Page 52 - Skd 373-2559-03
P. 52
D e s i g n
สถาปัตยกรรมเขตร้อน-
ลูกผสมแห่งดินแดนอาณานิคม
ลทั ธิอาณานิคม
ในศตวรรษที่ ๑๖
Ù ต้นกำ� เนดิ ของ
สถาปัตยกรรมเขตรอ้ น
ช่วงปลายศตวรรษท่ี ๑๙
hpottrptso:_/s/epgeunrnos_teamteb_r1a5z0il0.f.ijlpegs?.wwo=r4d3p8re&ssh.=co2m44/2013/04/desembarque_de_pedro_c3a1lvares_cabral_em_
ผลพวงจากลทั ธอิ าณานคิ ม (colonialism) ต่อมาเร่ิมมีสถาปนิกน�ำแนวคิดดังกล่าว ตะวันตก ผลงานโดดเด่นในยุคน้ี เช่น สถา-
ระหวา่ งศตวรรษท ่ี ๑๖ ถงึ กลางศตวรรษท ี่ ๒๐ มาพัฒนาต่อ กระทั่งเป็นส่วนหนึ่งของศาสตร์ ปตั ยกรรมฝมี อื แมกซเ์ วลล ์ ฟราย (Maxwell
ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในโลกอย่าง ด้านสถาปัตยกรรมในท่ีสุดในทศวรรษท่ี Fry) และ เจน ดรูว์ (Jane Drew) สอง
มหาศาล ท้ังเป็นจุดเร่ิมต้นของการค้าขาย ๑๙๔๐ ผู้มีบทบาทสำ� คัญในการพัฒนาแนว สถาปนิกชาวอังกฤษท่ีออกแบบก่อสร้างช่วง
ทางเรอื การคน้ พบดนิ แดนใหม ่ ๆ นอกจากนี้ คิดนี้คือ ออทโท เคอนิกส์แบร์เกอร์ (Otto ค.ศ. ๑๙๔๖-๑๙๕๖ ในแถบแอฟริกาตะวัน
050 ยังเกิดการผสมผสานท้ังทางวัฒนธรรมและ Koenigsberger) สถาปนิกชาวเยอรมัน เขา ตก เช่น ไนจีเรีย กานา ซึ่งเป็นอาณานิคม
เดินทางไปอินเดียเมื่อ ค.ศ. ๑๙๓๙ ซึ่งขณะ ขององั กฤษ ทนี่ น่ั พวกเขาไดป้ ระยกุ ตร์ ปู แบบ
ชาตพิ นั ธ ์ุ มเี ผา่ พนั ธ ์ุ “ลกู ผสม” มากมายระหวา่ ง น้ันยังเป็นอาณานิคมของจักรวรรดิอังกฤษ สถาปัตยกรรมตะวันตกให้เข้ากับสภาพ
เจ้าอาณานิคมกับชนพื้นเมือง เช่นเดียวกับ ณ ที่น้ีเคอนิกส์แบร์เกอร์ได้ออกแบบอาคาร แวดล้อมของที่ต้ัง โดยค�ำนึงถึงปัจจัยหลัก
สถาปัตยกรรมเผ่าพันธุ์ใหม่ ๆ ในยุคนี้ตามดิน สมัยใหม่หลายหลัง โดยน�ำความรู้จากสถา- สามปัจจัยควบคู่กัน อันได้แก่ ๑) ผู้คน ๒)
แดนอาณานิคม และหนึ่งในสถาปัตยกรรม ปัตยกรรมตะวันตกประยุกต์กับสภาพภูมิ- ภมู อิ ากาศ และ ๓) วสั ดุ
ลกู ผสมในชว่ งเวลาดงั กลา่ วคอื “สถาปตั ยกรรม อากาศเขตร้อนแบบอินเดีย ใช้วัสดุท่ีหาได้ใน
เขตรอ้ น” (tropical architecture) ท้องถิ่นเป็นส่วนประกอบหลัก และแก้ปัญหา สถาปัตยกรรมเขตร้อนฝีมือฟรายและ
แนวคิดสถาปัตยกรรมเขตร้อนได้รับ ใหเ้ หมาะสมกบั ภมู อิ ากาศ เคอนกิ สแ์ บรเ์ กอร์ ดรูว์นั้นมีโครงสร้างเป็นวัสดุสมัยใหม่ เช่น
การพัฒนาต้ังแต่ปลายศตวรรษที่ ๑๙ ถึงต้น ให้ค�ำจ�ำกัดความสถาปัตยกรรมเขตร้อนว่า คอนกรีต กระจก เหล็ก ไม่ต่างจากสถาปัตย-
ศตวรรษท่ี ๒๐ ในประเทศเขตร้อน (tropical ตอ้ งประกอบด้วยคณุ สมบตั ดิ ังต่อไปน้ี กรรมยุคใหม่แบบ international style เพียง
area) ซ่ึงเป็นดินแดนอาณานิคมของอังกฤษ แต่มีการประนีประนอมเพื่อให้เข้ากับภูมิ-
ทง้ั ทวปี เอเชยี และแอฟรกิ า ชว่ งแรกแนวคดิ นี้ ๑) ใช้สถาปัตยกรรมพื้นถ่ินท่ีสอดคล้อง อากาศแบบร้อนช้ืน วางแนวอาคารสัมพันธ ์
ยงั อยใู่ นแวดวงสาธารณสขุ มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื กับภูมอิ ากาศเปน็ ต้นแบบ กับทิศทางแดดและลมประจ�ำถ่ิน อาคารทุก
สร้างสุขอนามัยที่เหมาะสมส�ำหรับการอยู่ หลังระบายอากาศด้วยวิธีธรรมชาติ และมี
อาศยั ในเขตรอ้ น ซง่ึ เปน็ สภาพแวดล้อมทชี่ าว ๒) พจิ ารณาการออกแบบสถาปตั ยกรรม ระบบการกันแดด-กันฝนที่ดี โดยมีจุดเด่นท่ี
ตะวนั ตกจากประเทศเจา้ อาณานคิ มไมค่ นุ้ เคย ใหเ้ หมาะสมกับทอ้ งถน่ิ ผนังส�ำหรับกรองแดดซึ่งมีลวดลายประยุกต์
มีการออกคู่มือการสร้างสุขอนามัยที่ดีส�ำหรับ จากศิลปะแอฟริกา เกิดเป็นสถาปัตยกรรม
ทอี่ ยอู่ าศยั ในเขตรอ้ นหลายเลม่ สว่ นใหญไ่ มไ่ ด ้ ๓) ปรับอากาศโดยอาศัยวธิ ีธรรมชาติ ลูกผสมรูปแบบใหม่ลักษณะเดียวกับชาว
คำ� นงึ ถงึ เพยี งรายละเอยี ดการกอ่ สรา้ งและวสั ดุ ๔) ใช้เทคโนโลยีและวัสดุท่ีผลิตใน “มูแลตโต” (mulatto) ลูกคร่ึงคนผิวขาวกับ
ก่อสร้าง หากแต่ยังมีข้อก�ำหนดด้านเทคนิค ทอ้ งถิน่ ชนพ้ืนเมืองผิวด�ำ ผลงานเหล่าน้ี เช่น อาคาร
ท่ีเกี่ยวข้องกับการระบายอากาศ แสงสว่าง สถาปัตยกรรมเขตร้อนแพร่กระจาย เรียนใน University College, Ibadan
การก�ำจัดของเสีย ระบบประปา และสุขา- ในหลายประเทศทั่วโลกผ่านกลไกของลัทธิ (ปัจจุบันคือ University of Ibadan) อาคาร
ภบิ าล เพอ่ื เปน็ มาตรการปอ้ งกนั และหลกี เลย่ี ง อาณานิคม นอกจากเคอนิกส์แบร์เกอร์ยังมี Shell B.P. Office ประเทศไนจีเรีย อาคาร
การแพร่กระจายเชอ้ื โรค อีกหลายคนท่ีมีส่วนส�ำคัญในการสร้างสรรค์ เรียนใน Somanya College ประเทศกานา
และพัฒนาสถาปัตยกรรมเขตร้อน ซ่ึงส่วน
ใหญ่หรือเกือบท้ังหมดเป็นสถาปนิกจากชาติ
Living Green