Page 75 - Skd 365-2558-07
P. 75
การเลีย้ งอูฐในทะเลทรายโดยใชห้ ญ้าแห้งอัดกอ้ นเป็นอาหาร
(ซา้ ยลา่ ง) กะอบ์ ะฮท์ มี่ หานครเมกกะ ศนู ยร์ วมจติ ใจของมสุ ลมิ ทว่ั โลก
อาคารรูปทรงส่ีเหล่ียมลูกบาศก์คลุมดว้ ยผา้ ก�ำมะหยส่ี ดี �ำ
ปักตัวอักษรสที องภาษาอาหรับเป็นข้อความจากคมั ภรี อ์ ลั กรุ อาน
ท่ีมมุ หนึ่งวางตัง้ หนิ ดำ�
นอกตึกรามบ้านช่องนั้นร้อนระอุดุจไฟเผา แต่ภายในเย็นฉำ่� ภายในมัสยิดอัลนะบะวีย์ มัสยิดดิลฮะรอม รวมทั้งมัสยิด
ด้วยเคร่ืองปรับอากาศขนาดใหญ่เปิด ๒๔ ชั่วโมง บ้านพักอาศัย กุบา มัสยดิ หลังแรกของอิสลามที่ชานเมืองมะดีนะห์ไม่มีรูปปั้น ไม่มี
รฐั บาลจา่ ยคา่ ไฟใหค้ รง่ึ หนงึ่ ชวี ติ ความเปน็ อยขู่ องชาวซาอดุ อี าระเบยี รูปเคารพ หินด�ำท่ีมุมกะอ์บะฮ์ก็มิใช่หินศักด์ิสิทธ์ิส�ำหรับเคารพ
จึงนบั วา่ สขุ สบายพอสมควร กราบไหว้ นอกจากสัมผัสและเฏาะวาฟหรือเดินเวียนรอบตาม
แบบอย่างของศาสดามฮุ มั มดั
การเดนิ ทางกา้ วแรกเร่ิมทม่ี ะดีนะห์
มะดีนะห์เดิมชื่อยัษริบ มีความส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ ใกล้ ๆ มะดีนะห์มีสมรภูมิหนึ่งเรียกว่าอุฮุด นับเป็นประวัติ-
เนอ่ื งจากเปน็ สถานทที่ ศี่ าสดามฮุ มั มดั ฮจิ เราะหห์ รอื อพยพหนภี ยั การ ศาสตร์บาดแผลของอิสลามและเป็นอุทาหรณ์ส�ำคัญท่ีไม่เชื่อผู้น�ำ
ต่อต้านศาสนาใหม่ไปสู่เมืองที่ประชาชนให้การต้อนรับ ประชาชน จนกองทัพมุสลิมพ่ายแพ้อย่างยับเยิน ศาสดามุฮัมมัดบาดเจ็บ
มะดนี ะหไ์ ดร้ บั การเรยี กขานวา่ “อนั ศอร” หรอื ผชู้ ว่ ยเหลอื “มฮู าญ ีรนี ” ฮมั ซะฮล์ ุงของศาสดามุฮมั มัดเสียชวี ิตในการรบ ถูกสบั ร่างเป็นชิ้น ๆ
คือผู้ทอี่ พยพมาจากนครเมกกะพรอ้ มศาสดามุฮมั มดั
มะดีนะห์นับเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของมุสลิมและเป็นท่ี ความปราชัยท่ีสมรภูมิอุฮุดของกองทัพมุสลิมเป็นบทเรียน
พ�ำนักถาวรของศาสดามุฮัมมัดจนกระท่ังวะฟาดหรือวายชนม์ ศพ ลำ�้ คา่ ยงิ่ สำ� หรบั การไมเ่ ชอ่ื ผนู้ ำ� ทา่ นศาสดาบาดเจบ็ ในการสรู้ บครงั้ น้ี
ของทา่ นถกู ฝังอย่ภู ายในบริเวณมสั ยดิ อลั นะบะวยี ์ เพราะพลธนูขาดวินัย กรูกันลงมาจากฐานที่มั่นบนเนินเขาตรงข้าม
วันนี้ของมะดีนะห์เป็นศูนย์กลางการค้าส�ำคัญแห่งหน่ึง ราย ภูเขาอฮุ ดุ ดว้ ยส�ำคญั ผิดวา่ ได้รับชยั ชนะแล้ว ท้งั ท่ศี าสดามีค�ำสงั่
รอบมัสยิดอัลนะบะวีย์มีตึกสูงไม่เกิน ๑๓ ช้ัน ด้วยสถาปัตยกรรม
ประตูโค้งและการตกแต่งแบบอาหรับ มีเครือเถา เรขาคณิตท่ีเน้น “ให้รักษาฐานที่ม่ันบนเนินเขา อย่าได้ละท้ิงท่ีม่ันเป็นอันขาด
ลวดลายมากกว่ารูปทรงเช่นเดียวกับที่เมกกะ ตึกสูงจึงกลมกลืนกับ ไมว่ า่ อะไรจะเกดิ ขนึ้ กต็ าม แมจ้ ะเหน็ ฝงู นกโฉบไลจ่ กิ บรรดาพลธนกู ต็ าม”
มัสยิดส�ำคัญที่ยังคงความขรึมขลังเป็นอัตลักษณ์ของชนชาติแห่ง
อาระเบีย สงครามอฮุ ดุ เกดิ ขนึ้ ในฮจิ เราะหศ์ กั ราชท ่ี ๓ ณ เมอื งมะดนี ะห์
สถาปัตยกรรมและรูปแบบศิลปะบนพื้นท่ีทั้งอาคารสูง บ้าน เมืองนี้ยังเป็นแหล่งปลูกอินทผลัมพันธุ์ดี แหล่งใหญ่อยู่ที่
พกั อาศยั สงิ่ ของ ถาวรวตั ถตุ า่ ง ๆ ลว้ นเรยี งรอ้ ยดว้ ยรปู ทรงเรขาคณติ ตำ� บลอฮุ ดุ ซงึ่ ผนื ดนิ อดุ มกวา่ ทอ่ี น่ื ๆ อกี ทง้ั นบั วา่ นเี่ ปน็ ผลไมม้ หศั จรรย์
และอักษรภาษาอาหรบั ในคมั ภีรอ์ ัลกรุ อาน ทดแทนรปู ปัน้ รปู เคารพ ที่ผูกพันใกล้ชิดกบั เสน้ ทางประวัติศาสตร์อสิ ลาม
ต่าง ๆ รวมท้ังอัลลอฮ์และศาสดามุฮัมมัด ก็ปรากฏเพียงตัวอักษร บนผืนทรายที่แล้งร้อนจนมิอาจเช่ือว่าจะมีสิ่งมีชีวิตใดอาศัย
ซ่อนความหมายลึกซึ้ง ให้ผู้คนยึดมั่นและศรัทธาด้วยใจมากกว่า อยู่ได้ มีความมหัศจรรย์อย่างน้อยสองประการ หน่ึง นำ้� มันใต้ทะเล
ยึดติดรปู วตั ถุ ทราย ซงึ่ พลกิ ฟ้ืนแผน่ ดินแล้งร้อนให้เป็นแผ่นดนิ ทองดว้ ยรายไดจ้ าก
การขายนำ้� มนั ผา่ นหลกั ลา้ นลา้ นดอลลารส์ หรฐั นบั จาก ค.ศ. ๑๙๘๐
สอง อินทผลัม พืชในตระกูลปาล์มที่ผูกพันกับวิถีชีวิตของ
ผคู้ นในโลกมุสลิมอย่างแนบแน่นยาวนาน
กรเมกฎนีษาคยมน ๒๕๕๘๖ 75