เรื่อง : อภิศักดิ์ บุญมาลี
ภาพ : บันสิทธิ์ บุณยะรัตเวช

หากถามว่าในชีวิตนี้คุณรักใครมากที่สุด 3 ลำดับ

น้อยคนนักจะตอบว่า “รักตัวเอง”

งานศิลป์ภายใต้คอนเซ็ปต์ love yourself จึงชวนให้คนในสังคมเปลี่ยนความคิดแปลงมุมมองให้หันมาเห็นคุณค่าตัวเองผ่านผลงานกว่า 120 ชิ้น จาก 63 ศิลปินถ่ายทอดแนวคิดออกมาหลายมิติ

ภาพรวมของห้องจัดแสดงเน้นความเรียบง่าย ผนังสีขาว ประดับภาพวาดหลายเทคนิคพร้อมบรรยายคอนเซ็ปต์ของแต่ละผลงานไว้เรียบร้อย แม้ไม่มีความรู้ศิลปะก็มารับแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ให้ชีวิตได้

loveyourself01

love yourself ในพื้นที่ที่มีตัวตน

สะดุดตากับห้องดำสนิท กลางห้องตั้งโมเดลต้นไม้ขาวชื่อ “Boppha” แรงบันดาลใจจากบุปผาแตกกิ่งห้อยไม้ดอกประดับปั้นจาก Epoxy putty ประกอบร่างเป็นตุ้มหูโดยใช้รูปทรงของขาและตาตกแต่งเล่นสีประกาย เก๋ดี บนผนังประดับภาพในกรอบดำชวนจินตนาการถึงดอกไม้ ใบไม้ จากการเรียงร้อยขาและตาอย่างอิสระ ระหว่างตาชมหูยังได้เคลิ้มกับเสียงเพลงบรรเลงเบาชวนนึกถึงการแสดงบัลเลต์และบอร์ดเวย์

loveyourself02

“สักวันจะเป็นวันของเรา”

บิวตี้เจ้าของผลงานระหว่างขา ผู้เบ่งบานอีกครั้งจากความสับสนในอดีตที่เธอไม่อยากจดจำนัก หลังจบทัศนศิลป์ ศิลปกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

“ตอนเด็กโตมากับกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกาย ชอบที่สุดก็เต้นบัลเลต์ จำความได้ประมาณอนุบาลสอง แม่ให้เรียนหลังเลิกเรียน เข้าไปเรียนได้ไม่ถึง 15 นาที ก็ออกมาเพราะต้องขึ้นรถโรงเรียนกลับบ้าน ในใจคืออยากอยู่ตรงนั้นแต่ก็ไม่ได้อยู่ ไม่ได้ไปเรียนอีกเลยหลังจากนั้น เวลาผ่านไปจบมหาวิทยาลัย
ก็กลับไปเรียนคลาสสั้น ๆ แต่ร่างกายไม่สามารถต่อยอดไปทางนั้นได้อย่างคนที่เขาเรียนมาตั้งแต่เด็ก”

loveyourself03

คือเส้นทางผสานอวัยวะขากับตาเป็นผลงาน “ระหว่างขา”

แรงบันดาลใจง่าย ๆ จากสิ่งที่อยากทำในอดีตอย่างเต้นบัลเลต์แต่ไม่ได้ทำจริงจัง เธอเคยหยุดวาดรูป 2-3 ปี ไปวิ่งหาฝันด้านอื่น แต่ยังไงก็หนีไม่พ้น ในวันที่กลับมาจับกระดาษละเลงสีอีกครั้ง เธอเลือกวาดแค่ขากับตาซ้ำ ๆ ซ่อนเรื่องราวชีวิตผ่านอะคริลิคสีสดใสอย่างแดง ส้ม ชมพู เหลือง เขียว ม่วง ฟ้า

“วาดขาเพราะชอบลักษณะของขาเวลาเต้นบัลเลต์เมื่อสวมรองเท้าพ้อยต์ชูแล้วเขย่งจะเห็น กล้ามเนื้อแข็งแรง ส่วนตาก็เปรียบเหมือนผู้ชมการแสดงที่เราทำได้เพียงเป็นผู้ชมไม่สามารถเป็นนักเต้นอาชีพในโลกนั้นได้”

เวลาราว 20 นาทีที่ชมงานแสดงให้ห้องนี้รู้สึกถึงการพยายามหนีความเป็นตัวเองมองข้ามความสามารถด้านอื่น ๆ แต่ท้ายที่สุดเมื่อหันมาสำรวจความสามารถที่ตัวเองมีเราก็มีคุณค่าพอที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้

“อยากให้ภูมิใจในตัวเอง เรียนรู้และตกตะกอนกับตัวเองให้ได้ เรามีดีในแบบของเรา”

A Space to share (self) love พื้นที่มอบความรัก

loveyourself04

“โลกใบนี้กว้างใหญ่นัก ไม่ได้มีแค่เรา อยากให้พื้นที่นี้ได้เยียวยาความรู้สึกรักตัวเองของทุกคน”

Lilith Thayamontr (ลิลิต) ศิลปินผู้สร้างสรรค์งาน “Self love Elysium” ให้ห้องสีเขียวเข้มที่มีผีเสื้อเกาะกระจายอย่างอิสระเล่าถึงคอนเซ็ปต์ผลงานทั้ง 7 ภาพ 7 สีต่างกันปูพื้นด้วยพรมหญ้าสังเคราะห์สีเขียวเหมือนเดินอยู่ในสวนสวยสักแห่ง

“นี่คืองานแนว Abstract art ตอนแรกเลือกจัดแสดงชุดภาพที่เป็นซีรีส์ด่าแฟนเก่าแต่คิดไปคิดมาก็ตกตะกอนว่าเราไม่อยากส่งต่อ Negative energy ให้กับผู้คนอื่น เรื่องราวของเราไม่ควรเป็นความลำบากใจของใครอื่น”

เธอจึงวาดผลงานขึ้นใหม่แล้วหาวิธีใหม่ในการสื่อสารถึงการเห็นคุณค่าในตัวเองผ่านธรรมชาติที่แวดล้อมด้วยลวดลาย รูปร่าง รูปทรง แสง สี สร้างความรู้สึกหลายรูปแบบ เช่น ร้อน หนาว กลัว ฯลฯ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ชีวิตของผู้ชมตีความในแต่ละภาพ

“เราไม่ใช้คำว่า Garden ที่แปลว่าสวนทั่วไป แต่อยากเล่นกับคำว่า Elysium หมายถึงสรวงสวรรค์ หรือดินแดนแห่งความสุข มาจากตำนานกรีกโบราณที่กล่าวว่า Elysium หรือ elysian fields
เป็นสถานที่สำหรับเหล่าฮีโร่ที่ตายไปแล้ว ซึ่งได้รับความรัก ความเมตตาจากพระเจ้าให้ได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสงบในสวนแห่งนี้ แต่เราในฐานะที่ยังเป็นคนเป็นมีลมหายใจหัวใจยังเต้นอยู่ จึงจำลองสรวงสรรค์แห่งนี้ขึ้นและอนุญาตให้มนุษย์ด้วยกันเองมีพื้นที่ความสุขสงบและเปลี่ยนความคิดสร้างจินตนาการ”

loveyourself05

คนเรามีสวรรค์ในแบบของตัวเองได้ในจิตใจ รอบห้องที่รายล้อมด้วยผีเสื้อหลากสีก็สื่อถึงการเกิดใหม่ อีกนัยหนึ่งคือให้สติกับทุกคนว่าคนเราเริ่มใหม่ได้เสมอ ไม่มีคำว่าสาย ดั่งผีเสื้อพัฒนาตัวเองจากไข่ หนอน ดักแด้ และกลายเป็นผีเสื้องดงาม

“ผีเสื้อแต่ละตัวมีสีไม่เหมือนกัน สื่อถึงระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงรูปร่างต่างกัน เช่นเดียวกับที่มนุษย์เองก็มีแต่ละช่วงเวลาชีวิตเป็นของตน แม้วันนี้จะเป็นดักแด้อยู่ วันหน้าย่อมมีโอกาสเป็นผีเสื้อกลางปีกสวยงาม แม้ว่าวงจรของผีเสื้อจะอยู่ไม่นานก็ต้องตาย แต่ก่อนตายก็ย่อมมีการสืบเผ่าพันธุ์นำไปสู่การเกิดใหม่”

วัฏจักรชีวิตของผีเสื้อ มีการเจริญเติบโตแบบโฮโลเมตาโบลัส (holometabolous)
เปลี่ยนแปลงรูปร่างสมบูรณ์ 4 ระยะ คือ ไข่ หนอน ดักแด้ และตัวเต็มวัย แต่ละช่วงชีวิตล้วนมีความต้องการอาหาร สภาพแวดล้อมรวมถึงพบศัตรูต่างกัน ส่งผลให้ระยะเวลาเติบโตต่างกัน

มาลอง ๆ คิดดูมนุษย์ต่างก็มีช่วงจังหวะเวลาชีวิตและได้รับโอกาสต่างกัน แต่ก่อนจะตายจะทำอย่างไรให้ชีวิตมีความสุข

หากยังไม่มีแรงบันดาลใจแนะนำให้ลองหยิบผีเสื้อกระดาษที่อยู่รอบห้องสักหนึ่งตัว เลือกสีที่ชอบคลี่อ่านข้อความที่ซ่อนอยู่ด้านในกำลังใจเพียงไม่กี่ตัวอักษรอาจช่วยให้ชีวิตมีพลัง love yourself Be clean on how you want to be treated know your worth always รักตัวเองให้มาก ๆ รู้ว่าอะไรที่เธอควรได้รับรู้คุณค่าของตัวเองอยู่เสมอนะ เหมือนได้ของขวัญจากเจ้าของสวนสวรรค์แห่งนี้

loveyourself06

นอกจากลูกเล่นจากห้องจัดแสดงภาพวาดทั้ง 7 ภาพ ให้ความรู้สึกต่างกันขณะยืนดูสีตามชอบ
สีชมพู Gracias Soul รู้สึกรักทุกสิ่งในความรู้สึกและรักในตัวเอง, สีฟ้า Self Serenity รู้สึกสงบเย็นทางใจ,
สีเขียว Life Terra รู้สึกสบายใจ ปล่อยใจไปกับธรรมชาติ ดำรงตนอยู่อย่างพอเพียง พอใจในตัวเอง
ไม่เปรียบเทียบกับใคร, สีม่วง Tranquility รู้สึกหรูหรา Luxury มีคุณค่ามีราคาในแบบของตน,
สีพีชแปะทอง Glow up เล่นกับคำว่า Glow up แปลว่าการเจริญเติบโตเชื่อมั่นในตนเอง รอเวลาสักวันจะเปล่งประกายแสง, สีเหลือง Secred Shine รู้สึกมีพลัง เข้มแข็ง กล้าลงมือทำอะไรใหม่ ๆ และสีแดง Flame of the Soul จุดไฟให้ตนเองอีกครั้งเพื่อก้าวสู่เดินทางเส้นใหม่ด้วยความเข้มแข็งไม่กลัวต่ออุปสรรค

ความน่าสนใจยังอยู่ที่ทุกภาพจะมีรายละเอียดซ่อนอยู่ด้วยเทคนิคสื่อผสม ใช้สีตั้งแต่สองชนิดขึ้นไปผสมกันก่อนละเลงบนผ้าใบเช่น สีอะคริลิค สีไม้ หมึก ปากกา สีน้ำ เฉดต่างกันตกแต่งด้วยแผ่นทอง
กลิตเตอร์สีประกายแสงบ้างใช้เทคนิคพิเศษฟอร์มหมึกให้เป็นรูปใช้แอลกอฮอล์ทำให้ละลายกระจายตัวสีของมันเอง ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องรอคอยเวลาและใจเย็น เช่นเดียวกับการรังสรรค์ศิลปะโทนร้อนให้เย็นลง

ออกเดินทางต่อสู่โลกใหม่

เพราะเชื่อว่าทุกคนเกิดมาพร้อมปีกของตัวเอง The power of wing ปีกพาเราบินไปในสถานที่ที่อยากจะไป แม้ผ่านมรสุมแดดลมฝน อุปสรรคบาดเจ็บแค่ไหน ต้องประคองปีกของเราไปจนถึงฝั่ง นั่นคือ
บททดสอบชีวิตให้เราได้เรียนรู้เพื่อเติบโตอย่างแข็งแกร่ง บินด้วยปีกของตนย่อมสบายใจกว่ายืมปีกผู้อื่นเสมอ อย่างสุชาดา ลิมป์ ผู้ประสบความสำเร็จอีกคนในฐานะนักเขียนสารคดีที่ผ่านเรื่องราวทั้งร้ายดีเก็บมาพัฒนาตนเอง เก็บเรื่องราวความทรงจำ(สิ่งที่เคยทำ)ผ่านฟิล์มกล้อง Instant film ว่าครั้งหนึ่งโบยบินไปพบอะไรมาบ้าง ภาพวาด ภาพถ่ายความทรงจำตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบัน เสนอผ่านภาพวาดบนผ้าใบฉากหลังความจริงในความจำ แปะภาพจริงอีกชั้นเด้งเด่นออกมา เขียนข้อความไว้ขอบภาพเป็นหลักฐานบันทึกเรื่องราวให้หวนมาทบทวนช่วงเวลาผ่านมาที่โบยบินด้วยปีกของตัวเอง

loveyourself09

ยังมีอีกหลายห้องหลายมุมที่มากเกินจะนำมาเล่าเป็นตัวหนังสือ แนะนำให้ลองมาสัมผัสด้วยตนเองที่ห้างสรรพสินค้ายูเนี่ยนมอลล์ ชั้น 4 โซน co-art space เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า Bts สายสีเขียว สถานีห้าแยกลาดพร้าว และรถไฟฟ้าใต้ดิน mrt สายสีน้ำเงิน สถานีพหลโยธิน ยังจัดแสดงไปจนถึง 2 มี.ค. 2568

ส่วนตัวรู้สึกได้รับพลังใจเต็มเปี่ยมและไม่ลืมที่จะกลับมาหยุดยืนที่กระจกบานหนึ่งทรงสี่เหลี่ยมปลายมนที่แอบเล็งไว้แต่แรก บนกระจกติดกระดาษสีส้มเขียนอักษรด้วยลายมือต่างกัน ล้วนสื่อความหมายเป็นกำลังใจให้ผู้คนเห็นคุณค่าของตัวเอง อยากให้ใช้เวลาละเอียดทุกข้อความรับพลังใจดี ๆ จากคนแปลกหน้าแล้วย้อนนึกกลับมาถามตัวเองว่าวันนี้เรารักตัวเองมากพอหรือยัง ถ้ายังไม่แน่ใจก็ลองหาคำตอบจากการอ่านทั้งหมดใหม่อีกครั้ง อาจเจอข้อความที่เหมาะกับตนเอง

“รักตัวเองไม่เจ็บเลยสักวัน รักตัวเองให้มาก ๆ” “เธอเหมาะกับรอยยิ้ม”

loveyourself10