เรื่องและภาพ : มนตรี คำสิงห์

เถียงนา - ใจดวงใหม่...ในแผ่นดินผืนเดิม

“หญ้าสูงขึ้นท่วมท้นจนมองไม่เห็นเรือนยอดของมะม่วงบางต้น นาข้าวข้างๆ นั่นก็เต็มไปด้วยหญ้ารกเรื้อกระจายเต็มแปลง นี่ถ้าไม่เห็นคันนา คงไม่รู้เลยว่าพื้นที่แห่งนี้เคยมีชีวิตชีวามาก่อน…” บันทึกสั้นๆ ที่ผมเขียนไว้เมื่อราว 10 ปีก่อน ก่อนจะเก็บความคิดในการลงมือทำบางสิ่งกับผืนดินไว้ แล้วถอยหลังถอนตัวจากไป

การจากไปครั้งนั้น ผมไม่คิดหรอกว่าจะได้หวนคืนมาอีกหรือไม่ กระทั่งผ่านมากว่า 10 ปีผมจึงได้กลับมายืน ณ จุดเดิมอีกครั้ง และครั้งนี้…สภาพแวดล้อมก็ยังเป็นเหมือนวันนั้นไม่เปลี่ยนแปลง

“แล้วหัวใจล่ะ จะเริ่มลงมือทำ หรือจากไปเช่นวันคืนเก่าๆ นั้น” ผมถามตนเองขณะยืนมองผืนดินที่ครั้งหนึ่งเคยจากมันไป

. . .

newheart01

ผมลงมือถาง เปิดพื้นที่อันรกเรื้อด้วยเครื่องตัดหญ้า จอบ และมีดที่มี

ราวสัปดาห์…ผืนดินที่เคยถูกปกคลุมด้วยวัชพืชมากมายก็เริ่มเผยตัว และผิวดินแต่ละคืบแต่ละวาที่ถูกเปิดเปลือยนั้นไม่ต่างอะไรจากการได้รื้อฟิ้นเรื่องราวเก่าๆ ที่ครอบครัวเรามีต่อผืนดินแห่งนี้ให้คืนสู่ความทรงจำอีกครั้ง

จากรกเรื้อสู่โปร่งโล่ง แต่นั่นก็ใช่จะเป็นไปในทุกตารางเมตร

ด้วยเรี่ยวแรงที่มี อีกทั้งยังเป็นงานที่ไม่เคยลงมือมาก่อน ผมจึงเลือกทำเฉพาะพื้นที่ที่วางแผนเอาไว้ แต่เพียงพื้นที่ที่ไม่มากนัก นั่นก็เล่นเอาชาวสวนมือใหม่งอมพระรามกันทีเดียว

ครั้นพื้นที่เปิดโล่งตามต้องการ งานต่อมาก็หมายลงมือก่อร่างสร้างเถียงนาไว้หลบแดดกันฝน

“เถียงนา”…ใช่ มันก็เป็นเถียงนาเช่นที่เรารู้จักมักคุ้น แต่ด้วยความรู้อันน้อยนิด หัวใจก็ให้หวาดหวั่นและไม่แน่ใจนักว่ามันจะเป็นไปตามแบบแปลนที่คิดไว้หรือไม่

ขณะหัวใจหวั่นวิตก กัลยาณมิตรรอบกายที่เฝ้าดูกันมาตลอดต่างอาสามาร่วมแรง เช่นนั้น…งานก่อร่างสร้างเถียงนาจึงเริ่มต้นขึ้น

งานก่อสร้างที่เราทำจากสิ่งที่มี… เริ่มจากเสาไม้เก่าของบ้านตายายที่กองเก็บซ้อนกันอยู่ท่ามกลางฝูงปลวก ก็รื้อค้นมาทำความสะอาด ก่อนจะยกย้ายมาปักหลักเป็นฐานให้กับเถียงนา

แต่เพียงคิดถึงการขนย้ายเสาไม้อายุกว่าร้อยปีที่ทั้งยาวและหนัก นั่นก็สร้างความลำบากใจให้กับมือใหม่ไม่น้อย ก็ได้กัลยาณมิตรอีกนั่นแหละ ที่ทั้งแนะนำและลงมือทำให้เห็น จากงานหินเราจึงสามารถขนย้ายเสาไม้เหล่านั้นมายังพื้นที่ได้เป็นผลสำเร็จ

พลันที่เสาต้นแรกถูกปักลงในผืนดิน เถียงนาที่เคยเป็นภาพในใจจึงเริ่มเป็นรูปเป็นร่างในความเป็นจริง

เราลงงานก่อสร้างจากตอกตะปูไม่เป็น ก็พยายามฟัง สังเกต และเรียนรู้ไปด้วยกัน เมื่อเวลาผ่านไป เราเป็นงานกันมากขึ้น จึงค่อยๆ พัฒนาจากงานเล็กไปสู่การวางตง พาดพื้น ขึ้นไปยังขื่อคาน ตั้งดั้ง ใส่จันทัน จนถึงมุงหลังคานั่นเลยทีเดียว

งานก่อสร้าง งานลงแรงที่มันไม่เพียงช่วยพัฒนาตัวตนคนลงมือเท่านั้น หากขณะทำงาน การได้พูดคุย ยิ้มแย้ม แหย่เย้า ยังสร้างมิตรภาพระหว่างมิตรสหายให้ผลิบานและงดงามอยู่ในหัวใจของเรา

“เรา” ที่หมายรวมทั้งแม่ พี่สาว ญาติสนิท และกัลยาณมิตรที่ทั้งมาเดี่ยวหรือยกกันมาทั้งครอบครัว

ด้วยบรรยากาศการงานที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเช่นนี้ ทำให้พื้นที่ที่เคยถูกทิ้งร้างมานับสิบปีค่อยคืนสู่ความมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

กว่า 3 เดือนของการร่วมแรงร่วมใจ ในที่สุด “เถียงนา” ก็เสร็จสิ้นลง วันสุดท้ายของการงาน เรานั่งรวมกันบนระเบียงไม้ บ้างต้มน้ำต้มกาแฟ บ้างหุงหาอาหารกินกัน พร้อมกับแลกเปลี่ยนเรื่องราวที่เกิดขึ้นขณะได้ลงแรงร่วมกัน

รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ดังไปทั่วบริเวณ ความสุขอวลอยู่รอบผืนดินและในหัวใจของทุกคน

เมื่อเถียงนาเสร็จสิ้น ก็หมายถึงเป็นจุดเริ่มต้นของงานอีกมากมาย…งานที่จะทำให้ผืนดินกลับมาเป็นเช่นเดียวกับเมื่อสมัยตายาย ที่ท่านปลูกสร้างสิ่งต่างๆ ด้วยเรี่ยวแรงก็เพื่อให้เป็นมูนมังของลูกหลาน หากลูกหลานเมื่อเติบโตต่างก็มีวิถีชีวิตที่พาให้ห่างเหินออกจากการงานในไร่นามากขึ้นทุกที

newheart02
newheart04

เช่นนั้น…ผืนดินของครอบครัวจึงถูกทอดทิ้ง จากวัน เดือน กลายเป็นปี จากปีก็ล่วงสู่สิบปี

แต่แล้ว…เมื่อชีวิตเดินทางมาถึงวันหนึ่งวัยหนึ่ง เมื่อเราได้เห็นความสุขที่หายไปจากชีวิตประจำวัน อีกทั้งความเปลี่ยนแปลงในสิ่งรอบตัวที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว บางสถานการณ์ก็ถึงกับเปลี่ยนชีวิตเปลี่ยนโลกกันเลยทีเดียว

เช่นนี้เองที่ทำให้ลูกหลานได้หวนกลับมาทบทวนชีวิต ถึงความเป็นมาและจะเป็นต่อไปร่วมกัน…

สุดท้ายเราก็ได้ข้อสรุปว่า การกลับสู่ผืนดินของบรรพบุรุษคือแนวทางชีวิตอันยั่งยืนของทั้งครอบครัวและมิตรสหายอย่างแท้จริง

. . .

newheart05
newheart06

“วันนี้ผมยังไม่พร้อมที่จะกลับมาอย่างจริงจังหรอกนะ แต่คงมีสักวันที่ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง…” ผมอ่านถ้อยสุดท้ายจากบันทึกสั้นๆ ที่เขียนไว้เมื่อ 10 ปีก่อน บนระเบียงเถียงนาที่เพิ่งแล้วเสร็จ

เมื่อสิ้นความในบันทึก ผมมองออกไปยังผืนดินเบื้องหน้า ผืนดินของครอบครัวที่วันนี้เราเพียงเริ่มลงมือ จึงยังไม่ได้มีดอกผลจากพืชพันธุ์ให้เก็บเกี่ยวนัก

แต่ในวันนี้ ขณะนี้ ผมได้เห็นและสัมผัสมันด้วยตนเองแล้วว่า เพียงเริ่มต้น เรี่ยวแรงของเราก็พลิกฟื้นให้สัมพันธภาพของครอบครัวและมิตรสหายที่ห่างเหินกันไปนานได้กลับมางอกงามในหัวใจของทุกคนอีกครั้ง

หัวใจของทุกคนที่ทำให้หัวใจของผมเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน

. . .

newheart07

ผมปิดสมุดบันทึก เก็บมันไว้ในกระเป๋าใบเดิม ก่อนจะสวมหมวกปีกใบเก่ง แล้วเดินออกไปพร้อมเครื่องตัดหญ้า มุ่งหน้าสู่งานที่ยังทำค้างเอาไว้

ขณะสตาร์ตเครื่องตัดหญ้า หัวใจของผมกลับมองไม่เห็นชายคนนั้นอีกแล้ว ชายคนที่วันหนึ่งได้เคยเดินหนีไปจากผืนดินแห่งนี้…

งานก่อสร้างที่เราทำจากสิ่งที่มี… เริ่มจากเสาไม้เก่าของบ้านตายายที่กองเก็บซ้อนกันอยู่ที่