะถูกตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดและปริมาณโคเลสเทอรอลก่อนและหลังการออกกำลังกายแต่ละแบบ

ผลปรากฏว่า การเดินลงเขานั้นช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและลดปริมาณกลูโคส ขณะที่การเดินขึ้นเขาจะช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์

“นี่อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานซึ่งมักจะมีปัญหากับการออกกำลังกายแบบแอโรบิกหลายประเภท และน่าจะทำให้ได้ประโยชน์จากการเดินมากขึ้นด้วย” อย่างไรก็ตาม ดร. เดรกเซลยอมรับว่า ปัญหาหนึ่งที่มักจะมาพร้อมกับการเดินลงเขา คืออาการเจ็บเข่าซึ่งเกิดจากการถ่ายน้ำหนักลงบนหัวเข่าขณะเดิน

แม้คนทั่วไปจะไม่มีโอกาสไปขึ้นเขาลงเขาอยู่บ่อยๆ แต่ก็สามารถนำการค้นพบนี้มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ ยกตัวอย่างเช่นผู้ที่ทำงานในตึกสูงซึ่งมีลิฟต์ อาจเลือกใช้ลิฟต์ในขาขึ้นและใช้บันไดแทนในขาลง หรือเลือกเดินขึ้นทางบันไดแล้วใช้ลิฟต์ตอนลงจากตึก ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าจุดประสงค์ของการออกกำลังกายนั้นเพื่ออะไร

“คนที่เป็นโรคเบาหวานหรือต้องการลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือดน่าจะหัดเดินลงบันไดแทนการใช้ลิฟต์ หรือไม่ก็ออกกำลังกายโดยเดินขึ้นหรือเดินลงตึกสูง ๆ แทนการเสียเวลาไปฟิตเนส” ดร. เดรกเซลแนะนำ

หนทางสู้กับเบาหวาน (และความอ้วน) อยู่ใกล้แค่เอื้อม ไม่คิดจะลองใช้บันไดดูบ้างหรือครับคุณๆ ทั้งหลาย