เรื่อง : ฐิตินันท์ ศรีสถิต

oilspill01
กลายเป็นหายนะแห่งท้องทะเลครั้งล่าสุด หลังจากแท่นขุดเจาะน้ำมันดีปวอเตอร์ ฮอริซอน ของบริษัทบริติช ปิโตรเลียม(บีพี) เกิดระเบิดขึ้นเมื่อ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๓ เป็นเหตุให้พนักงานแท่นขุดเจาะเสียชีวิต ๑๑ ราย บาดเจ็บอีก ๑๗ ราย และสิ่งที่หนักหนาสาหัสกว่านั้นคือ การรั่วไหลอย่างต่อเนื่องของน้ำมันปริมาณมหาศาลในอ่าวเม็กซิโก

  • ผ่านไป ๗๐ วันหลังเกิดเหตุ ความพยายามหยุดยั้งการรั่วไหลของน้ำมันจากท่อใต้ทะเลด้วยหลากกลยุทธ์หลาย เทคโนโลยีก็ยังไม่มีทีท่าจะประสบผลสำเร็จ  รัฐบาลสหรัฐฯ คาดการณ์ว่ามีน้ำมันรั่วไหลไปแล้วทั้งสิ้นประมาณ ๔๐-๑๒๑ ล้านแกลลอน คิดเป็นปริมาณเฉลี่ย ๓๕,๐๐๐-๖๐,๐๐๐ บาร์เรลต่อวัน
  • หากยึดจากตัวเลขซึ่งสะท้อนสถานการณ์เลวร้ายสุด ก็หมายความว่ามีน้ำมันไหลปนเปื้อนท้องทะเลถึงวันละ ๒.๕ ล้านแกลลอน เทียบเท่ากับการเติมน้ำมันเต็มถังของรถยนต์ขนาดกลางได้ประมาณ ๒๑๐,๐๐๐ คันเลยทีเดียว

oilspill02
oilspill03

  • การทำงานจัดการกับคราบน้ำมันกลางทะเลยังดำเนินต่อไปอย่างไม่ลดละ ด้วยกำลังของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการเกือบ ๔๐,๐๐๐ คน  กองเรือประมาณ ๕,๐๐๐ ลำ  และเครื่องบินอีก ๑๑๐ ลำ
  • สามารถเก็บกวาดโดยใช้เครื่องดูดคราบน้ำมันได้ ๒๗ ล้านแกลลอน  จุดไฟเผาน้ำมันทิ้งเกือบ ๑๐ ล้านแกลลอน  ฉีดพ่นน้ำยาเคมีไปแล้ว ๑ ล้านแกลลอน เพื่อให้น้ำมันไม่เกาะรวมเป็นคราบผืนใหญ่ และแตกตัวเป็นอณูเล็กๆ ซึ่งเอื้อต่อการย่อยสลายตามธรรมชาติที่รวดเร็วขึ้น
  • การเช็ดล้างคราบน้ำมันทั้งหมดอาจกินเวลาไปจนถึงปลายปีและต้องใช้เม็ดเงินสูงถึง ๑๙-๒๓ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ส่วนที่ยากจะประเมินมูลค่าได้คือผลกระทบต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม  นับถึงตอนนี้มีรายงานอย่างเป็นทางการว่า คราบน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของนก ๘๘๕ ตัว  เต่าทะเล ๔๒๕ ตัว  โลมา ๕๐ ตัว
  • แถมด้วยวาฬสเปิร์มอีก ๑ ตัว ที่รอการพิสูจน์ยืนยันจากองค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NOAA) ว่าตายเพราะปัญหาคราบน้ำมันหรือไม่
  • ในขณะเดียวกัน มลพิษจากน้ำมันและน้ำยาเคมีที่ใช้ฉีดพ่นก็ทำให้เจ้าหน้าที่กำจัดคราบน้ำมัน ๑๔๓ คนเจ็บป่วยจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
  • …ทว่าทั้งหมดนี้ยังไม่รวมถึงผลกระทบทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่จะสะสมตกค้างและสร้างปัญหาในระยะยาว

ที่มา :

ภาพ :