จิตร, จิตร– [จิด, จิดตระ-] น. การวาดเขียน, การระบายสี, ลวดลาย ว. งดงาม, สดใส, ที่เขียนงดงาม
จิตรกรรม น. ศิลปะประเภทหนึ่งในทัศนศิลป์เกี่ยวกับการเขียนภาพวาดภาพ, รูปภาพที่เขียนหรือวาดขึ้น
“พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๕”

ภาษาไทยปัจจุบันใช้คำว่า “จิตรกรรม” ในความหมายอย่างเดียวกันกับคำภาษาอังกฤษว่า painting
คำว่า “จิตรกรรม” ใช้กันมานานแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเดิมมีฐานะเป็นศัพท์สูง หรือ “กวีโวหาร” เช่นในพงศาวดารมอญ “ราชาธิราช” ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยสมัยรัชกาลที่ ๑ เมื่อปี ๒๓๒๘ ตอนหนึ่งกล่าวว่า
“ครั้นอยู่มาพระเจ้าหงษาวดี จึงให้แต่งสำเภาลำหนึ่ง บันทุกเสบียงอาหารไพร่พลพร้อมแล้ว จึงตรัสนิมนต์พระสงฆ์ราชาคณะผู้ใหญ่องค์หนึ่ง ชื่อพระพุทธโฆษาจารย์ กับด้วยพระภิกษุที่ชำนาญในจิตรกรรมรูปภาพเลขา ให้ไปเขียนอย่างปราสาทอย่างพระพุทธบาทแลอย่างพระวิหารทั้งสิบหกแห่ง ซึ่งมีอยู่ ณ เมืองลังกาทวีปนั้นมา”
ถัดมาในสมัยรัชกาลที่ ๕ ปรากฏมี “จิตรกรรมโกศล” ขึ้นอีกคำหนึ่ง “โกศล” แปลว่าฉลาด “จิตรกรรมโกศล” คือฉลาดในเชิงจิตรกรรม และดูเหมือนจะใช้ในความหมายว่าวิชาช่างเขียน เช่นเมื่อ “ท่านต๋ง” หม่อมเจ้าประวิช ชุมสาย (๒๓๙๐-๒๔๖๘) ช่างหลวงผู้มีชื่อเสียงมาตั้งแต่ต้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จัดพิมพ์หนังสือตำราฝึกหัดวาดเขียนแบบตะวันตกขึ้นในทศวรรษ ๒๔๔๐ ก็ใช้ชื่อชุดว่า “จิตรกรรมโกศล”
ชิต บุรทัต (๒๔๓๕-๒๔๘๕) มหากวี ยังเคยแต่งกวีนิพนธ์ชื่อ “สหลักษณ์” ลงในนิตยสาร “ศรีกรุง” มีตอนหนึ่งว่าด้วย “จิตรกรรมโกศล” เป็นอินทรวิเชียรฉันท์ว่า
เรียนจิตรกรรมโก- ศละการประการมี
เขียนลายระบายสี พิศะเส้นก็เห็นสวย ฯ
วาดลง ณ แผ่นแผน ยละแสนจะงงงวย
เด่นงามอร่ามทวย นระหลากตะลึงลาน ฯ
ภาพซึ้งประหนึ่งชี- วิตะมีกระมลมาน
ชวนชมนิยมปาน ดุจะจริงประจักษ์ครัน ฯ
ส่วนคำว่า “จิตรกรรมฝาผนัง” เข้าใจว่าเป็นคำใหม่ คงประสมคำขึ้นเพื่อแปลคำภาษาอังกฤษ mural painting เริ่มพบการใช้แพร่หลายราวต้นทศวรรษ ๒๕๐๐ เมื่อกรมศิลปากรหันมาใส่ใจภาพเขียนโบราณตามวัดวาอารามต่างๆ ดังมีหนังสือหลายเล่มที่กรมศิลปากรจัดพิมพ์ขึ้นในระยะนั้นใช้ชื่อเรื่องว่า “จิตรกรรมฝาผนัง” เช่น “วิวัฒนาการแห่งจิตรกรรมฝาผนังของไทย สถานจิตรกรรม และสารบาญภาพจิตรกรรมฝาผนังในหอศิลป” (๒๕๐๒) และ “คุณค่าของจิตรกรรมฝาผนัง” (๒๕๐๒)

