เรื่อง : สุชาดา ลิมป์
ภาพ : สุชาดา ลิมป์ และพิศาล พูนศักดิ์สร้อย

อยากเที่ยวต่างประเทศแต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ลองไปลี่เจียง

เดินทางง่าย จ่ายในราคาเอเชีย แต่ให้ฟีลเหมือนเที่ยวยุโรป!

ที่ผ่านมาคนไทยไปลี่เจียง-มณฑลยูนนานต้องเสียเวลาสองต่อ คือนั่งเครื่องบินลงท่าอากาศยานนานาชาติคุนหมิงฉางสุ่ยในเมืองคุนหมิง ค่อยข้ามภูมิภาคโดยสายการบินในประเทศราว ๑-๒ ชั่วโมง ซึ่งมีเที่ยวบินจำกัด ผู้เดินทางอาจต้องค้างแรมที่คุนหมิงหรือหากเดินทางต่อโดยรถไฟความเร็วสูงก็ใช้เวลาอย่างน้อย ๒-๓ ชั่วโมง แต่ล่าสุดปี ๒๕๖๗ รัฐบาลไทย-จีนประกาศข่าวดีลงนามข้อตกลงให้ “ไท่กั๋ว” (คนไทย) “ฟรีวีซ่า” และจับมือส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยว “กรุงเทพฯ-ลี่เจียง” บินสู่สนามบินลี่เจียงซันยี่โดยไม่ต้องพักยกที่คุนหมิง จากที่ใช้เวลาเกือบยี่สิบชั่วโมง (รวมค้างแรม) ก็เหลือ ๒ ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ!

สิทธิ์พักร้อนปีนี้จึงหนีโฮมไปหนีห่าว-ทักทายเมืองหนาวลี่เจียง

Lijiang ลี่เจียง (麗江市) มรดก (โลก) น่ารักแห่งยูนนาน

:: มรดก (โลก) น่ารักแห่งยูนนาน ::

ถึงนครลี่เจียงของมณฑลยูนนานจะเป็นเมืองชนบท

แต่มีพื้นที่ถึง ๒๐,๖๐๐ ตารางกิโลเมตร ทั้งส่วนเมืองใหม่และเมืองโบราณ (เมืองเก่าต้าเหยียน เมืองเก่าซูเหอ เมืองเก่าไป๋ซา และบางส่วนของช่องเขาเสือกระโจน) วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสจะอยู่มุมไหนก็เห็นภูเขาโดยง่าย เพราะลี่เจียงตั้งอยู่ในภูมิภาคที่ล้อมด้วยเทือกเขาเหิงต้วน คั่นระหว่างที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต กับที่ราบสูงยูนนาน-กุ้ยโจว ยังเป็นเมืองใหญ่เพียงหนึ่งเดียวในเทือกเขาเหิงต้วน

หากเที่ยวฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) อุณหภูมิจะอยู่ที่ ๕-๑๗ องศาเซลเซียส ฟ้าใส ดอกไม้แข่งกันบานสะพรั่ง เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง ส่วนฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) มีอุณหภูมิเฉลี่ย ๑๓-๒๓ องศาเซลเซียส ฝนตกมากแต่ได้สัมผัสธรรมชาติขจี ถ้าขยับไปฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) ฝนซา อากาศเริ่มหนาว อุณหภูมิราว ๘-๑๙ องศาเซลเซียส เหมาะกับผู้ชื่นชอบใบไม้เปลี่ยนสี และเป็นฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลของลี่เจียงพอดีจึงมีพืชผักผลไม้หลายชนิดให้ลิ้มลอง

ต้นพฤศจิกายนที่เรามาอุณหภูมิในเมืองแต่ละวันเฉลี่ยที่ต้นสิบองศาเซลเซียสและมีฝนพรำตลอดวัน ส่วนบนภูเขาหิมะมังกรหยกอุณหภูมิ -๓.๘ องศาเซลเซียส) ถ้าชอบฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) อุณหภูมิจะต่ำที่ ๐-๑๐ องศาเซลเซียส (กลางคืนอาจต่ำกว่า ๐ องศาเซลเซียส) แต่ในเมืองไม่มีหิมะ

ถึงลี่เจียงแล้วถ้ายังไม่มีที่พักแนะนำให้ค้างแรมที่ “เมืองเก่าลี่เจียง”

ชื่อทางการคือ “เมืองเก่าต้าเหยียน” อายุกว่า ๘๐๐ ปี ค้างแรมที่นี่นอกจากได้ตื่น-นอนท่ามกลางของดี ยังได้อิ่มบรรยากาศที่งามตามช่วงเวลาเช้าจดค่ำ ซึ่งยากจะร่วมกิจกรรมครบทุกถนนในวันเดียว

จีนเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมยาวนานกว่า ๕,๐๐๐ ปี จึงมีโบราณสถานที่ทรงคุณค่าต่อมนุษยชาติ สถาปัตยกรรมยิ่งใหญ่ และธรรมชาติน่าอัศจรรย์มากมาย บันทึกปี ๒๕๖๗ ระบุว่าใน ๑๖๘ ประเทศทั่วโลกมีแหล่งมรดกโลกที่ได้ขึ้นทะเบียนโดย UNESCO จำนวน ๑,๒๒๓ แหล่ง เป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม ๙๕๒ แหล่ง มรดกโลกทางธรรมชาติ ๒๓๑ แหล่ง ที่เหลือผสมทั้งสองประเภท จีนมีมรดกโลกไปแล้ว ๕๙ แหล่ง มากเป็นอันดับสองของโลก (รองจากอิตาลีที่มี ๖๐ แหล่ง) ซึ่งเมืองเก่าลี่เจียง (เมืองเก่าต้าเหยียน) คือหนึ่งใน ๔๐ แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมระดับ 5A ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี (รัฐบาลจีนจัดระดับความงามและคุณภาพให้แต่ละสถานที่ตั้งแต่ A ไปถึง AAAAA (5A) คล้ายระดับดาวของสากล) ที่ชอบคือขอบเขตของเมืองไม่มีกำแพง อาศัยคุณสมบัติของลำธารล้อมเมืองโดยมีสะพานเล็กๆ ให้เดินข้ามฝั่งกว่า ๓๐๐ สะพาน แม้ปัจจุบันคูคลองไม่ได้ใช้สัญจรยังได้รับการดูแลให้สายน้ำที่ไหลผ่านหน้าบ้านสะอาด

ถนนแคบปูหินทุกสายในเมืองเก่าลี่เจียงจะบรรจบที่ตลาด “ซื่อฟางเจีย” (Sifang Square) รูปทรงจัตุรัส สามารถตัดสู่ถนนสายเก่า Tea Horse ที่เคยเป็นจุดแลกเปลี่ยนค้าขาย เมื่อได้รับการพัฒนาเมืองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ข้างทางในชุมชนจึงพรั่งพร้อมด้วยร้านรวงจำหน่ายสินค้าหลากประเภททั้งอาหาร-เครื่องดื่ม (โดยเฉพาะเนื้อ-นมจามรี และใบชา) ข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้ากันหนาว สินค้าที่ระลึก ฯลฯ ทั้งที่ผลิตจากท้องถิ่นและรับจากเมืองอื่น ที่ได้รับความนิยมคือร้านเช่านานาชุดชนเผ่าพร้อมบริการแต่งหน้าทำผมและถ่ายภาพตามถนนสายต่างๆ เป็นที่ระลึก สร้างสีสันให้ย่านเมืองเก่าคืนชีวิตชีวา

อาคารสถาปัตยกรรมที่นี่เด่นเรื่องความสวยแปลกตาไม่เหมือนเมืองเก่าอื่นของจีน (มุมถ่ายรูปที่ได้เห็นหลังคามุงกระเบื้องของบ้านเรือนในเมืองลี่เจียงถือเป็นไฮไล้ท์) เพราะเคยเป็นที่ตั้งรกรากของชาวหน่าซี-กลุ่มชนผู้มีความรื่นเริง รักการร้องเล่นเต้นรำ มีพิธีกรรมเต้นรอบกองไฟเป็นเทศกาลประจำปี วันที่ฝนไม่ตกบริเวณจัตุรัสซื่อฟางเจียจะมีการแสดงเต้นรอบกองไฟจากคนพื้นถิ่น สมฐานะเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม

lijiang16

“สุภาษิตจีนบทหนึ่งกล่าวว่ามิตรภาพอยู่เคียงข้างเราทุกคน ไม่ว่าเราจะไปเยือนถิ่นไหนก็แล้วแต่ทุกคนล้วนข้องเกี่ยวกันทางชาติพันธุ์ การท่องเที่ยวเส้นทางกรุงเทพฯ-ลี่เจียง ไม่ใช่แค่ได้กระตุ้นให้คนจีนมาเห็นความงดงามของกรุงเทพมหานคร ยังอำนวยความสะดวกให้คนไทยได้เข้าถึงลี่เจียงง่ายขึ้น”

Mr. Pan Guirong ประธานบริษัท Lijiang China International Travel Service ให้ทัศนะไว้ในการประชุมส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงเทพฯ-ลี่เจียงที่จัดโดยสายการบิน Ruili Airlines เมื่อตุลาคม ๒๕๖๗ ว่าสิ่งที่สร้างเศรษฐกิจให้ลี่เจียงมีมากกว่าธรรมชาติ คืออารยธรรมงดงาม

lijiang17

“ปัจจุบันการท่องเที่ยวจีนนิยมมุ่งสู่ไหหลําและยูนนาน ซึ่งการท่องเที่ยวยูนนานจะมุ่งที่ลี่เจียง และนับวันจะยิ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในใจผู้คนมากขึ้น เพราะความงามของลี่เจียงครอบคลุมถึงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมอาหาร ที่อยู่อาศัย และขนบธรรมเนียมพื้นบ้าน”

ส่วนตัว-ยกนิ้วให้ด้านความหลากหลายของอาหารที่มีหลากสูตรหลายตระกูล ทั้งกวางตุ้ง, เสฉวน, หูหนาน ฮกเกี้ยน ฯลฯ ทั้งคาว หวาน กินจริงเอาอิ่มและกินเล่นเอาอร่อย (ย่านตลาดท้องถิ่นมีสตรีทฟู้ดให้อิ่มแบบราคาถูกเช้าจดค่ำ ระหว่างกินยังได้สนุกกับบรรยากาศเป็นกันเอง)

“ผมว่าลี่เจียงเหมาะกับคนที่ชอบท่องเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์มาก แม้ขณะอ่านหนังสือพลางดื่มชายังรู้สึกได้ถึงคุณภาพชีวิตที่ดี เข้าถึงความงดงามที่อยู่ในรสชาดของชา บริษัทของผมทำการท่องเที่ยวแบบให้คุณค่าทางความหมายของวัฒนธรรม ผมกล้าพูดว่าคุณจะประทับใจมากถ้าได้มา ลี่เจียงเป็นเหมือนบ้านทางจิตวิญญานให้รู้สึกผ่อนคลายผ่านการสัมผัสชีวิตสโลว์ไลฟ์ แล้วคุณจะเข้าใจความหมายของสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของคนจีน”

:: สมบัติที่กระจายรอบเขตมรดกโลก ::

“ส่วนใหญ่การท่องเที่ยวลี่เจียงจะมีแต่คนจีน การเปิดเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ-ลี่เจียงจึงเป็นมิติใหม่ของการท่องเที่ยวที่เชื่อมคนไทยและคนจีนให้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันได้เพียง ๒ ชั่วโมง”

Mr. Feng Gangcan ประธานสายการบิน TongAn Airlines ผู้ประกอบการเส้นทางลี่เจียง สร้างสำนวนประทับใจไว้ครั้งจัดงานสัมมนาขึ้นในไทย ให้เราคิดต่อในช่วงที่กำลังจะเดินทางไปลี่เจียงพอดี

lijiang28

“ผมว่าการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ในลี่เจียงน่าตื่นเต้นกว่าการท่องเที่ยวอีกครับ คุณคงนึกภาพออกว่าเส้นทางท่องเที่ยวในเมืองจีนจะเป็นการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ เพราะพื้นที่เมืองอยู่บนเขา ตลอดเส้นทางมันจึงสวยมาก…แต่ฟังผมพูดก็คงไม่เท่ากับไปเห็นเองด้วยตา”

อย่าง สระมังกรดำ (เฮยหลงถัน) ที่ตั้งใน สวนยวี่เฉวียน ห่างจากเมืองเก่าลี่เจียงแค่ ๑ กิโลเมตร เป็นสวนสาธารณะที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง (เเมนจู) น้ำใสราวมรกตนั้นไหลจากภูเขาหิมะมังกรหยกที่ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง วันท้องฟ้าแจ่มใสจะสะท้อนทิวทัศน์เทือกเขาหิมะมังกรหยกชัดเจน นอกจากความร่มรื่นตลอด ๑๑,๓๙๐ ตารางเมตร ยังมีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานวัฒนธรรมของชาวฮั่น ทิเบต และหน่าซี อย่างศาลากลางน้ำ สะพานหิน และอาคารต่างๆ ให้ชมเพลินตา

ยังน่าขึ้นบันไดตามทางภูเขาไปยัง พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมลี่เจียงตงปา โดยสถาบันสังคมศาสตร์ยูนนาน ชมสิ่งจัดแสดงวัตถุทางวัฒนธรรมดั้งเดิมทั้งภาษาเขียนผ่านรูปแบบของหนังสือและเอกสารโบราณ ประติมากรรม งานศิลปะ และสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวกับศาสนาของชนกลุ่มน้อยหน่าซีและตงปา คอลเล็กชั่นหลายร้อยประเภทที่จัดแสดงได้รับประกาศขึ้นทะเบียนมรดกความทรงจำแห่งโลกโดย UNESCO ดั่งพยานยืนยันว่าครั้งหนึ่งวัฒนธรรมของพวกเขาเคยเจริญรุ่งเรืองในมณฑลยูนนานมานานหลายศตวรรษ

แล้วยิ่งออกห่างจากเมืองเก่าลี่เจียง ก็จะยิ่งตื่นตากับสมบัติ-ทรัพยากรธรรมชาติ

อย่าง หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (น้ำตกไป๋ซุยเหอ) ที่อยู่เชิงเขาทิศตะวันออกของภูเขาหิมะมังกรหยก ความที่หุบเขาคล้ายรูปพระจันทร์เสี้ยว เมื่อมองจากระยะไกลจึงเสมือนดวงจันทร์สีน้ำเงินลอยอยู่บริเวณตีนเขา น้ำในทะเลสาบที่หุบเขานี้เป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์และเย็นเฉียบตลอดปี โดยไหลทอดยาวกว่า ๓ กิโลเมตร มารวมกันจากการละลายของหิมะบนภูเขาหิมะมังกรหยกซึ่งมีสารที่เรียกว่าคอปเปอร์ซัลเฟต (ปรกติคอปเปอร์ซัลเฟตมีสีขาว จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเมื่อรวมกับโมเลกุลของน้ำ) ส่วนชื่อน้ำตก (ทางอุทยานแห่งชาติภูเขาหิมะมังกรหยกเป็นผู้ก่อขั้นบันไดหินไว้ให้สายน้ำไหลลดหลั่นลงมาคล้ายน้ำตก) มาจากการที่โคลนใต้ทะเลสาบเป็นสีขาวทำให้เมื่อฝนตกธารน้ำในทะเลสาบจะเปลี่ยนเป็นสีขาว (ข้อดีของการมาเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาวคือมีหมอกคลอเคลียทิวทัศน์ได้ฟีลเทือกเขาหิมะในยุโรป)

สายน้ำในหุบเขาแห่งนี้ถูกภูเขากั้นการไหลจากบนลงล่างจนแยกออกเป็นท้องน้ำขนาดกว้างใหญ่ ๔ แหล่ง เรียกชื่อแตกต่างกัน คือ ทะเลสาบหยูเย่ ทะเลสาบจิงถัน ทะเลสาบหลานเยว่ และทะเลสาบติงเทา ชายฝั่งทะเลสาบทั้งหมดล้อมรอบด้วยพืชพรรณและต่างมีภูเขาหิมะมังกรหยกเป็นฉากหลัง บางบริเวณมีเจ้าหน้าที่พาจามรี-สัตว์ประจำถิ่นมาให้นักท่องเที่ยวลองขึ้นขี่และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

สำหรับคนรักธรรมชาติ ได้สูดอากาศหายใจท่ามกลางทิวทัศน์ที่นี่…สวรรค์บนดินชัดๆ

lijiang39

:: ออกซิเจนแห่งภูเขาหิมะมังกรหยก ::

“เมืองโบราณลี่เจียงเป็นไฮไล้ท์สำคัญของลี่เจียง แต่ที่สุดของลี่เจียงผมว่าคือการได้ขึ้น ‘ภูเขาหิมะมังกรหยก’ ความที่มีหิมะปกคลุมตลอดปีมองระยะไกลจึงเห็นคล้ายมังกรสีเหมือนหยกขาวกำลังเลื้อยกายอยู่บนท้องฟ้าในทุกฤดูกาล ตั้งอยู่ห่างจากเมืองโบราณ ๕๐ กิโลเมตร ต้องนั่งรถบัสลงที่หน้าทางเข้าอุทยานแห่งชาติ จากนั้นนั่งรถของอุทยานไปสถานีขึ้นกระเช้าไฟฟ้าสำหรับนั่งได้ ๘ คน”

อาติง (A Ding) เจ้าหน้าที่แนะนำการท่องเที่ยวของลี่เจียงเสนอโปรแกรมสำคัญ

กระเช้าจะมี ๓ แบบ คือ “Glacier Park” กระเช้าขนาดใหญ่ เป็นกระเช้าหลักที่พาไปจุดชมวิวภูเขาหิมะมังกรหยก ใช้เวลาประมาณ ๒๐ นาที อีกแบบคือ “Yak Level Ground” กระเช้าขนาดกลางพาไปทุ่งหญ้าจามรี และสุดท้ายคือ “Spruce Level Ground” กระเช้าขนาดเล็กพาไปทุ่งหญ้าหยุนซานผิง

lijiang40

“ภูเขาหิมะมังกรหยกถือเป็นที่ท่องเที่ยวระดับ 5A เป็นเทือกเขาขนาดเล็กที่ประกอบด้วยภูเขา ๑๓ ลูก เรียงตัวคดเคี้ยวโดยมียอดเขาสูงสุดชื่อ ‘ช่านจึโต่ว’ อยู่เหนือระดับน้ำทะเล ๕,๕๙๖ เมตร แต่กระเช้า Glacier Park จะส่งนักท่องเที่ยวที่ความสูง ๔,๕๐๖ เมตร จากนั้นมีไม้กระดานทอดยาวขึ้นภูเขาให้เดินขึ้นไปเองอีก ๑๗๔ เมตร จึงถึงจุดที่เรียกว่า ‘Glacier Park’ เป็นจุดชมวิวที่สวยสุดของที่นี่”

ตามจริงหากจะเที่ยวของดีลี่เจียงให้ครบต้องมีเวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งครั้งนี้เราก็ไม่มีโอกาสสัมผัสอีกหลายที่ ไม่แน่ว่า สิทธิ์ลาพักร้อนปีหน้าคงต้องใช้กลับมาลี่เจียงอีกครั้ง

“ซึ่งแม้ที่นี่จะเที่ยวได้ทุกเดือนแต่ฤดูใบไม้ร่วงถือเป็นช่วงดีที่สุด ขณะนั่งกระเช้าไฟฟ้าจะได้เห็นบรรยากาศงดงามของผืนป่าบนภูเขา ใบไม้สีเขียวจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้ม แดง ท้องฟ้าจะแจ่มใส อากาศสดชื่น อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ราว ๘-๑๙ องศาเซลเซียส แล้วเมื่อขึ้นถึงจุดชมวิวก็จะเห็นยอดภูเขาหิมะมังกรหยกชัดเจน โดยเฉพาะวันที่ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าเข้มตัดกับภูเขาหิมะสีขาวเป็นภาพที่น่าประทับใจมากๆ”

จากนั้นหิมะจะเริ่มตกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ต้นเดือนพฤศจิกายนที่เรามาอุณหภูมิบริเวณจุดชมวิว-สถานีกระเช้าไฟฟ้าบนภูเขาหิมะมังกรหยกแสดงผลที่ -๓.๘ องศาเซลเซียส (หากมาฤดูหนาวอากาศจะหนาวจัด อุณหภูมิบนภูเขาหิมะมังกรหยกจะต่ำกว่านี้อีกมาก หนาวสุดคือเดือนมกราคม)

สำหรับคนที่มาจากประเทศเมืองร้อนและเหนื่อยกับการงานมาตลอดปี

ได้พาตัวเองมาพักท่ามกลางเสน่ห์สดชื่นของหิมะหนาฟูสักวันก็คุ้มแล้ว

lijiang43

เอื้อเฟื้อข้อมูล สายการบิน Ruili Airlines และรัฐฐาน์ ธนันท์พรพงษ์