ทีมบ้านนี้มีรัก
คนต้นเรื่อง: นงนุช พรหมทา
เรื่องและภาพ: รมิภา เข้มศรี

คุณแม่ฉันเป็นคนสวย สายบุญ และสายฮา

Pa’Nuch Café

ฮา ฮา ฮ่าา

เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของลูกหลานจะดังทุกครั้งเมื่อได้ไปหาคุณแม่นุชนงนุช พรหมทา ท่านเป็นคุณยายที่รักของหลานสาวทั้งสามคนซึ่งเกิดจากลูกสองคน “ลูก และ หลาน” คือแก้วตาดวงใจของท่าน ท่านรักและห่วงใยลูก ๆ แม้จนกระทั่งทุกวันนี้ทั้งสองคนเติบโตไปสร้างครอบครัวของตัวเองแล้วก็ตาม

ในวัยย่างเข้าปีที่ ๖๖ ท่านไม่เคยหยุดทำงาน ท่านชอบทำงานเป็นชีวิตจิตใจ คิด พัฒนา ปรับปรุงรูปแบบการทำงานอยู่ตลอดเวลา

คุณแม่นุชผ่านชีวิตยากลำบากมามาก นับจากเด็กต่างจังหวัดมาสร้างรกรากอยู่ที่กรุงเทพมหานครเมื่อปี ๒๕๒๒ โดยเริ่มทำงานเป็นพนักงานที่บริษัทดิทแฮล์ม จำกัด (มหาชน)

saihamom3

Interior ตัวแม่

เวลาว่างคุณแม่นุชไม่เคยอยู่เฉย ชอบจัดบ้าน เปลี่ยนมุมบ้าน สมัยฉันเป็นวัยรุ่นเพื่อนชอบมาเที่ยวบ้าน ทุกคนจะเอ่ยปากชมท่านว่าเก่ง ขยันมากก

“ไม่มาบ้านแกไม่ถึงเดือน มุมตั้งโซฟาเปลี่ยนอีกและ แถมบ้านช่องนี่ฝุ่นแทบจะไม่มีเลยนะแก”

“บ้านฉันเล็ก แม่ฉันก็จัดนู้นนี่ทั้งวันนั่นแหละแก แม่ฉันชอบความหมดจด” ฉันบอกเพื่อนไปอย่างนั้น

ท่านเป็นคนรักความสะอาดเป็นที่สุดและยังชอบนำของสะสมของแมคโดนัลด์ เคเอฟซี ของสะสมของฉันกับพี่สาว ของชำร่วยงานแต่งงานที่เคยไปร่วมงาน อันละเล็กอันละน้อยมาตกแต่งวางจัดเรียงกันตามชั้น ตู้โชว์ วันดีคืนดีหลานตัวเล็กช่วยกันรื้อมาเล่นท่านก็ไม่เคยบ่นใด ๆ เลย วันรุ่งขึ้นตื่นขึ้นมาก็จะเห็นตุ๊กตาพวกนั้นเรียงรายบนชั้นหรือตู้โชว์เหมือนเดิม เสมือนยังไม่มีใครหยิบออกมาเล่น

มีสิ่งหนึ่งที่ท่านชอบมากที่สุดเป็นชีวิตจิตใจคือการปลูกต้นไม้

ท่านเป็นคนมือเย็น ปลูกอะไรก็ออกดอกผลสวย งอกงาม วันดีคืนดีก็เปลี่ยนกระถาง เปลี่ยนมุมวางไปเรื่อย ฉันเคยนึกอยู่เสมอว่าถ้าท่านมีโอกาสดีเหมือนกับครอบครัวอื่นท่านคงได้เรียนเกี่ยวกับงานออกแบบ เป็นสถาปนิกแน่ ๆ

แต่ว่าด้วยความที่คุณตาคุณยายมีลูกถึง ๑๐ คน ทำให้คุณแม่นุชไม่มีโอกาสเรียนต่อระดับสูง ๆ แต่ท่านก็ไม่เคยคิดน้อยใจ กลับภาคภูมิใจด้วยซ้ำว่าท่านเก่งและสามารถส่งลูกทั้งสองจนเรียนจบได้รับปริญญา

ตัวอย่างการดูแลตัวเองและวิธีคิดบวก

Positive Thinking

คุณแม่นุชดูอ่อนเยาว์และดูแลตัวเองได้ดี ท่านไม่ชอบรับประทานอาหารระหว่างมื้อ ชอบผลไม้สดทุกชนิด ที่บ้านต้องมีผลไม้ติดบ้าน ไม่ว่าจะเป็นส้ม กล้วย แอปเปิล ฯลฯ

ที่สำคัญท่านมองโลกในแง่ดี ไม่เคยคิดร้ายและถือสาเอาความใด ๆ กับใคร มีแต่ความเมตตาต่อลูกของท่านและคนอื่นที่บางทีไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ ท่านสนทนาพูดคุยด้วยความจริงใจ ใครอยู่ใกล้จะต้องหลงรักท่านทั้งนั้น เพราะรอยยิ้มที่ตีนกาแย่งกันขึ้นเต็มไปหมด ทำให้ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าท่านใจดีและอ่อนโยนเสมอ

“อ้อน อ้วนขึ้นมั้ยลูก ” เสียงคุณแม่กล่าวเตือนฉัน

“อ้วน…แต่สวยนะแม่” ฉันตอบกลับ

“ใช่ ๆ ลูกแม่สวย ดูดี หน้าตาอิ่มเอิบ” ท่านมักพูดให้กำลังใจ

เมื่อเข้าสู่วัย ๖๐+ ท่านยิ่งดูแลตัวเองมากกว่าเดิม ตื่นนอนมาท่านต้องดื่มน้ำอุ่นผสมมะนาว ออกกำลังกายโดยการวิ่ง หรือถ้าวันไหนไม่ได้ไปวิ่งก็จะแกว่งแขนเบา ๆ ทุกเช้าเย็น ท่านจะรับประทานปลา ไข่ต้ม น้ำพริก เป็นส่วนใหญ่

saihamom2

เชฟประจำบ้าน

ฝีมือทำอาหารของคุณแม่นุชอร่อยมาก ท่านชอบทำกับข้าวเองด้วยเมนูทั้งสี่ภาคของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น

แกงอ่อม แกงหน่อไม้ แจ่วบอง ลาบ น้ำตก ส้มตำ ฯลฯ (ภาคอีสาน)

น้ำพริกหนุ่ม จอผักกาด (ภาคเหนือ)

แกงไตปลา แกงส้มเหลือง (ภาคใต้)

น้ำพริกกะปิ กุ้งอบวุ้นเส้น ยำวุ้นเส้น กุ้งแช่น้ำปลา แกงส้มแป๊ะซะ ฯลฯ (ภาคกลาง)

เช้าวันอังคาร อากาศสดใส ฉันไปหาคุณแม่หลังจากส่งลูกสาวไปโรงเรียน แวะซื้อกุ้งกับปลาหมึกไปให้ทำอาหาร

“วันนี้ทำอะไรกินกันดีลูก เบื่ออาหาร กินอะไรไม่ค่อยลง” คุณแม่บอกกับฉัน

“กุ้งอบวุ้นเส้นมั้ยแม่ โปรตอนชอบ” ฉันเสนอ

“ได้ๆ มาๆ แม่จะสอนวิธีทำกุ้งอบวุ้นเส้นให้อร่อย ใส่หมูสามชั้นกับปลาหมึกจะอร่อยมากเลยนะ อ้อนแอ้น”

ปรกติกุ้งอบวุ้นเส้นจะใส่แต่กุ้งกับหมูสามชั้น วันนี้ท่านใส่ปลาหมึกลงไปด้วย มันอร่อยจริง ๆ นะ เยี่ยมไปเลย!

หลังจากนั้นฉันก็ทำกุ้งอบวุ้นเส้นที่อร่อยที่สุดที่เคยกินมาและแบ่งไปให้ลูกสาวตอนเย็น

ถ้าเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์คุณแม่นุชทำอาหารปริมาณมากพอแบ่งปันให้เพื่อนบ้านเสมอ บ้านเราอิ่ม เพื่อนบ้านก็อิ่มหนำสำราญไปด้วย

มีขนมที่คุณแม่นุชทำอร่อยมาก นั่นก็คือ ขนมหัวหงอก ซึ่งทำง่ายมาก เพียงนำข้าวเหนียวไปแช่แล้วนึ่ง นำมาคลุกกับน้ำตาลทราย น้ำมะพร้าว เนื้อมะพร้าวทึนทึก ใส่เกลือผสมเล็กน้อย แล้วขูดมะพร้าวทึนทึกโรยหน้า ก็อร่อย หวาน มัน เป็นขนมหวานโบราณที่หาทานค่อนข้างยากแล้ว

คุณแม่นุชทำอาหารครั้งใด ทุกคนในบ้านไม่มีใครรับประทานข้าวจานเดียวเลย ต่างเติมข้าวจนข้าวเกลี้ยงหม้อทุกครั้งไป

saihamom4

สายบุญตัวจริง

บ่อยครั้งที่เราสองแม่ลูกไปทำบุญร่วมกัน

เมื่อฉันอยู่ในวัยเยาว์ พอช่วงเทศกาลสงกรานต์มาถึง คุณพ่อ (สรรเสริญ ทรจักร์) กับคุณแม่มักเป็นประธานจัดตั้งกองผ้าป่าสามัคคีไปสร้างโบสถ์ ศาลาการเปรียญ ที่วัดบ้านเกิดและวัดตามต่างจังหวัดเกือบทุกปี ในรถบัสคันใหญ่ ๒-๓ คัน มีการร้องรำทำเพลงสนุกสนาน

ช่วงเทศกาลปีใหม่ วันเด็ก คุณพ่อกับคุณแม่เป็นประธานและคณะกรรมการชุมชน ก็จะดำเนินการจัดงานรื่นเริงให้เด็ก ๆ ในช่วงเทศกาลเสมอ ขอชุดเครื่องเขียน ของเล่นเด็กจากนักการเมืองเพื่อมาแจกจ่าย

ปัจจุบันครอบครัวเราทำบุญหลากหลายรูปแบบมาขึ้น แต่มีสองครั้งที่คุณแม่นุชและฉันประทับใจมาก

ปี ๒๕๕๙ เราทำบุญให้ศูนย์เด็กเล็กวัดสุทธิโสภณ อำเภอบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ บ้านเกิดของท่าน ครอบครัวเราใช้เงินส่วนตัวทั้งหมด โดยนำเงินไปแจกให้เด็ก ๆ และนำของขวัญไปให้เพื่อส่งเสริมพัฒนาการให้เกิดการเรียนรู้อย่างยั่งยืน

อีกครั้งเมื่อ ปี ๒๕๖๐ ภาควิชาศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี จัดการวิ่งมาราธอน ครั้งที่ ๕๐ เป็นครั้งแรกที่คุณแม่นุชและครอบครัวฉันไปวิ่งเพื่อการกุศล ผลปรากฏว่าเราสองคนแม่ลูกได้รับรางวัลที่ ๓ ในรุ่น ๕ กิโลเมตรแบบงงๆ ปีนั้นมีผู้เข้าร่วมวิ่งหลายพันคน

“งงจัง ได้รางวัลได้ยังงัยอะลูก เราวิ่งเข้าคู่ที่ ๓ เลยหรอ” แม่ถามด้วยความสงสัย

“เออ! เค้าให้ก็เอาเถอะแม่!” ฉันดีใจและงุนงงเช่นกัน จึงถามน้องเจ้าหน้าที่ที่มายื่นบัตรให้

“พี่เข้า (เส้นชัย) คู่ที่ ๓ จริง ๆ หรอค่ะ” น้องกำลังยุ่งแต่ตอบว่า “ใช่ค่ะ” แล้วให้รอรับรางวัลก่อนรีบเดินไปทำหน้าที่อื่น ทิ้งให้ฉันกับคุณแม่นุชยืนมึนงงกันอยู่อย่างนั้น

ขอขอบคุณทีมผู้จัดงานมาก ๆ ที่ให้รางวัลอันทรงคุณค่าในครั้งนั้น

ร่วมงานวันสวรรคตในหลวงรัชกาลที่ ๙

คุณแม่นุชจงรักภักดีและเคารพรักพระบรมจักรีวงศ์ทุกยุคทุกสมัย ตอนที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงมีพระชนม์ชีพ คุณแม่ก็ไปเข้าร่วมพิธีเนื่องวันพ่อที่ท้องสนามหลวงอยู่หลายปี เมื่อพระองค์ท่านสวรรคต คุณแม่ก็ไปร่วมกราบสักการะพระบรมศพถึง ๒๙ ครั้ง ไม่รวมการไปถวายดอกไม้จันทน์ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงฯ ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังอีก ๑ วัน

๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๕ คุณแม่นุชท่านไปร่วมพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมบพิตร ณ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ในฐานะพสกนิกรที่จงรักภักดีต่อพระบรมจักรีวงศ์ทุกพระองค์

saihamom5

คุณแม่ฉันเป็นคนสวย

เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ฉันพาคุณแม่ไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลตามนัด คุณแม่เล่าว่า “คุณหมอให้ลดยาลง เค้าบอกว่าอาการดีขึ้นมากแล้ว” น้ำเสียงของท่านดีใจมาก

ขณะคุณแม่ยืนคุยกับฉันอยู่นั้นก็มีเสียงทักจากคุณพี่ผู้หญิงหน้าตาสะสวยซึ่งพาคุณแม่มาพบคุณหมอเช่นกันว่า “นี่ใช่คุณแม่จริง ๆ หรอคะ ทำไมดูสวย ดูดีมากเลย ดูแลตัวเองยังงัยคะ เหมือนพี่สาวมากกว่าคุณแม่อีกค่ะ”

บรรดาคนไข้ที่มาพบแพทย์ต่างหันมามองทางฉันกับคุณแม่ ทำให้คุณแม่นุชอายและเขินมาก แต่เราทั้งคู่ก็ไม่ลืมกล่าวคำขอบคุณเป็นการใหญ่

ตั้งแต่จำความได้จนทุกวันนี้ ฉันได้ยินผู้คนทักทายฉันกับคุณแม่นุชทำนองนี้เสมอ

แต่…ในความสวยและดูดีนั้น หารู้ไม่ว่าท่านเป็นคน “ตลก”

saihamom6

เรื่องเล่าความตลก

คุณแม่นุชเป็นคนตลกโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ มันเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติจากความไม่รู้ ท่านชอบเผลอพูดถึงสิ่งของ สถานที่ หรือชื่อคนผิดอยู่เป็นประจำ จนกลายเป็นเรื่องขำขัน

อีซี่แบงค์ คือ…

ณ ร้าน Pa’Nuch Cafe’ คุณยายนุชดีใจเมื่อหลานสาวทั้งสามคนมาหา ท่านจัดหาอาหารการกินและเครื่องดื่มสารพัดอย่างที่หลาน ๆ ชอบมาตระเตรียมไว้ให้อย่างดี แล้วก็ร่วมวงรับประทานอาหารกันอย่างสนุกสนานและมีความสุขตามประสาที่นาน ๆ จะได้พบปะพูดคุยกันพร้อมหน้าพร้อมตา วันนั้นทุกคนมีความสุข สำราญ เบิกบานใจกันเป็นอย่างมาก

ได้เวลากลับบ้านกันแล้ว เอ๊ะ…คุณยายดึงปลั๊กที่เสียบสิ่งหนึ่งไว้แล้วถามหลาน ๆ ว่า “นี่ๆ ใครลืมอีซี่แบงก์ไว้ลูก”

หลานทั้งสามคนมองหน้ากันแล้วหัวเราะครึกครื้น ก่อนบอกคุณยายว่า

“ยาย ยาย นี่มันคือเพาเวอร์แบงก์ยาย ไม่ใช่อีซี่แบงก์”

ฮ าฮา ฮ่า

ไม่เพียงแค่นั้น เมื่อวันก่อนตอนแวะจุดพักรถระหว่างเดินทาง ฉันถามทุกคนว่า “แวะกินอะไรก่อนมั้ย หิวแล้ว”

คุณแม่นุชส่งเสียงว่า “กินแม็กนัมก็ได้ รองท้องไปก่อน” ทุกคนได้ยินก็ขำกันใหญ่ เพราะสิ่งที่คุณยายนุชตั้งใจบอกหลาน ๆ คือแมคโดนัลด์ หลาน ๆ จึงแซวคุณยายก่อนกลับกันอีกสักพัก แล้วถึงได้เดินทางกลับบ้านใครบ้านมัน

saihamom7

ปล่อยวางและคิดบวก

คุณแม่นุชเป็นเจ้าของร้านกาแฟ Pa’Nuch Cafe’ ที่เปิดให้บริการมานานแล้วและเคยปิดช่วงหนึ่งเพื่อไปเลี้ยงหลาน ปัจจุบันกลับมาเปิดใหม่เมื่อ ๓ ปีที่แล้ว ด้วยความที่ท่านเป็นคนขยัน

ท่านพูดเสมอว่าไม่อยากเป็นภาระให้ลูกหลาน กลัวเป็นอัลไซเมอร์ ท่านบอกว่าการขายของทำให้ได้บวกลบเลข สมองได้พัฒนาอยู่ตลอด

ทุกวันนี้ท่านมักจะทำอะไรด้วยตัวเองก่อนจะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น และยังแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้ผู้อื่นอยู่เสมอ ที่ท่านไม่แก่เพราะมักปล่อยวางและคิดบวกตลอด

คุณแม่นุชหรือคุณยายนุชผู้ไม่เคยโกรธและว่ากล่าวให้ร้ายใคร มักสอนให้ลูกๆ หลานๆ เป็นคนซื่อสัตย์ เป็นคนดี คิดดี พูดดี ปฏิบัติดี มีความรับผิดชอบอยู่เสมอ และสอนให้ทุกคนเรียนรู้และรู้จักความสุขง่ายๆ โดยให้คิดดีไว้ก่อน ทุกสิ่งที่เข้ามาก็จะมีแต่เรื่องที่ดี ๆ

เราสองคนแม่ลูกมักเดินทางไปท่องเที่ยว ชอปปิง ทำบุญร่วมกันบ่อยครั้ง

เหมือนสโลแกนที่ว่า สองเรา…ก้าวไปด้วยกัน

กิจกรรมดีๆ ของ “ค่ายนักเล่าความสุข” ปี 3 ร่วมสร้างสรรค์เรื่องเล่าความสุข และสังคมที่มีความสุข

  • มูลนิธิเล็กประไพวิริยะพันธุ์
  • นิตยสารสารคดี
  • เพจความสุขประเทศไทย
  • สสส.