ภาณุ บุญพิพัฒนาพงศ์

 

ปกอัลบัม Fragile (๑๙๗๑)
วงดนตรี Yes
ปกหน้า ภาพจาก Vinyl Connect
ออกแบบและวาดภาพโดย โรเจอร์ ดีน

สตูดิโออัลบัมลำดับที่ ๔ ของ Yes วงดนตรีโพรเกรสซีฟร็อกจากเกาะอังกฤษซึ่งประสบความสำเร็จที่สุดวงหนึ่งของโลก พวกเขาได้รับยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกดนตรีแนวนี้จนเป็นที่นิยมอย่างสูงในดนตรีพิภพ นับเป็นอัลบัมแรกที่ได้สุดยอดมือคีย์บอร์ดอย่าง ริก เวกแมน (Richard Christopher “Rick” Wakeman) ผู้มีสไตล์การเล่นหรูหราสง่างามตามแบบฉบับดนตรีคลาสสิกมาร่วมวง เวกแมนคนนี้เองที่ทำให้ดนตรีของเยสมีสีสันและล้ำสมัยขึ้น (มีผู้ชื่นชมว่าสมาชิกชุดนี้ลงตัวสมบูรณ์แบบที่สุดของวง ซึ่งเรียกกันในภายหลังว่า “classic line-up”) เพราะเป็นการเปิดโฉมหน้าบทบาทเสียงคีย์บอร์ดอันมหัศจรรย์พันลึกผู้ได้รับฉายาว่า “พ่อมดแห่งคีย์บอร์ด” ซึ่งทำให้งานนี้ทะยานขึ้นอันดับ ๗ ของชาร์ตในอังกฤษ และอันดับ ๔ ในชาร์ตอเมริกาอย่างเหนือความคาดหมาย ด้วยดนตรีที่มีแนวทางชัดเจน กับโครงสร้างซับซ้อนพิสดาร แต่ลงตัวกลมกลืนอย่างไม่เคยปรากฏในดนตรีร็อก ซิงเกิล “Roundabout” ของอัลบัมจึงเป็นที่นิยมอย่างสูง และเป็นหนึ่งในเพลงโด่งดังและเป็นที่รู้จักที่สุดของวง อัลบัม Fragile ได้รางวัลแผ่นเสียงทองคำสองรางวัลจากยอดขาย ๒ ล้านแผ่นทั่วอเมริกา

และอัลบัมนี้เองที่ โรเจอร์ ดีน (William Roger Dean) ได้วาดภาพบนปกให้เยสเป็นครั้งแรก ก่อนจะผูกปิ่นโตทำปกอัลบัมให้วงแทบทุกปกในเวลาต่อมา

ปกหลัง ภาพจาก Classic Album Covers

ภาพวาดบนปกอัลบัม Fragile นั้นตอนแรกวงเยสอยากให้เป็นภาพภาชนะพอร์ซเลนที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ซึ่งดีนไม่ชอบแต่ก็ประนีประนอมด้วยการวาดเป็นภาพโลกใบเล็กๆ ที่มีรอยร้าว ในภาพอากาศยานหน้าตาคล้ายเรือใบลอยอยู่ข้างหน้า ซึ่งต่อเนื่องมายังภาพบนปกหลังที่แสดงว่าโลกนั้นกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ โดยมียานร่อนอวกาศที่ว่าซึ่งทำจากไม้อพยพคนบินหนีจากดาวเคราะห์ดวงนั้น ไอเดียนี้ถูกใจสมาชิกวงมาก บิลล์ บรูฟอร์ด (William Scott “Bill” Bruford) อดีตมือกลองของวงคิดว่าดีนนั้น “ฉลาดในการนำเสนอไอเดียเป็นภาพของโลกอันเปราะบาง มีนัยถึงโลกที่มีสภาวะแวดล้อมอันละเอียดอ่อนและเปราะบางอย่างยิ่งของเรา”

ดีนกล่าวถึงปกอัลบัมนี้ว่า “คำว่า Fragile (เปราะบาง) ซึ่งเป็นชื่ออัลบัมนั้นมีความหมายตามตัวอักษรเลย ผมคิดว่าวงตั้งชื่อนี้หลังจากความสัมพันธ์ในวงคลอนแคลน ความเปราะบางที่ว่าสื่อถึงสภาพจิตใจของสมาชิก [ไม่เพียงแต่มือคีย์บอร์ดเก่าอย่าง โทนี เคย์ (Tony Kaye) ที่ลาออกไป หลังอัลบัมวางแผงไม่นาน มือกลองอย่างบรูฟอร์ดก็ลาออกด้วย] ภาพโลกที่แตกร้าวสื่อถึงความแตกแยกของวง ถึงปกอัลบัมนี้จะไม่ใช่ปกดึงดูดใจที่สุดของเยส ซึ่งเป็นเพราะผมกำลังค้นหาแนวทางของตัวเอง แต่ภาพปกนี้ผมได้แรงบันดาลใจมาจากต้นบอนไซและเรือใบโบราณ” (ดูแล้วดีนน่าจะได้แรงบันดาลใจจากภาพสเกตซ์เครื่องร่อนของ เลโอนาร์โด ดาวินชี ด้วย)

ภายในซองอัลบัมยังมีสมุดภาพที่ดีนวาดปกสองภาพ ปกหน้าเป็นภาพสัตว์ประหลาดห้าตัว (ซึ่งเป็นตัวแทนของสมาชิกวง) ที่ปีนป่ายในแขนงรากของต้นไม้ อีกภาพเป็นภาพคนไต่ยอดเขาสูงสุดลูกหูลูกตา ภาพในสมุดเป็นภาพถ่ายของสมาชิกวง และหน้าต่างๆ ที่เป็นเรื่องราวของสมาชิกแต่ละคน ทั้งภาพวาดลายเส้น กวีสั้นๆ ผับเบียร์ในอังกฤษ หรือแม้แต่ประวัติคีตกวีอย่างโมสาร์ทก็มี

คอนเซปต์ของอัลบัมนี้นำไปใช้ในอัลบัมแสดงสด Yessongs รวมถึง Olias of Sunhillow อัลบัมเดี่ยวของ จอห์น แอนเดอร์สัน (John Roy “Jon” Anderson) ด้วย

ปกอัลบัม Fragile (1971)

 

โรเจอร์ ดีน หรือ วิลเลียม โรเจอร์ ดีน (เกิด ๓๑ สิงหาคม ค.ศ. ๑๙๔๔) ศิลปิน สถาปนิก นักออกแบบชาวอังกฤษ ผู้เป็นที่รู้จักจากงานออกแบบปกอัลบัมและโปสเตอร์วงดนตรีชื่อดัง โดยเฉพาะวงดนตรีโพรเกรสซีฟร็อกยุค 70s หลายต่อหลายวง ผลงานส่วนใหญ่เป็นภาพเขียนแนวแฟนตาซีที่มีภาพลักษณ์และทิวทัศน์แปลกประหลาดล้ำจินตนาการ เขาทำงานหลากหลายรูปแบบ ทั้งกราฟิก โลโก ตัวหนังสือ ไปจนถึงการออกแบบสถาปัตยกรรมและเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งล้วนแต่สร้างแนวทางใหม่แก่วงการออกแบบทั้งสิ้น ดีนเริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นนักออกแบบเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งภายใน หากแต่เขาได้ออกแบบปกอัลบัมวงดนตรีร็อก The Gun ด้วยความบังเอิญ จากอัลบัมแรกไปอัลบัม ๒ และ ๓-๔ วันหนึ่งเขาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นนักออกแบบปกอัลบัมไปเสียแล้ว เขาออกแบบปกอัลบัมให้วงดนตรีหลายวง รวมถึงออกแบบโลโกให้บริษัทแผ่นเสียงอย่าง Virgin Records ด้วย

ชื่อเสียงในฐานะนักออกแบบปกแผ่นเสียงของดีนมาถึงจุดสูงสุดเมื่อได้ร่วมงานกับวงดนตรีโพรเกรสซีฟชื่อดังแห่งยุค 70s อย่างเยส โดยปกอัลบัมแรกที่เขาออกแบบคือ Fragile อัลบัมลำดับที่ ๔ ของวง โดยเขียนภาพทิวทัศน์แปลกประหลาดพิสดารในโลกแห่งจินตนาการ ซึ่งเป็นแนวทางหลักของเขาตลอดมา

ดีนกลายเป็นนักออกแบบขาประจำที่ผูกขาดการออกแบบปกอัลบัมให้เยสแทบทุกปกจนถึงปัจจุบัน แม้กระทั่งอัลบัมล่าสุด แทบจะเรียกได้ว่าเป็นหุ้นส่วนกันเลย สตีฟ ฮาว (Stephen James “Steve” Howe) มือกีตาร์ของเยสกล่าวว่า “มันมีสัมพันธภาพอันเหนียวแน่นระหว่างเสียงดนตรีของวงกับงานศิลปะของ โรเจอร์ ดีน” ส่วน คริส เวลช์ (Chris Welch) คอลัมนิสต์และนักวิจารณ์ดนตรีชื่อดังกล่าวไว้ว่า “ภาพเขียนของดีนเป็นส่วนเติมเต็มให้ดนตรีของเยส ดนตรีของเยสก็กว้างใหญ่ไพศาลและเต็มไปด้วยรายละเอียดซับซ้อนมากมายจนแทบจะเป็นดนตรีออร์เคสตรา มันเหมือนพวกเขาเขียนภาพด้วยเสียง จึงเข้ากันได้อย่างเหมาะเจาะลงตัวอย่างยิ่งกับภาพเขียนอันวิจิตรของดีน”

นอกจากปกอัลบัม ดีนยังมีส่วนร่วมออกแบบเวทีการแสดงอันวิจิตรตระการตาให้วง โดยร่วมงานกับ มาร์ทีน ดีน (Martyn Dean) น้องชายของเขา เคียงคู่กับนักออกแบบปกอัลบัมอย่าง สตอร์ม ทอร์เกอร์สัน (Storm Thorgerson) และ Hipgnosis โรเจอร์ ดีน ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้เปลี่ยนโฉมหน้าวงการออกแบบปกอัลบัมดนตรีไปตลอดกาล เนื่องจากยกระดับงานออกแบบบรรจุภัณฑ์ธรรมดาๆ เป็นงานศิลปะ ผลงานของเขาเป็นที่รักของบรรดานักฟังเพลงนับล้านทั่วโลก และเป็นเสมือนหนึ่งตัวตนอีกด้านของวงที่เขาออกแบบ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งวงเยสซึ่งแทบจะแยกจากกันไม่ได้แล้ว) นอกจากนี้เขายังออกแบบสื่ออื่นๆ อย่างวิดีโอเกม และตั้งสำนักพิมพ์ของตัวเองในชื่อ Dragon’s Dream เพื่อตีพิมพ์ผลงานของตนทั้งโปสเตอร์ หนังสือ และสื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งขายได้นับล้านก็อบปี้ทั่วโลก ปัจจุบันดีนยังสร้างสรรค์งานศิลปะและดีไซน์ รวมถึงจัดแสดงนิทรรศการศิลปะอย่างต่อเนื่องทั้งกลุ่มและเดี่ยว อีกทั้งยังร่วมออกแบบโปรเจกต์สถาปัตยกรรมหลายต่อหลายครั้ง เช่น Willowater, Home for Life

ชมผลงานศิลปะเปี่ยมจินตนาการของเขาที่ www.rogerdean.com