ทราย เจริญปุระ นักแสดง นักเขียน พิธีกร |
![]() |
ทรายเห็น สารคดี มานานแล้ว ตั้งแต่ยังไม่เป็นหัวสีเขียว ก็ซื้อบ้างไม่ซื้อบ้าง เพราะเมื่อก่อนไม่มีเงินซื้อแม็กกาซีนได้ทุกเล่ม สำหรับ สารคดี เล่มที่จำได้คือเล่มฟอนต์ไทย ๑๐ ตัวพิมพ์กับ ๑๐ ยุคสังคมไทย คือก่อนหน้านั้นเคยอ่าน แต่จะเป็นเรื่องธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ซึ่งดูใกล้เคียงกันเลยจำไม่ได้ มีเล่มนี้น่ะที่รู้สึกว่า “เฮ้ย มีการเอาสิ่งประดิษฐ์มาขึ้นปกด้วย” ก็สวยดี คือพวกบ้าอ่าน บ้าเขียน จะชอบอะไรอย่างนี้อยู่แล้ว
แผงหนังสือบ้านเรามันไม่มีหนังสืออื่นที่เป็นแนวนี้ คือไม่เป็นวิชาการมากเกินไป มีบทสัมภาษณ์ มีเรื่องที่เราไม่เคยรู้มาก่อน เป็นสารคดีที่ไม่ได้หนักไปเชิงภัยธรรมชาติ ป่าเขา แต่เป็นปรากฏการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในสังคม สารคดี ไม่ได้บอกว่าทำไมเราถึงต้องสร้างรถไฟฟ้า แต่บอกว่าสร้างรถไฟฟ้าแล้วมีผลกระทบอะไรบ้าง หรือเวลามีห้างใหญ่ๆ เข้ามา ก็ไปสัมภาษณ์ร้านขายของชำ ไม่ใช่บอกว่ามีใครมาลงทุนบ้าง
สารคดี ไม่ใช่วารสารที่มีแต่ศัพท์เฉพาะทาง แต่ทำให้มนุษย์ปรกติอ่าน ทรายอ่านได้สบาย ไม่เครียด เราไม่ได้อ่านเพื่อไปสอบ แต่เราอ่านเพื่อให้รู้ว่าอาชีพเก็บรังนกเขาทำกันอย่างนี้นะ หรือมีฟอนต์อย่างนี้มาสิบปีแล้วเหรอ มีแบบอะไรบ้าง ใครคิด เวลาอ่านรู้สึกว่า สารคดี คุยกับเรา ชอบวิธีการเขียนที่ไม่ใช่เหมือนทีวีเพื่อการศึกษา การอ่าน สารคดี ทำให้ได้รู้เชิงลึก เพราะจะตอบคำถามและถามมาเผื่อคนอ่านด้วย อีกอย่างคือ การวางเลย์เอาท์ให้อ่านง่าย ไม่ค่อยมีที่ผิด ถ้าผิดแล้วทรายจะหงุดหงิด ยิ่งเป็นหนังสืออย่างนี้ด้วยบางทีผิดเราก็ไม่รู้ แต่เราเชื่อว่าเขาเช็คมาให้แล้ว มีเชิงอรรถให้ ใส่ดอกจัน คือรับผิดชอบต่องานของตัวเองดีค่ะ อาจเป็นเพราะเนื้อหาของมันที่ห้ามชุ่ยด้วย ทรายเลยเก็บสารคดีไว้เป็นข้อมูล เพราะว่าเราเขียนหนังสือมันต้องมีอ้างอิง ซึ่งสารคดีจะลงเครดิตไว้ด้วยว่าจากหนังสือเล่มนี้ๆ
คนที่อ่าน สารคดี ต้องเป็นคนที่มีฐานความรู้ประมาณหนึ่ง คือรู้มาบ้างแต่ยังไม่ได้รู้เยอะ ไม่ได้รู้ลึก เหมือน สารคดี จะรู้ว่าเรายังไม่รู้ เดี๋ยวจะไปถามมาให้ ดังนั้นเด็กๆ คงจะไม่อ่าน ทรายยังไม่เคยเห็นเด็กสยามบอกว่าชอบอ่าน สารคดี คนที่เด็กๆ หน่อยเขาก็อาจจะคิดว่า สารคดี ต้องมีแต่เรื่องยากเกินที่จะเข้าใจหรือเปล่า ปัญหานี้ทรายคิดว่าอาศัยการจัดหน้านิตยสารที่ทันสมัยก็อาจช่วยได้ จะหลอกเด็กให้กินยา มันก็ต้องมีเคลือบบ้าง เพราะว่าเด็กไม่มีใครยอมกินยาตั้งแต่เล็กอยู่แล้ว
ถ้าเปรียบเป็นคน สารคดี ก็เป็นคนอ่านหนังสือมาก อาจจะไม่รู้ว่า season นี้ทรงผมทรงไหนมาแรง แต่ไปรู้อีกอย่างหนึ่งแทน หน้าตาไม่ได้แก่มาก สวยเรียบๆ ในแบบของเขา สารคดี ไม่แก่นะ เถียงขาดใจ
![]() |
วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ บรรณาธิการอำนวยการ นิตยสาร a day |
สิบกว่าปีที่แล้ว สมัยเรียนจบใหม่ๆ จากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ผมเคยส่งจดหมายไปสมัครงานที่นิตยสาร สารคดี ด้วย… ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือโชคดีของนิตยสารหรือของผม ที่ในตอนนั้นผมไม่ได้รับเลือกให้เป็นกองบรรณาธิการ สารคดี อย่างที่มุ่งหวัง
เหตุที่ผมอยากทำงานที่ สารคดี ก็เพราะว่า สารคดี เป็นนิตยสารเล่มโปรดของผม ผมอ่าน สารคดี มาตั้งแต่ครั้งเป็นนักเรียนมัธยม ติดตามอ่านอย่างเหนียวแน่นเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน สิบกว่าปีที่ผ่านมา ผมค่อนข้างแน่ใจว่าผมไม่น่าจะพลาดซื้อ สารคดี เกิน ๕ ฉบับ นอกจากจะซื้อเล่มล่าสุดเป็นประจำแล้ว ผมยังเคยไปเดินตามหาซื้อ สารคดี เล่มเก่าๆ ที่ตลาดนัดหนังสือเก่าย่านสนามหลวงและสวนจตุจักรอีกด้วย ช่วงหนึ่ง ผมเคยสมัครเป็นสมาชิก สารคดี ด้วย แต่เป็นได้อยู่สักปีหรือสองปีก็ไม่ได้ต่ออายุสมาชิก ผมว่าการเทียวไปเทียวมาตามแผงหนังสือเพื่อลุ้นว่าหนังสือเล่มโปรดของเราออกหรือยัง มันได้อารมณ์กว่ามีบุรุษไปรษณีย์มาส่งให้ที่บ้านทุกเดือน
ในความรู้สึกของผม สารคดี เป็นนิตยสารที่พูดได้เต็มปากเต็มคำว่ามีเนื้อหาที่ให้สารประโยชน์ที่เป็นคุณูปการแก่ผู้อ่านอย่างแท้จริง บทความแต่ละบทความและสารคดีแต่ละเรื่องที่นิตยสาร สารคดี นำเสนอ สามารถสัมผัสได้ถึงความพิถีพิถันและความทุ่มเทในการจัดทำ ไม่ว่าจะเป็นการค้นคว้าหาข้อมูล การออกภาคสนาม ไปจนถึงการถ่ายภาพและการออกแบบจัดหน้านิตยสาร ผมทราบมาว่าสารคดีบางเรื่องกว่าจะลงตีพิมพ์ได้นั้นต้องใช้เวลาทำอยู่นานถึงครึ่งค่อนปี นี่เป็นเรื่องที่ผมขอแสดงความนับถือ
แน่นอนว่าผมก็คงจะคล้ายกับผู้อ่านทั่วไป ที่มีเรื่องบางเรื่องที่อยู่ในความสนใจและเรื่องบางเรื่องที่ไม่อยู่ในความสนใจ เรื่องที่ผมชอบเป็นพิเศษคือเรื่องเกี่ยวกับชีววิทยา ศิลปวัฒนธรรม อวกาศ ดึกดำบรรพ์ ประวัติศาสตร์ รวมถึงบุคคลในประวัติศาสตร์ ดังนั้น ถ้า สารคดี ฉบับไหนนำเสนอเรื่องเหล่านี้ผมจะกระตือรือร้นที่จะอ่านเป็นพิเศษ อีกเรื่องที่ สารคดี มักนำเสนออยู่เสมอและผมชอบมาก คือบทสัมภาษณ์ที่ฉายภาพชีวิตของคนเล็กๆ ที่ทำประโยชน์แก่สังคมและชุมชน ผมมักได้แรงบันดาลใจและข้อคิดดีๆ ไว้คอยตักเตือนตัวเองอยู่เสมอจากการอ่านเรื่องราวของปราชญ์ชาวบ้านเหล่านี้
สารคดี เป็นนิตยสารที่มีจุดยืนเด่นชัดในการแสดงทัศนคติต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติและการเหนี่ยวรั้งกระแสบริโภคนิยมที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกเวลานี้ บางเวลาผมจึงอดคิดไม่ได้ว่า ชาว สารคดี นั้นไม่ใช่แค่ทำหนังสือ แต่กำลังทำอุดมการณ์กันอยู่ เป็นอุดมการณ์ที่ผมในฐานะคนทำหนังสือคนหนึ่งรู้สึกชื่นชมแต่ไม่สามารถกระทำได้เท่า เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่บางคนจะกล่าวว่า นิตยสาร สารคดี มีสถานะคล้ายสถาบันหนึ่ง เพราะผมเองก็เคยคิดเช่นนั้น
นอกจากเป็นเพื่อนและเป็นพี่แล้ว ผมจึงคิดว่า สารคดี เป็นครูคนหนึ่งของผมด้วย เป็นครูทั้งในเรื่องการประกอบอาชีพและการใช้ชีวิต
เท่าที่เฝ้าสังเกต ผมเห็นว่า สารคดี มีการปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอ ทั้งในด้านตัวนิตยสารและด้านการดำเนินธุรกิจ เรื่องที่ว่านิตยสาร สารคดี จะเก่า เชย หรือหลุดไปจากความสนใจของคนรุ่นใหม่หรือไม่นั้น ผมจึงไม่ค่อยเป็นห่วงเท่าใดนัก โดยส่วนตัวแล้วผมมั่นใจว่าผมจะอ่าน สารคดี ต่อไปอีกนาน และถ้าหลานสามคนของผมโตขึ้นกว่านี้อีกหน่อย ผมก็ตั้งใจว่าจะสมัครสมาชิกนิตยสาร สารคดี เป็นของขวัญให้เขา
ในฐานะที่เป็นคนทำหนังสือคนหนึ่ง ผมดีใจที่ สารคดี แข็งแรงและยืนยงอย่างสง่างามได้จนวันนี้ มันเป็นสิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้ว่า ไม่ต้องทำหนังสือโป๊เปลือย ขายเรื่องราวอื้อฉาวไร้สาระ แต่ทำหนังสือดีๆ ก็สามารถดำรงอยู่ได้ในประเทศนี้