เรื่องและภาพ : ปัทมา กลิ่นทอง 

วิ่งเปลี่ยนชีวิต

“สุขภาพดีไม่มีขาย 

สร้างจากวินัยของตัวเอง” 

ข้างต้นคือปรัชญาชีวิตที่คุณตวง-นุชพร บุษปะบุตร แม่บ้านวัยเกษียณผู้มีฝีมือฉกาจด้านการทำอาหาร แต่ชีวิตผันแปรเป็นนักวิ่งมาราธอน 

จากคนที่เคยเป็นนักดูกีฬาทุกประเภท แต่ไม่เคยเป็นนักกีฬาเลยโดยเฉพาะเรื่องวิ่ง ไม่รู้แม้กระทั่งคำว่า “BIB” ซึ่งหมายถึงเบอร์วิ่งที่ติดบนอกเสื้อนักวิ่งว่าคืออะไร 

จนวันหนึ่งเธอจับพลัดจับผลูได้เป็นกรรมการจัดงานวิ่งให้โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พญาไท กทม. ที่เธอเคยเป็นศิษย์เก่าเมื่อ 40 กว่าปีก่อน

จุดเริ่มต้นในการวิ่งมาราธอนของเธอเริ่มจาก 

“วิ่งกับเพื่อนๆ แบบขำๆ” เธอเล่าอย่างอารมณ์ดี

หญิงแกร่งในขณะนั้นวัย 59 ปี ผู้มีจิตใจอ่อนน้อมถ่อมตน เริ่มจากฟันรัน (Fun Run) 3.5 กิโลเมตร แล้วค่อยๆ ไต่ระดับเป็น 10 กิโลเมตร (Mini Marathon) ที่สวนลุมพินี…

….วิ่งกระท่อนกระแท่น 1 ชั่วโมง 50 นาทีในวันพ่อ (5 ธันวาคม 2559) วิ่งเพื่อพ่อในระยะ 10 กิโลเมตร ได้รางวัลเป็น “พระบรมสาทิสลักษณ์ของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9” ถึงกับเก็บขึ้นหิ้งบูชาจนถึงทุกวันนี้

จวบจนวันที่ขึ้นรุ่น 60 ปี คุณตวงก็ไต่ระดับมาเป็นนักวิ่งระยะทาง 21 กิโลเมตรของ “ครูดิน”-“สถาวร จันทร์ผ่องศรี” เป็นโครงการบ้านวัดใจ ต้องใช้เวลาฝึกนานเกือบ 6 เดือน ฝึกโหดจนคิดท้อแท้ (เพราะงานประจำคือทำบริษัททัวร์ก็รัดตัวอยู่ไม่น้อย) ไม่อยากฝึกต่อ จนได้รับฉายาจากเพื่อนๆ ว่า “ต.งอแง” นึกถามตัวเองว่า

“เราแก่ขนาดนี้แล้วมาทำอะไรอยู่ตรงนี้?”

“ทำไมต้องเหนื่อยขนาดนี้?”     

“เราบ้าไปหรือเปล่าเนี่ย?”     

runchange03
runchange04

แต่เมื่อคิดสะระตะแล้วก็รวบรวมพลังจิตของตัวเองฮึดสู้ ฝึกต่อตามตารางอย่างเคร่งครัด โดยมีเพื่อนร่วมรุ่น ตอ. 37 (เตรียมอุดมศึกษารุ่นที่ 37) – สมรัก สุรินทร์รัฐ ช่วยเป็นโค้ชให้อย่างเข้มข้น หนำซ้ำยังชวนคุณสามี – พ.ต.อ สุรศักดิ์ บุษปะบุตร ไปเปิดโรงแรมเพื่อพักค้างใกล้จุดปล่อยตัวนักกีฬาวิ่ง เพราะเกรงว่าจะตื่นไม่ทันในวันแข่ง ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ วิ่งครบระยะทางที่กำหนดใน 3 ชั่วโมง ได้รับถ้วยรางวัลใบแรกในชีวิต ทำให้มีกำลังใจขึ้นมาก น่าอิจฉาคุณตวงสุดๆ นอกจากมีเพื่อนดีช่วยฝึกซ้อม ยังได้สามีที่เข้าใจ ส่งเสริมเรื่องสุขภาพ ด้วยการขับรถรับ-ส่งตลอดเกือบทุกครั้งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

วิ่งไป-วิ่งมาผ่านมาแล้ว 3 ปีเศษ กวาดรางวัลถึง 32 รางวัล จนบ้านแทบไม่มีที่ให้เก็บถ้วยและเหรียญรางวัล ขณะนักวิ่งในวัยเดียวกันลงสนามมายาวนานราว 20๘- 30 ปี นับว่าคุณตวงเป็นนักวิ่งที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดคนหนึ่ง จะเห็นได้ว่า “วัย” และ “เพศ” มิได้เป็นอุปสรรคต่อการวิ่งมาราธอนเลย 

 “การวิ่งสามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย” คุณตวงย้ำหนักแน่น 

นอกจากรางวัล คือการชนะใจตัวเอง!

การวิ่งได้เปลี่ยนชีวิต ทำให้เธอกลายเป็นคนมีวินัย เข้มแข็ง จิตใจหนักแน่นและนิ่งกว่าเคย ที่สำคัญสุดคือ สุขภาพดี ห่างหมอ ห่างโรงพยาบาล ไม่เจ็บไข้ออดๆ แอดๆ เหมือนก่อน ร่างกายแข็งแกร่งแบบนักวิ่งอย่างเห็นได้ชัด 

เหมือนที่เขาว่ากันว่า “สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง” 

ไต่ผาสูงชัน บุกป่าฝ่าดง ลุยโคลนพื้นดินเฉอะแฉะ ต้านลม ต้านฝน  หกล้มหกลุกจนได้แผลทั้งหัวเข่าและข้อศอก ก็มิได้เป็นอุปสรรคต่อแรงศรัทธาในการวิ่งของเธอ คุณตวงฝ่าไปด้วยใจมุ่งมั่น ไม่รู้สึกเบื่อหากไม่มีอาการบาดเจ็บในครั้งนั้นๆ และมักจะท่อง “คาถาชินบัญชร” ขณะวิ่งด้วยใจเบิกบาน

runchange05
runchange06

ต่อข้อถามว่า “มีอะไรจะทิ้งไว้ให้ผู้อ่านไหม?”

“มาวิ่งเปลี่ยนชีวิตกันเถอะค่ะ รับรองว่าชีวิตคุณจะไม่เหมือนเดิม นอกจากความสุขในการวิ่ง เพราะร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟิน-สารแห่งความสุข แล้ว สุขภาพของคุณจะดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ” คุณตวงกล่าวเชิญชวน “แม้จะมีค่าใช้จ่ายบ้าง แต่ก็คุ้มสุดคุ้ม ยิ่งถ้าไปวิ่งแข่งมาราธอนต่างจังหวัด ก็ถือว่าได้เที่ยวไปในตัว ทั้งยังพบกัลยาณมิตรคอเดียวกันมากมาย”

หากถามว่า “การวิ่งครั้งใดประทับใจที่สุด?”

“การวิ่งครั้งที่ได้ที่ 1 ที่โรงเรียนตัวเอง คือโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพญาไทสิคะ” เป็นคำตอบของคุณตวง-นุชพร บุษปะบุตร ไอดอลของน้องๆ หลานๆ แห่งชมรมวิ่งเตรียมอุดมศึกษา… 

…นักวิ่งหญิงแกร่งวัย 62 ปีในวันนี้!!

___________