เรื่อง : ชัชชาลี จูเล็ก
ภาพ : วิจิตต์ แซ่เฮ้ง

อวัช รัตนปิณฑะ คนตัวเล็กในธรรมชาติ

“พอเรามาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ตัวเรามันโคตรเล็กเลย ตัวเรามันเล็กมาก เมื่อเทียบกับปัญหาที่เราเจอ”

คำพูดของ อวัช รัตนปิณฑะ หรือ “อัด” ที่ใครหลายคนรู้จักเขาในฐานะนักแสดงสังกัดนาดาวบางกอก และนักร้องเสียงหล่อจากวง Mints แต่วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักเขาในฐานะมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่รักธรรมชาติ และค่อยๆ รักษ์ธรรมชาติด้วยกำลังที่เขามี

อะไรคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณหันมาสนใจธรรมชาติ

“เริ่มต้นจากเราเป็นคนชอบเที่ยวตั้งแต่เด็กๆ ชอบวิ่งเข้าหาธรรมชาติ ตอนเด็กไปเที่ยวครั้งแรกคือไปทะเล จำได้ว่าวิ่งลงทะเลเลย เหมือนมันมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่างที่ทำให้เราสนใจอยากไปสัมผัส แล้วมันก็ค่อยๆ พัฒนาความเข้มข้นขึ้นไปตามเวลาของเรา

“พอโตขึ้นเริ่มได้ไปเที่ยว เราก็ชอบเลือกเที่ยวแนวธรรมชาติ มันทำให้รู้สึกดี เหมือนได้หนีจากความเครียด หนีจากบรรยากาศความเป็นเมืองมากๆ ไปอยู่กับธรรมชาติ สิ่งนี้ทำให้เราสงบ เลยเป็นจุดเริ่มต้นให้สนใจธรรมชาติและอยาก find out มากขึ้นว่าทำไมมันทำให้เรารู้สึกแบบนั้นได้ หรือทำไมมันถึงสำคัญกับโลกใบนี้และตัวเรา”

ธรรมชาติช่วยดูแลจิตใจคุณอย่างไรบ้าง และเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันอย่างไร

“ช่วยเยียวยาความรู้สึกบางอย่างได้ เหมือนบางทีทำให้ความรู้สึกของเราทำงานรอบด้านมากขึ้น ซึ่งเซนส์ต่างๆ ที่เราทำงานกับธรรมชาตินี่ เช่นเสียงที่มันไม่น่ารำคาญ เสียงสัตว์ต่างๆ เสียงลมพัด หรือเสียงคลื่นทะเล ทำให้เราสงบ

“จริงๆ ธรรมชาติมันก็มีความ abstract ประมาณหนึ่งในสิ่งที่มันมีผลกับเรา แต่เราคิดว่าเพราะมนุษย์อยู่ร่วมกับธรรมชาติมาตลอด แต่พอมีสังคมเมืองขึ้นมา ก็กลายเป็นว่ามีสถาปัตยกรรมอะไรมาคั่นระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ มีฟิลเตอร์บางอย่างแยกมนุษย์กับธรรมชาติออกจากกัน แต่พอเราได้ไปอยู่กับมันจริงๆ เรากลับคอนเนกต์กับมันได้ ถึงรู้สึกว่า เฮ้ย สิ่งนี้ทำให้เรารู้สึกดี รู้สึกพิเศษ หรือได้รับพลังงานดีๆ จากธรรมชาติน่ะครับ

“ธรรมชาติอยู่ในชีวิตมนุษย์ตลอด ไม่ใช่แค่ตลอดวันนี้ แต่มันคือตลอดไป เราอยู่บนโลกใบนี้ ซึ่งก็ประกอบไปด้วยธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว และมนุษย์เป็นแค่ส่วนเล็กๆ เพราะฉะนั้นธรรมชาติมันคือ overall มันอยู่ทุกที่ของโลกใบนี้

“ถามว่าธรรมชาติเกี่ยวข้องอย่างไรกับมนุษย์ คือแค่คุณตื่นมา สูดอากาศเข้าไป นั่นก็คือธรรมชาติอย่างหนึ่งแล้ว คุณใช้น้ำ น้ำก็คือธรรมชาติ มันอยู่ในชีวิตประจำวันของเราหมด การเดินทาง ลมที่พัดเข้ามา ทุกอย่างคือธรรมชาติหมด แต่บางทีเราไปแยกมันออกจากกัน ไปคิดว่าธรรมชาติคือพื้นที่สีเขียว ธรรมชาติคือทะเล แต่ถ้าเรามองเข้าไปดีๆ ธรรมชาติมันอยู่รอบตัวเรา และจะทำยังไงให้ธรรมชาติรอบตัวเรามีความหมายได้พอๆ กับธรรมชาติที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหรือในต่างจังหวัด”

adawach02

เวลาทำงานแล้วเครียด มีวิธีเยียวยาตัวเองอย่างไร

“ถ้ามีเวลาเราจะพาตัวเองไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปทะเล ไปเดินป่า เรารู้สึกว่ามันสามารถ recover ความเครียดในใจเราได้ การไปอยู่ตรงนั้นทำให้เราสงบ ด้วย element ของธรรมชาติ ด้วยรูป รส กลิ่น เสียง ของมันทำให้เราลืมความเครียด บางครั้งมันคือความสวยงาม ณ ตรงนั้นด้วยที่ทำให้เราหยุดเครียดแล้วกลับมาทบทวน คุยกับตัวเอง

“แต่ในกรณีที่เราไม่สามารถไปเที่ยวได้ อย่างตอนนี้ผมเองปลูกต้นไม้ที่ห้อง ก็รู้สึกว่าอย่างน้อยเราพยายามสร้างพื้นที่ที่มันเป็นธรรมชาติให้กับตัวเอง แม้จะเป็นที่เล็กๆ แต่ตื่นมาเราก็ได้รดน้ำต้นไม้ ได้เห็นการเติบโต ได้กลิ่นของต้นไม้ที่เราปลูก นั่นเป็นการเยียวยาอย่างหนึ่ง”

คุณใช้สัมผัสใด (ฟัง/มอง/ดม/สัมผัส/รับรส) ในการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ

“จริงๆ สำหรับเรา มันใช้ทุกเซนส์เลย คืออย่างแรกมนุษย์ก็ต้องมองก่อน บางทีการเห็นแวบแรกมันคือแบบ โอ้ เราเห็นละ อย่างที่ 2 คือเวลามอง บางครั้งกลิ่นมันก็ลอยเข้ามาเอง พอได้กลิ่นบางทีความอยากรู้อยากเห็นก็ทำให้เราเข้าไปแบบสัมผัสทราย ใบไม้ texture ของมันเป็นยังไง หรือถ้าสามารถกินได้ เราก็ชิม

“เวลาไปเดินป่าคือการเรียนรู้อย่างหนึ่ง ถ้าไปกับผู้เชี่ยวชาญ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เขาก็จะแนะนำได้ว่าสมุนไพรหรือผลไม้นี้คืออะไร รสชาติเป็นยังไง รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส คือใช้ทุกอย่าง”

เวลาเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในธรรมชาติประสาทสัมผัสไหนจะมาก่อนเสมอ

“ของผมน่าจะเป็นกลิ่น เรามักจะได้กลิ่นฝน กลิ่นป่า กลิ่นทะเล คือผมจะไวต่อกลิ่น รู้สึกว่าเราชอบ บางทีคนถามว่ากลิ่นทะเลคือกลิ่นอะไร เราก็จะแบบก็คือกลิ่นทะเลน่ะ มันมีความเค็ม มีความรู้สึกอะไรบางอย่าง กลิ่นเกลือผสมๆ กัน อีกอันหนึ่งก็คือเสียง ก็จะชอบได้ยิน”

ในฐานะที่คุณเป็นนักร้องนักแสดง และล่าสุดได้ทำงานในโปรเจกต์ Hangover “เชียงดาว Nature Reconnect” รวมถึงโปรเจกต์ส่วนตัวอย่าง Save Thailay คุณคิดว่า “คุณค่าของการสัมผัสธรรมชาติ” คืออะไร

“คุณค่าของมันคือการที่ตัวเราเองเห็นคุณค่าของสิ่งสิ่งนั้น ตัวเราในฐานะคนที่เริ่มจากชอบท่องเที่ยวธรรมชาติ การได้ไปสถานที่ตรงนั้นแล้วส่งต่อความสวยงามหรือคุณค่าของพื้นที่นั้นสู่คนอื่นได้ เป็นเพราะเราชอบ เราหลงใหลหลงรักพื้นที่ตรงนั้น รู้สึกว่าเขามีคุณค่ามากและอยากอนุรักษ์เขาไว้นานๆ เหมือนเราไปเอาความสุขไปรับพลังงานบวกจากเขา เราก็ต้องช่วยดูแลเขา และทำยังไงให้คนรู้สึกแบบเดียวกับเรา”

หากเปรียบตัวเองเป็นสิ่งหนึ่งในธรรมชาติ คุณคิดว่าตัวเองเป็นอะไร เพราะอะไร

“คิดว่าเราคงเป็นเหมือนน้ำทะเล เรารู้สึกว่าตัวเราเปลี่ยนไปตลอดเวลา บางครั้งนิ่ง บางครั้งโหมกระหน่ำรุนแรง(หัวเราะ) หรือบางครั้งก็ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป สิ่งที่มันบ่งบอกความเป็นตัวเราได้คือมันเปลี่ยนไปตลอด ตามกาลเวลา ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราไม่ได้ยึดติดอยู่แค่อย่างใดอย่างหนึ่ง เราพร้อมจะปรับไปกับมัน แล้วก็เรียนรู้ว่ามันมีหลายเฉดมากๆ ในชีวิตของเรา”

ธรรมชาติมีเสน่ห์อย่างไร

“เวลาที่เราได้อยู่กับธรรมชาติมันทำให้เราสบายใจ สงบขึ้น ทำให้ได้ย้อนกลับมาทบทวนว่าความเครียดของเราที่จมอยู่กับปัญหามากเกินไป เลยมองไม่เห็นว่าควรจะทำยังไงต่อ แต่การไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มันทำให้เปรียบเทียบได้ว่าตัวเรามันโคตรเล็กเลย ทำให้เราเปลี่ยนมุมมองว่า อ๋อ จริงๆ ลองปรับมุมมองอีกนิดก็จะทำให้เจออะไรบางอย่าง

“ทุกครั้งที่ไปอยู่กับธรรมชาติคือการเติมพลังของเรา เติมไฟบางอย่างทั้งทางใจและกาย มันจะได้พลังงานดีๆ กลับมาเสมอ”

ได้เรียนรู้อะไรจากธรรมชาติบ้าง

“อย่างแรกคือธรรมชาติสอนให้เรารู้ว่าเรายังตัวเล็กมากๆ สำหรับโลกใบนี้ ถ้าเราไปยืนท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ เราจะเป็นแค่ส่วนประกอบเล็กๆ มันทำให้เราลดทอนอีโก้บางอย่างลง ธรรมชาติมีสิ่งที่เรายังไม่ได้เรียนรู้อีกเยอะ ดังนั้นเราต้องเปิด

“เมื่อก่อนบางทีเราจะยึดมั่นในสิ่งที่เราคิดเราเชื่อ แต่การมาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเยอะๆ เจอคนที่หลากหลาย ทำให้เรารู้สึกว่า เฮ้ย ทุกคนมีความคิดที่แตกต่างกัน เราควรเปิดรับฟัง เปิดโอกาสให้ตัวเองได้มองเห็นได้เรียนรู้อะไรที่มันแฝงอยู่ในอีกหลายมิติของโลกใบนี้”

สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ประทับใจที่สุดคือที่ไหน เพราะอะไร

“คำถามนี้ยากมากเลย (ยิ้มขำ) เพราะชอบหลายที่มาก ขอตอบสองที่ได้ไหม ที่แรกคือเกาะเต่า ชอบมากเพราะหนึ่ง-ธรรมชาติสวยแล้วก็ดำน้ำได้ เราได้ไปเรียนเรื่องการอนุรักษ์ทางทะเลที่นี่ แล้วเจอเพื่อนๆ ชาวต่างชาติ ตลอด 4 เดือนที่เจอเพื่อนกลุ่มนี้ เรารู้สึกว่านี่แหละธรรมชาติดึงดูดคนประเภทเดียวกันมาเจอกัน เราเจอมิตรภาพครั้งใหม่ที่สวยงามมาก จนถึงทุกวันนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่

“เวลาพูดถึงเกาะเต่าแล้วจะเห็นภาพทุกอย่างชัดมาก นึกถึงเพื่อนทุกคนได้ แล้วเป็นเหมือนโมเมนต์แรกในชีวิตที่พาตัวเองออกจาก comfort zone ด้วยการไปเที่ยวคนเดียวแบบนานมาก แล้วไม่ได้กลัวอะไร แต่สนุกกับการเจอคนใหม่ๆ ธรรมชาติรูปแบบใหม่มากมาย

“อีกที่หนึ่งคงเป็นเชียงดาว เป็นที่ที่ถึงแม้ว่าไปทำงาน แต่ธรรมชาติของเชียงดาวสวยงามมาก อุดมสมบูรณ์มาก เต็มไปด้วยพลังงานบวกทั้งจากธรรมชาติ รวมไปถึงคนในเชียงดาวซึ่งรักพื้นที่ตรงนั้นและอยากดูแลเชียงดาวให้ดีที่สุด การเจอคนที่เขามีไฟและรักในสถานที่ตรงนั้น อยากดูแลมันและส่งต่อความรู้ต่างๆ ที่มีให้กับบุคคลอื่น มันมีความหมายมีคุณค่ามากจนเราต้องตั้งใจทำงานที่เราไปทำให้ดีที่สุด และอยากส่งต่อพลังงานดีๆ ของพี่ๆ ทุกคนที่เชียงดาวผ่านงานของเรา”

adawach09

ในอนาคตมีความคิดที่จะทำโปรเจกต์อื่นนอกจาก Save Thailay ไหม

“มีครับ มีอีกโปรเจกต์หนึ่ง กำลังทำอยู่กับเพื่อนๆ เกี่ยวกับเรื่องของทะเลนี่แหละ กำลังวางแผนอยู่ การทำงานกับธรรมชาติเป็นสิ่งที่เราชอบ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ใช่งานหลักในชีวิต เราทำมันเป็นงานอดิเรก อาชีพหลักเราคือนักร้องนักแสดง แล้วก็งานกำกับ แต่ในส่วนของงานอนุรักษ์ เราชอบธรรมชาติจริงๆ และแค่อยากจะลุกขึ้นมาทำอะไรซักอย่างเพื่อส่งต่อให้คนสนใจประเด็นนี้มากขึ้น อย่างน้อยถ้ามีคนหนึ่งอยากลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองในการดูแลธรรมชาติ แค่นั้นเราก็แฮปปี้แล้ว”

อยากฝากอะไรถึงคนอ่านที่อยากเข้าใจธรรมชาติมากขึ้นไหม

“อยากให้มองว่าทุกวันที่ตื่นมาคุณก็ได้พบกับธรรมชาติ คุณสูดอากาศเข้าไปนั่นคือธรรมชาติอย่างหนึ่ง คุณใช้น้ำนั่นคือธรรมชาติอย่างหนึ่ง คุณได้รับแสงแดดนั่นก็คือธรรมชาติอีกอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นธรรมชาติมันอยู่รอบๆ ตัวเรา มันอยู่ในชีวิตของคุณทุกวันและตลอดเวลา ดังนั้นถ้าอยากดูแลธรรมชาติ มันเริ่มต้นได้ง่ายมากจากชีวิตประจำวัน การลดใช้ของที่ไม่จำเป็นก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำได้

“สอง-คือคุณสามารถช่วยรณรงค์ด้านตัวกฎหมายหรือโครงสร้างของประเทศนี้ ให้เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่แข็งแรงมากขึ้น คือมันต้องเกี่ยวข้องกับภาครัฐแหละ ที่ให้ความสนใจกับธรรมชาติมากขึ้น ทั้งในเรื่องของอากาศ PM 2.5 ด้วย คุณสามารถมีส่วนร่วมได้ การลงชื่อเรียกร้องสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราทำได้ หรือหากอยากออกไป action ก็มีโครงการมากมายเปิดให้คุณลงพื้นที่ไปดูแลธรรมชาติ ไปเก็บขยะ ไปเป็นตัวแทนในการดูแล มันมีช่องทางเยอะมาก

“ธรรมชาติคือสิ่งที่เราจะต้องอยู่กับเขาไปตลอด ถ้าธรรมชาติไม่ดี โลกใบนี้ก็อยู่ไม่ได้ และสุดท้ายตัวเราเองก็ตาย นี่แหละครับ อยากให้มองว่าธรรมชาติมันคือชีวิตของเราเอง คือสิ่งที่เราจะต้องใช้เป็นปัจจัยในการดำรงชีวิตอยู่ต่อไป ถ้าธรรมชาติดี ชีวิตเราก็ดี เพราะฉะนั้นอย่ามองเป็นเรื่องไกลตัว ธรรมชาติคือสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคุณ และคุณต้องอยู่กับมัน”

สำหรับท่านที่สนใจเรียนรู้การ Parkใจ สามารถติดตามกิจกรรมอื่นๆ ในปีนี้ได้ที่ เฟซบุ๊กกรุ๊ป Parkใจ
ดำเนินการโดยนิตยสารสารคดี และ “นายรอบรู้” นักเดินทาง
สนับสนุนโดยเพจความสุขประเทศไทย และธนาคารจิตอาสา

ชวน Parkใจ โดยนิตยสารสารคดี และ “นายรอบรู้” นักเดินทาง
สนับสนุนโดยเพจความสุขประเทศไทย และธนาคารจิตอาสา