วีระศักดิ์ จันทร์ส่งแสง : เรื่อง
วิจิตต์ แซ่เฮ้ง : ภาพ

dek1

เด็กหญิงธนุตรา กนกศักดิ์โสภณ (แนน) เป็นนักเรียนชั้น ม. ๒ โรงเรียนยานนาเวศวิทยาคม โรงเรียนมัธยมแห่งนี้ตั้งอยู่ย่านสาธุประดิษฐ์ (ซอย ๘) กรุงเทพฯ แต่ระหว่างโรงเรียนหยุดช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เด็กหญิงแนนไปปรากฏตัวอยู่ในพื้นที่ประสบภัยสึนามิ ที่จังหวัดพังงา

หลังจากนั้นเด็กหญิงก็กลายเป็นจุดสนใจของสื่อมวลชนและสาธารณชน ต้นปีนี้แนนออกรายการทีวีแล้ว ๓ ครั้ง มีนิตยสารอย่างน้อย ๔ ฉบับขอสัมภาษณ์ แต่นักเรียนหญิงวัย ๑๔ ปีคนนี้บอกว่าเธอรู้สึกเฉย ๆ ไม่ตื่นเต้นหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเด่นดัง

“ทุกคนได้ร่วมทำประโยชน์แก่สังคมเหมือนๆ กัน ทั้งคนเบื้องหน้า-เบื้องหลัง” แนนพูดถึงสิ่งที่ตัวเองกับพี่ๆ อาสาสมัครร่วมกันทำ

แต่ถึงอย่างไร เรื่องของเธอก็ยังน่าพูดถึง ในฐานะแบบอย่างในทางดี

ฟังแนนเล่าประสบการณ์ที่ได้เข้าร่วมกู้ภัยหลังสึนามิถล่มภาคใต้ ในช่วง ๔-๕ วันระหว่างรอยต่อของปี ๒๕๔๗-๒๕๔๘

“ดูข่าววันที่ ๒๗ ธันวา เห็นเขาประกาศหาอาสาสมัครทางทีวี น้ากับพี่ชายจะลงไปพื้นที่ ถามแนนว่าจะไปด้วยไหม ปรกติเวลาอยู่บ้านก็อยู่กัน ๒ คนกับพี่ชาย พ่อแม่ไปขายของชำส่งโรงงาน กลับดึกสี่ห้าทุ่ม พี่ชายของแนนเพิ่งเรียนหนังสือจบ ยังไม่ได้ทำงาน ก็ตัดสินใจว่าลงไปด้วยกัน

“ทีแรกแม่ก็เป็นห่วง แต่พอดีมีน้าลงไปด้วยกัน แม่บอกว่าได้ทำความดี ก็เป็นผลดีกับตัวเรา และบอกว่าถ้าจะไปช่วยเขาก็ให้ไปช่วย อย่าไปเป็นภาระเขา

“แนนเป็นคนมั่นใจในตัวเอง คิดว่าไม่เป็นตัวถ่วงเขาเด็ดขาด มั่นใจว่าต้องทำอะไรได้ และไม่ทำให้เขาเดือดร้อน

“เราสมัครกัน ๓ คน ไปในนามศูนย์นเรนทร ทั้งคณะเป็นร้อยคน ไปโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ ถึงสนามบินภูเก็ตสิบโมงเช้าของวันที่ ๒๙ ธันวา เขาแบ่งงานกันที่สนามบินว่าใครจะไปช่วยจุดไหน ตอนแรกจะไปแหลมปะการัง แต่รถติดยาวเข้าไม่ถึง ต้องลงที่บางเนียง

“วันแรกช่วยค้นหาศพที่ติดอยู่ใต้ซากที่บางเนียง ด้านหลังโรงเรียนซึ่งหันไปหาชายหาด พี่ ๆ อาสาสมัครเขาหากันอยู่ก่อนแล้ว แรก ๆ ก็ช่วยเขารื้อซาก เจอราว ๔-๕ ศพ เจอแล้วก็บอกอาสาสมัครมาช่วยกู้ศพลำเลียงไปสู่ศูนย์กลาง ตอนนั้นยังไม่ได้โดนตัวศพ

“วันที่ ๒ (วันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๔๗) ไปวัดย่านยาว ถึงหน้าวัดกลิ่นมาก่อนเลย เข้าไปข้างในวัดปรากฏว่ามีเป็นหลายร้อยศพหรือเป็นพันศพที่อยู่ในวัดแล้ว และยังทยอยมาเรื่อย ๆ ศพเริ่มอืดแล้ว ได้ร่วมทีมกับหมอพรทิพย์และหมอจากที่อื่น ๆ และช่างกล้อง แบ่งงานกัน ถ่ายรูป เก็บข้อมูล เก็บวัตถุพยาน ดีเอ็นเอเส้นผม แนนช่วยเขาจดข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต ยี่ห้อ สี เสื้อผ้าที่ใส่ เพศ ลักษณะร่างกาย

“วันต่อมาต้องช่วยเขาพลิกศพ และช่วยงานทุกอย่างที่ขาดแคลนคน เพราะพวกที่ทำอยู่เริ่มไม่ไหวแล้ว ต้องหมุนเวียนเข้าไปช่วยกัน ตอนคุณหมอต้องการตรวจด้านหลัง ต้องช่วยพลิกศพ แนนอยู่ข้างในตลอด อยู่แถวศาลาด้านหลังวัด

“เป็นครั้งแรกที่ได้แตะต้องศพ ตอนนั้นศพเริ่มเน่าเปื่อยแล้ว ตอนสัมผัสศพก็รู้สึกกลัวนิดหน่อย แต่คิดว่าวันหนึ่งเราก็ต้องเป็นแบบนั้น ก็เลยไม่ค่อยรู้สึกกลัว เราเอาความคิดนี้มาเตือนตัวเองตอนทำงาน

“ได้เห็นความตายครั้งใหญ่ทำให้รู้สึกว่าความตายไม่น่ากลัว เราทุกคนอาจตายได้ตลอดเวลา

dek2

“กลางคืนนอนที่โรงพยาบาลบางไทร เขาจัดที่พักไว้ให้ มีอาสาสมัครจากที่อื่นเอาอาหารมาให้ มีรถรับ-ส่ง ตอนเช้าไปหกโมงเช้า กินข้าวกลางวัน กินอะไรแถว ๆ ที่ตั้งศพนั่นแหละ แนนคิดเสียว่าเขานอนหลับอยู่ เพียงแต่มีกลิ่นอะไรลอยมาบ้าง ก็กินไป อาหารเป็นข้าวกล่อง กับพวกผัด มีอาหารเสริม เครื่องดื่มมาเพิ่มเติม แนนกินอิ่มทุกมื้อ กลับที่พักราวสองทุ่ม กินข้าวเย็นแล้วก็มานั่งประชุมวางแผนการทำงานวันรุ่งขึ้น

“นอกจากคนตายจำนวนมากแล้ว ยังมีคนที่มาตามหาศพญาติ คนที่ยังหาญาติไม่เจอ ดูเขาเป็นทุกข์มาก คุณป้าคนหนึ่งมาหาลูกชาย มาทุกวัน คอยถามว่าเจอลูกชายแกไหม ๆ

“คืนปีใหม่ก็อยู่ที่วัดย่านยาว ปีก่อน ๆ จะไปเที่ยวกับพ่อแม่ที่ต่างจังหวัด ปีนี้แนนมาที่พังงา พ่อแม่ก็คอยฟังข่าวอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ไปเที่ยว เขาคอยติดตามข่าวตลอด โทรหากันทุกวัน

“ปีใหม่ปีนี้ได้ประสบการณ์ชีวิตอะไรหลายอย่าง ถ้าไปเที่ยวทั้งที่คนอื่นกำลังทุกข์ก็คงไม่มีความสุข

“ถือเป็นการทำบุญไปด้วย การทำบุญไม่จำเป็นต้องใช้เงินเท่านั้น ใช้น้ำใจน่าจะได้บุญมากกว่าการใช้เงิน

“ได้เห็นน้ำใจมากมายมหาศาลของคนไทย เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มาก ที่นั่นทุกคนทำทุกอย่าง ใครขาดอะไรทุกคนช่วยกันดูแลดีมากทั้ง ๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

“แนนกลับมาเช้าวันที่ ๒ มกรา ๔๘ ไม่ได้ขาดเรียนเพราะเป็นวันหยุดช่วงปีใหม่ ครูบอกว่าภูมิใจ ได้ทำเกียรติประวัติแก่โรงเรียน

“พอเพื่อนรู้ก็ถามว่าไม่กลัวหรือ ? แม่ยอมให้ไปได้อย่างไร ? เพื่อนบอกว่าแค่เห็นก็จะอ้วกแล้ว เด็กรุ่นๆ เราอย่างไรก็ต้องสนุกไว้ก่อน พอรู้ว่าเราไปเพื่อนก็ตกใจเล็กน้อย และแซวว่า กลับมาจากสึนามิ พาใครมาด้วยหรือเปล่า

“แต่เราเองรู้สึกมีความสุข แล้วก็สบายใจว่า อย่างน้อยช่วงชีวิตหนึ่งของเราได้ทำประโยชน์ต่อสังคม”

แนนเป็นเด็กความประพฤติดีและเรียนเก่ง เด็กหญิงใฝ่ฝันอยากเรียนต่อด้านดนตรีสากล “อยากเป็นนักดนตรีประจำวง ชอบดนตรีทุกชนิด เพราะไพเราะและให้ความเบิกบานแก่เรา”

แนนรู้ตัวเองด้วยว่า เป็นคนอ่อนโยนและมีน้ำใจมากขึ้น ตั้งแต่กลับมาจากร่วมกู้ภัยสึนามิ

สิ่งนี้คงช่วยเอื้ออำนวยให้ความใฝ่ฝันของเธอปรากฏเป็นความจริง