กลับไปหน้า สารบัญ จ า ก บ ร ร ณ า ธิ ก า ร
    หากมีการทำวิจัย ปัญหา ความอึดอัดของ คนใช้รถ ใช้ถนน ในกรุงเทพมหานคร ผมคิดว่า ปัญหาหนึ่ง ที่คนเหล่านี้ อยากพูดออกมาดัง ๆ ก็คือ อภิสิทธิ์ของคนบางกลุ่ม ที่มักใช้รถนำขบวน อย่างไม่สมเหตุสมผล
    ผมเชื่อว่า คงไม่มีใครปฏิเสธ การใช้รถนำขบวน ในกรณีที่จำเป็น ไม่ว่ารถนำขบวน เสด็จพระราชดำเนิน ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จฯ พระบรมราชินีนาถ รวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ รถนำขบวนในรัฐพิธี รถนำขบวนแขกของรัฐบาล และรถนำขบวน กรณีฉุกเฉิน
     แต่ปัจจุบัน ดูเหมือนจะมีอภิสิทธิ์ชน กลุ่มหนึ่ง ที่มักใช้รถตำรวจ หรือมอเตอร์ไซค์ตำรวจ แล่นนำหน้า เปิดทางให้รถของตน จนเกินเลย นั่นคือ บรรดานักการเมือง โดยเฉพาะรัฐมนตรีทั้งหลาย ซึ่งผู้ขับขี่รถยนต์ ที่ผ่านไปตามเส้นทาง ที่มุ่งสู่ทำเนียบ หรือรัฐสภา จะพบเห็น การใช้อภิสิทธิ์ ของคนกลุ่มนี้ ได้เป็นประจำ
   
อันที่จริง มีมติ ครม. ฉบับหนึ่งที่ออกมา ครั้งนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี สมัยแรก ว่าด้วยการ ใช้รถนำขบวน ของบรรดารัฐมนตรี มติ ครม. ฉบับนั้นระบุชัดว่า "ห้ามใช้รถนำขบวน โดยไม่จำเป็น ห้ามใช้รถนำขบวน จนเป็นปรกตินิสัย หากจำเป็น ในการใช้รถนำขบวน ต้องปฏิบัติตามกฎจราจร โดยเคร่งครัด อาทิ ห้ามปิดกั้นถนน อีกด้านหนึ่ง ห้ามขับรถฝ่าไฟแดง ยกเว้นมีภารกิจเร่งด่วนจริง ๆ ทั้งนี้เพื่อไม่ทำให้ประชาชน เสียความรู้สึก ในการมีรถนำขบวน นำหน้ารถของ รัฐมนตรีทั้งหลาย"
    แต่ทุกวันนี้ บรรดาผู้ใช้รถ คงได้เห็นแล้วว่า อภิสิทธิ์ชนกลุ่มนี้ มีภารกิจเร่งด่วน กันตลอดวัน จนคนธรรมดาอย่างเรา ต้องมีหน้าที่เสียสละ เพื่อผู้ทรงเกียรติเหล่านี้ เราต้องยอมขับรถชิดซ้าย เมื่อมีเสียงไซเรน ไล่หลังมา ต้องยอมหยุดรถ ตามสี่แยกทั้ง ๆ ที่ไฟเขียว เพราะมีรถมอเตอร์ไซค์ นำขบวน จอดหราอยู่กลางสี่แยก คอยกั้นรถไว้ เพื่อให้อภิสิทธิ์ชนกลุ่มนี้ ผ่านไปก่อน
    ดูเหมือนว่า ภารกิจของคนธรรมดา ไม่มีสิทธิ์จะเร่งด่วนได้
    สิทธิในการใช้ถนน ในฐานะผู้เสียภาษีคนหนึ่ง ได้ถูกริดรอน เพื่อเป็นบรรณาการ แด่อภิสิทธิ์ชนเหล่านี้ โดยถ้วนหน้า ทั้ง ๆ ที่หากว่ากันตามตัวบทกฎหมาย ไม่มีใครมีสิทธิ์ ฝ่าไฟแดง หรือเปิดหวอบีบแตรไล่ รถคันอื่นให้ชิดซ้าย
    รัฐบาลชุดนี้เคยพูดไว้ว่า จะทำให้คนเท่าเทียมกันทางกฎหมาย     แต่อภิสิทธิ์ชนกลุ่มนี้ กลับทำลายความศักดิ์สิทธิ์ ของกฎหมาย โดยเห็นแก่ความสะดวกสบาย ส่วนตน จนกลายเป็นความเคยชิน ที่จะใช้อภิสิทธิ์ อย่างเต็มที่ ตราบเท่าที่ยังมีอำนาจ โดยไม่สนใจว่า ประชาชนจะเก็บกด และอึดอัด กับพฤติกรรมของพวกเขาแค่ไหน
      เล่ากันว่า รถนำขบวนของรัฐมนตรีบางคน ถึงกับปิดกั้นรถยนต์บนทางด่วน เพื่อให้เจ้านาย ของตัวเองไปก่อน ส่งผลให้รถติดกัน ยาวเหยียด มิหนำซ้ำ ยังไม่จ่ายค่าทางด่วนเสียอีก
    นอกจากนี้นักการเมืองบางคน ที่เป็นเพียงอดีตรัฐมนตรี ก็ยังสามารถ หารถนำขบวน มาอำนวยความสะดวกได้ จนเป็นเรื่องปรกติ แม้ว่าจะมีระเบียบของ สำนักนายกรัฐมนตรี ประกาศไว้ว่า นักการเมือง ที่มีสิทธิ์ใช้รถนำขบวน ได้แก่ นายกรัฐมนตรี รองนายกฯ รัฐมนตรีว่าการ และ ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน
    เหล่านี้คือเสี้ยวหนึ่ง ของอำนาจในทางการเมือง ที่ทำให้คนที่ติดอยู่ในรสชาติเช่นนี้แล้ว ยากที่จะหลุดออกมาได้
    แต่มันก็เป็นเหมือน ระเบิดเวลาในใจ ของประชาชนผู้เสียภาษี ทุกคนเช่นกัน
ฉบับหน้า : พื้นที่ชุ่มน้ำ กับนิยายหลากเรื่อง
ฉบับหน้า
นักรบชายขอบ กับแนวรบ ด้านตะวันตก
       ปลายปีก่อน เพื่อนเก่าคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า วันหนึ่งเขาขับรถ มาจากถนนพิษณุโลก มุ่งหน้ามาถนนราชดำเนิน ขณะที่ขับรถอยู่ในเลนซ้าย กำลังจะผ่านทำเนียบรัฐบาล ปรากฏว่า มีรถมอเตอร์ไซค์ นำขบวนรถเบนซ์ ของรัฐมนตรีคนหนึ่ง ขี่มาด้วยความเร็วสูง และปาดหน้ารถของเขา เพื่อกั้นให้หยุด รถเบนซ์จะได้แล่นเข้าทำเนียบรัฐบาลได้
    แต่เพื่อนผมไม่ยอมรับพฤติกรรมแบบนี้ จึงไม่ยอมหยุดรถ เพราะถือว่าตัวเอง ทำถูกกฎจราจร และแสดงการประท้วง โดยการบีบแตร ไล่หลังรถรัฐมนตรีผู้นี้ดังลั่น เป็นเวลาเกือบนาที แต่ผลสุดท้ายรถนำขบวน ก็สามารถแล่นเข้าไปในทำเนียบได้ เพื่อนผมจึงขับรถต่อไป ด้วยความรู้สึกโกรธ
    อย่างไรก็ตาม ตำรวจที่ขับมอเตอร์ไซค์นำขบวน เกิดอาการฉุนเฉียวมาก และเจ้านายในรถก็ไม่พอใจ ที่มีคนมาบีบแตรไล่หลัง (เพราะเคยชินแต่ การบีบแตรไล่คนอื่น) จึงขี่มอเตอร์ไซค์ตามมา   แล้วปาดหน้า บังคับให้หยุดรถ
    เพื่อนผมหยุดรถแต่โดยดี ตำรวจนายนั้นเดินกร่างเข้ามา ด้วยความโกรธเต็มที่ แล้วบริภาษ ด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า
    "คุณรู้หรือเปล่าว่านั่นรถใคร ... นั่นรถท่านรัฐมนตรี ผมบอกให้หยุดรถ แล้วทำไมไม่หยุด"
    แต่ก่อนที่ตำรวจผู้นั้นจะพูดต่อ หรือขอดูใบอนุญาต ขับขี่รถยนต์ เพื่อนผมก็ตวาดกลับ ด้วยเสียงที่ดังกว่า เพราะเก็บกดเรื่องนี้มานาน
    "บอกมาเดี๋ยวนี้ ว่าคนที่อยู่ในรถชื่ออะไร ผมไม่สนใจ ว่าเป็นรัฐมนตรีหน้าไหน คุณคิดหรือว่า คนอื่นเขาไม่มีงานเร่งด่วน ต้องจอดรอให้พวกคุณฝ่ายเดียว บอกมาซิ ว่ารัฐมนตรีคนนั้น ชื่ออะไร"
    พอได้ยินเสียงดังกว่า และเห็นว่าคนพูดไม่มีอาการเกรงกลัว เจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่อย่างใด ท่าทีของตำรวจนายนั้น ก็เปลี่ยนไปทันที พูดเสียงอ่อย ๆ ว่า
    "พี่ต้องเข้าใจนะครับ ผมก็ลูกชาวบ้านธรรมดา ผมเป็นตำรวจชั้นผู้น้อย เจ้านายในรถไม่พอใจมาก ที่มีคนบีบแตรไล่หลัง ผมก็ถูกตำหนิ ว่าทำหน้าที่บกพร่อง"
    เพื่อนผมคลายอาการโกรธลง แล้วเลยถือโอกาส อบรมการทำหน้าที่ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ดี ให้ตำรวจนายนั้นฟัง อยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายตำรวจนายนั้น ก็ขอตัวกลับ พร้อมกับถามให้แน่ใจว่า
    "พี่ไม่มีปัญหาอะไรกับผมนะครับ"
    "คุณไปได้แล้ว" เพื่อนผมตอบสั้น ๆ ด้วยความพอใจ ที่สามารถแสดงสิทธิ์ ของผู้เสียภาษีได้เต็มที่

วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์
Vanchai@Sarakadee.com
vanchait@hotmail.com

  หมายเหตุ :
    ขอแก้ไขข้อผิดพลาดใน สารคดี ฉบับที่ ๑๗๘ ดังนี้
    หน้า ๑๓๗ วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๔๗๗ เปิดมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง
    หน้า ๑๓๘ วันที่ ๑๖ สิงหาคม วันสันติภาพ
    หน้า ๑๔๔ วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๑๘ วันสถาปนามหาวิทยาลัยรามคำแหงอย่างเป็นทางการ (ได้รับการสถาปนาตาม พ.ร.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหงมาตั้งแต่ปี ๒๕๑๔)

สนับสนุน หรือ คัดค้าน สิทธิคนไทย กับการดูหนังเรื่อง Anna and the King
มหาวิทยาลัยนอกระบบ
นกปรอดหัวโขน   เสียงขับขาน จากกรงเลี้ยง

สารบัญ | จากบรรณาธิการ | Y3K จะเป็นอย่างไร
ตำนานแห่ง ไวกิ้งหญิง | ซองคำถาม | เฮโลสาระพา
Famtrip to Malaysia-Singapore
Wetlands: The "Smooth" Life at Three Hundred Peak Water Plain

สำนักพิมพ์ สารคดี | สำนักพิมพ์ เมืองโบราณ | วารสาร เมืองโบราณ | นิตยสาร สารคดี
[ วิริยะบุคส์ | มีอะไรใหม่ | เช่าสไลด์ | ๑๐๘ ซองคำถาม | สมาชิก/สั่งซื้อหนังสือ | WallPaper ]