Page 166 - Skd 298-2552-12
P. 166
อริสโตเติล (Aristotle) นักปรัชญาที่ยิ่งใหญ่ของกรีก ดาราศาสตรโ์ บราณของไทย
มีชีวิตอยู่ระหว่างช่วง พ.ศ. ๑๕๙-๒๑๙ เป็นอีกคนหนึ่งท่ี
เสนอความเหน็ วา่ บางครงั้ โลกโคจรไปอยรู่ ะหวา่ งพระอาทติ ย ์ วิชาดาราศาสตร์โบราณของไทยก็เป็นเช่นเดียวกับวิชา
และพระจันทร์ และเงาของโลกที่ปรากฏบนดวงจันทร์เป็น ดาราศาสตร์โบราณในเขตอื่น ๆ ของโลก คือมีเน้ือหาเป็น
รปู โคง้ คอื สงิ่ ทเี่ รารจู้ กั กนั ในนามของ “อปุ ราคา” นอกจากน้ี หน่งึ เดียวกนั ระหวา่ งดาราศาสตรก์ ับโหราศาสตร์
แนวคดิ ของอรสิ โตเตลิ ตอ่ ดาวหางทรี่ ะบวุ า่ “ในปที มี่ ดี าวหาง
หลายดวง จะแห้งแล้งและมีพายุ” ก็ได้เป็นจุดเริ่มต้นของ ค�ำว่าโหราศาสตร์นี้ หลวงอรรถวาทีธรรมประวรรต
ความกลัวดาวหาง ซ่ึงถ่ายทอดสืบมามากกวา่ ๒,๐๐๐ ปี อธบิ ายความหมายไว้ดังนี้
ฮิปปาร์คัส (Hipparchus) นักดาราศาสตร์ชาวกรีก “โหรา” (Hora) ยอ่ มาจากคำ� วา่ “อโหราตรฺ ”ิ (Ahoratri)
มีชีวิตอยู่ระหว่างช่วง พ.ศ. ๓๘๓-๔๑๘ ผู้ค้นพบวิชา โดยลบอักษรตัวต้นคือ อ กับอักษรตัวสุดท้ายคือ ตฺริ เสีย
ตรีโกณมิติ เป็นคนแรกท่ีคิดเครื่องมือวัดวงกลมออกเป็น แปลว่ากลางวนั และกลางคืน แตใ่ นภาษาสเปนคำ� “Hora”
๓๖๐ ส่วน หรือ ๓๖๐ องศา ซึ่งใช้กันมาถึงทุกวันน้ี น้ี อ่านว่า “Orah-โอรา” แปลว่านาฬิกาหรือชั่วโมง และ
ฮปิ ปารค์ สั ไดแ้ นะนำ� ใหใ้ ชเ้ สน้ รงุ้ เสน้ แวงเปน็ เสน้ บอกตำ� แหนง่ ในภาษาละติน “Hora” แปลว่าช่ัวโมงเหมือนกัน ดังน้ัน
ตา่ ง ๆ บนพน้ื โลก และยงั เปน็ ผคู้ ดิ เครอื่ งมอื สำ� หรบั วดั ระยะ ค�ำ “โหราศาสตร์” (Astrology) จึงแปลว่า ต�ำราที่ว่าด้วย
หา่ งของดาวบนฟา้ ไดอ้ ยา่ งละเอยี ดยง่ิ กวา่ เครอื่ งมอื ใด ๆ รนุ่ การคำ� นวณ ในตำ� ราฮนิ ดูเรียก “โชฺยตษิ ศาสตร์” มากกวา่
ก่อนหน้าน้ี นอกจากน้ันเขายังได้เขียนต�ำแหน่งดาว (Star ใช้ค�ำ “โหราศาสตร์” ส่วนค�ำว่า Astrology น้ันมาจาก
Chart) ไว้ถึง ๑,๐๘๐ ดวง กับเป็นคนแรกทเ่ี รมิ่ ท�ำรายการ ภาษากรีก Asron-ดาว และ Logos-เหตุ ซ่ึงรวมกันแปลว่า
บญั ชดี าวไวอ้ กี ดว้ ย หลกั วชิ าคำ� นวณของฮิปปาร์คัสนั้นเป็น ตำ� ราที่กลา่ วถึงเหตอุ นั เกิดแต่ดาว
พ้ืนฐานส�ำคัญให้แก่ดาราศาสตร์ของอนิ เดยี ซงึ่ เหน็ ไดช้ ดั วา่
ดาราศาสตร์อินเดียมีหลักการใกล้เคียงกับหลักการของ จากจุดเร่ิมต้น ณ ท่ีแห่งใดแห่งหน่ึงในทวีปเอเชีย
ฮิปปาร์คสั มาก แมจ้ ะมวี ิธคี �ำนวณไม่ตรงกนั ในทีเดยี ว ไม่น้อยกว่า ๕,๐๐๐ ปีที่ผ่านมา วิชาดาราศาสตร์โบราณ
อันประกอบด้วยดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ได้รุ่งเรืองข้ึน
ปโตเลมี (Ptolemy) เป็นนักดาราศาสตร์กรีกใน ในอินเดีย และเผยแผ่สืบทอดมาสู่สยาม ช่วงเวลาที่น่าจะ
ราชสำ� นกั อยี ปิ ต ์ มชี วี ติ อยใู่ นชว่ งประมาณพทุ ธศตวรรษท ่ี ๗ เป็นไปได้นัน้ อาจารย์เทพย์สนั นษิ ฐานว่าคงจะเปน็ ช่วงเดียว
เขาเป็นผู้สถาปนาความเชื่ออันแข็งแกร่งที่สืบทอดมาอีก กับท่ีพระเจ้าอโศกมหาราชพิชิตชมพูทวีปได้ ท�ำให้พวก
นับพันปีภายหลังว่าโลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล โดยท่ี ชาวอินเดียทางใต้รวมทั้งพราหมณาจารย์ต้องพากันล้ีภัย
พระจันทร์ ดาวพุธ ดาวศุกร์ พระอาทิตย์ ดาวอังคาร ดาว อพยพลงมายงั ดนิ แดนเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ทงั้ ในดนิ แดน
พฤหัสบดโี คจรอยรู่ อบโลก (Geo-Centric System) มอญและดนิ แดนกมั พชู าโบราณ โดยพราหมณาจารยเ์ หลา่ นนั้
คงเอาคมั ภรี พ์ ระเวทและศลิ ปศาสตรต์ า่ ง ๆ ลงมาดว้ ย เมอ่ื
ทฤษฎีของปโตเลมีได้รับการยอมรับว่าถูกต้องสมบูรณ์ ชนชาตไิ ทยรงุ่ เรอื งขน้ึ กไ็ ดร้ บั วฒั นธรรมความรตู้ า่ ง ๆ รวมทงั้
อยู่จนกระท่ัง พ.ศ. ๒๐๘๖ มีนักบวชโปแลนด์คนหนึ่งคือ โหราศาสตร์ผ่านทางมอญมาผสมด้วยอีกทางหนึ่ง เช่น
โคเปอรน์ คิ สั (Copernicus) ไดป้ ระกาศหกั ลา้ งความเชอ่ื เดมิ คัมภีร์พระธรรมศาสตร์ คัมภีร์ราชศาสตร์ และคัมภีร์
ว่าโลกและดาวอังคารโคจรรอบดวงอาทิตย์ จากน้ันเม่ือมี โหราศาสตร ์ คอื คมั ภรี ส์ ารมั ภ ์ คมั ภรี พ์ ระสรุ ยิ ยาตร ์ คมั ภรี ์
การพัฒนาเทคโนโลยีในการดูดาวขึ้น กาลิเลโอ (Galileo) จักรทีปนี เปน็ ตน้
ก็ได้ใช้กล้องโทรทรรศน์ส่องดูเทหฟากฟ้าเป็นคนแรกในปี
พ.ศ. ๒๑๕๒ และประกาศวา่ โลกมใิ ชศ่ นู ยก์ ลางของจกั รวาล แผนทด่ี าวฉบับยอ่
แตโ่ คจรรอบดวงอาทิตย ์ (Helio-Centric System)
ในวิชาโหราศาสตร์ไทยนี้ บรรพชนโหราจารย์ไทยได้
แม้ต่อมากาลิเลโอจะถูกจับตัวขึ้นศาลศาสนาในยุคนั้น รวบรวมความรู้บันทึก “แผนที่ดาวไทย” ไว้อย่างลุ่มลึกน่า
แต่มิติใหม่ทางดาราศาสตร์ของโลกก็ได้เปิดขึ้นแล้ว และ อัศจรรย์ย่ิง และยังมีชีวิตยาวนานหลายร้อยปีสืบทอดมา
นับแตน่ ั้น ดาราศาสตร์กบั โหราศาสตรท์ ่ีเคยเจรญิ ควบคู่กัน ตั้งแต่ในหลักหินของจารึกสมัยสุโขทัยจนถึงหน้ากระดาษ
มา ก็ได้แยกห่างจากกันเม่ือมนุษย์มีเคร่ืองมือในการตรวจ หนังสือพิมพ์ทุกวันนี้ ลองเปิด ไทยรัฐ หน้า ๑๖ ทุกวันจะ
ดูดวงดาวเป็นพิเศษนเ้ี อง เห็นดวงประจ�ำวัน มีค�ำบรรยายชะตาชีวิตคนเกิดวันต่าง ๆ
172 นิตยสารสารคดี ฉบับท่ี ๒๙๘ ธันวาคม ๒๕๕๒