เรื่องและภาพ : ศิริกุล ไชยราช

ฉันเพิ่งดูข่าวคู่รักดาราขับรถออกไปเติมน้ำมันตอนดึก เพราะกลัวตอนเช้ารถจะติด แล้วเจอลุงคนหนึ่งยืนหลับอยู่ข้างรถเข็นริมถนน ทั้งสองเข้าไปสอบถามจึงทราบว่าลุงมีอาชีพเก็บของเก่าขาย วันนี้ลุงเดินมาจนดึกรู้สึกเพลียและง่วงมากจึงงีบหลับ ทั้งสองพยายามให้เงินลุง เพื่อให้เขาเลิกงานกลับไปพักผ่อน แต่ลุงกลับปฏิเสธ บอกว่า เงินเป็นของหายาก จะมาให้กันง่ายๆ ได้อย่างไร แล้วให้ทั้งคู่เก็บเงินไว้กินข้าว แต่ทั้งสองก็คะยั้นคะยอให้ลุงเก็บเงินไว้ ตัวเองยังมีพอใช้ พยายามอธิบายเหตุผลจนลุงใจอ่อนยอมรับเงิน

ความสุขมีเสียง

ฉันลองคิดเล่นๆ ลุงจะรู้ไหมว่าเสียงปลุกให้ตื่นซึ่งน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของความรำคาญใจนั้น กลับกลายเป็นเสียงที่นำความสุขมาให้ทั้งสองฝ่าย

ฉันไม่เคยคิดถึงเสียงของความสุขมาก่อน จนมาพบความสงบภายในใจไม่นานมานี้ ถ้าให้อธิบายเกี่ยวกับเสียงที่ทำให้คนทั่วไปมีรอยยิ้ม อิ่มใจ คงไม่ต่างกันมากนัก เช่น เสียงเพลงจากนักร้องคนโปรด สำหรับคนเป็นพ่อแม่ คำพูดแรกจากปากลูกตัวน้อยทำให้พวกเขาตื่นเต้นตลอดสัปดาห์ เสียงกระทบกันป๊อกๆ ของสากกับครก เสียงหั่นผักฉับๆ บนเขียง หรือเสียงฉ่าเวลาทอดอาหารลงในน้ำมันเดือด ก็เป็นเสียงสวรรค์ของคนชอบทำอาหาร เสียงหัวเราะหยอกล้อในกลุ่มเพื่อนในโรงอาหารของโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ก็สามารถดึงเรากลับสู่อดีตอย่างง่ายดาย รู้สึกมีชีวิตชีวาเสมอเมื่อคิดถึง หรืออาจเป็นเสียงที่หวังให้เกิดในอนาคต อย่างเสียงปรบมือดังสนั่นจากพนักงานทั้งหมดในบริษัทเมื่อเราทำงานใหญ่สำเร็จ บางทีเสียงที่คิดว่าไพเราะอาจมาจากเครื่องนับเงินที่ทำงานขันแข็งอยู่กับเงินปึกแล้วปึกเล่าของเราทั้งวัน

soundhappy02
soundhappy03

แต่เสียงที่ปรับอารมณ์ฉันให้เบิกบานไม่ได้มาจากเมื่อวานหรือพาก้าวไปสู่วันพรุ่ง ทว่ามันคือเสียงเม็ดฝนซ่าๆ ในหูขณะฉันกำลังนอนต่างหาก แม้จะเลยหน้ามรสุม แต่เสียงฝนของฉันยังตกทุกที่ทุกเวลาเสมอตามใจปรารถนา เพราะเสียงธรรมชาติหาได้ในพริบตาตราบเท่าที่มีอินเทอร์เน็ต

จุดเริ่มต้นในการค้นหาเสียงที่ทำให้ฉันสงบนี้เกิดจากอาการนอนไม่หลับ ฉันเข้าเว็บไซต์หาเพลงที่ทำให้หลับสนิท แล้วได้รู้ความจริงข้อหนึ่งว่า เสียงฝนตกช่วยให้หลับลึกและมีคุณภาพ เพราะเป็นเสียงประเภท white noise อยู่ในช่วงความถี่ 20 เฮิรตซ์ถึง 20 กิโลเฮิรตซ์ ซึ่งเป็นระดับที่หูมนุษย์ปรกติจะได้ยิน ตัวอย่างที่ดีของเสียง white noise คือเสียงฝนตก เสียงคลื่นทะเล เสียงน้ำตกตามธรรมชาติ เราจะได้ยินเสียงออกมาอย่างสม่ำเสมอ

แต่ตามหลักการเสียงเหล่านี้มีความถี่ไม่คงที่ (random) เสียงซ่าจะกระจายไปในหลายความถี่ รวมทั้งในช่วงที่หูมนุษย์ได้ยินด้วย ซึ่งหูของเราจับเสียงได้เฉพาะที่มีความถี่เท่าๆ กันอยู่ตลอดเวลาเป็น background จึงทำให้ไม่เกิดช่องว่างหรือรอยต่อของความดังเสียง เมื่อสมองไม่สามารถจำแนกว่าความถี่ใดดังกว่า จึงถูกกระตุ้นความสนใจน้อยลง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมตอนฟังเสียงฝนถึงรู้สึกผ่อนคลาย จากนั้นฉันก็ทดลองฟังเสียงแบบต่างๆ ทั้งฝนตกในป่า กระทบหลังคา บนถนน เสียงฝนฟ้าคะนอง ซึ่งล้วนให้ผลไม่ต่างกัน

soundhappy04
soundhappy05

ใครจะคิดว่าเสียงแห่งความสุขของฉันจะอยู่ใกล้แค่ปลายนิ้ว เป็นความสุข ณ ปัจจุบันที่ไม่ต้องขวนขวาย เพียงเปิดเสียงซ่าๆ ไม่กี่นาที สมองจะละความเครียดทั้งหลายลงไป ตอนเป็นเด็กฉันคิดว่า ยิ่งคิดเก่งยิ่งดี จะได้ทำสิ่งใหม่ นำความรู้ไปช่วยแก้ปัญหาผู้อื่น หรืออาจแสดงถึงการมีจิตใจอ่อนโยนคอยห่วงใยคนรอบข้าง พอโตถึงคิดได้ว่า การหยุดคิดก็สำคัญ คนแต่ละช่วงวัยมีความกังวลต่างกัน วัยทำงานที่แบกความรับผิดชอบ ความคาดหวัง และคำตัดสินไว้เต็มบ่า ก่อนหลับตาลง ก็อดไม่ได้ที่ข้อมูลหลากหลายและเสียงผู้คนโหวกเหวกจะวนเวียนอยู่ในหัว ฉันเคยเหนื่อยที่ยังลืมตากลางดึก มองภาพในห้องเป็นสีขาวดำจากดวงไฟดับสนิท

เสียงซ่านั้นช่วยลดความกระวนกระวาย เหมือนมีปุ่มค่อยๆ ลดเสียงรบกวนให้เบาลงจนเงียบนิ่ง ฉันอยู่ในภาวะสุขสงบ มีเพียงฉัน เสียงฝน และหัวใจเปี่ยมสุข แถมฉันยังชอบตัวเองมากขึ้นที่ได้ปล่อยความกดดันและความคิดลบๆ ออกไปบ้าง บางครั้งก่อนผล็อยหลับฉันกระซิบกับตัวเองว่า เก็บแรงไว้เริ่มต้นใหม่วันต่อไปดีกว่า ช่วงเวลาสุดท้ายของวัน ฉันรู้สึกภูมิใจที่ได้ทำทุกอย่างเต็มที่ ขอบคุณเสียงฝนที่มาเป็นความสุขเรียบง่ายในชีวิตฉันท่ามกลางราตรีอันมืดมิดและเงียบสงบนี้