พีรสิชฌ์ สุทธิพงษ์ : เรื่อง
ณัฐนนท์ ณ นคร : ภาพ

“จอดที่นี่เลยครับ”

ตึกสีขาวที่ไม่ค่อยขาว มันเปื้อนคราบฝุ่นจากสงครามกาลเวลา เดินเข้าไปหวังจะสอดส่องภายในประตูกระจก เห็นความรกร้างที่ไม่ได้ใช้งาน เป็นบาดแผลฉกรรจ์จากสงครามเชื้อไวรัส

“โรงเรียนสอนมวยอยู่ตรงไหนครับ” ผมถามรบกวนความว่าง รปภ. ด้านหน้า

“ด้านบนตึกจอดรถครับ ชั้น 5 เลย แต่คุณต้องเดินขึ้นบันไดนะครับ ที่นี่เขาตัดไฟแล้ว” ป้าย Lumpinee Academy Grand Muay Thai กระพือตามแรงลม หล่นร่วงเมื่อไรคงขึ้นอยู่กับอายุขัยของเชือกที่ยึดมันไว้

สนามมวยเวทีลุมพินี หากจะนึกถึงตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2499 โดยพลตรี ประภาส จารุเสถียร ที่ถนนพระรามที่ 4 แขวงลุมพินี ความยิ่งใหญ่ก็สูสีตีคู่มากับสนามมวยราชดำเนิน และยังเป็นศูนย์รวมเศรษฐกิจสำคัญโดยเอกลักษณ์ของคนไทยที่ดังไปทั่วโลกอย่างมวยไทย จนถึงปี 2557 สัญญาเช่าระหว่างสนามมวยเวทีลุมพินีกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์กำลังจะหมดสิ้นลง ทางคณะกรรมการบริหารสนามมวย ซึ่งเป็นกิจการของกองทัพบก ได้ย้ายเวทีมาสถานที่แห่งใหม่ในพื้นที่ของศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก ณ ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ ในปี 2563 ไม่ว่าความรุ่งโรจน์ในอดีตจะมีมากมายแค่ไหน ปัจจุบันสนามมวยเวทีลุมพินีในความหวนระลึกนึกถึงเหลือแต่ว่าเป็นแหล่ง super spreader ของ COVID-19 เมื่อวันที่ 6 มีนาคม

“แต่ก่อนคนเยอะเลย เห็นว่าตึกจอดรถเต็มถึงสี่ห้าชั้นเลยแหละ” มอเตอร์ไซค์รับจ้างกล่าว

เสียงกึกก้องที่ได้ยินทุกย่ำเท้าไม่ใช่ความยิ่งใหญ่ของที่จอดรถสนามมวยอันโด่งดัง แต่เป็นเสียงร้องดีใจของบันไดเหล็กหลังจากใช้ชีวิตในบรรยากาศไร้อารมณ์ฝูงชนมนุษย์มานาน ความว่างเปล่าตั้งแต่ชั้น 1 2 3 และ 4 ส่งกลิ่นเหงาอย่างรุนแรง สิ่งเดียวที่คอยบูรณะเติมแต่งภายในอาคารจอดรถอยู่เป็นขนนกพิราบจำนวนมากกับมูลสีขาวใสทั่วบริเวณท่อ ราวจับ และจุดจอดรถ

Lumpinee Academy ลุมพินีอะคาเดมี : กระดูกไม่ได้แข็งเสมอไป

Warm up

“มาเรียนเหรอครับ?” ผู้ชายร่างอวบกับผมม้าเรียบเนียนหันมาด้วยหน้าตาประหลาดใจ

“ใช่ครับ” ผมตอบเขา และมอบสีหน้าประหลาดใจคืน

“ไม่ได้มีนักเรียนเดินเข้ามาสมัครนานแล้วครับ” ด้วยหน้าตาที่ยังประหลาดใจค้างอยู่แบบนั้น ท่าจะจริง

“งั้นมาวิ่งอุ่นเครื่องกันเลยครับ”

Lumpinee Academy Grand Muay Thai เปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 ตุลาคม 2558 มาถึงปัจจุบัน อาคารจอดรถชราภาพเปิดสังขารให้ลมสูงโอบกอด พื้นยางและเวทีแห้งผากไร้กลิ่นฉุน ไม่มีเสียงถูกกระแทกหรือทำร้ายของกระสอบทราย ไม่มีเสียงลำคอสำรอกความเหนื่อยเป็นการตะโกน กลิ่นเหงื่อสลายกลายเป็นลมโพล้เพล้ มันผิดกับบรรยากาศสนามซ้อมมวยที่ตาหูจมูกรู้จักมักคุ้นในอดีต และหนุ่มร่างอวบกับผมม้าเรียบเนียนก็เดินมา ท่าทางกระสับกระส่ายผสมสับสน ไม่ใช่พนักงานต้อนรับแน่นอน แต่เขาคงเป็นหนึ่งในเส้นเชือกที่ประคองร่างป้ายสนามด้านหน้า

“ผมชื่อมังกรครับ เป็นครูฝึกซ้อม พี่อาจจะไม่เชื่อเพราะหุ่นกับพุงผมก็ได้” จากหน่วยก้านภาษาแล้ว วรธิตณ์ วรมานิน หรือมังกร หนุ่มปี 3 จากมหาวิทยาลัยศรีปทุมคนนี้ ลีลาคำพูดท่าจะชวนบันเทิง

“ผมเริ่มเล่นประมาณ ม.4 จริงๆ รู้จักมวยไทยตั้งแต่อนุบาล เพราะพ่อเป็นนักมวยเก่า สมัยเด็กบ้านไม่ค่อยมีเงิน ครั้งหนึ่งผมโดดเรียนไปงานวัด เจอเวทีมวยเลยลองต่อยปิดตาตับจาก”

ความงุนงงไม่รีรอให้เริ่มเปลี่ยนชุดเล่นทันที หลังกระสอบทรายเป็นเก้าอี้วางสัมภาระกับทิวทัศน์บนชั้น 5 ขึงด้วยผ้ากันลมสีดำตลอดชั้น วิถีนักมวยบ่งบอกว่าเสื้อผ้าท่อนบนเป็นสิ่งสิ้นเปลืองจากการขยับร่างกายเต็มส่วน เท้าผมบ่นอุบอิบกับความดำในชั่วพริบตาของมัน เหตุจากพื้นยางที่เคลือบประวัติศาสตร์เท้าคนมามาก 15 นาทีไหลผ่านไปตามนาฬิกาผืนผ้านับเวลา เหงื่อไคลเริ่มไหลออกตามซอกตัว มังกรอธิบายว่าการอบอุ่นร่างกายสำคัญมากสำหรับนักมวยและทุกการออกกำลังกาย เพราะมันคือการให้หัวใจเตรียมพร้อมจะสูบฉีดเลือด แม้กระทั่งคนที่แข็งแกร่งแล้วก็ขาดไม่ได้

“ช่วงหนึ่งที่ผมกำลังแข็งแรง ไม่มีใครอยากล่อเป้าผมเลย” ล่อเป้าเป็นการซ้อมออกอาวุธต่างๆ ของผู้ซ้อมกับผู้ฝึก ทั้งหมัด เตะ เข่า ศอก ถีบ และสารพัดจะออก หากร่างกายผู้ฝึกไม่ทนทานพอจะรับการละเลงแรงของผู้ซ้อม ผู้ฝึกมีสิทธิ์เป็นผู้โดนซ้อมเอง

“แรงผมเยอะมาก ครูหนึ่ง ร้อยตรีประทาน วรมานิน เจ้าของค่ายยอมล่อเป้าให้ผม เราคิดเสมอ ซ้อมทุกครั้งต้องใส่ให้เต็มที่ ผมเตะรัว ปัง ปัง ปัง ห้าทีไปเรื่อยๆ ครูหนึ่งวางเป้าแล้วเดินไปเลย จนวันหนึ่งผมเจอฝรั่งสูงเกือบ 2 เมตร ยืนต่อยเตะกระสอบรอ ครูหนึ่งบอกว่าไม่ไหว แรงมันเยอะ ล่อเป้าไม่ไหว แต่ผมคึกไง ตอนนั้นขยันซ้อมด้วย ผมก็เข้าไปเรียกเขาล่อเป้าเลย พอเขาเตะผมครั้งแรกครับ เป้ากระแทกหน้าผมช้ำเลย ผมพยายามเก็บอาการเหนื่อย แต่ซ้อมเสร็จก็ล้าไปทั้งตัว”

lumpini03

ย่างก้าว เท้าและขา

“การเริ่มวิ่งอุ่นเครื่องเป็นสิ่งสำคัญมากนะครับ ร่างกายเราจะต้องถูกกระตุ้นให้พร้อมก่อนซ้อมเสมอ หลายคนขี้เกียจ เริ่มออกกำลังทันทีแล้วกล้ามเนื้อยังไม่ตื่นตัว มีสิทธิ์เจ็บป่วยหรือฉีกขาดได้ มิหนำซ้ำเรี่ยวแรงก็จะไม่มากเท่าอุ่นเครื่องก่อนอีกด้วย ว่าแต่พี่ จับเข่าเร็วจังเลยนะคร้าบ” ภาพที่ผมเห็นเป็นพื้นแทนหน้าครูฝึกไปตั้งแต่เมื่อไรกัน

และหลังรีดเหงื่อ ร่างก็เตรียมดูดซึมทักษะ

“ยืนในช่องสี่เหลี่ยมเลยครับ” สี่เหลี่ยมเก้าช่องจากสกอตช์เทปมีขนาดเท่าฝ่าเท้าสองข้าง ประโยชน์คือมีไว้สอนยืนและย่างให้ถูก การจัดท่วงท่าให้พร้อมต่อสู้ต้องทำโดยเคยชิน หากถนัดขวา ขาซ้ายต้องนำหน้า ย่างไปด้านหน้า ขาซ้ายต้องไปก่อน เพื่อขาขวาจะกลายเป็นอาวุธที่ใช้เหวี่ยงแข้งใส่คู่ต่อสู้ ซึ่งคู่ต่อสู้ด้านหน้าคือตัวผมเองในกระจกกว้างกำลังหัวเราะตนเองด้วยท่าที่เก้กังและปวกเปียก มังกรบอกให้ย่างไปซ้าย ขวา หน้า หลัง วนเป็นสี่เหลี่ยม สมาธิก็เหนื่อยได้ โดยไม่ต้องวิ่งเตะต่อยกระจุยกระจายด้วยซ้ำ แถมบั่นทอนแรงความคิดในสมองอีก

“เราเคยเปิดที่นี่ให้เด็กมาเล่นฟรีด้วยนะครับ ช่วงแรกๆ ให้เด็กแถวนี้มาเล่นเลย เราคิดว่าอย่างน้อยก็ให้เด็กได้ออกกำลังกาย แข็งแรง มีทักษะไว้ป้องกันตัว คนไหนอยากจะฝึกฝนต่ออีกก็ฝึก” ท่าทีและน้ำเสียงมังกรแผดความสุขุมออกมาเมื่อพูดถึงเด็กที่ผ่านมือและลำแข้งจากเขา และหนึ่งในตัวอย่างผลิตผลเด็กจากที่นี่คือ นัท-โสภณัฐ ยิ้มใย จากชุมชนในสนามกอล์ฟติดกับสนามมวยเวทีลุมพินี เป็นที่พักของเหล่าคนงาน

“พ่อผมอยากให้ผมกับน้องออกกำลังกาย ตอนนั้นน้องผมมาฝึกก่อน พ่อก็ตื๊อให้ตามน้อง ผมก็มา สักพักครูหนึ่งก็ให้ผมซ้อมพร้อมน้องเลย ซ้อมมาปีกว่าครูก็ให้ลองล่อเป้า แล้วเขาก็ชวนผมมาช่วยสอน แต่ผมสอนแค่พื้นฐาน เพราะเชิงไม่เป็น ถึงตอนนี้ผมฝึกมาเกือบ 6 ปีแล้วครับ เดือนนี้ก็มาบ่อยหน่อย กำลังผ่อนคอมพ์ครับ”

แต่เดิม นัทกับการเข้าสังคมไม่ค่อยไปด้วยกัน นัทพูดไม่เก่ง และที่นี่คือสังคมใหม่ที่สร้างขึ้นในใจของเขา

ส่วน โจภัทร-ธนภัทร ยิ้มใย ชายหนุ่มวัย 16 ปี ก็มีจุดเริ่มต้นใกล้เคียงกับนัท

“พอผมโตขึ้น สังคมมันอันตราย มีการทะเลาะเบาะแว้งมากขึ้น พ่อผมก็เลยให้เรียนเป็นวิชาป้องกันตัวไว้ ผมมาซ้อมก่อนพี่นัทตั้งแต่อายุ 11 ผมขี้อายมากกว่าพี่นัทอีก จนคนรอบข้างมองผมว่าเหมือนจะไม่ใช่ผู้ชาย มวยเป็นการพิสูจน์ของผมเหมือนกันว่าผมเป็นผู้ชาย”

“ทั้งคู่รู้ได้ยังไงว่ามีที่นี่อยู่” ผมถามทั้งสอง

“มีเพื่อนร่วมงานกับพ่อแม่ผม บอกว่ามีเปิดมวยสอนฟรี พ่อเลยพาขึ้นมา ซ้อมไปซ้อมมาครูหนึ่งอยากให้ขึ้นชก นัดแรกตื่นเต้น รู้สึกว่าสนุก เราก็ลองอีกเรื่อยๆ จนไฟต์สุดท้าย เราขึ้นชกพร้อมกับพี่ที่เคยซ้อมร่วมกัน เขาขึ้นต่อยแล้วเลือดคั่งในสมองแตกตาย พ่อแม่ผมเลยไม่ให้ขึ้นชกแล้ว เพราะเป็นห่วง พอปัจจุบันผมกับพี่นัทก็ยังสอนอยู่ เอาเงินไปช่วยพ่อแม่ด้วย”

“ยังมีวัยรุ่นแบบนัทกับโจภัทรอยู่อีกมั้ย” ผมถามมังกร

“ไม่ได้เยอะมาก แต่มีเรื่อยๆ ครับ สำหรับผมเนอะ มวยไทยเป็นกีฬาสำหรับคนไม่มีเงินขนาดนั้น คนที่มีทุกอย่าง เขาจะเอาชีวิตมารับมือรับแข้งทำไม”

ในมวลมหาประเภทของกีฬา มังกรค่อนข้างเชื่อว่ามวยไทยนั้นมีอัตราการฝึกที่หนักอันดับต้นๆ เขาต้องอยู่ค่ายมวย ตื่นตี 5 มาวิ่งถึง 7 โมงเช้า ซ้อมกระโดดเชือก เตะกระสอบ เรียนด้วยความเพลีย กินอาหารให้ดี เย็นกลับมาวิ่ง ซ้อมกระโดดเชือก ฝึกออกอาวุธ ล่อเป้า ขึ้นเวทีซ้อม และนอนพักผ่อน ทุกอย่างวนเป็นวัฏจักรชีวิตของเด็กชายมังกร จนวันที่เป็นนายมังกรแล้วก็ยังไม่ลืม

“หนักแค่ไหน”

“เราฝึกไปทุกวันเพื่อรอมีรายการให้ชก มีปุ๊บการฝึกก็เข้มข้นขึ้น อีกอย่างหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องความเหนื่อยคือการเพิ่มลดน้ำหนักตามรุ่น ถ้าจะชกในรุ่นน้ำหนัก 60 กิโลกรัม เราต้องกดน้ำหนักลงมาตามที่เราเกินให้ทันวันชั่งน้ำหนัก บางคนลดถึงขั้นต้องห้ามกินน้ำ อดมื้อกินมื้อ พอรอดด่านชั่งน้ำหนักเสร็จ เรี่ยวแรงจะแทบไม่มีพอจะยืนด้วยซ้ำ เราต้องรีบแทงเข็มเอาวิตามินเข้าตัวให้เร็วเพื่อบำรุง ไหนจะนวดน้ำมันคลายเส้น มีอีกเยอะเลยครับ” ฟังเข้าหูเหมือนง่าย แต่นึกภาพตามในขณะที่ก้มหน้าสูบอากาศเข้าท้องตั้งแต่การซ้อมไม่ถึง 1 ชั่วโมง ระยำตำบอนเป็นแน่”

lumpini04

ออกหมัด

ช่วงเวลาที่รอคอยคือช่วงเวลาของการออกอาวุธ กองพะเนินอุปกรณ์มวยนอนสลับฟันปลาอยู่บนพื้นจำนวนมากราวกับกองปลาบนเรือประมงในช่วงเช้าตรู่ ด้านข้างเวทีใต้แสงสลัวประดับเชือกขึงระดับหัว ซ้อมจังหวะการก้มหลบ ภายในกองพะเนินมีอุปกรณ์เกษียนตัวเองพอสมควร กระสอบทรายที่ป่วยจากอาการไส้ไหล สนับแข้งที่เชือกเปื่อยจนไม่อยากทำร้าย คลุกเคล้าด้วยฝุ่นเข้มข้นกลมกล่อมกับใยแมงมุมหนาแน่น มีแค่บางอันบนโต๊ะเท่านั้นที่ยังใช้งานได้ สำหรับกลิ่น เหงื่อไม่ได้แทรกซึมเข้าร่องนวมมาก กลิ่นจึงแห้งและเกือบกรอบด้วยความร้อนและการถูกทิ้ง ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้งานบ่อยอย่างผ้าพันมือ ความชื้นสะสมได้ปลุกต่อมเหม็นขมไปทั่วจมูก ผมลืมกลิ่นชั่วขณะนั้นเพราะความยากของการพัน รอบกำปั้น ข้อมือต้องกระชับ ลามไปข้อมือ ผ่านร่องนิ้ว และต้องให้พื้นที่เลือดเดิน เมื่อทะมัดทะแมงจึงเดินไปหน้ากระจกอีกครั้ง

“เราต่อยนะครับ เราจะไม่ใช้แขน” แต่หมัดมันเป็นของแขนนะ ความว่างชวนผมยียวนในใจตัวเอง

“เราจะใช้เอวกับไหล่ช่วยครับ แรงมันจะช่วยให้ออกอาวุธหนักขึ้น” ฝ่าเท้าสะบัดไปด้านหน้า สะโพกหมุนชนกับความว่างเปล่า หมัดของมังกรกระแทกกลางอากาศอย่างรวดเร็ว เสียงอากาศฉีกขาดลอยเข้าหูแผ่วเบา ราวกับไขมันในร่างกายถูกยืมใช้ไว้เป็นสปริง นึกสงสัยว่าวิชาเหล่านี้ในการครอบครองของลูกผู้ชายคนหนึ่งจะเคยใช้นอกเวทีหรือเปล่า

“มีบ้างครับ แต่เราจะเลือกนิ่งๆ ไว้ พยายามไม่มีปัญหากับพวกเขา ผมจะเล่าให้ฟังเรื่องหนึ่ง รู้จัก สามารถ พยัคฆ์อรุณ มั้ยครับ?” แชมป์โลกมวยสากลคนไทยคนที่ 10 นาม “เพชฌฆาตหน้าหยก” ถึงไกลเกินวัย แต่ใจใฝ่รู้ยังท่วงทัน

“เขาเคยชกมวยไทยที่เวทีลุมพินีด้วยนะครับ ผมไม่ทันรุ่นเขาหรอก แต่ผมเคยเป็นศิษย์ของรุ่นน้อง สามารถ พยัคฆ์อรุณ ชื่อ “นพเดช ส. เรวดี” แกเล่าว่าแต่ก่อนที่อยู่กับพี่สามารถเนี่ย เวลาพี่สามารถมีเรื่องทีไร แกวิ่งคนแรกตลอด ครู “นพเดช ส. เรวดี” ก็ถาม ระดับพี่เลยนะ พี่สามารถบอกว่ามันไม่จำเป็น อัดคนไม่เป็นมวยไม่ใช่เครื่องพิสูจน์ว่าเราเก่งกว่าใคร เราชกเป็นอาชีพ”

lumpini05

ตรวจทานทักษะ

ความเคยชินคือคำพูดที่ลอยมาจากปากมังกรเรื่อยๆ เริ่มจากการรับรู้ เตะเข้าไป ต่อยให้คม ทำให้จำจนจบที่เคยชิน นอกจากจะอยู่กับการเปลี่ยนผ่านของพัฒนาการตนเอง ยุคสมัยก็ยังเป็นสิ่งที่มังกรสัมผัสกระแสความเปลี่ยนแปลง

“ยุคก่อนกับยุคนี้ต่างกันมั้ย” คำถามผุดขึ้น

“ถ้าเป็นความแตกต่างในด้านการต่อสู้นะครับ รูปแบบการชกอย่างแรกเลย แต่ก่อนนักมวยออกอาวุธสวยงาม แพรวพราว เหมือนความสร้างสรรค์น่ะครับ มันจะมีอิสระกว่า สมัยนี้มันมีปัจจัยหลายเรื่องครับ ทั้งการนับคะแนนเวลาเข้าเป้า เมื่อนักมวยต้องพะวงกับการได้หรือเสียแต้ม นักมวยจึงเลือกจะจู่โจมแบบแน่นอนมากขึ้น เสน่ห์ในการแลกหมัดใส่ไม่ยั้งจึงต้องจางหายไปกับเวลา และเรื่องเซียนมวยก็สำคัญ”

“เซียนมวย?” คิ้วผมกระตุกสงสัย

“พนันน่ะครับ” เขากำลังหมายถึงเรื่องสามัญของกีฬาที่ใครก็ปฏิเสธการมีอยู่ของมันไม่ลง เพราะเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในฟันเฟืองของเศรษฐกิจหล่อเลี้ยงชีวิตกีฬาอีกด้วย ยิ่งมวยไทยแล้ว ยุคสมัยปัจจุบันกับเรื่องพนันคงแยกกันยาก จนเกิดอาชีพผู้เก็งผลแพ้ชนะการแข่งขันอย่างเซียนมวยขึ้นมา

“และยุคหลังพนันก็จะหนักหน่อยครับ สมมุติว่าผมจะต้องไปต่อยสนามหนึ่งกับเด็กที่รู้จักหรือเป็นเจ้าถิ่น ถ้าคะแนนผมนำไม่มากพอ กรรมการจะให้เสมอ ซึ่งถ้ารูปมวยออกมาเสมอ ผมก็แทบจะแพ้เลย ดังนั้นทุกครั้งที่จะชกเราเลยจะต้องหาที่ที่มีเจ้าถิ่นรู้จักอยู่ ทุกอย่างมันสัมพันธ์กันน่ะครับ”

“คนดูล่ะ” เป็นอีกเรื่องที่เจือจางเหลือเกินในวัฒนธรรมเด็กปัจจุบัน ไม่ถามคงครั่นรู้ไปอีกนาน

“คนไทยยังให้ความสนใจนะครับ แต่เขาสนใจดูในออนไลน์กันมากกว่า สมัยก่อนมันจะมีทั้งคนที่รู้จักและไม่รู้จักไปนั่งดู เพราะเขาอยากรู้ว่าเป็นยังไง มันไม่ได้มีให้เห็น” สิ้นประโยค เสียงมังกรฮวบลงจนฟังได้ชัดสองหู น้ำลายลงคอก้อนใหญ่ก่อนจะพูดต่อ

“เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีใครอยากไปสนามแล้วครับ คนเยอะ ชูไม้ชูมือวุ่นวาย ดูที่บ้านก็ได้ กลับกลายเป็นว่าฝรั่งจะมาซะมากกว่า ปัจจุบันก็แย่ลงพอสมควร มิหนำซ้ำคนก็ให้ความสนใจกับ Thai fight มากกว่า หรืออะไรก็ตามที่โปรโมตดัง ยิ่งใหญ่ คนดูที่มีเนื้อหนังก็น้อยลงเข้าไปอีก”

lumpini06

ประสบการณ์เข้าเส้น

ความลื่นบนพื้นยางถูกเหงื่อเหนียวหนืดกลืนกิน เหมือนเรี่ยวแรงได้ไหลหายไปอยู่ในก้อนเหงื่อเหล่านั้น มังกรเป็นคู่ต่อสู้ที่อุกอาจ มือขวาหรือมือซ้ายที่ยกให้เราตะบันหมัด เป้าเปื่อยยุ่ยจะไปอยู่ฝั่งไหนให้แข้งฟาดผ่ากลาง อันที่จริงการยกแขนป้องกันก็สำคัญไม่แพ้กัน สักพั หัวใจชักจะขยับไม่ทันปอด มันเต้นเร็วจนเหตุผลเริ่มหาคำตอบให้ตัวเองถึงการกระทำ ผลลัพธ์ของอุตสาหะจะมาในรูปแบบไหน ส่วนมังกร อุปสรรคใหญ่หลวงของครูมวยคนนี้คงเป็นหนทางของชีวิตตัวเอง

“สมัยเด็ก ผมเคยซ้อมครั้งแรกๆ ที่สนามซ้อมมวยที่หนึ่ง เด็กไปรอสมัครเรียนกันเยอะมาก แล้วพอครูผู้สอนเดินออกมา เขาพูดกับผมว่า ‘ไปโดดเชือก 3,000 ครั้งแล้วจะสอนจริงจังให้’ โห เด็กวัย 10 กว่าปีนะครับ ไม่มีใครกระโดดไหวหรอก ขนาดผมตอนร่างกายสมบูรณ์ยัง 1,500 ครั้งเอง จนวันต่อมาผมก็ไปรอเขาอีก แต่ผมไปรู้ไปเห็นมาว่าเขาแอบไปสอนเด็กบางคนที่เขาถูกใจหรือเด็กเส้น ตอนนั้นผมเซ็งมากครับ เลยตัดสินใจย้ายที่เรียน แต่ผมก็ยังเจอครูที่ไม่ได้ทุ่มเทขนาดนั้น ทั้งสอนขอไปทีบ้าง แต๊ะอั๋งผู้หญิง ผมไม่อยากเป็นแบบนั้น” เมื่อมังกรลุยสนามซ้อมใหม่ คำสั่งกระโดดเชือกลดจาก 3,000 ครั้ง เหลือ 400 ครั้งเท่านั้น และมังกรยังคงเป็นมังกรที่ขวนขวาย ความสงสัยถามครูฝึกทันทีว่า

“400 เองเหรอครับ” ครูตอบมังกรว่า

“ที่เก่าเขาให้เอ็งโดดเท่าไหรล่ะ”

“3,000 ครั้งครับ”

“บ้าแล้ว! นักมวยอาชีพยังตึงเลย ให้เขาโดดคนเดียวเถอะงั้น” มังกรรู้ทันทีว่าการยืน ณ ค่ายใหม่เป็นเรื่องที่ถูกแล้ว

นอกจากการต่อสู้บนเวที อายุที่เติบโตก็สร้างการต่อสู้นอกเวทีให้มังกร

“คนมาเรียนมวยไทยเป็นฝรั่งซะเยอะ แต่ค่ายเราคนไทยจะมากกว่า ถามว่าเวลาฝรั่งเลือกสนามฝึกซ้อมดูจากอะไร ก็นักมวยดังนั่นแหละ ดังนั้นสนามซ้อมมวยไหนจะฮอตกว่ากัน ก็เพราะเขาใช้คนดังในค่ายเป็นแม่เหล็ก” อย่างว่า แม้มังกรจะบอกว่ากระบวนการฝึกสอนจะไม่หนีกันมาก แต่สิ่งที่แบ่งแยกความแตกต่างคือการตลาด

“แล้วสนามของเราล่ะ” ผมมองเลยหัวมังกรออกไป มองบรรยากาศลมอบร่ำเย็นฉ่ำ

“สนามเราไม่มีครับ คนมาไม่ได้เยอะอย่างใครเขา”

“แล้วเรามีเคล็ดลับยังไงให้ชุมชนตรงนี้ยังกลมเกลียว” มังกรยืนคิดครู่หนึ่งก่อนจะตอบ

“ผมใช้วิธีสอนแล้วอธิบายเหตุผลของการฝึกทุกอย่าง ว่าทำแบบนี้จะมีผลแบบนี้ ไม่ทำมีผลอย่างไร รวมถึงเรื่องการกินด้วย ต่อหนึ่งวันคุณควรจะกินอะไรบ้าง มากแค่ไหน เพื่อให้น้ำหนักเป็นเท่าไร มันละเอียดมาก และต้องมีผู้สอน ผมอยากให้ทุกคนฝึกโดยรู้จุดประสงค์ ไม่ใช่เก็บไว้ไม่ยอมบอก คนก็จะทำไปอย่างไม่รู้”

ก่อนหน้านี้ หลายคนไม่รู้ว่าตรงนี้มีโรงเรียนสอนด้วยซ้ำ แม้กระทั่งลูกค้าประจำของมังกรที่ทำงานแถวนี้มาตลอดก็เพิ่งรู้ แต่พอมีรถไฟฟ้า ข่าวก็เริ่มกระจายออกไปบ้าง ลูกค้าก็ไหลมาหล่อเลี้ยงต่อ แต่สายลมไม่ใจดีตลอดฝั่ง รถไฟฟ้าได้ฉายแววสนามมวยเวทีลุมพินีให้เป็นที่ดินน่าดึงดูด ดูดอะไรไม่ดูด ดูดนายทุน

lumpini07

ยกแรก

หัวยังมึนหมัดท้องยังเมาเข่าของมังกรอยู่ ความมันหลังล่อเป้าคือหอบทุกอย่างมาใช้บนเวที แต่ผู้ฝึกจะเลิกเป็นเป้านิ่งและถือนวมไว้ซัดผมแทน ซึ่งการถูกอัดกลับเป็นเครื่องเตือนสติว่าชีวิตจริงศัตรูจะไม่มีทางยืนนิ่งให้ทำร้าย กลับกัน มังกรบอกว่าความเหงาหงอยในชีวิตช่วงนี้ไม่อนุญาตให้อัดกับใครมาพักใหญ่แล้ว

“รู้สึกแรกตอนรับข่าวว่าจะโดนย้าย?”

“หงุดหงิดพอสมควร เราอยู่ตรงนี้มานาน แต่ก่อนซ้อมเสร็จเมื่อไรก็ได้ ทำอะไรก็ทำ ผมแทบจะกินนอนที่นี่เลย จู่ๆ วันหนึ่งมีใครก็ไม่รู้มาดูตึกเพื่อจะเอาทั้งหมดไป ไม่กี่วันต่อมาเขาก็ตัดไฟเลย ลิฟต์ก็ใช้ไม่ได้ พยายามตัดแข้งตัดขาเรา มันทำอะไรไม่ได้ แล้วเราจะแย่ลงเรื่อยๆ ผมกับครูก็ตัดสินใจว่าย้ายไปในที่ของเราดีกว่า ยอมเสียนักเรียนบ้างก็ยอม เพราะตอนนี้มาจำกัดเวลาเข้าเวลาออก ตอนนักเรียนอาบน้ำเราต้องเร่งนักเรียนอีก เราเกรงใจนักเรียน” นักเรียนดังที่มังกรกล่าวคนหนึ่งกำลังวิดพื้นรัวปานจะดันตึกลง พื้นที่ก้มหน้าจับจ้องอาบด้วยเม็ดเหงื่อจากร่างสีขาวเรียวและแพรวพราว เขาทำมาตลอด 3 เดือนกับค่ายนี้ ผมไม่เคยเห็นน้ำแข็ง-อรรถพล อรรถศริ นั่งพักเกินสองครั้งเลย

“คิดว่าอะไรคือความเจ๋งของค่ายมวยนี้” ผมถามน้ำแข็ง

“เราว่าครูของค่ายนี้ให้ความเป็นพี่น้องกับคนที่เข้ามาเรียน เขามีความใส่ใจทุกคน ไม่มีสอนครบแล้วจบกัน แถมให้ความรู้กล้ามเนื้อเชิงวิทยาศาสตร์การกีฬาอีกด้วย” น้ำแข็งว่าความคิดฝันในการลองขึ้นชกสากลสักครั้ เหมือนกลายเป็นความคิดฝันของมังกรและครูฝึกคนอื่นเสียซะงั้น เพราะทุกวันน้ำแข็งจะถูกกวดขันเป็นพิเศษกว่าคนอื่นเสมอ ทั้งการวิ่ง เตะ ออกอาวุธ ท่าเพิ่มกล้าม โดยเฉพาะการออกหมัดฉบับสากล

“ตอนแรกเราเข้าใจผิด คิดว่าจะปิดค่าย ในใจเราคิดว่ามันเหมาะกับเรามาก จะเจอค่ายที่ทุ่มเทกับเราแบบนี้อีกมั้ย พอทราบว่าจะย้ายไปแถวมีนบุรีก็เบาใจไปบ้าง ถึงจะกังวลกับระยะทาง แต่ใจรัก มันคงไม่ใช่ปัญหา”

lumpini08

ยกสุดท้าย

รสชาติความพ่ายแพ้สูบฉีดทั่วหน้า สัญชาตญาณส่วนตัวยังเด็กนัก แต่มันรับรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ทุกย่างก้าวจะทำอย่างลอยลมไม่ได้ ไม่มีผีสางนามว่าโชคชะตารอความคิดเราบนเวที ซึ่งมังกรเป็นตัวแทนลงโทษอย่างโหมกระหน่ำด้วยมือ เข่า หน้าแข้ง แถมด้วยการเหวี่ยงก้นผมจูบเวทีหลายครา หลังจากเก็บผ้าพันมือ นวม สนับแข้งลงกองพะเนินอุปกรณ์มวยเก่า

อุณหภูมิเริ่มต่ำลงในคืนเหงา ไม่มีเสียงถูกกระแทกหรือทำร้ายของกระสอบทราย ไม่มีเสียงลำคอสำรอกความเหนื่อยเป็นการตะโกน กลิ่นเหงื่อสลายกลายเป็นลมกลางดึก มีเพียงผมและมังกรที่เพิ่งขยับและต่างลุกไปอาบน้ำเพื่อขีดสุดของความสดชื่น

“มีคนเคยบอกผมว่า ‘แสงไฟบนเวทีไม่เคยส่องให้ผู้แพ้’ มันเรื่องจริงนะครับ ครั้งหนึ่งผมเตรียมตัวขึ้นชกรายการหนึ่งตอนอายุ 18 เขาบอกผมว่าอายุเกิน ทั้งๆ ที่ผมเพิ่งอายุ 18 ไม่นาน เหตุผลเดียว เขาคงจะเอาเด็กเขาชกแหละ” มังกรเก็บของ ถอดปลั๊ก กดปิดแสงไฟทั้งหมดด้วยตัวเขา ทุกอย่างมืดจนอาคารคอนกรีตสูงใหญ่สว่างเด่นหรากว่าสนามมวย

“พวกเรายังมั่นใจอยู่ว่าการสอนของเราเข้มข้นมาก ครูทุกคน แม้กระทั่งนัทและโจภัทร มีใบอนุญาตเป็นผู้ฝึกสอน และเราใช้โปรแกรมสอนนักมวยจริง แต่…ก็นั่นแหละครับ” มังกรล็อกกลอนประตู ก่อนจะปิดมันช้าๆ ให้ความเงียบยึดครองพื้นที่ฝึกสอน

“ความพ่ายแพ้มันเป็นแบบนี้แหละ”

“แล้วแก้ไขยังไง” ผมถาม

“ต้องสู้อะครับ ใจเท่านั้นเลย เราแค่ยังไม่ยอมแพ้”

มังกรอาสาให้มอเตอร์ไซค์บรรทุกผมกลับรถไฟฟ้า ป้าย Lumpinee Academy Grand Muay Thai รอบสนามซ้อมจางหายไปในเงาอาคารที่ดำมืด ยังไม่มืดสนิทเมื่อมังกรฉายแสงจากรถเขาไปตามทาง ลมต่ำเริ่มตีหน้าพวกเราแหวกเป็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ มวลอารมณ์ห้วงนี้บอกว่า เสน่ห์ไม่ใช่เพียงประวัติศาสตร์ของมวยไทยหรือความโด่งดัง แต่เป็นมังกร หนุ่มร่างอวบที่ยิ้มให้บาดแผลจากการเชือดเฉือนของลมกาลเวลาและปัญหาระหว่างหัวใจกำลังประคองป้าย Lumpinee Academy Grand Muay Thai เขาเชื่อว่ามันจะพัดผ่านไป และใบหน้านั้นของมังกรก็เล็กลงกลายเป็นจุดเล็กจุดหนึ่งบนพะเนินตึก

ทุกคืนของมังกรจบลง เป็นวัฏจักรอยู่แบบนี้ อยู่ภายในร้อยล้านดาวของแสงเมือง